18 มกราคม 2550 21:25 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ความเงียบไม่ช่วยแก้ปัญหา
ปริปากพูดออกมาบ้างก็ได้
กลัวพิกุลทองจะร่วงหรืออย่างไร
ถ้าอยากไปขอให้พูดออกมา
รอทนฟังมานานจนเต็มที่
ทำเป็นมากพิธีไม่เข้าท่า
อยากไปจนเนื้อเต้นแสร้งเย็นชา
สร้างภาพลักษณ์ตบตาว่าแสนดี
ไม่ต้องลงทุนขนาดนี้ก็ได้
ถึงเธอไปฉันลืมได้เรื่องแค่นี้
แค่อกหักฉันขอพักสักสามนาที
กินไอติมสตอเบอร์รี่เดี๊ยวดีเอง
อยากจะไปเชิญไปตามสบาย
เชิญไปโชว์ลวดลายเจ้าชู้ที่แสนเก่ง
ไม่ต้องทำมาดเงียบเพราะฉันไม่หวั่นเกรง
แค่ขอนั่งร้องเพลงดีใจเธอไกลลา
15 มกราคม 2550 15:44 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เรายังคงรักกันบ้างรึเปล่า
ไม่รู้เรื่องระหว่างเรามันแค่ไหน
คนรู้จัก คนรัก เพื่อนรู้ใจ
สิ่งที่คุณทำไปคิดอะไรได้มากมาย
โปรดบอกกันสักคำให้รับรู้
ว่าในใจไม่มีฉันอยู่แล้วใช่ไหม
ถึงทำกับฉันไม่แคร์สายตาใคร
หมดความหมายสายใยในวันนี้
พยายามตัดใจไม่รู้สึก
แต่ปวดลึกเร้นร้าวไปทุกที่
บอกตัวเองทำไมไม่รักดี
เจ็บทุกทีพอนึกถึงเรื่องของเรา
ความรักคงจบลงที่ตรงนี้
พอกันทีกับความโง่เขลา
ไม่เหลือแม้คำพูดระหว่างเรา
เหลือเพียงความว่างเปล่า..และ..เงา..ของ..น้ำตา..
14 มกราคม 2550 19:43 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
หัวใจฉันเริ่มบางเบาเหมือนเงาหมอก
ริ้วระลอกล้อลมผสมผสาน
หวีดหวิวหวีดกรีดกรายดั่งสายธาร
ความหอมหวานเจือระยับวับวาวแวว
เสียงหัวใจเต้นพลิ้วถูกผิวเนื้อ
แก้มแดงเรื่อเอียงอายใจเต้นแผ่ว
ตกหลุมรักของใครเข้าให้แล้ว
คงไม่แคล้วหัวใจใครได้ครอง
มองอะไรสดใสไปทั้งหมด
โลกใสสดงามตาพาผุดผ่อง
ยินเสียงไก่-ไก่ขันเป็นทำนอง
ฟังเสียงนก-นกร้องก้องพงไพร
ยินเสียงลมที่ลอยล่องแผ่วกระซิบ
ดาวกระพริบส่องสกาวฟ้าพราวใส
หอบความชุ่มเอิบอาบซาบทรวงใน
รอบางใครมอบหัวใจมาใกล้กัน
8 มกราคม 2550 09:29 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
.
ที่ที่เธอเคยหนุนนอน
หมอนที่เธอเคยหนุน
อ้อมกอดของฉันที่เธอเคยว่าอบอุ่น
กลิ่นกายหอมกรุ่นเธอเคยบอกว่า....ชื่นใจ.....
มันผ่านไปแล้วเวลานั้น
นับวันเธอยิ่งเป็นคนใหม่
ทำกับฉันไม่แคร์สายตาใคร-ใคร
เธอคงสะใจที่เห็นฉัน....มีน้ำตา....
เพราะเธอลืมคำสัญญาสั้น-สั้นในวันเก่า
ลืมรักของสองเราไม่รู้ค่า
ฉันหดหู่-ท้อแท้เป็นผู้แพ้ตลอดมา
น้ำในตาไหลออกมาเปื้อนหัวใจ
ความหมองหม่นทุกข์ทนอยากให้...เธอรับรู้...
ว่าในใจเธอมีฉันอยู่....สักนิดไหม...
เพียงเศษเสี้ยวน้อยนิดของหัวใจ
คงไม่เหลือใช่ไหม....เวลานี้.....
5 มกราคม 2550 23:00 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
นิยามแห่งเวลาหาคำตอบ
ตรองให้รอบต่างคนต่างค้นหา
ชอบกล่าวอ้างวันนี้ไม่มีเวลา
บ้างก็ว่าหาเวลากว่าจะมี
ด้วยเวลาหนึ่งวันเท่ากันหมด
ไม่มีลดไม่มีเพิ่มเติมเต็มปรี่
หรือเวลาจากเดือนเลื่อนเป็นปี
เฉกเช่นนี้เหมือนกันวันเวลา
แต่เวลาที่ให้แลให้ซึ้ง
หากงานหนึ่งเพลินใจให้หรรษา
ใจชื่นชอบแสนสนุกทำทุกครา
ลืมไปว่า หิว อิ่ม ลิ้ม หรือ ยัง
จนเช้าสายบ่ายเย็นเป็นไม่รู้
จดจ่ออยู่กับงานการมุ่งหวัง
เงินตอบแทนผลพวงแสนคุ้มจัง
แถมพลังเหลือเฟือไม่เบื่องาน
จึงมองหาคุณค่าเวลาแท้
ให้เหลียวแลงานเด่นเป็นหลักฐาน
เกิดประโยชน์โชติช่วงในดวงมาน
ร่วมสืบสานความหวังสู่สังคม
เวลาคือช่วงสมองที่ตรองคิด
รู้ถูกผิดดีงามตามเหมาะสม
ใช่ยึดติดเวลาตามอารมณ์
ทุกข์นานนมสุขอยู่เพียงครู่เดียว
นิยามแห่งเวลาหาคำตอบ
ตรองให้รอบต่างคนต่างค้นหา
ชอบกล่าวอ้างวันนี้ไม่มีเวลา
บ้างก็ว่าหาเวลากว่าจะมี
ด้วยเวลาหนึ่งวันเท่ากันหมด
ไม่มีลดไม่มีเพิ่มเติมเต็มปรี่
หรือเวลาจากเดือนเลื่อนเป็นปี
เฉกเช่นนี้เหมือนกันวันเวลา
แต่เวลาที่ให้แลให้ซึ้ง
หากงานหนึ่งเพลินใจให้หรรษา
ใจชื่นชอบแสนสนุกทำทุกครา
ลืมไปว่า หิว อิ่ม ลิ้ม หรือ ยัง
จนเช้าสายบ่ายเย็นเป็นไม่รู้
จดจ่ออยู่กับงานการมุ่งหวัง
เงินตอบแทนผลพวงแสนคุ้มจัง
แถมพลังเหลือเฟือไม่เบื่องาน
จึงมองหาคุณค่าเวลาแท้
ให้เหลียวแลงานเด่นเป็นหลักฐาน
เกิดประโยชน์โชติช่วงในดวงมาน
ร่วมสืบสานความหวังสู่สังคม
เวลาคือช่วงสมองที่ตรองคิด
รู้ถูกผิดดีงามตามเหมาะสม
ใช่ยึดติดเวลาตามอารมณ์
ทุกข์นานนมสุขอยู่เพียงครู่เดียว