31 สิงหาคม 2545 22:54 น.
windsaint
วันนี้แล้วสินะที่ฉันจะต้องไปสมัครเอนท์
ฉันตรวจความเรียบร้อยของเอกสารหลักฐานให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน
แล้วฉันก็ไปถึงโรงเรียนตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ
เปล่าหรอก ฉันไม่ได้บ้าเห่อ ฉันไม่ได้ตื่นเต้น
เพียงแต่วันนี้มีงานกรีฑาสวนสัมพันธ์ครั้งที่ 7 งานแข่งกีฬากับสวนฯอื่นๆ 6 สวนฯ
ห้องของฉันได้รับคำสั่งให้ไปเป็นพี่เลี้ยง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
7.50 น. ฉันและเพื่อนออกจากโรงเรียนเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุฬาฯ
พวกเรามารวมตัวกันที่โรงเรียนเกือบทั้งห้องเหลือเพียงบางคนที่ไม่เต็มใจรับหน้าที่พี่เลี้ยง จึงไม่มา
8.10 น. ฉันถึงที่ศาลาพระเกี้ยวโดยมีผู้คนมากมายต่อแถวกันยาวเป็นสายเหมือนกับหางงูที่ไม่มีวันจะลดลง
ฉันรอต่อแถวนั้นด้วยใจที่คิดว่า ทำไมคนสอบมันเยอะเช่นนี้ แล้วเราจะสู้ไหวหรือ
ฉันพบเพื่อนจากค่ายเดียวกันหลายคน แต่ละคนต่างมาสมัครในรอบที่ต่างกัน
จนกระทั่งรับบัตรคิวหมายเลขที่ฉันได้คือ 2588
ฉันชวนเพื่อนไปที่โต๊ะสวนฯ แหล่งรวมชาวสวนฯที่จุฬาฯ
แต่ทำไมวันนี้กลับไม่มีใครสักคน ผู้คนที่มากมายทำให้ฉันกระตุ้นตัวเองว่า
เวลาแห่งการแข่งขันกำลังงวดเข้ามาทุกทีแล้ว การแข่งขันที่มิใช่การแก่งแย่งชิงดี
แต่เป็นการแข่งขันเพื่ออนาคต สนามทดสอบความอดทนของแต่ละคนและเป็นสนามรบทางความรู้
ที่ฉันไม่รู้ว่าฉันเองจะเป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตกลับมาจากสมรภูมินี้ได้หรือไม่
6 สิงหาคม 2545 16:13 น.
windsaint
น้ำตาไม่ใช่เครื่องแสดงถึงความอ่อนแอ แต่เป็นเครื่องแสดงถึงความอ่อนโยนของจิตใจ
แสดงให้เห็นว่าในขณะนั้นจิตใจมีปัญหามากมายจนไม่สามารถรับไว้ได้ จึงต้องปลดปล่อยออกมา
สำหรับฉันน้ำตาไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม น้ำตาของเธอก็ยังเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากเห็น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนจะทนเห็นน้ำตาจากผู้หญิงที่ตนรักได้หรอก
เวลานี้สิ่งที่ฉันกลัวที่จะเห็น กลับกลายเป็นน้ำตาของเธอ
ฉันกลัวที่จะเห็นน้ำตา เพราะมันจะทำให้ฉันใจอ่อน
ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันแพ้คือคำร้องขอและน้ำตาของผู้หญิง
ไม่เคยมีสักครั้งที่ฉันเอาชนะมันได้ และที่แน่ๆ ฉันแพ้น้ำตาของเธอ
จากความกลัวที่จะเห็นน้ำตา จนกลายเป็นความห่วงใยที่ไม่อยากให้เธอมีน้ำตา
น้ำตาที่แสดงความเศร้า เพราะไม่ต้องการที่จะเห็นเธอเศร้า ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไร
ฉันไม่รู้ว่าเธอจะได้อ่านบทความนี้หรือไม่ แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ว่า ไม่ว่าเธอจะเศร้าสักแค่ไหน
อยากให้เธอเข้มแข็งเอาไว้ เพราะน้ำตาของเธอจะเป็นสิ่งชี้จุดอ่อนของเธอขึ้นมา
และจงรู้ไว้ว่า เธอยังมีฉันคนนี้คอยเป็นกำลังใจให้เธอ ไม่ว่าเธอจะเผชิญสิ่งใดก็ตาม ฉันก็จะคอยห่วงใยอยู่ห่างๆ จากนี้จนตลอดไป
5 สิงหาคม 2545 07:09 น.
