14 มิถุนายน 2550 15:06 น.
WhiteWizard
จุดธูปขึ้นไหว้พระชำระจิต
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งพร้อมคนน้อมไหว้
รำลึกถึงผู้อยู่แดนแห่งความตาย
ทั้งหญิงชายพร้อมหน้ามาทำบุญ
แลปลายธูปเริ่มแผลงสีแดงฉาน
ยังริดก้านเรื่อยไปเพราะไฟหนุน
เป็นเช่นนี้ทุกเวลาเหมือนทารุณ
ส่วนที่มอดก็หมดคุณหนุนส่งลง
จึงหักร่วงสู่พื้นเกินฝืนต้าน
แต่ยังผลาญแสบร้อนก่อนเป็นผง
หากร่วงบนมืออัญชลีที่มั่นคง
มือนั้นย่อมสะดุ้งหลงเกินทนทาน
และเฉกเช่นชะตากรรมของเทียนไข
เมื่อติดไฟก็ลามเร้าค่อยเผาผลาญ
และเหมือนมันปวดร้าวแสนทรมาน
จึงส่งผ่านทุกข์เป็นเช่นน้ำตา
น้ำตาเทียนหยาดน้อยค่อยย้อยใหล
เพื่อชะตากรรมใหม่ที่ไร้ค่า
ร่วงลงมือถือเทียนเวียนทรมา
เพื่อบูชาสิ่งธรรมล้ำบารมี
การทำดีนี้ย่อมมีอุปสรรค
ใจจึงมักหวาดระแวงและถอยหนี
ในเส้นทางที่มีนามว่าความดี
ย่อมต้องพลีบางอย่างเพื่อย่างกราย
เถ้าธูปและน้ำตาเทียนบทเรียนหนึ่ง
ต่อผู้ซึ่งหวังทำดีที่มากหลาย
ธูปและเทียนบูชาตนจนวอดวาย
เหลือเศษร้ายใหม้ร้อนที่ร่อนลง
มือประนมหยัดตรงต้องคงมั่น
เถ้าร้อนนั้นอาจเผาให้สะดุ้งหลง
แต่มือต้องหยัดอีกครั้งอย่าผ่อนปลง
ให้มั่นคงดุจธุปเทียนเพียรทำดี
2 มิถุนายน 2550 23:04 น.
WhiteWizard
คนเราเรียนรู้ผ่านการมองเห็น
สิ่งซ่อนเร้นเท็จหรือจริงเป็นปริศนา
ให้เราได้เฝ้าไขแต่ไหนมา
ด้วยสายตาตั้งบนนามความยุติธรรม
เราอาจมองด้านนี้ดีและสวย
เขาอาจไม่เห็นด้วยกลับเหยียบย่ำ
เราอาจมองสิ้งนี้ร้ายความหมายดำ
เขาอาจพร่ำหลงเสน่ห์ทุกเวลา
มันแน่ที่เหรียญนี้มีสองด้าน
เรามองผ่านแต่ด้านเดียวไม่เหลียวหา
อีกด้านหนึ่งเป็นอย่างไรกลับเฉยชา
เชื่อสายตาของตนจนหมดใจ
หากเมื่อเรามองให้รอบเกินกรอบกั้น
ที่เรานั้นเป็นคนสร้างจนกว้างใหญ่
ใจท่านอาจอุทานว่าแปลกตาไป
เหรียญเดิมกลับมีอะไรให้น่ามอง
18 พฤษภาคม 2550 08:19 น.
WhiteWizard
ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังก้องหู
เหลียวมองดูวิหคบินเหนือหินผา
เป็นอีกครั้งที่ได้ละสายตา
จากการจ้องตำรามานานปี
ให้ผืนทรายสีทองกองห่มเท้า
เหมือนกลับเข้าวัยฝันอันสุขี
อุทัยเล่นแสงวาววับกับวารี
ทุกสิ่งนี้มีชีวาในตาใจ
เหมือนได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น
แล้วมันเป็นเช่นนี้ทุกทีไหม?
ธรรมชาติแสนงามมีความนัย
กระซิบบอกต่อใครให้รับรู้
เพียงเปิดตาทั้งคู่ดูให้ทั่ว
เปิดใจตัวพังกรอบคิดนอกลู่
รับรู้สึกถึงฝันอันพรั่งพรู
จากผองครูทั้งหลายด้วยวิญญา
รับรู้ถึงความหวังอันดุจแสง
รับรู้ความแข็งแกร่งแห่งหินผา
รับรู้ความเลื่อนใหลในเวลา
รับรู้ความเย็นชาแห่งราตรี
และรู้สึกถึงมันทั้งชีวิต
จากเคยปิดกั้นมันหันหน้าหนี
และเรียนรู้สิ่งอื่นใดในปฐพี
ที่ไม่มีบอกไว้ในตำรา
นั่นเพราะสิ่งใดใดในโลกนี้
ต่างก็มีความนัยให้ศึกษา
แม้นเรานี้เกิดตายหลายชีวา
รู้ปัญญาทั้งโลกนี้เพียงเสี้ยวเดียว
19 มีนาคม 2550 01:18 น.
