24 สิงหาคม 2549 01:15 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เมื่อหน้าร้อนย้อนกลับมาหาอีกหน
เสียงพร่ำบ่นคนขี้ร้อนออดอ้อนทั่ว
ทั้งเหนือใต้ตะวันออกบอกน่ากลัว
ร้อนพันพัวทั่วดินแดนทุกบ้านเรือน
ยิ่งแสงแดดส่องเจิดจ้าพาหดหู่
ใจที่สู้กลับร้อนรุ่มกลุ้มกว่าเพื่อน
มีบางครั้งบ้าคลั่งช่างบิดเบือน
ขอติงเตือนคนใจร้อนจงผ่อนคลาย
เลยหน้าร้อนแล้วย้อนมาถึงหน้าฝน
เสียงพร่ำบ่นตะโกนดังยังไม่หาย
น้ำขังแฉะถนนลื่นก็โวยวาย
ไม่สบายแถมเปื้อนเปรอะตอนฝนพรำ
เมื่อฝนตกแหมรถติดหงุดหงิดง่าย
เอ๊า..โชคร้ายเชี่ยวชนจนรถคว่ำ
อะไรว่ะ..มีแต่เรื่องมาประจำ
ช่างซวยซ้ำเรื่องมาซ้อนถอนหายใจ
จะหน้าฝนถึงหน้าร้อนหรือตอนหนาว
ทุกเรื่องราวมีเสียงบ่นทนไม่ไหว
เกิดเป็นคนแหมยุ่งยากลำบากทำใจ
อยากเกิดใหม่แต่กลัวว่า...ไม่ใช่คน...
22 สิงหาคม 2549 20:23 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เช้าวันหนึ่งแจ่มใสไร้เมฆฝน
ดูผู้คนพลุกพล่านเหมือนวันเก่า
เสียงจอกแจกจอแจกันแต่เช้า
คุณพระเจ้าเสร็จโปรดสัตว์กลับวัดวา
หญิงกลางคนกลับจากไปจ่ายตลาด
เจ้าอาวาสนำทางอยู่ข้างหน้า
แกรีบเร่งเดินไปไม่รอช้า
หิ้วตระกร้ากลับบ้านสำราญใจ
ถึงสะพานข้ามคลองของหมู่บ้าน
คุณพระท่านเดินถึงครึ่งทางได้
สะพานเก่าผุพลันหักทันใด
พระจึงได้ตกลงไปในลำคลอง
หญิงกลางคนเดินตามด้วยความหวาด
กลัวพลั้งพลาดตกไปรายที่สอง
แกก้าวเดินช้าช้าไม่กล้ามอง
สุดท้ายต้องตกน้ำไปตามกัน
เสียงแกร้องดังว่า...คุณพระช่วย...
ไยจึงซวยอย่างนี้น่ะอิฉัน
ก็เดินข้ามอย่างนี้ทุกวี่วัน
ไงดันตกลงได้ให้เปียกปอน
พระคุณเจ้าได้ยินเสียงเพียงกล่าวว่า
อาตมายังได้ตกลงไปก่อน
คราวนี้พระก็ช่วยไม่ได้อย่างแน่นอน
แหม..แดดไม่ร้อนน้ำก็ใสเย็นไว้โยม
22 สิงหาคม 2549 11:16 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อยากอยู่ในอ้อมกอดของท้องฟ้า
พริ้มหลับตาอยู่บนเมฆสีขาว
ลมช่วยพัดน้ำตาที่ร่วงพราว
วอนดวงดาวเป็นเพื่อนเตือนปลอบใจ
ขอดวงจันทร์ส่องใจให้สร่างเศร้า
ลบเลือนเงาของคนทำหวั่นไหว
ปลิดปวดร้าวทิ้งลงทะเลไป
เพราะเยื่อใยสูญสลายร้าวระทม
วอนแมกไม้บรรเลงเป็นเพลงรัก
คอยฟูมฟักพักใจให้หายขม
เป็นเสียงเพลงบรรเลงโลกใบกลม
ความช้ำตรมเลือนลางลงสักวัน
ด้วยหัวใจเขาคลาดแอบวาดหวัง
วลีถ้อยดั่งว่ากลับมารับขวัญ
คำสัญญาที่ให้ไยลืมกัน
ทิ้งความฝันสัญญาว่าให้คอย
รักที่ว่าแน่นหนักดั่งภูผา
ทิ้งร้างลาห่างลับฉันเหงาหงอย
ล่วงวันเคลื่อนเดือนปีน้ำตาปรอย
ฝันเลื่อนลอยความหวังแทบพังภินท์
หยดน้ำตาแต่ละหยดหมดสิ้นค่า
แม้ไขว่คว้าเจ็บหนักรักสูญสิ้น
ม่านน้ำตาอาบแก้มร่วงหล่นดิน
ร่างดับดิ้นคงสิ้นค่าสำหรับใคร
18 สิงหาคม 2549 21:14 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อยากจะเก็บเปลือกหอยมาร้อยเรียง
จะเก็บเสียงคลื่นตลบกระทบหาด
อยากจะเก็บท้องนภาเอามาวาด
แทนกระดาษกระซิบเสียงแห่งหัวใจ
อยากจะเก็บเมฆขาวบนราวฟ้า
อยากจะเก็บดอกไม้ป่าพิสุทธ์ใส
อยากจะเก็บถ้อยคำหวานผ่านฤทัย
อยากจะเก็บน้ำทะเลใสใส่แจกัน
ฝากดวงดาวส่งแทนความคิดถึง
ฝากดวงจันทร์งามซึ้งแทนใจฉัน
ฝากสายลมห่มกายหมายผูกพันธ์
ฝากคำหวานกระซิบบอกเพียงเบาเบา
ทุกวันนี้หัวใจฉันพลันอบอุ่น
เพราะมีคุณเคียงกายแม้เงียบเหงา
ถึงอยู่ห่างแต่คุณเปรียบเหมือนเงา
แม้โศกเศร้าคุณพร้อมซับน้ำตา
ลมหายใจทุกอณูต่อแต่นี้
ทุกนาทีควรญคร่ำร่ำเรียกหา
ทุกค่ำคืนหลับสนิทยามนิทรา
ทุกเวลาลมหายใจ...มีเพียงคุณ...
17 สิงหาคม 2549 16:20 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
แสนเหนื่อยหน่ายหมดแรงและอ่อนล้า
น้ำในตาร่วงรินสิ้นความหวัง
ดั่งมรสุมเกลียวคลื่นซัดซาดประดัง
กระแทกฝังโถมทับให้ยับเยิน
อยากจะหยุดลมหายใจนอนแน่นิ่ง
รับความจริงมิได้คล้ายห่างเหิน
ต้องทุกข์ทนท่วมท้นคนหมางเมิน
จะก้าวเดินให้ทุกข์ท้อต่อชะตา
เหมือนชีวิตบทสุดท้ายให้อนาถ
เจียนจะขาดหัวใจใยผวา
ต้องทนทุกข์ซับซ้อนซ่อนน้ำตา
แสนปวดพร่าเจ็บฝืนเพียงเดียวดาย
เหมือนชีวิตบทละครที่ตอนจบ
ไม่อาจพบความสมหวังดั่งมุ่งหมาย
มีแค่น้ำตาไหลเปื้อนเกลื่อนทั่วกาย
ลมหายใจเฮือกสุดท้ายไม่อาวรณ์