17 กรกฎาคม 2549 23:44 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฉันเหมือนสายลมพร่างที่กลางฟ้า
บางเวลาเย็นสบายช่วยคลายเหงา
ในบางครั้งเยือกเย็นดั่งเช่นเงา
บ้างรุมเร้าร้อนจัดเมื่อพัดไป
ดั่งสายลมโบยพัดสะบัดผ่าน
ความร้าวรานร้อนรนทนมิไหว
ปลอบประโลมปัดเป่าความเศร้าใจ
จนมีความสุขใจหาใดเกิน
ในบางคราวเหมือนพายุปะทุกล้า
คอยฟันฝ่าอุปสรรคไม่ขัดเขิน
ถึงอ่อนล้าก็ยิ้มรับอย่างเพลิดเพลิน
ใครหมางเมินไม่ทุกข์ท้อต่อชะตา
เหมือนสายลมอ้างว้างบนทางเศร้า
พัดบางเบาดั่งเมฆขาวที่ราวฟ้า
เหมือนลมหนาวร้าวรอนซ่อนน้ำตา
ลมช่วยพาพัดหายกับสายลม
16 กรกฎาคม 2549 15:26 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เสียงนก เสียงน้ำ เสียงลม
ผสม ผสาน ธารไหล
ระงม กล่อมเห่ หริ่งเรไร
สดใส ร้องเสียง เคียงขับ
กระท่อมน้อย อยู่คอย สอยดาว
คืนหนาว อุรา อาภัพ
กลื่นกรุ่น เยื่อใย หายลับ
กลายกลับ ร้างลา ดั่งดาวัน
ราตรี มีจันทร์ แจ่มแสง
กวีแต่ง ต่อคำ นำฝัน
อุ่นไอ อาบเมฆ อเนกอนันต์
ว่าสวรรค์ โลกนี้ มีจริง
บางครั้ง ขลุ่ยผิว ซอสี
ดนตรี ร่ำร้อง น้องหญิง
สำเนียง เศร้าสร้อย อ้อยอิ่ง
ใครทิ้ง น้องปล่าวเปลี่ยว เดียวดาย
14 กรกฎาคม 2549 00:14 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ถ้าเพียงคุณรู้คุณค่าคำว่ารัก
คงประจักษ์ดวงใจใช่ใครสอน
มิได้หลงเพ้อพร่ำคำเว้าวอน
เที่ยวออดอ้อนรำพันฉันมีเธอ
:
อย่าได้นึกว่าใครไร้ความคิด
ทำมาชี้ถูกผิดคิดเสนอ
มาเที่ยวบอกเอารักล้นคอยปรนเปรอ
นึกว่าเพ้อตามไปหรือไงกัน
ไม่สูงค่าแต่ใช่ไร้ศักดิ์ศรี
ยังคงมีมากมายชายใฝ่ฝัน
คนไปมาหาสู่อยู่ทุกวัน
ทำไมฉันต้องไปแย่งแข่งกับใคร
ฟังคำคุณออดอ้อนดูอ่อนเชิง
หลงระเริงพร่ำเพ้อจนเผลอไผล
นึกว่าเก่งเรื่องรักนักหรือไง
แค่ลูกไก่อยากขันอวดชั้นเชิง
12 กรกฎาคม 2549 03:06 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฉันปลูกรักหมายรักจักสร้างโลก
หวังเลือนลบบทโศรกที่ขับขาน
พร่ำอ้อนวอนขอพรผ่านรัตติกาล
โลกขับขานร้องคลอก็พอใจ
อยากให้โลกโอบกอดฉันไว้บ้าง
เพราะหม่นหมางเจ็บจนเกินทนไหว
คืนเหน็บหนาวมองดาวแทนแสงไฟ
หยดน้ำใสหยาดร่วงจากดวงตา
เพียงโลกยิ้มรับฉันในวันเศร้า
ยังมีเงาใครคนนั้นที่ฝันหา
มาช่วยเช็ดน้ำเปื้อนที่เกลื่อนตา
ยามอ่อนล้ามีบางใครเข้าใจเรา
หวังว่ามีใครสักคนบนทางฝัน
ช่วยแบ่งปันทุกข์ทนบนความเหงา
ส่งหัวใจโอบกอดเพียงบางเบา
ทุกข์โศรกเศร้ามีใครห่วงใยมา
อยากเว้าวอนอ้อนไปในฟ้ากว้าง
เพราะหม่นคว้างเหลือใจโหยให้หา
คนของความฝันอยู่ไหนไกลลับตา
บอกผ่านฟ้ายังมีไหมใครสักคน
5 กรกฎาคม 2549 20:05 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฟังบทเพลงขับขานประสานเสียง
รับรู้เพียงราตรีนี้แสนหวาน
เพิ่งเริ่มต้นมืดมิดรัตติกาล
ยังอีกนานผ่านพ้นจนรุ่งเช้า
มองเมฆฝนโปรยปรายสยายม่าน
กับเสียงเพลงร้าวรานว่าฉันเหงา
เพราะฟากฟ้าค่ำนี้เป็นสีเทา
เพลงจึงเศร้าร้าวรานสะท้านใจ
เสียงกระซิบฝากฟ้ามากับฝน
บอกว่าคนอีกฝั่งยังหวั่นไหว
ฝากเรื่องราวเล่านิยามบอกความใน
ว่ามีใครห่วงหาแสนอาทร
อยากให้เจ้าหลับตามาซบไหล่
เพียงมาใช้ท่อนแขนหนุนแทนหมอน
จะร้องเพลงของเรากล่อมเจ้านอน
เพื่อหัวใจรุ่มร้อนได้ผ่อนคลาย
จนตะวันเบิกฟ้าอุษาสาง
ได้เคียงข้างเกินฝันเคยมั่นหมาย
อ้อมกอดคงไม่เหงาหรือเปล่าดาย
จนแดดสายกอดเกยเย้ยตาวัน