18 ตุลาคม 2545 13:58 น.
windsaint
เช้าวันธรรมดาๆวันหนึ่ง ผมไปถึงโรงเรียนตั้งแต่ 6โมงครึ่ง ผมชอบไปที่โรงเรียนแต่เช้าเพื่อไปจองที่นั่งศาลาใต้ต้นไม้ใหญ่เป็นประจำ จนที่ตรงนั้นกลายเป็นที่ประจำของผมและเพื่อนไปแล้ว
ทุกเช้าเราจะมานั่งคุยกันที่นี่ ที่นี่เป็นที่ที่วิวดีที่สุดในโรงเรียนก็ว่าได้ เมื่อผมไปถึงที่ประจำของกลุ่มเรา กลับพบสิ่งที่น่าแปลกใจ
นั่นคือเจ้า ตั้ม คนที่มักจะมาสายเสมอ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้มาเร็วได้ ผมจึงรีบเข้าไปทักทายตามประสาเพื่อนฝูง
เฮ้ย! มิน่า วันนี้ฟ้าครึ้มๆ ที่แท้แกมาแต่เช้านี่เอง
ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากมานั่งคิดอะไรหน่อย
ข้าว่าแกต้องมี ไม่งั้นแกไม่มานั่งงี้หรอก บอกมาเหอะ เพื่อนกันนี่หว่า
ข้าเลิกกับพลอยแล้วว่ะ เราเข้ากันไม่ได้
เอาน่า ก็คนให้มันเข้ากันซะทีสิวะจะได้เข้าได้ ผมพูดติดตลกเพื่อให้ตั้มมันสบายใจ
พลอยเองเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของผม เธอเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักและนิสัยดี ที่สำคัญเธอเป็นคนที่ถูกรุมจีบมากจากรุ่นเดียวกันและรุ่นน้อง
แต่พลอยก็ยอมคบกับตั้ม ผมเคยแซวสองคนนี่ว่าเป็นดอกฟ้ากับหมาวัด แต่ตั้มก็มักจะตอกกลับมาว่า หมาวัดตัวนี้ก็โน้มดอกฟ้ามาได้ก็แล้วกัน
วันนั้นผมนั่งปลอบตั้มอยู่เป็นนานจนเข้าเรียน วันนี้พลอยไม่มาโรงเรียน ผมกลัวว่าพลอยจะคิดมาก จึงไปหาพลอยที่บ้าน บ้านของพลอยอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนักเดินไป 15 นาทีก็ถึง เมื่อผมไปถึงพลอยออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง ผมจึงต้องปลอบพลอย จนอาการพลอยเริ่มดีขึ้น ผมจึงกลับบ้านไป
เรื่องเป็นแบบนี้อยู่เกือบเดือน จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมก็เห็นตั้มกับพลอยเดินคุยมาด้วยกันอีกครั้ง ผมเข้าไปถามจึงได้ความว่า ตั้มไปขอโทษพลอย แล้วปรับความเข้าใจกัน ผมรู้สึกยินดีที่ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง
หลังจากวันที่ทั้งสองคืนดีกัน ไม่เกิน 2 อาทิตย์ ทั้งคู่ก็เลิกกันอีกครั้ง ผมไปหาพลอยที่บ้าน และพลอยก็พูดขึ้นว่า เธอดีกับเราจริงๆ เรามาเป็นแฟนกันเถอะนะ
คำพูดนี้ทำให้ผมงง จริงๆแล้วผมก็แอบชอบพลอยอยู่แต่ไม่เคยพูด แต่ผมก็เกรงใจตั้ม จึงได้แต่ตอบว่า ก็ได้นะ ถ้ามันจะทำให้เธอพอใจ แต่อย่าเพิ่งไปบอกตั้มนะ
จากวันนั้น เราสองคนก็คบกันเป็นแฟนเป็นเรื่องเป็นราวโดยที่ตั้มไม่รู้เรื่องเลย เราสนิทกันมากและดูท่าว่าจะไปได้ดีด้วย แต่แล้ววันหนึ่งพลอยก็มาบอกกับผมว่า เราเลิกกันเถอะ
ทำไมล่ะพลอย ก็เรากำลังจะไปได้ดีไม่ใช่เหรอ ผมถามเธอหลังจากอึ้งไปหลายนาที
อืม ก็ใช่นะ แต่เมื่อวาน ตั้มมาขอโทษเรา แล้วขอคืนดีกับเรา เราขอโทษ แต่คือ เรา
เธอยังรักตั้มอยู่ใช่มั๊ย ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร เราขอไปเอง
จากวันนั้นผมจึงได้รู้ความจริง ว่าที่แท้จริงแล้วผมก็แค่ตัวสำรองเท่านั้น แค่ตัวสำรองที่มีโอกาสได้ลงเป็นตัวจริงไม่กี่ครั้ง แล้วก็ต้องกลับไปเป็นตัวสำรองอีกครั้งเมื่อตัวจริงหายดี
http://www.thaipoem.com/web/poemdata.php?id=24700
บทกลอนจากเรื่องสั้น
15 ตุลาคม 2545 19:24 น.
