18 มีนาคม 2546 00:46 น.
windsaint
แสงเทียน
วูบแสงเทียนริบหรี่ลงหวี่วับ
ไฟใกล้ลับเลือนหายสุดปลายแสง
ไฟต้านลมชมโศกกรรโชกแรง
ไฟดับแดงไร้แสงแห่งชีวัน
ไฟลุกโชติกลางลมที่ถ่มโถม
สายลมโหมโครมคึกให้นึกหวั่น
แม้แสงไฟจะริบหรี่ไม่มีครั่น
เพียงยืนยันสู้ต่อไม่ท้อใจ
เพียงตั้งใจยืนหยัดหัดต่อสู้
เพียรเรียนรู้สู้มันไม่หวั่นไหว
แม้เทียนดับแต่ยังไม่สิ้นแสงไฟ
ยังจุดใหม่ได้อีกครั้งไม่จืดจาง
ขอแค่เพียงยังมีที่ความหวัง
เป็นพลังส่งเสริมไม่เหินห่าง
พยายามสู้ต่อรอฟ้ากว้าง
จะมีทางแห่งฝันเข้าสักวัน
จะพยายามสู้ฝันเพื่อรักเธอ
แค่บอกเพ้อให้เป็นดั่งความฝัน
บอกรักเธอรู้มั๊ยทุกทุกวัน
เพราะรักฉันนั้นให้เธอแม่นวลปราง
15 มีนาคม 2546 00:40 น.
windsaint
คลื่นกระแส
ถลาโถมกระโจนคลั่งหวังปลิดชีพ
กระแสบีบเหยียดหยามยามหวั่นไหว
ค่อยค่อยเข้ามาบั่นให้บรรลัย
กลืนชาติไทยให้สิ้นทั้งวิญญาณ์
มลายล้างกระจ่างแจ้งแสดงชื่อ
ให้ชาติสือชาติเสือไม่เหลือค่า
ปล่อยชาติไทยเหมือนเรือไม่ตีตรา
ตามธาราไหลเกลื่อนแต่เลื่อนลอย
หากปล่อยตามกระแสมีแต่เสีย
ไทยละเหี่ยเพลียจิตไม่คิดปล่อย
วัฒนธรรมไทยก็ได้แค่คอย
ให้มันร่อยเลือนหายมลายไป
ปล่อยให้มันเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ชนรุ่นหลังจะเหลืออะไรไว้
จะหมดสิ้นแม้กระทั่งความภูมิใจ
แล้วจะเหลือชาติไทยให้ใครจำ
หนีกระแสแค่เธอยังไม่พ้น
หากหนีคนอย่างเธอคงครวญคร่ำ
ก็เพราะรักเธอคนเดียวไม่คืนคำ
เพราะจะย้ำคำรักนะนวลปราง
14 มีนาคม 2546 01:15 น.
windsaint
ตามกระแส
ร้อนเร่งเร้ารุนแรงล้วนรีบร้อน
ติดตามตอนตัวตนตามต่างต่าง
จับจุดจำจับเจ่าเจ้าจางจาง
เก็บกรีดกลางกร่างเก่ากายกรีดเกลา
หลงคารมคมสื่อให้ชื่อชัด
ผิดถนัดจัดวาดให้ขาดเขลา
เป็นใบมีดกรีดร่างให้ร้างเงา
เชือดเฉือนเข้าเป่าเนื้อให้เถือกาย
วัฒนธรรมหลงถิ่นหมิ่นภาษา
ล้วนแต่พาความดีที่เลือนหาย
ตามกระแสแห่ตามกันหั่นเป็นสาย
คงมลายหายสิ้นดินแดนไทย
ให้กระแสต่างประเทศเข้าครองชาติ
กลืนกินปราชญ์พิฆาตชาติหมองไหม้
ตามกระแสตามก้นคนอื่นไป
ประเทศไทยคงเจริญได้หรอกคุณ
อยากจะหลงรักเธอให้มากกว่า
ใครจะว่ากำลังใจยังเกื้อหนุน
อยู่กับเธอด้วยหัวใจที่อบอุ่น
อยากจะหนุนตักเธอนะนวลปราง
12 มีนาคม 2546 22:41 น.
