30 ตุลาคม 2547 00:37 น.
windsaint
ฝนลาฟ้า
หยาดเม็ดโปรยโรยร่วงจากห้วงฟ้า
เป็นธาราคราคลั่งหลั่งเป็นสาย
สาดกระเซ็นเป็นฝอยร่วงปรอยปราย
พร้อมพระพายพรายพัดซัดวารี
เมื่อเม็ดฝนหล่นลงจากตรงฟ้า
ตกลงมาสู่ดินสิ้นวิถี
กลายเป็นน้ำลำคลองหนองนที
ลาตรงนี้ปีหน้ามาอีกครา
เมื่อฝนซาฟ้าสว่างกระจ่างชื้น
โลกก็ตื่นฟื้นคืนระรื่นหา
แดดจางจางพร่างรุ้งทุ่งนภา
ส่องทั่วฟ้าพาเปลี่ยนที่เวียนวน
เปรียบชีวิตคิดไปก็ใกล้ที
1ปีมีหลายครั้งยังมีฝน
แต่ยังดีมีร้อนคราวหนาวปะปน
ชีวิตคนปนทั้งสุขและทุกข์ใจ
ดั่งความรักมักมีฝนปนร้อนหนาว
อาจบางคราวคราวสุขทุกรักใกล้
อาจบางคราวคราวทุกข์ทุกห่างไกล
รักเปลี่ยนได้ให้ทั้งสุขและทุกข์ทัณฑ์
23 ตุลาคม 2547 00:30 น.
windsaint
เธอคือเหตุผล
เธอเป็นใครใคร่รู้ จักกัน
คือสิ่งอันสวรรค์ ส่งสร้าง
เหตุเป็นที่ให้ฉัน หลงอยู่
ผลที่รักปักค้าง อย่างนี้ตลอดไป
เธอเป็นเหมือนความฝันของวันก่อน
เธอมาสอนให้รู้จักรักครั้งใหม่
เธอเข้ามาใกล้กันเหมือนฝันไป
เธอมาอยู่ในหัวใจจนใกล้ตา
คือความหมายของการที่หวานอยู่
คือเอ็นดูสดใสทั่วใบหน้า
คือหยาดเพชรเกล็ดแก้วในแววตา
คือหมู่ปลาแหวกว่ายในสายชล
เหตุเพราะอะไรใคร่รู้อยากกู่ก้อง
เหตุที่ต้องใจหมายทั่วกายสน
เหตุที่รักปักใจที่ให้จน
เหตุและผลที่เธอมาเจอกัน
ผลคือรักปักแน่นไม่แม้นหลุด
ผลคือหยุดหัวใจที่ไหวหวั่น
ผลคือเธอยังอยู่เป็นคู่กัน
ผลคือฉันรักเธอเสมอไป
17 ตุลาคม 2547 23:22 น.
windsaint
จะมีใครไหนเลยไม่เคยรัก
จะมีใครไหนเลยไม่เคยรัก
สุดจะหักห้ามลงใคร่หลงใหล
ยิ่งรักมากยิ่งทุกข์มากยากห้ามใจ
ยอดยุทธ์ใดยากผ่านด่านหญิงงาม
จะมีใครไหนเลยไม่เคยรัก
ยิ่งรู้จักซึมซาบยิ่งวาบหวาม
ยากถอนตัวก่อทุกข์ที่คุกคาม
สุดจะห้ามความรักให้หักลง
จะมีใครไหนเลยไม่เคยรัก
ยิ่งตระหนักปักใจไม่ใหลหลง
แม้นบุรุษองอาจมาดทะนง
ย่อมยกธงยอมแพ้แก่สตรี
จะมีใครไหนเลยไม่เคยรัก
พบเพียงพักมักติดไม่คิดหนี
แต่เมื่อรักย่อมมีทุกข์อยู่คลุกคลี
เพราะรักนี้ที่อาจพิฆาตทรวง
จะมีใครไหนเลยไม่เคยรัก
เพราะประจักษ์รักซึ้งยิ่งหึงหวง
เพราะรักมากจึงยิ่งประวิงห่วง
จนล้นห้วงคำรักที่ปักใจ
15 ตุลาคม 2547 23:37 น.
windsaint
เจ้าชายนิทรา
หลับตาเพ้อละเมอเป็นภาพหลอน
เหมือนละครเก่าเก่ามาเล่าใหม่
ฝันถึงเธอฝันถึงรักที่ปักใจ
ฝันถึงใครคนที่ไม่มีกัน
ภาพลวงตามีเธอคอยเคียงคู่
มีรักอยู่คู่เคียงเพียงเธอฉัน
เฝ้าดูแลห่วงใยไม่ไกลกัน
แสนสุขสันต์ไม่โศกเศร้าเหมือนความจริง
หากลืมตาเธอหายมลายสิ้น
ในแดนดินอาจเพ้อเหมือนถูกสิง
ในภวังค์ยังมีเธอคอยแอบอิง
ในความจริงในวันนี้ไม่มีใคร
หากหลับตาในฝันยังมีเธอ
ไม่ขอเจอไม่ขอพบคนอื่นไหน
ยอมหลับตาอยู่ในจินตนาการที่กว้างไกล
ยอมเป็นได้แม้เจ้าชายที่นิทรา
หากมีเธอในฝันนั้นมีสุข
แล้วมีทุกข์ในความจริงยิ่งหนักหนา
จะยอมหลับชั่วนิรันดร์ตลอดมา
ขอหลับตาแล้วไม่ตื่นคืนอีกเลย
19 กันยายน 2547 19:01 น.
windsaint
ยุติธรรม
เสียงปืนลั่นสั่นกระแทกแตกเป็นเสี่ยง
ชีพเหลือเพียงปลายปืนที่ขืนอยู่
คือกระสุนแหวกสายลมข่มร่างสู้
เหลือเพียงผู้ประสงค์ร้ายหมายชีวี
ร่างจึงลับชีพจึงดับไม่อาจเหลือ
หลงเพียงเรือไร้ร่างที่ว่างหนี
ความผิดพลาดของใครไม่อาจมี
แต่ผู้ที่รับเคราะห์เล่าคือใคร?
เมื่ออำนาจตุลาการถูกหยามเหยียด
คำว่าเกียรติแห่งศาลถูกข่มใส่
แล้วคนร้ายทั่วหล้าจะเกรงใคร
ประเทศไทยกลายเป็นไร้กฎเกณฑ์
เมื่ออำนาจตุลาการถูกช่วงชิง
เราจะนิ่งดูดายมองไม่เห็น
หรือจะปล่อยให้ความเป็นธรรมนั้นเบี่ยงเบน
ปล่อยเศษเดนแห่งอยุติธรรมนั้นลอยนวล