อยากกล่าวเรื่องราวกระบือหนึ่ง เป็นหนุ่มซึ่งรุ่นกระทงอนาถา ถูกขังคอกคับแคบมากเชื้อรา อนิจจาพาฝันถึงนางาม อยู่แต่คอกเขามอบแต่ฟางแห้ง ช่างแห้งแล้งขบเคี้ยวเหมือนกินหนาม ไม่อร่อยนุ่มลิ้นทนกินตาม แสนวาบหวาบยามออกจากคอกมา ฝูงอีกาบินว่อนสลอนสวย แสนสำรวยนวยนาถเป็นหนักหนา กระบือยิ้มพริ้มพรายด้วยสายตา น้องอีกามาเร็วหลังพี่ควาย ทั้งหนองน้ำนาสวยให้เกลือกกลิ้ง ควายหลุดหวิงคลิงเคล้าจนแสงหาย ทั้งอิ่มแปล้แช่นานชุ่มฉ่ำกาย สนตะพายเสร็จสรรพต้องกลับรัง กลับถึงคอกคอตกตระหนกหนัก ราที่รักพักหน่อยแสนเหนื่อยหลัง ฝูงอีกามาเกาะมันแทบพัง แสนนุงนังพันตูมารู(คอก)เดิม ฝืนทนนอนกรนคร๊อกในคอกเก่า ทนเหม็นเน่าเฝ้ารออย่างฮึกเหริม เฝ้าครวญคิดฝันหวานแต่เรื่องเดิม คิดตักเติมเพิ่มสุขในรุ่งวัน ถึงเวลาลาคอกกลับต้องเศร้า เขาหยิบเอาแอกเก่าใส่ใจแสนหวั่น แล้วถือแส้ตีก้นพัลวัน จนก้นมันแตกยับไปกับมือ
อยากขอบคุณ...สักครั้งที่พลั้งเผลอ เมื่อพบเธอครานั้นมันช่วยสอน ให้จดจำย้ำเตือนเหมือนละคร ฉากบางตอนหลอนหลอกบอกรักกัน อยากขอบคุณ...อีกหนคนเคยรัก ด้วยตระหนักน้ำคำปั้นเสกสรร หลากคำหวานผ่านปากเพื่อกำนัล แค่เฟ้อฝันวันลวงที่ล่วงมา อยากขอบคุณ...บทเรียนที่แพงเหลือ เหมือนกับเถือใจฉันมาเล่นหนา ช่างทำเหมือนกับคนไร้เมตตา ที่ผ่านมาสาใจใช่ไหมเธอ หลากบทเรียนเขียนเล่าใช่เรื่องขำ ให้จดจำสอนใจอย่าไปเผลอ ในคำหวานซ่านทรวงเหมือนละเมอ ฉันรักเธอเธอรักฉัน... นั้นไม่จริง
จิต...ใจกายมาเกิดเป็นแฝดสาม จิต...มักตามใจอ่อนน้องทั้งสอง จิต...ใจดี คิดหวังเรื่องปรองดอง จิต...ใจกายปกครองเรือนเดียวกัน ใจคนรองตั้งตนเป็นคนเหงา ชอบยึดเอาเมาอบายเป็นสุขสันต์ ทำเรื่องชั่วมัวเมาสารพัน เสพทุกวันเหล้ายาและนารี กายสุดท้องในแฝดคนที่สาม รูปไม่งามเรื่องกินไม่คิดหนี บริโภคโลภทุกอย่างล้วนแต่ดี ในหัวมีแต่หาเรื่องการกิน อยู่ด้วยกันนานวันหลายปีผ่าน กาลเนิ่นนานจิตไม่คิดจะติฉิน ใจยิ่งเมาส่วนกายเอาแต่กิน สามชีวินเริ่มมีความแปรปรวน จิตไม่เตือนใจไม่หยุดกายไม่ผัน ยิ่งนานวันนายเรือนยิ่งพลิกผวน ทั้งใจเสื่อมจิตเหงาและกายซวน โรคทั้งมวลรุมเร้ากันเข้ามา เมื่อกายทรุดใจเสื่อมจิตไม่ไหว หาสิ่งใดมาประคองอยากนักหนา ด้วยสามหนุ่มกลุ่มนี้ต้องพึ่งพา หมั่นรักษากลมเกลียวหนึ่งเดียวกัน จิตคิดดี มิตักเตือนและคอยสอน ใจสำส่อนติดโรคภัยร้ายมหันต์ กายบริโภคไม่เลือกแม้ของมัน คอยแต่วันแฝดสามจะบรรลัย เปรียบมนุษย์ทั้งหลายนะเพื่อนผอง มีจิตครองใจกายคอยอาศัย จิตหนักแน่นตักเตือนเมื่อผิดไป กายผ่องใสใจงามร่างแข็งแรง.....
