12 กันยายน 2549 00:11 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ระฆังทองก้องกู่อยู่นานแล้ว
เพลงรักแว่วพริ้วหวานประสานเสียง
สายลมวูบลูบเพียงไหวคล้ายสำเนียง
ฟังไพเราะเสนาะเรียงเสียงดนตรี
บทกวีสีขาวกระเซ้าหยอก
เป็นคำรักเธอบอกในวันนี้
ร่ายลีลาสงวนทีท่าอ้อนวจี
ในวันที่ดอกไม้ได้เบ่งบาน
คือห่วงหวงหวงใยและคิดถึง
คือสำนึกลึกซึ้งซึ่งอ่อนหวาน
คือความรักซาบซ่านแนบเนิ่นนาน
เมื่อมาสบตาหวานฉันและเธอ
ระฆังทองก้องกู่อยู่หวานแว่ว
เพลงรักแผ่วแว่วว่ารักเสมอ
ด้วยคิดถึง..คิดถึง...อยากพบเจอ
คำรักเธอร้อยเรียงหวานผ่านสายลม
11 กันยายน 2549 22:50 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อร่อยไหมจ๊ะ...ที่ได้...กินข้าวฟรี
ถ้าไม่อิ่ม....คนดี....นี่..ขนมฉัน
ถ้าติดคอ...เอาน้ำ...กินแล้วกัน
ไม่ว่าอะไร...ทั้งนั้น...ฉันเข้าใจ
อิ่มหรือยัง...ทั้งสตางค์...ก็ยังอยู่
รู้จ๊ะรู้....เธอถนัด....กว่าเรื่องไหน
ต้มยำกุ้ง....ออส่วน....ต้มเยื่อไผ่
แถมสั่งไวท์....กระเพาะปลา...แหมน่ากิน
พออิ่มแล้ว...เพื่อนรัก...เริ่มระส่ำ
เข้าห้องน้ำ....หลายราย...หายหมดสิ้น
แหมพอกิน...กันหมด....ทำจนชิน
เดี๊ยวเช็คบิล...สำรอง...ของฉันเอง
พอสิ้นเดือน....รอรับ...โบนัสน่ะ
มีใบปะ.....ทวงหนี้....นี่สิเจ๋ง
ก็วันนั้น.....เธอแย่ง...อยากเซ็นต์เอง
อย่าเพิ่งเซ็ง...ฉันแค่..ขอเงินคืน
9 กันยายน 2549 03:45 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ใช่ไม่รัก แต่รักไป ก็ไร้ค่า
ใช่อ่อนล้า แต่ท้อเกิน จะสู้ไหว
ใช่เจ็บปวด แต่รวดร้าว เกินสิ่งใด
ใช่เปลี่ยนใจ แต่มันชา จนเริ่มชิน
แม้วันนี้ ไม่มีรัก เหมือนวันก่อน
แม้วันนี้ ความอาทร จะสูญสิ้น
แม้วันนี้ ไร้น้ำตา จะหลั่งริน
ไม่เดือดร้อน ไม่แดดิ้น ไม่สิ้นลม
แม้เจ็บลึก เพียงเท่าใด ใจยอมเจ็บ
แม้หนาวเหน็บ ทั่วทั้งกาย ใจก็พร้อม
แม้เงียบเหงา จะยอมเศร้า เท่าที่ยอม
แม้ตรมตรอม กลืนความช้ำ จะทำใจ
คงหมดแล้ว ไม่มีเหลือ แม้ความฝัน
ความเงียบงัน เธอต้องการ ใช่หรือไม่
ไม่สนใจ กันสักนิด ไม่เป็นไร
นานเท่าใด จะทำใจ ลืมวันวาน
ฉันคงเป็น ได้เพียงแค่ ผู้หญิงธรรมดา
คงไร้ค่า สิ้นความหมาย ใครมองผ่าน
เป็นแค่คน ไม่มีใคร ที่ต้องการ
เป็นสะพาน แค่ทางผ่าน ให้เธอเดิน
6 กันยายน 2549 21:10 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เกิดมาไม่สวยรวยล้นฟ้า
แม่ให้ได้มาเพียงเท่าที่เห็น
อ่อนหวานออดอ้อนไม่เคยเป็น
ตาตี่เน้นเห็นมากกว่าใคร
ก็รู้ว่าหนุ่มหล่อชอบสาวสวย
หน้าหมวยอย่างฉันคงไม่ไหว
เอวบางร่างน้อยนั่นอีกไกล
จะมีหนุ่มไหนเหลียวแล
แต่ฉันก็เป็นตัวฉัน
แม้หนุ่มเหหันไม่แยแส
หัวใจแม้ไร้คนคอยแล
ฉันยังมีแม่คอยเจือจาร
หนุ่มไหนไม่รักไม่เคยสน
พ่อหน้ามลผู้หญิงใช่ขนมหวาน
โปรยเสน่ห์เล่ห์ลิ้นพูดระราน
สมหวังแล้วเมินผ่านไกลลับตา
แค่ผู้ชายสนทำไมเอาใจยาก
แค่ลมปากพร่ำว่ารักซะหนักหนา
ทำทีท่าทิ้งท้ายชายหางตา
ฝากบอกมา..ข้าวสารมีค่า...มากกว่าคุณ....
3 กันยายน 2549 01:21 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ม่านแสงสีรุ่งเรืองของเมืองฟ้า
งดงามตาเพียงภาพฉาบสีสัน
กลางป่าตึกซับซ้อนซ่อนคืนวัน
ยื้อและแย่งแข่งขันขีดชั้นชน
เกียรติยศศักดิ์ศรีเครื่องชี้วัด
เหมือนโซ่มัดตรึงใจให้สับสน
พันธนาการความคิดจิตมืดมน
เปรอะเปื้อนปนเสแสร้งแฝงมายา
ใช้วัตถุกำหนดบทชีวิต
หลงทางทิศวุ่นวายหลายปัญหา
เบื้องหลังฉากคือละครซ่อนน้ำตา
เหน็ดเหนื่อยล้ากับคืนวันที่ผันแปร
จึงเป็นเหมือนเรือน้อยที่ลอยคว้าง
อยู่ท่ามกลางสายชลวนกระแส
ทะเลเมืองโถมทุกข์รุกดวงแด
ชนะแพ้วกวนหนทางใจ
กลางแสงสีรุ่งเรืองของเมืองหม่น
เรียนรู้ตนปลูกฝันของวันใหม่
เป็นเรือที่แข็มแข็งแกร่งวันวัย
ท่องไปในโลกฝันของวันคืน