27 มิถุนายน 2552 17:42 น.
กระซู่บิน
ใจดวงน้อยคอยใจใครคนหนึ่ง
ใจคิดถึงใจรักเป็นหนักหนา
ใจเธอจากพรากใจไม่หวนมา
ใจเธอลาใจร้างแล้วห่างใจ
เธอมอบรักพักใจไว้ที่อื่น
ฉันสะอื้นเหว่หว้าน้ำตาไหล
เธอมาทิ้งหนีหน้าไปหาใคร
ฉันเฝ้ารอเมื่อไหร่เธอจะมา
เพียงสายลมที่พัดผ่านระรานจิต
เพียงความคิดที่ถูกเปิดเกิดปัญหา
เพียงความเศร้าที่ไหลหลั่งดั่งธารา
เพียงน้ำตาที่สะอื้นฝืนหัวใจ
ฉันจะรอรอเธอไม่เผลอห่าง
เธออย่าร้างใจนี้หนีไปไหน
ฉันจะรอรอเธอไม่เผลอใจ
เธออย่าได้ผลักไสฉันไหว้วอน
25 มิถุนายน 2552 17:09 น.
กระซู่บิน
น้อมเคารพด้วยสุนทรกลอนภาษา
น้อมบูชาแก้วกวีที่ส่องใส
สุนทรภู่ครูกวีศรีชาติไทย
สุนทรภู่ผู้เกรียงไกรบทร้อยกรอง
สุนทรภู่เปรื่องปราชญ์ทั้งศาสตร์ศิลป์
สุนทรภู่เอกกวินทร์ไม่เป็นสอง
สุนทรภู่แก้วกวีที่เรืองรอง
สุนทรภู่ผู้ยึดครองหัวใจคน
โลกแซ่ซ้องครูกวีศรีสวัสดิ์
โลกแซ่ซ้องกวีรัตน์ทุกแห่งหน
โลกแซ่ซ้องยอดกวีที่เหนือคน
โลกแซ่ซ้องกวีจนสิ้นกัปกัลป์
รำลึกถึงท่านภู่ครูอักษร
รำลึกถึงยอดนักกลอนผู้สร้างสรรค์
รำลึกถึงหยาดคำที่จำนรรจ์
รำลึกถึงดวงตะวันแห่งกวี
บูชาครูสุนทรภู่คู่แผ่นฟ้า
บูชาครูคู่มหาชลาศรี
บูชาครูคู่แผ่นดินปฐพี
บูชาครูคู่กวีนิรันกาล
ด้วยความนอบน้อม
กระซู่บิน(จตุรงค์ สวงรัมย์) ประพันธ์
24 มิถุนายน 2552 23:16 น.
กระซู่บิน
เชิญมาลาแช่มช้อย งามพรรณ
เรียงสู่ถ้อยวงวรรณ์ แต่งแต้ม
เป็นโคลงแห่งสวรรค์ ดวงดอก ไม้นา
มายั่วเย้ายิ้มแย้ม แด่ฟ้าพงสรวง
พรรณพวงพราวพุ่มพลิ้ว เพริศพราย
ดุจดอกดาราราย เด่นฟ้า
ขจีเปล่งเหมือนหมาย พลอยบุษย์
คูณดอกเด่นประดับหล้า แต่งแต้มพโยมหน
ผลิกลีบเรืองรุ่งด้าว แดนดง
โดดเด่นกลางไพรพง แช่มช้อย
น้ำค้างห่มกาหลง ชุ่มดอก
พราวดุจเพชรเรียงร้อย ดอกฟ้ากาหลง
หยาดงามราวกลีบรุ้ง ทอสาย
เหนือน่านแห่งพระพาย ผ่านพ้น
โสมสูรย์ส่องมิวาย มอดดับ
ขาวพร่างดารดาษต้น ดอกแก้วรัตนา
16 มิถุนายน 2552 18:15 น.
กระซู่บิน
นั่งนิ่งงงงันสั่นสะทก หัวอกเหน็บหนาวร้าวสลาย
สิ้นแรงสิ้นหวังพังทลาย สิ้นกายสิ้นใจจบกัน
ร้อนรนปนทุกข์พลุกพล่าน ร้าวรานหวั่นไหวไฟฝัน
ความเศร้าถาโถมโรมรัน ไฟรักดับพลันสิ้นใจ