14 ธันวาคม 2549 20:22 น.
White roses
จากวันนั้น..ถึงวันนี้..ที่สัมผัส
ใจทราบชัด..ถึงอีกใจ..ให้ไหวหวั่น
บนเส้นทาง..ของหัวใจ..ที่ผูกพัน
จึงได้คิด..ถึงกัน..ทุกวันมา
ด้วยความรัก..ความอาวรณ์..ตอนเหินห่าง
ไม่เคยร้าง..ความอาลัย..ใจเสน่ห์หา
รับรู้ได้..ด้วยแรงใจ..ไม่โรยรา
ได้เห็นค่า..ของรักแท้..มอบแก่กัน
ปรารถนา..แห่งหัวใจ..ไม่หยุดนิ่ง
แม้นมีสิ่ง..อื่นใด..มาขวางกั้น
ขอฟันฝ่า..ทายท้า..กล้าประจัญ
พร้อมด้นดั้น..พิชิตไป..เพื่อได้มา
เธอมาปลุก..มาปลอบเหงา..มาเร้าจิต
ให้ชีวิต..สว่างไสว..ได้เริงร่า
จึงมีภาพ..กันและกัน..ทุกวันมา
เสริมคุณค่า..ให้หัวใจ..ในรายวัน
ปวารณา..หัวใจ..เอาไว้ก่อน
แม้หนาวร้อน..ขอเคียงเธอ..เสมอมั่น
คอยเยียวยา..หัวใจ..กันและกัน
แผลสมาน..ด้วยความรัก..จากสองเรา
โลกกำหนด..ให้เกิดมา..ศรัทธารัก
ผูกสมัคร..ใจชิดใจ..ไม่มีเหงา
จิตวิญญาณ..อิงแอบ..แนบนานเนาว์
รักเร่งเร้า..ซึมซาบ..อิ่มอาบใจ
คำว่าได้..ได้รัก..มักฝันถึง
หัวใจจึง..ไขว่คว้า..รักมาไว้
คำว่าให้..ให้รัก..มักลืมไป
จึงทำให้..รักนั้น..พลันระทม
เปิดแววตา..ซึมซับ..ดับความอ้าว
กุหลาบขาว..ซึ้งฤทัย..ใจสุขสม
มอบความรัก..ความห่วงใย..ฝากสายลม
ไล่ขื่นขม..ออกไป..จากใจเรา....
12 ธันวาคม 2549 20:24 น.
White roses
หมู่ดารา..แวววาววับ..สลับสี
ค่ำคืนนี้..แสงจันทร์นวล..ชวนหลงใหล
สีเหลืองทอง..ส่องสว่าง..หว่างฟ้าไกล
อยากมีใคร..เคียงข้าง..นั่งชมจันทร์
เอ่ยคำหวาน..หยอกเย้า..ใต้เงาฟ้า
นับดารา..อิงซบ..ประกบขวัญ
อิงแอบกาย..เคียงข้าง..ไม่ห่างกัน
เธอมีฉัน..อยู่แนบชิด..ติดตรึงใจ
พลิ้วสายลม..พัดมา..อุราหวิว
จิตลอยลิ่ว..เหม่อมอง..ท้องฟ้าใส
ไร้เมฆเคลื่อน..บดบัง..ช่างสุขใจ
หอมละมัย..กลิ่นบุปผา..นานาพันธุ์
เสียงหรีดหริ่ง..บรรเลง..เพลงแห่งรัก
ร้องทายทัก..หาคู่..ดูสุขสันต์
ชี้ชวนดื่ม..น้ำค้าง..กลางแสงจันทร์
"ดูซินั่น"..ยอดหญ้าไหว..แกว่งไปมา
ราตรีนี้..แสนงดงาม..ดั่งความฝัน
ดุจสวรรค์..บนดิน..ถวิลหา
แต่ทำไม..ฉันโดดเดี่ยว..เปลี่ยววิญญา
ได้แต่มอง..จันทรา..น้ำตานอง..
11 ธันวาคม 2549 19:01 น.
White roses
บายสีรูปครุฑจับพญานาค..
td height="25" style="word-wrap:break-word;widht:500px;left:0">
รูปเศียรบรมครู...
9 ธันวาคม 2549 15:27 น.
