2 กรกฎาคม 2549 18:27 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฟังบทเพลงก้องกังวานผ่านสายฝน
เหมือนมีมนต์ดลใจให้ใฝ่ฝัน
ยามหลับใหลทุกราตรีว่ามีกัน
บทเพลงนั้นยินเสียงแค่เพียงเรา
สู่อ้อมอกอ้อมใจในอ้อมกอด
อยากพร่ำพรอดเอ่ยสำเนียงมีเพียงเขา
ไม่อยากหลงเพ้อรูปเผลอจูบเงา
โปรดบรรเทาเหน็บหนาวร้าวฤดี
ยามค่ำคืนหากเก้อคงเพ้อพร่ำ
นึกถึงคำว่ารักเป็นสักขี
เหมือนสัญญาที่เคยเผยวจี
จุมพิตนี้ปิดเปลือกตาคราคุณนอน
จนตะวันเบิกฟ้าอุษาสาง
เราเคียงข้างให้แขนหนุนแทนหมอน
ทุกเวลามีเราเฝ้าเว้าวอน
อยากออดอ้อนกอดเกยเย้ยตะวัน
27 มิถุนายน 2549 21:36 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ดีไหมถ้ามีใครน่ารักเดินข้าง
รู้น่ะว่าว่างอย่ามาปฎิเสธฉัน
เป็นเพื่อนได้เป็นอะไรไม่สำคัญ
แค่อยากแกล้งเธอให้มันส์แบบสะใจ
แค่อยากแอบนึกรักอยากแอบนึกชอบ
ลุ้นคำตอบว่าคืบหน้าไปถึงไหน
พอได้สมสุขอุราขอลาไกล
ก็สวยใสอย่างฉันสาวมั่นน่ะเธอ
ก็คนดันเกิดมาสวยช่วยไม่ได้
มีคนหมายปองล้นท่วมท้นเอ่อ
กุลสตรีศรีสยามยามพบเจอ
สวยเลิศเลอเฉียบขาดบาดหัวใจ
ถึงวันนี้กล้าท้าให้ใครพิสูจน์
ใช่แต่พูดดูให้ดีมีที่ไหน
เป็นหญิงเทียมแต่งามตามแบบไทย
ร้องวี๊ดว๊ายอย่าสงสัย.ต๊าย...กระเทย
24 มิถุนายน 2549 21:29 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อ่านบทกวีเก่าพาให้ใจเริ่มเหงา
เผยรูปเงาของวันวารผ่านเลยล่วง
สุขและทุกข์โศรกปนเศร้าเหงาทั้งปวง
เลยลับล่วงผ่านคืนวันที่ผันแปร
ริเริ่มต้นณ.หนทางวางชีวิต
หมายทายท้าความวิปริตจึงคิดแก้
แสนโสมมสังคมทรามความอ่อนแอ
คนดีท้อแท้อับหม่นจนหนทาง
อุดมถ้อยเรียงร้อยคำ อลังการ
ขจัดผองภัยพาลชวนชี้หนทางสว่าง
จวบชีพสิ้นดินกลบกายใจวายวาง
จะขอยืนคู่เคียงข้างอย่างทุกข์ทน
แทนคำมั่นรอยสัญญาจดจารึก
จรดน้ำหมึกใส่สมุดบันทึกผลึกผล
โอ้ โอ่อ่าสง่างามนามกวีนิพนธ์
คอยเตือนตนมิเลือนหายดั่งสายลม
กวีบทเก่ากลิ้งตกไว้ใจช้ำชอก
สีกระดำด่างเทาถลอกเปื้อนคราบขนม
รอยยับยู่ยี่คลี่คลายจากก้อนกลม
หมดชิ้นขนมถูกทิ้งขวางริมทางเดิน
19 มิถุนายน 2549 21:35 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ร้อยเรียงความคิดถึงจากหัวใจ
ร้อยสายใยพราวไสวอยู่ทั่วฟ้า
ส่งความรู้สึกพ้นผ่านกาลเวลา
ยามหลับตาซบไหล่ใคร่หนุนนอน
กอดเก็บความห่วงใยเป็นสายลม
แทนผ้าห่มสีขาวราวปลอกหมอน
ร้องกล่อมเห่ทะเลใจยามใครนอน
พร้อมออดอ้อนผิวแผ่วแว่วเสียงมา
ดั่งต้องมนต์ของหัวใจร่ายมนต์รัก
เริ่มตระหนักหวั่นไหวใจสั่นหา
ความอิ่มอาบทอประกายผ่านสายตา
เหมือนดั่งว่าภาพงามยามจิตนาการ
อยากถักทอรักไว้ในฟ้ากว้าง
ร่วมสรรค์สร้างเกี่ยวร้อยค่อยประสาน
ราตรีนี้สุกสกาวและยาวนาน
ร้อยเรียงม่านมนต์รักส่งไป...ใครรับที...
17 มิถุนายน 2549 12:50 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ไม่มีใครไม่เหลือใครไม่เห็นใคร
ร้าวหัวใจแสนลำเค็ญเหมือนเป็นบ้า
ทุกทุกวันที่ผ่านกาลเวลา
คือปวดร้าวทรมาช้ำเหลือทน
นึกถึงเรื่องที่ผ่านเริ่มสั่นหวิว
บาดแผลเพิ่มริ้วรอยทุกแห่งหน
โอ้น้ำตาไร้ค่าสำหรับใครบางคน
ต้องอดทนเก็บกดสลดใจ
ได้รู้ว่าคับขันในวันนี้
คือบทเรียนโศกีที่ยิ่งใหญ่
ตนพึ่งตนจำหลักตระหนักใน
ยืนอยู่ได้ไม่ท้อแท้ไม่แพ้ยับ
คงสิ้นค่าหมดความหมายกับใครกับเขา
เปรียบเหมือนเงาทำร้ายทั้งตื่นหลับ
ถึงเคราะห์ร้ายซ้ำเติมจนล้มพับ
ใจคงพร้อมยิ้มรับทั้งน้ำตา