24 ธันวาคม 2551 16:42 น.
zilver
แม้วันนี้มิอาจเอื้อมไปคว้า
แต่สักวันข้างหน้าผู้ชายคนนี้
จะก้าวไปให้ถึงจะได้ดี
ด้วยสองมือที่มีฉันมั่นใจ
อาจไม่ใช่ผู้ชายที่ดีนัก
แต่ก็เป็นคนหนึ่งที่รู้จักเอาใจใส่
อาจไม่ใช่คนดีในสายตาใคร
แต่ถ้าเป็นเรื่องหัวใจ ไม่เคยกลัว
อีกหนึ่งเรื่องราวของความรัก
ของคนสูงศักดิ์ต่างชนชั้นทำปวดหัว
ดอกฟ้าที่หมาวัดต้องหวั่นกลัว
เหมือนดอกบัวที่ดอกดินต้องสิ้นใจ
ถ้าริเริ่มที่จะเรียนรัก
ก็ไม่ต้องกลัวอกหักอย่าหวั่นไหว
จะดอกฟ้าหรือดอกอะไร
ไม่เกี่ยวถ้าใจสองใจนั้นรักจริง
ต้องร่วมกันฟันฝ่า
ปัญหาแค่นี้ใช่ทุกสิ่ง
จับมือก้าวไป ถ้ารักจริง
เป็นน้ำที่ปลาพึ่งพิง...เป็นที่พึ่งใจ
24 ธันวาคม 2551 08:08 น.
zilver
รับแสงส่องกระจายแสงมายามสาย
ยังมิคลายความง่วงเหงาละเมอหา
แสงอาทิตย์แสงสาดส่องผ่านม่านตา
แสงเจิดจ้าแสงส่องมาต้องฝืนใจ
ผ้าห่มหนาที่แสนรักในยามนั้น
จากอีกวันไม่อยากลี้หนีไปไหน
จำต้องจากจำต้องตื่นต้องทำใจ
เช้าวันใหม่เริ่มต้นก้าวตามทางเดิน
ทุกทุกเช้าต้องจำใจลืมตาตื่น
เพื่อหยัดยืนบนทางยาวทีสรรเสริญ
สวมหน้ากากอีกวันหวั่นเหลือเกิน
ว่าทางเดินสายใหม่จะไม่มา
พบผู้คนที่ผ่านมาในชีวิต
ถอดหน้ากากแล้วพินิจคิดดูว่า
การกระทำต้องใช้ใจพิจารณา
มัวแต่มากลิ้งกลอกมาหลอกใจ
หลอกตัวเองว่าลืมได้ว่าไม่คิด
สวมหน้ากากแนบสนิทว่ายังไหว
หน้ากากยิ้มไม่อ่อนแอแต่ข้างใน
ลึกลงไปใต้หน้ากากคือ น้ำตา
23 ธันวาคม 2551 08:04 น.
zilver
ด้วยรักและความไว้ใจ
จึงขอเอาความห่วงใย ความสัตย์ชื่อ
เรียงร้อยถ้อยคำด้วยสองมือ
คอยปรึกษาหารือ ยามห่างกัน
ไม่มีของขวัญปีใหม่ใดใดจะมีค่า
เท่ากับเวลาเราเคยชิดใกล้
ความทรงจำดีดีที่อยู่ในใจ
เก็บเป็นของล้ำค่า กว่าสิ่งใด มอบให้เธอ
รักจากใจหนึ่งดวงคือของขวัญ
คำสัญญามั่นต่อกัน ว่ารักเสมอ
คือสัญญาคือทุกสิ่งที่ให้กับเธอ
จะกลับไปเจอแล้วมอบของขวัญด้วยหัวใจ
เก็บไว้นะคนดี
พร้อมกับ สคสคำอวยพรที่มอบให้
ส่งความสุขส่งความรักส่งความในใจ
ให้สมหวังกับสิ่งที่ฝันใฝ่ นิจนิรันดร์
20 ธันวาคม 2551 14:26 น.