White roses
น้อมกราบกราน..พระองค์..ผู้ทรงศักดิ์
กรมหลวงประจักษ์..ศิลปาคม..สมศักดิ์ศรี
พระองค์ทรง..มากล้น..พระบารมี
สาเหตุที่..มีผู้นำ..ทองคำมา
วันประสูติ..ของพระองค์.."ทรงแน่ชัด"
ประชาชน..นำสมบัติ..มากมีค่า
เป็นทองคำ..ก้อนใหญ่..ในนัครา
นำเข้ามา..ถวายองค์..พระทรงธรรม
จึงได้ชื่อ.."พระองค์เจ้า..ทองก้อนใหญ่"
ซึ่งมากมาย..พระบารมี..เป็นศรีสยาม
ศัตรูพ่าย..อริแพ้..แก่สงคราม
พวก"ฮ่อ"คร้าม..ศึกสงบ..จบสงคราม
ทรงเริ่มสร้าง..บ้านหมากแข้ง..แหล่งชนบท
ให้รุ่งโรจน์..ในแดนดิน..ถิ่นสยาม
ประชาชน..ปราศจาก..ภัยคุกคาม
ตั้งพระนาม.."อุดรธานี"..ศรีอมร
พระองค์ทรง..สถิตย์ภาย..ในใจราษฎร์
ทรงสามารถ..ปราบศึก..มิพักผ่อน
ทุกวันนี้..จึงเกิดมี..เมืองอุดร
ประชากร..น้อมสักการะ..อภิวันต์
สิบแปดมกรา..ของทุกปี..เวียนบรรจบ
เป็นวันครบ..ก่อตั้ง..ถิ่นสถาน
"ชาวอุดร"..น้อมใจ..ขอกราบกราน
รำลึกถึง..พระคุณท่าน..นิรันดร....
9 ธันวาคม 2549 04:08 น.
White roses
โปรดมายืน..ข้างข้าง..บ้างได้ไหม
เพราะฉันไม่..มีใครเสริม..เติมความฝัน
เหงาเหลือเกิน..กับราตรี..ที่ยาวนาน
นอนหนาวสั่น..อยู่เยี่ยงนี้..สักกี่คืน
ไม่มีไหล่..ให้พักพิง..อิงประกบ
นั่งพิงซบ..ห่วงใยกัน..วันขมขื่น
น้ำตาหลั่ง..ด้วยหัวใจ..ไร้จุดยืน
นอนสะอื้น..ปวดร้าว..เศร้าซมซาน
เหม่อมองหา..คนสนิท..มาชิดใกล้
แผลหัวใจ..ไร้เยียวยา..มาสมาน
ชีวิตฉัน..จะมีไหม..ใครต้องการ
แสนจาบัลย์..เจ็บหนัก..รักเปลี่ยนแปร
ขาดคนมี..เมตตา..มาสงสาร
ยามไหวหวั่น..หัวใจเหน็บ..เจ็บปวดแผล
รักเหินห่าง..ขาดคนใกล้..ไว้ดูแล
คอยเทคแคร์..ยามช้ำฟก..อกระทม
ยามเหนื่อยล้า..อ่อนแอ..หรือแพ้พ่าย
ต้องเดียวดาย..อ้างว้างนัก..ยากจักข่ม
เหมือนดอกไม้..ช้ำหมอง..ต้องแดดลม
ไร้เงาร่ม..บดบังแสง..แห่งตะวัน
ยามหัวใจ..เปลี่ยวเหงา..เศร้าเร้ารุก
ไร้คนปลุก..ปลอบปรับ..มารับขวัญ
มีปัญหา..ได้พูดจา..ปรึกษากัน
เล่านิทาน..ให้กันฟัง..ในบางคืน
ไม่มีอก..อุ่นอุ่น..ให้หนุนซบ
ไร้คนโอบ..ปลอบวิญญา..คราขมขื่น
ข่มตาหลับ..กลับฝันร้าย..แทบทุกคืน
สดุ้งตื่น..โหยหา..ใจอาวรณ์
โปรดมายืน..ข้างข้าง..บ้างได้ไหม
อยากมีใคร..พร่ำพลอด..มาออดอ้อน
ลบความเหงา..ก่อนเก่า..เคยร้าวรอน
อยากหนุนนอน..ในอ้อมแขน..แสนกำยำ..