14 ตุลาคม 2549 10:11 น.
กรวิกสีม่วง
เธอไปอยู่ไหนมานะที่รัก
ปล่อยให้คนอกหักพรักเพรียกหา
ปล่อยให้ใจของฉันมันด้านชา
ปล่อยเวลาผันล่วงสู่ห้วงตรม
ในวันนี้มีรักมาถักสาน
เสกสมานใจพร่องกลบร่องขม
มาเติมฝันเติมไฟใจพร่างพรม
ด้วยอารมณ์รักมั่นนิรันดร์กาล
เธอไปอยู่ไหนมา นะที่รัก
กว่ารู้จักจนเกือบสิ้นกัลปาวสาน
แต่ได้พบก็รู้แน่รอมานาน
จิตสมานใจสมัครด้วยรักเธอ
จะไม่ขอสัญญาว่ารักมั่น
จะไม่ถามถึงสัมพันธ์ที่มั่นเสมอ
จะไม่หารักใหม่มาปรนเปรอ
จะขอเธอเป็นลมปราณเท่านั้นพอ
13-14 ตุลย์ 49
00.15 น.
ใช้ลมหายใจทอสายใยเป็นอักษร
13 ตุลาคม 2549 14:22 น.
กรวิกสีม่วง
แดดส่องห้องใจในวันว่าง
อ้างว้างแอบหวังยังหวั่นไหว
อยากรู้วันนี้จะมีใคร
คอยโอบอุ่นใอละอองจินต์
เหลียวซ้ายแลขวาที่หน้าต่าง
ยังมีที่ว่างกว้างเกินสิ้น
เหมือนนกปีกน้อยคอยโบยบิน
จะผกผินไขว่คว้าหารักครอง
แดดส่องห้องใจในวันเหงา
ตัวเราเฝ้าอยู่มีคู่สอง
ปิดม่านบังมิดไม่เมียงมอง
หัวใจร่ำร้องหารักเรา
5 ตุลาคม 2549 13:44 น.
กรวิกสีม่วง
ที่เห็นเพราะใจใช่ตา
เกินกว่าถอดถอนคลอนได้
ยิ่งฝังดั่งฝืนขื่นใจ
ดับไปด้วยดับกับตน
5 ตุลาคม 2549 13:42 น.
กรวิกสีม่วง
หัวใจของเธอนี้มีกี่ห้อง
มีเจ้าของหรือเปล่าเราไม่เห็น
อยากจะขอที่ว่างกว้างสักเซ็นต์
เอาไว้เป็นที่พักพิงคนจริงใจ
4 ตุลาคม 2549 17:34 น.
กรวิกสีม่วง
ประดิษฐ์ถ้อยร้อยเรียงเคียงอักษร กล่าวสุนทรสดุดีมิ่งศรีขวัญ
บรรจงแต่งแบ่งถ้อยร้อยจำนรรจ์ ต่างพฤกษ์พรรณกลิ่นกรุ่นละมุนไม
กี่ร้อยเท้าก้าวย่ำกรำแดดกล้า กี่น้ำตาหยาดเหงื่อเพื่อสิ่งไหน
กี่คำหมิ่นเหยียดหยามไม่คร้ามใจ เพียงโลกได้รู้ว่า ค่าของคน
ในวันนี้ ณ จุดซึ่งถึงฝั่งฝัน จากวันนั้นที่หวังดังหมายผล
และวันนี้ก็เลื่องชื่อระบือชน เพราะวันนั้นอดทนจึงได้ดี
มองสายน้ำหลั่งไหลไปมิกลับ อาทิตย์ลับจันทร์เคลื่อนเลื่อนวิถี
วันเวลาลาลับกับวารี เหลือเพียงที่ดีชั่วแห่งตัวตน
คิดดูเถิดคิดสักนิดคิดให้ได้ กระดาษนี้ใช่ชี้เสร็จสำเร็จผล
นี่คือหนึ่งเครื่องหมายให้อดทน จุดเริ่มต้นตรงนี้ไซร้ใช่ปลายทาง
หยิบเดือนเรียงเคียงเด่นเป็นเชือกร้อย หยิบดาวน้อยโลกตะวันมาสรรค์สร้าง
จีบฟากฟ้าเป็นลวดลานให้อยู่กลาง บรรจงวางแต่งประดับกับเวลา
ขอให้จำคืนวันอย่างมั่นเหมาะ ที่บ่มเพาะวันนี้ให้มีค่า
ประสบการณ์ทั้งหลายได้ผ่านมา เป็นศาสตราต่อสู้หมู่ภัยพาล
ถึงลาจากจำไกลใช่ลาลับ จงคืนกลับหวนวันเคยฝันหวาน
ทั้งสุข โศกร่วมกันมาจวบช้านาน ร้อยกรองกานท์รับขวัญบัณฑิตเอย