8 มิถุนายน 2549 03:42 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ดอกหญ้าน้อยพร้อยพร่างข้างถนน
บานรอใครบางคนค้นความหมาย
ลมเหนือกรูลู่เอนดั่งเอียงอาย
พอแดดเช้าส่องฉายพรายน้ำค้าง
เกิดเพื่อก่อประกายหมายรังสรรค์
ตั้งแต่วันฝนพรำเม็ดพรมพร่าง
เมื่อรวงทองหายหน้าดูอ้างว้าง
ช่างแตกต่างคุณค่าสายตาคน
รอหนุ่มสาวมาพลอดรักแทบตักเจ้า
รอช่างภาพจัดแสงเงาเย้ายวนฉงน
รอกวีคลี่ดอกบอกเบื้องบน
นี่คือดาวแห่งสากลมนต์แผ่นดิน
เอื้ออิ่มอกอุ่นใจเมื่อได้พิศ
ก่อชีวตก้านชีวาตื่นตาถวิล
ช่อวิลาศดอกวิไลสุดสายจินต์
ประดับถิ่นทุ่งท่าวิลาวัลย์
ทำหน้าที่เล็กน้อยร้อยเรียงเรื่อง
บทบาทเบื้องปฐมงามสื่อความฝัน
คือตัวแทนสันติภาพตราบนิรันดร์
หมื่นสายพันธ์ดอกผลิบาน...สู่ลานดิน...
6 มิถุนายน 2549 16:58 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
นั่งเรียงร้อยความฝันถึงวันเก่า
ดั่งรูปเงาวันวานที่ผ่านผัน
สุข โศรก เศร้า เหงา คละเคล้ากัน
ส่งปีกฝันร่อนถลาสู่ฟ้าไกล
คิดถึงถ้อยคำหวานสุดซึ้ง
ตรึงใจดลบันดาลสู่ฝันใฝ่
ทุ่ง ธาร สายหมอก มวลดอกไม้
ผีเสื้อลายบินไหวสมใจจินต์
น้ำค้าง พรมพร่างใส แดดไออุ่น
หอมละมุ่นกลิ่นอายในไฟฝัน
มองเวหานกโผผินบินคู่กัน
แล้วตัวฉันฝันอยู่จะคู่ใคร
เสียงระฆังผิวแผ่วแว่วคำหวาน
กล่อมประสานไพเราะเสนาะใส
วานสายลมพรมพร่างกลางพฤษ์ไพร
เพลงใบไม้กล่อมไฟฝัน..มิมีวันจาง..
3 มิถุนายน 2549 21:29 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
พ่อตาถามเขยใหม่ปัญหาเด็ด
ทำไมเป็ดลอยน้ำตอบคำข้า
เป็ดมีขนตอบคำถามพ่อตา
เออเข้าท่าฉลาดแท้แกรู้ดี
หันมาถามเขยเล็กปัญหาเด็ด
ทำไมเป็ดลอยน้ำตอบคำถี
ธรรมดาหาใช่โลมาชี้
ขอนไม้ขนไม่มีมันก็ลอย
ทำไมห่านจึงร้องก้องเสียงดัง
เพราะคอมันยาวตั้งจึงดังหน่อย
ธรรมดาหาใช่คอยาวย้อย
อึ่งอ่างน้อยคอสั้นมันก็ดัง
ทำไมหนอหน่อไม้ไชพ้นดิน
ปลายมันแหลมยินบ่เป็นหยัง
ธรรมดาหาใช่ปลายแหลมจัง
เห็ดน่าชังปลายทู่ยังรู้แทง
ทำไมรูริมตลิ่งจึงลื่นอยู่
คงมีงูเข้าออกมิหน่ายแหนง
ธรรมดาหาใช่ใครแหย่แยง
หัวล้านแดงของพ่อก็ลื่นไง
มันเป็นเช่นนี้เองเร่งรู้อรรถ
คนหรือสัตว์เหมือนกันอย่าหวั่นไหว
ธรรมดาชี้เช่นต้องเป็นไป
เล็กหรือใหญ่นั้นน่ะธรรมดา