WhiteWizard
เส้นทางแห่งผู้นำหมายอำนาจ
ต้องผงาดเหนือใครในวิถี
ต้องอยากในรสเลือดเชือดไพรี
คงวจีเหนือเหตุผลจนวันตาย
ร่างผองมิตรเพื่อเหยียบสู่ยอดภูผา
กินน้ำตาคนเป็นเซ่นกระหาย
คว้าอำนาจที่ดุจแก้วอันแพรวพราย
จากซากกายที่เหม็นเน่าเจ้าของเดิม
31 ธันวาคม 2549 03:22 น.
WhiteWizard
ม่านราตรีเริ่มปิดตาฟากฟ้าแล้ว
แสงจันทร์นวลกลับแพริศแพร้วกระจ่างใส
ก็เพียงอีกราตรีที่เป็นไป
เพื่อพักใจนักแสดงแห่งโลกา
ดาวราศีแห่งปีที่ฉายแสง
ก็โชติแดงเกิดประกายสว่างจ้า
ด้วยบัดนี้มาถึงซึ่งเวลา
ที่นภาราศีใหม่ได้ขึ้นแทน
ภาพสุนัขปรากฏกายคลับคล้ายเมฆ
เตรียมวิเวกจากท้องฟ้าที่งามแสน
ก้มหน้ามองความเป็นไปในทั่วแดน
บนเมืองแมนหมื่นดารามาทั้งปี
เจ้าสุกรพลันพุ่งผ่านม่านฟ้าสรวง
กายโชติช่วงด้วยแสงแห่งราศี
ถามสุนัขเกลอเก่าอย่างยินดี
''ผ่านมานี้เห็นสิ่งใดใต้เมฆา''
เจ้าสุนัขมองหมูอย่างรู้จิต
''ข้าเห็นไฟชีวิตทุกทิศา
ไฟกิเลสที่เผาไหม้ทุกเวลา
ไฟแห่งความศรัทธาดุจตาวัน''
''ข้าเห็นสีเหลืองทองร้องสรรเสริญ
อย่างนานเนิ่นก้องไปไม่เปลี่ยนผัน
เพื่อเทิดเกียร์ติศักดาองค์ราชันย์
เป็นภาพน่าอัศจรรย์อันเรืองรอง''
''ข้ายังเห็นมหาไฟไหม้ทางใต้
สุดคาดได้ถึงความโหดสยดสยอง
ร่างถือชอล์คด่าวดิ้นสิ้นเป็นกอง
กลายเป็นของบันเทิงใจพวกสามาน''
''เห็นใจหยาบในคราบคนจนหมดสิ้น
เพาะพันธุ์ชั่วทั่วธานินถิ่นเดือดพล่าน
หล่อเลี้ยงด้วยซากอธรรมล้ำสันดาน
พร้อมผลิดอกเมื่อกลีกาลผ่านมาเยือน''
''จิตแห่งความเมตตาคงมีอยู่
แต่เพลิงชั่วแห่งศัตรูกรูเชือดเฉือน
เหลือเพียงหมอกละอองควันอันลางเลือน
ผ่านวันเดือนยิ่งจางยิ่งห่างไกล''
เจ้าสุกรคอตกพูดเสียงเศร้า
''แล้วพวกเราช่วยอะไรบ้างได้ไหม
ขับทุกเข็ญกาลีที่เป็นไป
ซับน้ำตาอาลัยให้ผองชน''
เจ้าสุนัขฉีกยิ้มแล้วเอื้อนเอ่ย
''โอ้เกลอเอ๋ยอย่าได้คิดจิตสับสน
เรามอบเพียง เวลาใหม่ ให้ผู้คน
ไม่อาจล้างความทุกข์ทนบนหัวใจ''
''อยู่ที่คนรู้ค่าไหมใน โอกาศ
รู้ผิดพลาดแล้วรู้จักแก้ไข
พอคนรู้ทางผิดคิดลี้ไกล
เจ้าจักเห็นสิ่งพิไลในโลกา''
เจ้าสุนัขร่างประกายพลันฉายแสง
เป็นสีแดงหายไปในเวหา
เหลือเพียงหมูคู่เดือนเพื่อนนภา
มอบ โอกาศ และจับตาดูทุกคน