26 กันยายน 2545 12:17 น.
windsaint
...ปฏิกูลเต็มทั่วทั้ง.....เมืองไทย
หากแต่ในจิตใจ.......สะอาดสิ้น
ยังดีกว่าที่ให้............ใจมาก ขยะแล
ชนชาติอาจดับดิ้น.....ชาติสิ้นชาติไทย
25 กันยายน 2545 17:58 น.
windsaint
เพียงทักทายทายทักกลับหมางเมิน
เพียงทักทายกลับเดินห่างเหินหาย
เพียงทักทายกลับไร้ยิ้มรอยพริ้มพราย
เพียงทักทายคล้ายว่าน้ำตาริน
เป็นแค่เพียงลมบางเบาที่เลยผ่าน
เป็นแค่เพียงหมอกม่านที่ผ่านสิ้น
เป็นแค่เพียงเศษใจในเศษดิน
เป็นแค่เพียงก้อนหินที่ละเมอ
อยากให้รู้ให้ซึ้งสักแค่ไหน
อยากให้รู้ให้เข้าใจในคำเพ้อ
อยากให้รู้ให้คิดที่อยากเจอ
อยากให้รู้ว่ารักเธอมากเพียงใด
มองแสงจันทร์แววตาที่เหมือนฝัน
มองแสงจันทร์แสงนวลดูสดใส
มองแสงจันทร์วาววับอยู่รำไร
มองแสงจันทร์แต่แสงใจไร้คนมอง
ไร้คำตอบขาดคำพูดไม่รู้จัก
ไร้คำตอบขาดคนรักใจยังหมอง
ไร้คำตอบขาดคำตอบที่ร่ำร้อง
ไร้คำตอบขาดคนปองให้ท้อใจ
เหลือเพียงเสียงเบาเบาของอากาศ
เหลือเพียงเสียงลมบาดใบไม้ไหว
เหลือเพียงเสียงกระซิบของหัวใจ
เหลือเพียงเสียงหัวใจที่ช้ำตรม
ยังไม่ลืมไม่ลืมไม่ลืมเธอ
ยังไม่ลืมคำพร่ำเพ้อที่ขื่นขม
ยังไม่ลืมเสียงพร่ำที่ช้ำตรม
ยังไม่ลืมคำชื่นชมว่ารักเธอ
24 กันยายน 2545 20:27 น.
windsaint
แว่วฟังเสียงเรียกลมให้คอยช่วย
ลมตามเสียงมาด้วยใจคอยมั่น
แอบส่งยิ้มเมื่อเห็นเธอคิดถึงกัน
แอบไปฝันเมื่อได้เห็นรอยยิ้มเธอ
แต่เธอยังให้ช่วยเหมือนทุกครั้ง
ฝากความหวังความคิดถึงซึ่งพร่ำเพ้อ
ฝากหัวใจให้คิดหลงละเมอ
ฝากไปส่งคนที่เธอยังเฝ้ารอ
ฉันหรือเล่าก็เป็นแค่ messager
จะพร่ำเพ้อถึงไหนก็ใจฝ่อ
ฉันก็แค่คนที่ใจไม่กล้าพอ
ได้แค่ขอเป็นผู้ช่วยก็พอเพียง
ลมหนอลมใยเจ้าเป็นเช่นนี้
ลมหนอลมใยเจ้ามีแค่เพียงเสียง
ลมหนอลมใยเจ้าอยากอยู่เคียง
ลมหนอลมทำได้เพียงแค่มองเธอ
ลมหนอลมใยเจ้าหยุดไม่ได้
ลมหนอลมใยเจ้าต้องพร่ำเพ้อ
ลมหนอลมเฝ้าคิดหลงละเมอ
ลมหนอลมหลงรักเธอเข้าอย่างจัง
ลมหนอลมเฝ้าคิดและเฝ้ารอ
ลมหนอลมเจ้าท้อหรือยังหวัง
ลมหนอลมชีวิตไม่จีรัง
ลมหนอลมก็ยังจะรักเธอ
24 กันยายน 2545 19:23 น.
windsaint
แม่รำพึงเจ้าเอยเกยหาดลึก
เจ้าเคยตรึกอะไรบ้างไหมหนอ
เหตุใดเจ้าเอาชีวิตไปยังไม่พอ
เจ้ามาขอเอาชีวิตคนอื่นไป
แล้วเมื่อใดแม่รำพึงจึงจะหยุด
จะยื้อยุดเอาชีวิตไปถึงไหน
ชีวิตคนมากมายที่สูญไป
จะมีใครหยุดเจ้าแม่รำพึง
24 กันยายน 2545 07:39 น.
windsaint
วันและคืนยิ่งทำให้ใจฉันเหงา
พกความเศร้าพาอ้างว้างตามทางฝัน
บนเส้นทางที่ไร้ใครห่วงใยกัน
ทางเส้นนั้นที่ฉันเดินอยู่เดียวดาย
ขาดแม้เงาไม้ใหญ่ให้พิงพัก
ไร้แม้รอยความรักยังสลาย
มีเพียงรอยน้ำตามาละลาย
หลั่งเป็นสายธาราพาเหงาใจ
บนเส้นทางเส้นนี้ที่ฉันเดิน
ไม่มีความเพลิดเพลินที่หวังไว้
มีแค่เพียงเสียงสะอื้นของหัวใจ
ไม่มีใครเดินเคียงข้างสักครา
ใจฉันเหงาใจฉันเศร้าใจฉันเหนื่อย
ใจฉันเมื่อยอ่อนแรงใจฉันล้า
บนเส้นทางสายเหงาเศร้าอุรา
คนไร้ค่าได้แต่เดินเพียงคนเดียว
บนเส้นทางสายนี้ที่ฉันเหงา
ไม่มีเขาไม่มีเธอฉันเปล่าเปลี่ยว
ยังมีฉันเดินอยู่เพียงคนเดียว
คนโดดเดี่ยวเดินลดเลี้ยวไปตามทาง
บนเส้นทางสายเหงาที่ฉันอยู่
ไม่มีคู่เดินไปคอยเคียงข้าง
บนเส้นทางคล้ายเส้นไหมใยบางบาง
ฉันอ้างว้างหงอยเหงาและเศร้าใจ
บนเส้นทางสายนี้ที่ฉันเศร้า
เสียงลมครางเหงาเหงาใบไม้ไหว
ฝนน้ำตาหล่นมาที่กลางใจ
ขาดแม้ใครจะเดินเคียงคู่กัน
บนเส้นทางที่ดูสวยแต่แสนเหงา
ลมเบาเบากระทบยิ่งเหมือนฝัน
แต่ความเหงาคือความจริงเหมือนทุกวัน
เพราะว่าฉันขาดคนข้างกายา
ใครหนอใครห่วงใยฉันสักครั้ง
สิ่งที่หวังสิ่งที่คอยตามหา
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรคืนมา
นอกเสียจาก...น้ำตา...จากความเศร้าใจ