9 สิงหาคม 2549 23:19 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เพราะความรักเจ้ากรรมมาทำเหตุ
คงเหลือเศษพิษสงปลงสังขาร
อุตสาห์เก็บออมสมบัติมาตั้งนาน
ขโมยดันยืมไปบ้านพาลเป็นลม
เพราะเพื่อนรักเราเล่าเพียงว่า
เพราะความรักเข้าตาพาสุขสม
เพราะมีชายหล่อมากมายล้วนหมายชม
รสนิยมล้วนชี้ชัดหล่อมัดใจ
มาพูดจาหวานล้ำคำว่ารัก
สายตารอยยิ้มฝากชวนฝันใฝ่
จึงหลงเชื่อคารมคำคมชาย
มีอะไรบอกหมด..ฉันอดตาย..
หวังดีเลยช่วยหาคนเฝ้าบ้าน
ฉันไปกาญดูงานหัวใจสลาย
ของหายหมดไม่เหลือแม้อะไร
แถมเขียนจดหมายไว้ให้ดูชม
เพื่อนจ๋าเพื่อนที่รักชักไหวหวั่น
แม้จอมขวัญเก็บจดหมายฉันขื่นขม
นึกว่าจดหมายรักช่างโง่งม
ฝากคำคมความรักมักเข้าตา
พอเปิดอ่านหัวใจพลันละเหี่ย
บอกลืมเสียจอมขวัญอย่าฝันหา
ได้ของแล้วขอบใจน่ะแก้วตา
จะกลับมาเมื่อของหมดหรืออดตาย
8 สิงหาคม 2549 23:27 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
แม้ท้องฟ้าสดใสอาจเปลี่ยนสี
หรือเวลานาทีอาจเปลี่ยนผัน
แต่หัวใจคงมั่นทุกคืนวัน
ทุกภพฝันข้ามฟ้าหาแต่เธอ
หอมละมุ่นอุ่นไอในความฝัน
ชี้ชมจันทร์แนบกายมีใครเสมอ
ดั่งต้องมนต์จันทราคราพบเจอ
รักล้นเอ่อไหลเย็นเช่นวารี
ขอแมกไม้บรรเลงเป็นเพลงรัก
ร้อยทอถักคล้องฤทัยไปทุกที่
เพราะความรักเข้าตาทุกนาที
ไม่หมายมียึดครองต้องหมองมัว
ขอเพียงรู้คุณค่า...คำว่ารัก...
จะตระหนักรับได้ทุกถ้วนทั่ว
พร้อมอภัยทุกอย่างแม้ห่างตัว
จะไม่กลัวแม้ใครใจเปลี่ยนแปลง
เพียงโอบกอดสีแสงแห่งห้วงรัก
แม้เหนื่อยหนักรับฟังคำแถลง
ส่งกำลังใจห่วงใยไม่ระแวง
ไม่เยื้อแย่งหมายหมาดจะครอบครอง
เพียงภพฝันข้ามฟ้าตามหารัก
เมื่อความรักเข้าตาเราทั้งสอง
หวังเพียงคนของใจที่หมายปอง
ได้ครอบครองพบพานแต่เรื่องดี
ด้วยหัวใจที่มุ่งมาดปรารถนา
ถ้าความรักเข้าตาเป็นเช่นดังนี้
หวังเพียงคนรักมีสุข...ทั้งชีวี...
ตราบสุดหล้าห้วงนที..ยังมีกัน...