zilver
ซึมซับไออุ่นจากเส้นขอบฟ้า
ผ่านห้องแห่งกาลเวลามาเก็บไว้
รับเอาสายลมที่หวังดีจากแดนไกล
เก็บไว้ในความทรงจำตลอดมา
เช้าเช้าลืมตาตื่น
จะได้ไม่ต้องทนยืนบนทางเหว่ว้า
ให้ใจอยู่ได้โดยไม่ต้องเสียน้ำตา
เข้มแข็งตื่นขี้นมาแล้วก้าวเดิน
เดินต่อไปตามทางชีวิต
แม้วันนี้ใจจะสนิทกับความห่างเหิน
ไม่มีเธอคนนั้นร่วมทางเดิน
เพราะเราอยู่ไกลเกิน ต้องห้ามใจ
วันหนึ่งวันนั้น
วันที่ฉันและตัวเธอจะชิดใกล้
จะต้องมาถึงสักวันฉันมั่นใจ
วันนี้จึ้งต้องก้าวต่อไป ไม่ท้อเลย
ขอฉันเดินด้วยคน
แม้ทางนั้นจะสับสน ขอเอื้อนเอ่ย
อาสาเป็นตัวช่วย ขอคิดเกินเลย
พูดคำเชยเชย รักและจะรอ
ขอเพียงเธอรับฉันไว้
ทางที่เธอฝันที่เธอท้อ
มีฉันช่วยก้าวไป ช่วยถักทอ
สายใยรักเชื่อมต่อ แม่ตอนนี้ ห่างไกล
17 ธันวาคม 2551 14:27 น.
zilver
แต่เก่าก่อนตอนเล็กเล็กเป็นเด็กน้อย
มีครูคอยชี้ทางเดินแนะทางฝัน
ครูก็เหมือนแม่เหมือนแสงตะวัน
ส่องให้วันของเด็กไทยให้ก้าวเดิน
เราทำผิดก็มีท่านคอยว่ากล่าว
ไม่เรียวยาวพกข้างข้างมิห่างเหิน
ไว้ลงโทษเด็กที่ดื้อไม่ก้าวเดิน
มิหมางเมินหากเรานั้นไม่ได้ดี
เราเห็นครูต้องหลบหน้าจ้าละหวั่น
กลัวครูนั้นมาพานพบต้องหลีกหนี
ให้พนจากรัศมีของครูทุกที
เพราะกลัวไม้เรียวนี้มาตีเรา
แต่เดี๋ยวนี้นับวันครูยิ่งหมด
เกียรติยศความยำเกรงช่างหน้าเศร้า
มิเคยมองถึงเกียรติของครูเรา
เด็กโง่เขลาเบาปัญญาก็ว่าครู
ไม่มีไม้เรียวคอยบังคับ
ไม่มีใครคอยมาจับให้ความรู้
เด็กไม่เชื่อเด็กไม่ฟังก็ว่าครู
ต่อให้สู้แค่ไหนก็ป่วยการ
ปัจจุบันการศึกษาเป็นธุรกิจ
โรงเรียนต้องคิดเปลียนชื่อเป็นสถาน
รับเด็กเข้ารับเงินก็ชื่นบาน
เป็นโรงงานเป็นเหมือนบ้านที่แทบพัง
แล้วอย่างนี้คุณค่าของครูไทย
ต้องหมดไปต้องเสื่อมค่าต้องล้าหลัง
อนาคตของเด็กต้องมาพัง
เพราะคำสั่งคำสอนครูไม่ดีพอ
แต่ก่อนอาชีพของเด็กๆส่วนใหญ่ก็คืออาชีพครูเพราะครูมีเกียรติมีศักดิ์มีศรีมีความน่าเชื่อถือแต่ทุกวันนี้ครูนั้นเป็นได้เพียงแค่เครื่องจักรที่ต้องทำตามคำสั่งของหัวหน้า ไม่มีสิทธ์ที่จะตีเด็ก เด็กก็ไม่กลัวครู ผลที่ตามมาก็คือเด็กมีความก้าวร้าวมากมาย เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย และที่สำคัญคุณภาพการศึกษาของไทย ก็แย่คง คิดแล้วน่าเป็นห่วงอนาคตของชาติจัง เด็กทุกวันนี้ก็เลยไม่อยากเป็นครู