windsaint
เอนท์สะทกอกสะท้อนให้อ่อนจิต
อิทธิฤทธิ์เอนท์สะท้านต้านไม่ไหว
จิตสะคราญไม่สราญเนิ่นนานใจ
พาบรรลัยล้มพังในครั้งเดียว
เอนท์สะท้านพานตระหนกให้ตกจิต
อาจมิคิดใจเราที่เปล่าเปลี่ยว
พันธนาการแห่งวิชาที่ปีนเกลียว
คือหนึ่งเดียวในคำย้ำสนธยา
เรื่องสอบรักยังสมัครไม่ตรงจิต
ยากจะติดต่อใจให้ใฝ่หา
ครวญควรคร่ำค่ำย่ำพินิจตรา
คิดถึงตาเจ้านวลสุดดวงใจ
2 มีนาคม 2546 18:37 น.
windsaint
ร้อย(100)กรองรักไม่รู้จบ...10
ถ้าดาวบนฟ้ามีไว้ขอพร
ฉันจะนึกถึงเธอก่อนเลยรู้ไหม
จะร้อยดาวหมื่นแสนไม่ให้ใคร
จะขอเก็บพรไว้ให้แต่เธอ
หากเป็นลมห่มผ้าเธอไม่ได้
หากเป็นไฟยังไม่ให้ไออุ่น
หากเป็นผ้ายังไม่ให้ความละมุน
ขอเป็นวุ้นให้เธอกินดีกว่าเอย
หากสายลมพัดฉันออกไปได้
ช่วยพัดใจของฉันไปไกลโพ้น
จะหลีกหลบให้ไกลจากใครโน่น
ขอเพียงโคนต้นไม้ให้เขียนกลอน
หากเธอไม่คิดจะมีใครคอยเคียงคู่
หรือขออยู่เป็นโสดจะดีกว่า
มองคนนี้บ้างเถิดนะแก้วตา
แล้วจะรู้ว่าคนดีก็ยังมี
เพราะรู้ว่าเธอไม่รักจึงไม่บอก
ไม่พูดออกเพราะกลัวเธอจะเปลี่ยนไป
เปลี่ยนจากเพื่อนเปลี่ยนจากเดิมที่เคยให้
จึงขอแค่บอกรักเธอในใจเท่านั้นพอ
รักเธออยู่อยากรู้ว่าเธอรัก
ต้องคิดหนักหากอยากจะคิดต้อง
จองใจเธอไม่รู้เธอมีใจจอง
เรารักครองแต่ไม่รู้ใครรักเรา
หลงใหลเธอเพ้อใจให้ใหลหลง
เศร้าใจคงช้ำใจถ้าเธอเศร้า
เงารูปนี้ขอเป็นเพียงรูปเงา
เธอรักรึเปล่าไม่รู้รู้แต่รักเธอ
คิดถึงกันบ้างไหมนะคนดี
รู้ไหมใครคนนี้แสนคิดถึง
แค่แววตากำลังใจสักนิดนึง
แค่ความคิดถึงส่งมาให้ก็เกินพอ
จะห่วงกันสักนิดบ้างไหมหนอ
จะคุยต่อกันบ้างจะได้ไหม
อยากได้รอยยิ้มแย้มให้ชื่นใจ
ขอแค่ได้เท่านั้นก็คงพอ
ร้อยกลอนรักเอาไว้ไม่รู้จบ
ร้อยให้ครบให้เธอเก็บเอาไว้
ร้อยกรองนี้จะเป็นเหมือนหัวใจ
ร้อยมอบให้แด่เธอเธอคนเดียว
ร้อยกลอนรักทั้งร้อยมอบให้เธอ
ร้อยกลอนเพ้อกลอนพร่ำที่มอบให้
ร้อยกลอนกานท์ผ่านคำว่าห่วงใย
ร้อยดวงใจมอบให้เธอแม่นวลปราง