7 สิงหาคม 2549 22:12 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
แม่ไม่เคยสักครั้งได้กอดลูก
แม้พันผูกรักใคร่ปรารถนา
แม่รักลูกปานดวงใจดั่งดวงตา
มอบความอบอุ่นมาทุกครั้งคราว
แม่เหน็ดเหนื่อยชีวิตไม่เว้นว่าง
เดินกางอ้อมแขนทดแทนหนาว
หัวใจแม่เจ็บปวดแสนรวดร้าว
เกินกว่าอกร้อนผ่าวกอดลูกน้อย
ใช่ไหมเนื้อตัวแม่คงสกปรก
ในงานหนักเกินยกเหยียบย่างถอย
เพราะเหงื่อแม่สะพรั่งหลั่งไหลย้อย
จนวันคล้อยคืนเคลื่อนเดือนเป็นปี
ถึงมือแม่ห่างลูกแต่ปลูกรัก
เตรียมจัดผักปลาหาไว้ให้เต็มที่
เสียบข้าวจนเต็มหม้อไว้พอดี
ก่อนเช้ามืดรีบลี้ลงจากเรือน
พบอีกทีดวงตะวันก็ผลันลับ
แม่หิ้วเข่งคืนกลับมาเป็นเพื่อน
ตามประสาแม่ค้าแม่มาเยือน
มองดวงเดือนมอบดับกับหัวใจ
จนวันนี้แม่แก่มาชราภาพ
ในรอยยิ้มอิ่มอาบความหมองไหม้
แสร้งหัวเราะแต่ใจร้องไห้ไป
ลูกอยู่ไหนไปลับไม่กลับเรือน
อยากโอบกอดลูกอีกครั้งเพียงหวังว่า
นับเวลารอกลับหรือคลาดเคลื่อน
หรือแม่แก่ลืมเวลานานนับเดือน
ลูกไม่เยือนถิ่นเก่าแม่เฝ้าคอย
น้ำตาแม่ไหลเป็นทางอย่างทุกเข็ญ
คงจะเป็นคนแก่ที่เหงาหงอย
ลูกคงยุ่งงานจนแย่แม่ใจลอย
หรือลูกน้อยมีภัยเข้าใกล้ตัว
เพราะตัวใจแม่นี้มีแต่ลูก
นั่ง..เดิน...ยืน..ลุก...ห่วงลูกอยู่ถ้วนทั่ว
กลัวลูกหนาวป่วยไข้ใจระรัว
ไม่ห่วงตัวกลัวแต่ลูกจะตรากตรำ
เพราะแม่แก่เฒ่าจึงเฝ้าจะเง้อหา
แค่เห็นหน้าใจแม่สุขสุดลึกล้ำ
นั่งนับเดือนขอพรพระทุกคืนค่ำ
โปรดจงนำลูกกลับมา...หาแม่ที...
4 สิงหาคม 2549 21:39 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เดินในโลกปล่าวเปลี่ยวและว่างเปล่า
ทุกเรื่องราวขอเก็บไว้ในความฝัน
ใจวันนี้ไม่มีใครให้ผูกพัน
มีแต่ฉันที่ร้าวลึกทุกข์ฝืนทน
เหมือนเรือน้อยล่องห่างไปไกลจากฝั่ง
จะถอยหลังหรือเดินหน้าพาสับสน
มรสุมคลื่นซัดซาดซ้ำย้ำวังวน
แสนเหลือทนทุกข์และท้อทรมา
ลมหายใจเริ่มผิวแผ่วแล้วละหนอ
น้ำตาคลอฝืนไว้ในใบหน้า
ไร้คนเหลียวไม่สนใจไม่นำพา
มีเหลือไหมน่ะที่ใครใจรักจริง
อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายไร้คุณค่า
ไม่รู้ว่าจะพึ่งใครเพราะใจหยิ่ง
ต้องเดียวดายยอมรับกับความจริง
อุปสรรคทุกสิ่งเราต้องสู้...เพียงเดียวดาย...
3 สิงหาคม 2549 01:18 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เคยร่วมฝันมั่นว่าสัญญาไว้
รักของเรายิ่งใหญ่เปรียบใดเหมือน
ประกายฝันส่องสว่างไม่ลางเลือน
เราจะเหมือนสองกายหนึ่งหายใจ
อาจเนิ่นนานเกินนิดทำจิตหวั่น
เจ้าคนดีทวงคำมั่นเพราะหวั่นไหว
ฟังจงฟังคำนี้ที่จริงใจ
รักจะรักตลอดไป..ให้สัญญา..(ปักษาวายุเขียน)
ฟังถ้อยหรือร้อยเรียงเพียงคำหวาน
ซึมซาบซ่านในฤทัยอาลัยหา
สุดที่รักยอดดวงใจแม้ไกลตา
รักจะพาสองใจเราใกล้กัน
จะรดน้ำพรวนดินปลูกต้นรัก
จะถนอมเนื้อนวลพัตร์มิแปรผัน
สองกายแต่หุ้มไว้ใจเดียวกัน
ร่วมสร้างฝันส่องประกายให้สัญญา
ต่อแต่นี้จะแน่นหนักมิหวั่นไหว
รอเพียงคนของใจกลับมาหา
ขอว่าอย่ามีเพียงคำสัญญา
ขอเพียงว่ามีเราสอง...อย่าเปลี่ยนแปลง...(กระต่ายใต้เงาจันทร์)