4 มกราคม 2550 01:09 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
หยุดได้ไหมพอทีฉันขอร้อง
แววตามันฟ้องว่าแสแสร้ง
รับไม่ได้ผู้ชายตลบแตลง
บอกตามตรงว่าแสลงไม่อยากมอง
จะไปไหนเชิญไปฉันไม่ง้อ
ทำตัดพ้อวาดลีลามาร่ำร้อง
คงใช้บ่อยลวดลายจึงช่ำชอง
ทำเศร้าหมองเผลอปั๊ปลายกลับมา
รู้แล้วสิปาฎิหาริย์นั้นมีจริง
เซียนอย่างเธอถูกทิ้งไม่มีค่า
อย่ากลับมาหากันเลยเสียเวลา
กินมาม่าดีกว่าเห็นหน้าเธอ
เลิกกันแล้วก็เลิกกันไป
ทำเก๋ไก๋วางท่าตีหน้าเซ่อ
สู่สุขคติเถิดที่รักอย่าเจอะเจอ
นับแต่นี้ไม่มีเธอมาเกี่ยวพัน
2 มกราคม 2550 21:21 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
Count Down
รอเวลาดึกดื่นอย่างตื่นเต้น
ด้วยอยากเห็นแสงสีรับปีหมู
ยิ่งพลุไฟกระจ่างฟ้ายิ่งน่าดู
จึงขอร่วมรับรู้คืนสำคัญ
จวนใกล้ถึงครึ่งคืนที่ตื่นรอ
แม้จดจ่อกับราตรีแห่งสีสัน
แอบคิดถึงให้บางคนอยู่ด้วยกัน
คืนแห่งฝันสองเรานั่งเคานท์ดาวน์
วินาทีปีใหม่ใกล้มาถึง
แต่หัวใจยิ่งคำนึงถึงหน้าสาว
ขออิงนั่งฟังเสียงเพียงสักคราว
แล้วตัวเธอเคยหรือเปล่าจะเข้าใจ
เก้า..แปด..เจ็ด ย้อนมา หก..ห้า..สี่
ยังคิดถึงคนดีไม่ไปไหน
เตรียมข้อความเอสเอ็มเอส( sms )จากหัวใจ
สาม..สอง..หนึ่ง..สวัสดีปีใหม่ ครับ..คนดี ^-^
-: ปักษาวายุ :-
รอคอยทุกนาทีเริ่มตื่นเต้น
อยากจะเห็นสีแสงแห่งปีหมู
มีพลุสวยกระจ่างฟ้าน่าชมดู
เพราะอยากรู้จึงจดจ่อรอเวลา
แล้วเวลาที่เนิ่นนานผ่านมาถึง
เสียงซึ้งซึ้งปลายสายใครโทรหา
ร่วมเคาว์ดาวด้วยคนเจ้าขวัญตา
ด้วยคำว่า...สวัสดีปีใหม่จ๊ะคนดี
หกห้าสี่ย้อนมาสามสองหนึ่ง
เห็นข้อความหวานซึ้งใครกันนี่
เอสเอ็มเอส(sms)เข้ามาหาอีกที
ด้วยหัวใจน่ะคนดีที่ส่งมา
ขอให้มีแต่รอยยิ้มและความสุข
หมดความทุกข์เรื่องร้ายกล้ำกรายหา
จากคนส่งทางไกลส่งให้มา
ปล.ว่าแนบหัวใจไว้ด้วยกัน
...กระต่ายใต้เงาจันทร์...
29 ธันวาคม 2549 16:54 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
วาดท้องฟ้าสีครามตามเรียวรุ้ง
เติมวันพรุ่งด้วยตะวันบรรเจิดแสง
ทุ่งดอกไม้ปูลาดพรมเหลืองส้มแดง
นกแมลงร่ายลีลาร่าเริงใจ
แล้วลากเส้นเป็นหลังคาฝาสี่ด้าน
ระบายบ้านด้วยสีที่ฝันใฝ่
เติมประตูหน้าต่างข้างบันได
มีต้นไม้รื่นร่มลมพัดเย็น
ชิงช้าน้อยคอยให้ใครมานั่ง
สวนสะพรั่งรอใครได้มาเห็น
ครอบครัวคือคำนี้ที่จำเป็น
ถ้าว่างเว้นก็เวิ้งว้างร้างชีวี
บรรจงสร้างสายใยด้วยใจรัก
ทอสานถักร้อยเรียงเคียงสุขขี
สร้างความรักความผูกพันธ์วันที่ดี
สร้างโลกนี้จากหัวใจให้งดงาม
24 ธันวาคม 2549 11:47 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ถึงจะอยู่ห่างกันสักเพียงไหน
อยากจะไกลหลีกหลบไม่พบฉัน
ขอไปดีสิ้นสุดความสัมพันธ์
น้ำไหลหลั่งรินร้าวผ่าวขอบตา
เพราะหัวใจทุกข์ทนจนนานเนิ่น
ห่วงเหลือเกินซุกซ่อนความออ่นล้า
ปวดเกินเจ็บทุรนทุรายเกินเยียวยา
ความโหยหาเหมือนบ่วงลวงอารมณ์
สิ้นสุดกันเสียที่เถิดที่รัก
เหน็บหนาวนักรักนี้ที่ขื่นขม
ขอเวลาลืมรักเก่าอย่างเศร้าตรม
หลุดจากหล่มรักเก่าเราได้เอย
ต่อแต่นี้หมดแล้วไมตรีจิต
เพียงน้อยนิดเยื่อใยไม่เปิดเผย
แม้ความฝันนิทราอย่ากอดเกย
ความอบอุ่นคุ้นเคยจะเฉยชา
23 ธันวาคม 2549 02:13 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เออ...เสมอนภางค์พะพร่างวสันต์ ชโลมสมัยฤทัย
ก็บรรลุฉ่ำเย็น
อกก็คล้ายตะลึงประหนึ่งเห็น วิ มานละลิบกระพริบ
ณ เพ็ญกระจ่างพราว
กล้ามิกลัวจะเจ็บ จะเหน็บจะหนาว ละเมอละม้าย
ตะกายดุจดาวตะวันเดือน
จิตมิวายคนึง ประหนึ่งเสมือน อุบัตินรกอกสะเทือน สะท้อนดัง
กล้ามิกลัวเพราะรักจะกักฤขัง กระเจิดกระเจิงระเริง
และยังทะยานไป
รัก ฤ เป็นฉะนี้ฤดีไฉน พยศมิหยุดมนุษย์มิใย
จะควบคุม
บทจะร้อนมิผ่อนก็ร้อนและรุม ประมาณพระเพลิงระเริง
และสุมประกายเพลิง
บทจะเย็นประมาณทะยานเถลิง สวรรค์ไสว ณ ใจกระเจิง
กระหยิ่มใจ
รักเสมือนมิรู้ ฤ ดู ฤ ใด จะเย็นจะฉ่ำจะน้ำหรือไฟ
ประลัยกัลป์ ฯ