กลอนบทนี้เขียนตอบคุณ bananaleaf จาก http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem109220.html ณ วันหนึ่งซึ้งรักสมัครสมาน จึงคิดการณ์สร้างชีวิตดังจิตฝัน ทุกข์และสุขร่วมรับคอยแบ่งปัน อยู่เคียงกันฝันร่วมสานนะกานดา เมื่อถึงวันผันผ่านกาลนานเนิ่น หมั่นจงเพิ่มเติมใจต่อกันหนา รักจะคงเท่าเดิมหนอแก้วตา ร่วมกันพาเดินรอนะน้องเอย ความเคารพเกรงใจเมื่อแรกรัก ต้องตระหนักรักษาอย่าทำเฉย หากเผลอผิดรีบขอโทษอย่าโกธรเลย อย่าอายเผยคำหวานอย่างวารวัน ถ้อยวจีหวานเพราะเสนาะนัก ควรกล่าวรักถักร้อยคอยเสกสรร เทศกาล หาของ มอบกำนัล เพียงของขวัญชิ้นน้อยใช้แทนใจ ความเอ็นดูรักใคร่ที่ได้รับ ควรส่งกลับหาสู่จักดูใส ต่างเอ็นดู ชูเชิด เอื้อกันไป เคืองเรื่องใดให้เฉลยเอ่ยวาจา ยิ้มให้กัน ฉันเธอ อย่าคิดเกี่ยง ทำเดินเลี่ยง ประสบ เมื่อพบหน้า จงปรึกษา หารือ สุขทุกข์นา อย่าตั้งตา หันหนี เมื่อมีภัย ต้องถ้อยทีมีเตือนมิหักหาญ อย่ารำคาญเดินหนีทำเฉไฉ จงรับรู้และฟังความของใคร ใช่ปลีกไปเรื่องไหนให้แก้เอง ต้อง..ตระหนักหน้าที่ของทั้งสอง ต้อง..ปรองดองอย่าคิดจักห่มเหง ต้อง..รักเดียวเกี่ยวใจร่วมบรรเลง ต้อง..ร้องเพลงแห่งรักของสองเรา เมื่อกาลผ่านนานเนิ่นวันคืนคล้อย มีลูกน้อยกลอยใจมาคลายเหงา มีหนึ่งสองถนอมลูกยังเยาว์ เสียงหยอกเย้ายั่วสุขสนุกเอย..
ลูกตัวดีมีนิยามแปรความหมาย อันแพร่หลายร่ายแจงแถลงไข อยากจะบอกออกนิยามของความนัย นักเรียนไงให้แม่หมายทายนิยาม ใช่ปัญหามาเฉลยเพื่อเปรยแจ้ง แม่อย่าแย้งแจงบอกใช่หลอกถาม จงเอื้อนเอ่ยเผยบอกต่อนงราม จึงคิดตามความตีชี้นงเยาว์ คือ....ผู้มีอาชีพคอยรับจ้าง หมั่นคอยร่างอ่านเขียนไม่โง่เขลา รับค่าแรงแข็งขันงานเบาเบา พ่อแม่เราเขาเป็นดั่งเช่นนาย...........(จ่ายรายวัน) คือ...บุคคลซนนักนั่งรอเสียง เงี่ยหูเพียงออดดังหวังสลาย พร้อมเพรียงกันหยิบกระเป๋าเข้าสะพาย แล้วพากายหายไปในพริบตา.(หมดเวลาเรียน) คือ...นักร้องร่วมวงประสานเสียง ส่งสำเนียงพรักพร้อมเป็นหนักหนา ร้องทุกวันเพลงเดิมตรงเวลา เพลงชาติพาเจริญฮึกเหิมใจ คือ...นักชิมหยิบเคี้ยวครูเอี้ยวเผลอ หากหันเจอทำเซ่อแกล้งเฉไฉ ครูเผลอหมับยัดปากในทันใด ยิ้มในใจได้กินอีกหนึ่งคำ คือ...นักคำนวณถ้วนถี่เรื่องยุบยับ คอยสลับขอเงินเดินเช้าค่ำ นักเศรษฐศาสตร์ปราดเปรื่องน้ำคำ พูดเกริ่นนำทำหน้าเป็น..เพื่อเห็นใจ คือ...นักพูดสุดเก่งฝีปากกล้า เสียงชัดจ้า...ใช่ถามเรื่องสงสัย เจรจาเล่าความเรื่องตามใจ ครูสอนไปไม่สนคนเราคุยกัน คือ...นักสำรวจรู้จริงเรื่องเส้นสาย เขียนเป็นลายลอกรู้ดูสุขสันต์ แกะลายมือเพื่อนผองจองทุกวัน หมายใจฝันฉันจะเป็นนักโบราณ.(คดี) คือ...ดีไซด์เนอร์ผู้มากด้วยความคิด คอยประดิษฐ์ดัดแปลงแกล้งผสาน ชุดนักเรียนแบบไหนนิยมกาล จะแคบบานสั้นยาวเร้าฤดี คือผู้ที่มีเวรมากมายหนา ทุกสัปดาห์ต้องทำทั้งชายหญิง เหมือนถูกคุมทำกันเป็นระวิง เบื่อจริงครูหนูไม่อยากทำเวร (กรรม) คือผู้ที่มีภาระแสนหนักอึ้ง กระเป๋าตึงซึ่งหนักกว่าแบกเถร ใช่หนังสือคือที่ครูนั้นเกณฑ์ การ์ตูนเด็กอ่านเล่นในชั้นเรียน คือผู้มีสายตาอันเฉียบแหลม คอยสอดแนมเมื่อยามต้องอ่านเขียน สอดส่ายหาอาจารย์คอยแวะเวียน เมื่อหนีเรียนจะเห็นทั้งใกล้ไกล (ฝ่ายปกครอง) คือผู้มีฝีเท้าแสนเร็วรี่ หากต้องหนีเมื่อเรานั้นไถล ฝ่ายปกครองมองเห็นในทันใด วิ่งได้ไวใจกล้าห้ากิโล....(เมตร)