windsaint
ระยะเวลา 14 วันที่ผ่านมา สั่งสมความสนิทสนม ความคุ้นเคย
ระยะเวลาที่ต่างร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา
ช่วงเวลาเหล่านี้กำลังจะจากไป เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำของแต่ละคนที่มีทั้งดีและร้าย
ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเก็บความทรงจำช่วงไหนได้ หลายคนอยากจะเก็บความทรงจำในทุกๆช่วงเวลา
อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ทุกคนจะต้องจากลา ต่างคนต่างไม่อยากจาก
เพราะด้วยความผูกพัน ทุกคนรู้สึกไม่อยากให้เวลานี้ล่วงเลยไป
มีเพียงไม่กี่คนที่ทำใจได้ ไม่กี่คนจริงๆ แม้แต่เธอก็ยังมีน้ำตา
ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงร่ำลาและเสียงสะอื้น
ฉันได้เห็นทะเลน้ำตาเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต ทะเลน้ำตาซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะเหือดแห้งไป
ครั้งนี้ฉันไม่ได้พูดให้เธอทำใจ ไม่ได้พูดปลอบใจเธอ
เพราะคราวนี้คำพูดปลอบใจ ก็ไม่สามารถที่จะมีคุณค่าเทียบเท่ากับการปล่อยให้เธอเสียน้ำตาเพื่อที่จะจดจำภาพเช่นนี้ไว้เป็นความทรงจำที่ดีอีดหนึ่งความทรงจำ
ความทรงจำที่ไม่มีใครถ่ายรูปเก็บไว้
ความทรงจำที่บรรยายไม่ได้ด้วยคำพูดและรูปถ่าย
แต่จะเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
จนถึงเวลาที่จะต้องกลับ ฉันพยายามบอกให้ทุกคนรีบไปขึ้นรถ เพื่อที่จะกลับโรงแรม
แต่กว่าจะขึ้นรถได้ก็กินเวลาไปถึงเกือบชั่วโมง
ฉันพยายามทำให้ทุกคนร่าเริง แต่เป็นไปได้ยาก ทุกคนตกอยู่ในภวังค์แห่งการลาจาก
ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เพียงปล่อยให้เวลาช่วยทำให้เธอค่อยๆทำใจยอมรับการลาจาก
เคยมีคนถามฉันว่าทำไมต้องมีการลาจาก ฉันตอบเขาว่า
งานเลี้ยงต้องมีการเลิกรา การเลิกราเพื่อที่จะไปสู่งาเลี้ยงงานใหม่ ในสังคมใหม่ๆ
เพราะฉะนั้นหากเราไม่เลิกงานเลี้ยงนี้ เราจะก้าวไปสู่งานเลี้ยงใหม่ได้หรือ
3 สิงหาคม 2545 19:16 น.
windsaint
ฉันพบเหตุการณ์เหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งจะทำให้ฉันไม่อาจลืมไปชั่วชีวิต
ในค่ายเยาวชนอาเซียนครั้งที่ 3 วันสุดท้าย กับการนำเสนองานครั้งสุดท้าย
งานที่เธอตั้งใจทำ ตั้งใจคิด ด้วยความกระตือรือร้นของเธอ
แต่เมื่อถึงเวลานำเสนอกลับใช้ไม่ได้ เนื่องจากเกิดปัญหาที่คอม ทั้งๆที่ไม่ใช่เพราะเธอ
แต่เธอก็ยังสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
สิ่งที่ฉันทำได้ก็แค่เพียงแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น ฉันไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด เพราะเวลาไม่เพียงพอ ฉันทำอย่างสุดความสามารถที่มีของฉันแล้ว จนอาจารย์อาจจะเห็นว่าฉันยุ่งมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
หลังการนำเสนอ เธอหายไปจากที่ประจำของเธอ เธอแอบไปร้องไห้อยู่ลำพัง โดยมีคนอื่นปลอบใจอยู่
หยดน้ำตาที่ไหลลงมาเปรอะแก้มใสๆของเธอ
ดวงตาที่เคยสดใสและมีแววแห่งความกระตือรือร้นถูกปกคลุมด้วยน้ำตา
แก้มที่มักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอจางหายไป
