2 ตุลาคม 2550 10:55 น.

ปณิธานของพ่อต่อต้นยาง

กระต่ายใต้เงาจันทร์


จากหนึ่งหยดน้ำยางที่แตกสลาย
คือหนึ่งหยดความหมายแห่งห่วงหา
ยางขาวข้นไหลย้อยเป็นรอยมา
มันแลกด้วยเหงื่อช่าพ่อโซมกาย


กว่ายางหยดสักหยาดต้องบาดลึก
กี่คมสึกมีดบิ่นเหล็กภินท์พ่าย
ในขณะหลายคนหลับสบาย
พ่อต้องเหนื่อยเจียนตายใต้ต้นยาง


ลุกมาตากน้ำค้างตั้งแต่เช้า
ตื่นมาเหน็บสั่นเทาแต่ก่อนสาง
กับตะเกียงดวงน้อยคอยส่องทาง
อยู่ท่ามกลางความหนาวทุกเช้าไป


จากหนึ่งหยดน้ำยางที่เอ่อหลั่ง
คือหยดหนึ่งความหวังพ่อมีให้
ลูกทุกคนหนทางยังกว้างไกล
ถึงเหนื่อยสักเท่าไรพ่อไม่กลัว


กรีดยางส่งลูกเรียนด้วยน้ำแรง
กว่าน้ำยางจะแห้งตายต้นทั่ว
ถึงเหงื่อพ่อไหลหลั่งโซมทั่งตัว
ต้องส่งลูกเข้ารั้ว  มหาลัย				
24 กันยายน 2550 14:28 น.

นิยามแห่งรัก

กระต่ายใต้เงาจันทร์


ฝากฟากฟ้าดูแลแม้ไกลห่าง
ฝากสายลมเบาบางพัดอ่อนไหว
ฝากทะเลเกลียวคลื่นพัดบอกไป
ว่ายังมีคนห่วงใยแม้ไกลกัน


แม้ต้องจากกันลงที่ตรงนี้
ทุกนาทีมิใช่แค่ความฝัน
ทุกเวลามันคือความผูกพันธ์
รักนิรันดร์คงอยู่คู่แนบกาย


จะไม่มีอะไรมั่นคงยืนยงเท่า
รักของเรามิใช่ไร้ความหมาย
ถึงต้องอยู่คนเดียวอย่าเปลี่ยวดาย
สิ่งสุดท้ายฉันคงอยู่คู่กับเธอ


นั้นคือนิยามแห่งความรัก
จะทอถักมอบไว้ให้เสมอ
ถึงแรมร้างห่างไกลมิได้เจอ
ฉันจะมีเธอตราบสิ้นลมหายใจ				
21 กันยายน 2550 16:42 น.

บุษบาช่างประดิษฐ์

กระต่ายใต้เงาจันทร์


เหลืองพราวขาวสะอาดส้มสาดแสง
ชมพูแดงม่วงฟ้าค่าแห่งสี
แม้ผิดแผกแตกต่างก็ตามที
ย่อมพอดีงามเหมาะเฉพาะตา


ความหอมเฉพาะตัวย้อมยั่วใจ
หอมไกลหอมกรุ่นหรือหอมกล้า
หรือหอมซึ้งถึงชั้นสรรยา
เกินนาสามานุษย์สมรมณีย์


จะกลีบเดียวกลีบซ้อนซ่อนเชิงชั้น
ระเริกรักทักตะวันระวีศรี
หรืออาบจันทร์เจิดจ้าในราตรี
หรือระริกรี้รำร่ายในสายลม


จะอยู่ด้าวพราวดอกประดับดิน
หรือถวิลชูไสวให้ฟ้าห่ม
หรือไต่ซุ้มผลิพราวให้ดาวชม
หรือจะก้มดอกค้อมลงถ่อมตน


จะหยั่งรากฝากร่างอยู่กลางไพร
หรือพอใจผลิพริ้มริมถนน
หรือเต็มใจเบ่งบานรั้วบ้านคน
หรืออดทนอยู่ดินถิ่นกันดาร


หรืออยู่ในแหล่งลุ่มอันชุ่มฉ่ำ
หรือลอยรายสายน้ำสรงสนาน
หรือเกาะแน่นแผ่นผาสู้แดดพาล
หรือทอดกิ่งทิ้งก้านริมธารทาง


