30 ตุลาคม 2550 00:11 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ปล่อยหัวใจพัดปลิวอย่างพลั้งเผลอ
เหมือนได้เจอความรักทักทายผ่าน
หวีดหวาบหวามผ่านห้วงเหนือท่วงธาร
ผสมผสานเคลียเคล้าคลอหยอกล้อมา
แสงส่องต้องท้องฟ้าครายามเช้า
เมฆบางเบาผ่านทิวเขาลำเนาป่า
ดอกไม้สวยเผยกลีบบานงดงามตา
สุดพรรรณาดั่งสวรรค์บนชั้นดิน
เหมือนความรักเคียงคู่อยู่ในโลก
ความเศร้าโศกก็มลายสูญหายสิ้น
มอบความรักมาทักทายให้ได้ยิน
หอมกลิ่นดินมวลพฤกษานานาพันธุ์
เก็บตะวันเติมแต่งฝันในวันพรุ่ง
สิ่งที่มุ่งจงสมหมายดั่งใจฝัน
มอบความรักยิ้มทักทายให้แก่กัน
ความสุขสันต์ส่งมอบผ่านบ้านกลอนไทย
24 ตุลาคม 2550 20:00 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ตอนนี้หัวใจสี่ห้องน้องยังว่าง
มีใครบ้างสนใจใคร่เสนอ
บอกรูปพรรณสันฐานมาเลยเธอ
สนใจเจอมาสมัครรักษาใจ
ข้อที่หนึ่งต้องทำงานทุกอย่างที่สั่งได้
บอกซักผ้าทำทำไมไม่ควรหนา
ถูบ้านก่อนแล้วค่อยย้อนหันกลับมา
รีบซักผ้าแล้วล้างชามตามอีกที
ข้อที่สองเงินเดือนเท่าไรยกให้หมด
เรื่องค่ารถประหยัดไว้ไปทุกที
ใช้สองเท้าเดินไปพอได้ที
โบกรถฟรีตามทางอย่างรู้ทัน
ข้อที่สามเรื่องอาหารการกินไม่ติดขัด
แวะเข้าวัดมีคาวหวานมากมายนั่น
ขอแค่นี้แค่สามข้อรออยู่พลัน
ตกลงกันเซ็นสัญญารักษาใจ
23 ตุลาคม 2550 19:45 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
โน่นไงนั่นประตูอยู่ข้างหน้า
คงไม่ว่าถ้าเธอออกทางนั้น
แสนสบายอยู่ได้มานานวัน
ตั้งแต่เธอลืมฉันไปง่ายดาย
เชิญเถอะได้เวลาเธอจงกลับ
ตรงนี้ไม่เหลือที่สำหรับคนใจร้าย
อยู่คนเดียวแสนสนุกสุขสบาย
ชาติหน้าตอนสายอย่าได้เจอ
หันหลังจากกันแต่วันนี้
อย่าตามราวีเล่นทีเผลอ
เธอกับฉันจบกันไปอย่าหมายเจอ
อย่ามาเสนอกำนัลของไม่ต้องการ
จะกรวดน้ำคว่ำขันแต่วันนี้
จบกันทีไม่มีแม้สงสาร
ช่วยสงเคราะห์ถือว่ากุศลผลบุญทาน
เพราะตอนนี้ข้าวสารมีค่ามากกว่าเธอ
19 ตุลาคม 2550 20:37 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อยากมีใครโอบกอดยามอ้างว้าง
บนโลกกว้างสับสนเกินทนไหว
แต่ขอบฟ้ากว้างไกลใจเดียวดาย
เหลือคงแค่ลมหายใจไปวันวัน
เดินตามทางลำพังช่างเหงียบเหงา
เรื่องรุมเร้ามากมายกายหนาวสั่น
มีแต่ทุกข์ถาโถมเข้าโรมรัน
ผ่านกี่วันแผลใจจะหายคืน
บาดแผลรักพิษพ่ายจนเหลือรับ
ต้องย่อยยับอับจนทนขมขื่น
รักทำร้ายทำลายไร้ที่ยืน
ทนกล้ำกลืนทุกข์ท้อต่อชะตา
ได้แต่วอนสายลมช่วยพรมพร่าง
ละอองฝนเจือจางบนใบหน้า
ช่วยชะล้างคราบรอยน้ำในตา
ช่วยพัดพาเรื่องเศร้าปัดเป่าไกล
7 ตุลาคม 2550 10:56 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
แว่วยินเสียงจำนรรจ์ของพรรณไม้
มาผลิหน่อแตกใบอ่อนไหวร่วง
มีไอแดดเกลื่อนพราวเป็นดาวดวง
บนลานดินเหนือห้วงแห่งท่วงธาร
หอมกรุ่นกลิ่นอายแดดล้อมดวงจิต
แสงวิจิตรแดดเรืองรองยามส่องผ่าน
งามวิไลดวงดอกไม้แย้มผลิบาน
ใบทุกใบพลิ้วผสานผ่านฤดี
ทุกสรรพสิ่งร้อยเรียงดั่งเสียงทิพย์
เนรมิตรแสนสุขสันต์วันสุขี
ผ่านร้อยกรองวิญญาณผ่านบทกวี
ผ่านคืนวันเสรีต่อนี้ไป
ใช้จินตนาการวาดไกลในทุ่งกว้าง
ยามอ้างว้างเจ็บจนทนไม่ไหว
ใช้พรรณไม้ขับกล่อมหล่อหลอมใจ
ดวงดอกไม้โอบล้อมกล่อมกายา
เพราะบาดแผลพิษพ่ายกับเรื่องรัก
เจ็บช้ำนักหวลไห้อาลัยหา
ร้าวระบมตรอมตรมทั้งน้ำตา
หวังจะให้ธรรมชาติเยียวยา....รักษาใจ....