เสียงที่เคยสดใสกลายเป็นเสียงสะอื้นร่ำไห้
ฉันเองก็เสียใจไม่แพ้กัน แต่ที่ฉันไม่ร้องไห้ อาจะเป็นเพราะฉันพบสิ่งเหล่านี้มามาก
ประสบการณ์สอนให้ฉันรู้จักความผิดหวัง
พากฉันยังเด็กขนาดนั้นฉันคงจะร้องไห้เช่นกัน แต่ฉันไม่ได้ร้องไห้
และสิ่งที่ฉันพอจะทำให้ได้เพื่อเธอ เธอคนที่ฉันยอมรับทั้งกายและใจ ว่าเป็นผู้หญิงเก่งที่มีความสามารถคนหนึ่ง
คือ ฉันได้แต่ปลอบใจด้วยคำพูด คำพูดที่ทุกคนสามารถพูดได้ง่ายๆ แต่ทำใจได้ยาก ยากเย็นและยากยิ่ง
ฉันรู้และฉันเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ ความรู้สึกที่ทนรับไม่ได้กับสิ่งที่ไม่คาดฝัน
ฉันได้แต่ปลอบใจว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นได้
ฉันพาเธอไปเดินสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก
จนกระทั่งเธอกลับมานั่งที่ประจำของเธอ คราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง
ดวงตาที่แดงระเรื่อ เรียกร้องให้หัวใจของฉันพาตัวฉันเข้าไปหาเธออีกครั้ง
ฉันเข้าไปและพยายามทำให้เธอหัวเราะ แต่รอยยิ้มและสายตาของเธอที่แฝงไปด้วยความเศร้า
ทำให้ฉันรู้ว่าคำพูดต่างๆ ของฉันสารพันจะไม่มีทางเข้าไปถึงส่วนลึกของหัวใจเธอได้
มันทำให้ฉันกลัว กลัวว่าฉันจะสูญเสียรอยยิ้มที่น่ารักและสดใสนั้นไป
ฉันได้แต่ภาวนาให้มีเสียงที่สามารถส่งไปถึงหัวใจของเธอได้
แล้วก็มีจนได้ เมื่อเสียงประกาศรางวัล Best content ทำให้รอยยิ้มที่แสนสดใสนั้นกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
ฉันไม่รู้ว่าถ้าไม่มีการประกาศรางวัลนี้ ฉันจะมีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มจากใจนั้นอีกหรือไม่
รอยยิ้มที่ฉันไม่อยากให้มันเลือนหายไปจากใบหน้าของเธออีกเลย
26 กรกฎาคม 2545 14:50 น.
windsaint
มีคนเคยถามฉันว่า ทำไมชอบโทรมาบ่อยนัก
คำถามนี้แสดงออกถึงความไม่ค่อยพอใจนักที่ฉันมักชอบโทรศัพท์ไปรบและกวนอยู่บ่อย
ฉันรู้ว่าตัวฉันเองมักชอบที่จะโทรไปรบและกวนคนอื่นอยู่บ่อยๆ จนอาจจะก่อให้เกิดความรำคาญเสมอๆ
ทั้งๆที่บางครั้งฉันก็โทรไปหาได้ทุกวันโดยที่ไม่มีเรื่องคุย
แต่บางครั้งก็ไม่โทรไปหาได้เป็นอาทิตย์
ฉันรู้ว่าบางครั้งการโทรศัพท์ของฉันอาจก่อให้เกิดความรำคาญ
เพราะฉันไม่รู้ว่าขณะนั้นเขากำลังทำอะไรอยู่
เพราะถ้ารู้ฉันคงไม่ต้องโทรศัพท์ไปหรอก ฉันคงใช้โทรจิตพูดคุยกับเขาแล้ว
แต่ฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่มีโทรจิต ฉันจึงได้แต่ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำให้เกิดความรำคาญ
คงเป็นเพราะฉันเป็นห่วงคนอื่นมากจนเกินไปก็ได้
ฉันรู้ว่าบางเวลาฉันก็กลายเป็นตัวน่ารำคาญ เป็นตัวยุ่งสำหรับใครหลายๆคน
เป็นเพียงคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไปวันๆ ไร้สาระได้ทุกเวลา
เพราะคนเราไม่ได้สำคัญสำหรับใครไปทุกเวลาหรอก
แต่สาเหตุที่ฉันโทรศัพท์ไปหาไปคุยด้วยนั้น
เพราะฉันอยากให้เขารู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีฉันที่ยังคงคอยคิดถึงและเป็นห่วงเขาอยู่
ให้เขารู้ว่าเขาไม่เดียวดาย แม้ว่าฉันจะกลายเป็นตัวกวน
เพราะสำหรับฉันแล้วเหตุผลแค่ความคิดถึงก็เพียงพอแล้วสำหรับที่ฉันจะโทรหาใครสักคน