อยู่เพื่อโลกงามคือความฝัน
แผกเหล่าเผ่าพันธุ์บานสล้าง
สาวน้อยประดิษบ์ดอกกระดาษพลาง
มือค้างใจคิดพิจารณา
เสยผมที่ปรกหน้ามิช้าสาว
เงยหน้าช้อนตาวาวแล้วตอบว่า
ถามทำไมฉันชื่อบุษบา
ดอกกระดาษธรรมดาค่าเปล่าดาย


ใครมองออกดอกกระดาษเพียงประดิษฐ์
เพียงชั่วจิตปรุงแต่งใช่แล้งหาย
ค่าชีวิตชีวาหาวางวาย
ยังสืบสายอันพิสุทธิ์บุษบา				
7 กันยายน 2550 14:26 น.

หอมกลิ่นดินทะเล

กระต่ายใต้เงาจันทร์



เม็ดหยาดฝนหล่นดินส่งกลิ่นหอม
เหมือนได้ดอมหอมกลิ่นดินผืนเก่า
กลิ่นผืนดินทะเลอยู่คู่กับเรา
เหมือนยั่วเย้ารู้รับประทับใจ


ภาพลมพิมพ์ริมทะเลเห่กล่อมเสียง
รับรู้เพียงเสียงนี้ใช่ที่ไหน
ห้วงชีวิตของเราที่เยาว์วัย
เคยเล่นน้ำค่ำเมื่อไรเหมือนไม่รู้


เคยนั่งเขียนผืนทรายแทนกระดาษ
เป็นนักวาดตัวน้อยเล่นคอยอยู่
แหย่รูทรายเล่นหยอกกับลูกปู
เคยคุ้นอยู่หอมกลิ่นดินทะเล


ยังรับรู้กลิ่นนี้มิมีสร่าง
แม้หนทางทำให้ได้ห่างเห
แต่ต้องกลับมาผืนดินถิ่นทะเล
ยามว้าเหว่ให้ทะเลโอบกอดกาย				
1 กันยายน 2550 15:57 น.

ช่วงชีวิต

กระต่ายใต้เงาจันทร์

 
แต่ละเคลื่อนเดือนปีของชีวิต
แต่ละถูกแต่ละผิดนั้นปริศนา
แต่ละเศร้าแต่ละสุขปลุกชีวา
แต่ละล้วนท่วงท่าสง่างาม


แต่ละมืดสว่างวามในความเข้ม
แต่ละหวานขื่นเค็มอัดเต็มย่าม
แต่ละห้วงกลวงโพรงบางโมงยาม
แต่ละคนมองข้ามแต่ละมุม


แต่ละหักแต่ละบิ่นเป็นชิ้นน้อย
แต่ละร่องแต่ละรอยทยอยสุม
แต่ละผลแต่ละเหตุเพศภัยรุม
แต่ละยิ้ม-กลัดกลุ้มมิต่างกัน


แต่ละรูปแต่ละทรงมั่นคงใหม่
แต่ละโลกเก่าใหม่ใครเฝ้าฝัน
แต่ละเหลี่ยมแต่ละรูรู้เท่าทัน
แต่ละบ่วงกระหวัดฝันพันรอบกาย


แต่ละโกรธแต่ละรักมิพักผ่อน
แต่ละโลภหลงร้อนยิ่งวอนว่าย
แต่ละพึ่งแต่ละพิงใช่หญิงชาย
แต่ละขวาแต่ละซ้ายใช่ร้ายเลว


แต่ละฝั่งแต่ละฝากลำบากข้าม
แต่ละนามแต่ละห้ามตามลงเหว
แต่ละลึกแต่ละก้าวไฟพลางเปลว
แต่ละเลวดีเหลือเพื่อเกื้อกูล


แต่ละรอยรอหยุดที่จุดพัก
แต่ละพบแต่ละพลัดไยขัดขุ่น
แต่ละค้านคานคัดเคื้อเกื้อหนำหนุน
แต่ละต่างแต่ละคุณหนุนนำพา


แต่ละเคลื่อนเดือนปีของชีวิต
แต่ละถูกแต่ผิดนั้นปริศนา
แต่ละเศร้าแต่ละสุขคลุกชีวา
แต่ละท่วงแต่ละท่าสง่างาม 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระต่ายใต้เงาจันทร์