windsaint
เพียงคำเดียวที่มีความหมายและมีผู้คนเขียนถึงมันไม่รู้จักจบ ไม่เว้นแม้แต่ฉัน
ความรักก็เหมือนกุหลาบเป็นสิ่งสวยงามแต่ก็มีหนามแหลมคม
สามารถทำให้เราเจ็บและเสียน้ำตา
ทั้งๆที่ความรักน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกสดใส แต่ความรักก็ทำให้โลกหม่นหมองได้
ฉันคิดว่าการที่เราคิดจะรักใครคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่เราจะสามารถจัดการกับหนามที่ติดอยู่ที่ก้านกุหลาบนั้นได้หรือไม่
และความรักเมื่อดำเนินไปนานวันเข้า ย่อมมีเหี่ยวและมีเฉา
มันขึ้นอยู่กับว่าเราได้ปลูกกุหลาบไว้พันธุ์อะไรและดูแลกุหลาบต้นนั้นอย่างไร
หากต้องการให้กุหลาบรักงอกงามก็ต้องดูแลรักษาอย่างดี
และเราก็ไม่ควรเด็ดมันออกมาตั้งแต่ต้นมันยังอ่อนไม่ถึงเวลา
เพราะมันจะไม่แข็งแรงไม่คงทน เหมือนเช่นความรักวูบวาบ อยู่ได้ไม่นาน
เพราะกุหลาบเป็นพืชที่ปลูกได้ยากและเลี้ยงดูยาก
แต่ถ้าหากเราปลูกให้มันสวยงามและดูแลมันอย่างดีและป้องกันหนามกุหลาบได้แล้ว
เราก็จะได้เห็นดอกกุหลาบที่สวยงามและไม่เจ็บตัวจากกุหลาบ
เป็นรางวัลแห่งความเหนื่อยยากที่อดทนเฝ้าปลูกและรักษากุหลาบต้นนั้นอย่างดี
15 ตุลาคม 2545 19:16 น.
windsaint
สำหรับฉันแล้ว คำว่ารักเป็นคำที่มีค่ามากเลยทีเดียว
คำที่บางคนเก็บซ่อนไว้ในใจ คำที่บางคนไม่กล้าพูด
คำที่บางคนไม่รู้ความหมายของมันหรืออาจจะรู้อย่างไม่แท้จริง
เพราะในยุคนี้ คำว่ารักอาจจะไม่จำเป็นแล้วก็ได้
หรือคำว่ารัก เป็นคำที่อธิบายได้ยากและเข้าใจได้ยาก
บางคนอาจเคยพบกับคำว่ารัก
บางคนอาจกำลังเลือกที่จะเดินหนีความรัก
บางคนเลือกที่จะเดินเข้าหาความรัก
แต่ฉันเลือกที่จะรอมัน รอจนกว่ารักมันจะมาถึงทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะมาถึง
ฉันไม่อยากที่จะออกเดินทางค้นหามัน หรือหลบหนีมัน
แต่ฉันเลือกที่จะพบกับมัน เมื่อเวลาที่สมควรมาถึง
ความรักไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่ความรักก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าลองนัก
แต่จงอย่าดิ้นรนเพื่อค้นหา อย่าดิ้นรนที่จะหลบหนีหากต้องเผชิญ
จงเตรียมใจให้พร้อม และจงค้นพบความรักและความหมายของความรักที่แท้จริง