18 ตุลาคม 2549 19:39 น.
White roses
แต่งเป็น ภาษาที่ อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ ค่ะ..
เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ผู้เปี่ยมศักดิ์
ณ.ตำหนักพระที่นั่งจักรีสมัย
ทรงประสูติการณ์พระทรงชัย
ยี่สิบกันยาไซร้คือฤกษ์ดี
ปี2396วันอังคาร
เริ่มชันษาพระภูบาลพระทรงศรี
ครั้นพระชนม์พรรษาสิบห้าปี
ทรงเลื่อนขั้นอีกทีในวันนั้น
เป็นกรมขุนพินิจประชานาถ
ผู้เปรื่องปราชฌ์อักขระอักษรสานต์
การปกครองศาสนาทรงชำนาญ
การสื่อสารทรงเรียนรู้คู่กันไป
ทรงศึกษาวิชาคชกรรม
ทรงลึกล้ำโบราณคดีศรีสมัย
ทรงศึกษาวิชายิงปืนไฟ
ทั้งทรงได้ศึกษาวิชาการ
ทรงศึกษาวิชาภาษาอังกฤษ
กับฟรานซิสยอร์สแพตเตอสัน
นางแอนนาเลียวโนแวนก็เช่นกัน
ทรงแตกฉานรัฐศาสตร์ราชประเพณี
โคลงสุภาษิตเห่ชมนกเห่ชมนาง
ธ.ทรงสร้างเรียงร้อยอักษรศรี
นิราศพระแท่นดงรังเลิศกวี
ละครดีเงาะป่าน่าชื่นชม
พระองค์นั้นทรงเป็นกวีเอก
ทรงสรรค์เสกร้อยกรองอย่างเหมาะสม
ทั้งร้อยแก้วทั้งลิลิตน่าชื่นชม
กาพย์เห่เรือยังดำรงถึงปัจจุบัน
ครั้นพระชนม์พรรษาครบสิบหก
พระบรมชนกสวรรคตในครานั้น
ทรงราชาภิเษกเถลิงสวรรค์
พระนามนั้น พระจุลจอมเกล้าฯ ของชาวไทย...
18 ตุลาคม 2549 07:44 น.
White roses
ถึงจากเธอ..ไปไกล..ใจยังห่วง
พ่อพุ่มพวง..ดวงใจ..ชายในฝัน
ฝากความรัก..ความอาลัย..มีต่อกัน
ฝากสัมพันธ์..รักซึ้ง..ตรึงดวงมาลย์
อยู่แห่งไหน..หัวใจ..ยังเพ้อพร่ำ
ส่งลำนำ..บทกลอน..อักษรสานต์
ว่ารักเธอ..รักมั่น..นิรันดร์กาล
จิตวิญญาณ..พร้อมถวาย..ให้กับเธอ
แสงแดดเอย..ส่องมา..ให้อบอุ่น
แนบละมุน..อุ่นไอรัก..อย่าให้เก้อ
เธออยู่ไกล..หัวใจ..ย่อมละเมอ
โปรดอย่าเผลอ..แบ่งปันใจ..ให้ระทม
ยิ่งรักมาก..ยิ่งห่วงมาก..อยากชิดใกล้
รู้บ้างไหม..ว่าใจฉัน..นั้นขื่นขม
จากมาไกล..หัวใจ..ย่อมตรอมตรม
วอนสายลม..มอบรักแท้..ให้แก่เธอ
17 ตุลาคม 2549 08:54 น.
White roses
ฟ้าหลังฝน งามตา อย่างที่คิด
สิ่งพลาดผิด ในอดีต ยากจะข่ม
คิดคราใด หัวใจ ร้าวระบม
จึงซานซม ล้มลุก อยู่ทุกครา
กว่าจะแกร่ง อาจต้องใช้ เวลามาก
เป็นสิ่งยาก ยิ่งนัก จักรักษา
หากอักเสบ คงปวดเจ็บ เหน็บอุรา
จึงมีค่า เป็นบทเรียน เพียรสอนใจ
เคยพ่ายแพ้ ระทม ตรมชีวิต
จึงตั้งจิต มุ่งหวัง ตั้งต้นใหม่
กำจัดสิ้น ความหวาดกลัว ในหัวใจ
ลุกขึ้นใหม่ เพื่อฟื้นฟู กู้พลัง
อยากพานพบ ฟ้างดงาม ยามฟ้าใส
ไล่ฝนร้าย เมฆดำ ความสิ้นหวัง
ให้หลุดพ้น จากหัวใจ อันใสบาง
พร้อมก้าวย่าง ฟันฝ่า อย่างท้าทาย
ขอขอบคุณ คำแนะนำ ย้ำให้คิด
ได้สะกิด ให้ทดลอง มองฟ้าใหม่
หลังฝนซา ได้ชุ่มชื่น รื่นหัวใจ
เห็นแสงใส อันผุดผ่อง ของตะวัน..
17 ตุลาคม 2549 07:47 น.
White roses
มีแต่ให้..มิรู้สิ้น..ถวิลเกื้อ
ทุกหยาดเหงื่อ..ปกป้อง..ยามร้องไห้
สองมือแห่ง..ความรัก..พิทักษ์ภัย
สองมือไกว..เห่กล่อม..ยอมอ่อนเพลีย
ยามลูกสุข..แม่สุข..หายทุกข์ท้อ
พร้อมสู้ต่อ..โอบอุ้มเจ้า..เฝ้าส่งเสีย
ยามแม่เหนื่อย..มีลูกน้อย..เคล้าคลอเคลีย
หายเหนื่อยเพลีย..ด้วยรักลูก..โดยผูกพัน
ยามเจ็บไข้..เจ้างอแง..แม่เจ็บกว่า
แทบใบ้บ้า..ทุกข์ร้อน..สุดผ่อนผัน
สองมืออุ้ม..ทะนุถนอม..ดั่งชีวัน
หาหยูกยา..มาแบ่งปัน..เพื่อบรรเทา
ลูกรู้ไหม..ดวงใจแม่..มีแต่ให้
คล้องสายใย..ดูแล..แม้เหน็บหนาว
สองมือกอด..ตระกอง..อย่างแผ่วเบา
เพื่อให้เจ้า..อบอุ่น..อย่างคุ้นเคย
สองมือป้อน..ความห่วงใย..ไม่มีเปลี่ยน
สอนลูกเขียน..ท่องจำ..ไม่เมินเฉย
ครูคนแรก..ในดวงใจ..ใช่ใครเลย
รู้ไหมเอ่ย..แน่แท้.." แม่นั่นเอง "...
16 ตุลาคม 2549 07:57 น.
White roses
แสนเหนื่อยล้า เต็มที กับชีวิต
เนื่องจากพิษ กลางหัวใจ แพร่ขยาย
ช่างสับสน เจ็บหนัก รักมลาย
ดั่งคนพ่าย เพ้อรำพัน วันอ่อนแอ
แพ้ต่อความ สิ้นหวัง แห่งชีวิต
แพ้ต่อพิษ คืนฝันร้าย ใจเกิดแผล
แพ้บทเรียน แห่งชีวิต ที่เปลี่ยนแปร
แพ้เรียวแส้ แห่งสังคม ตรมชีวิน
ในวันนี้ เหมือนวิญญาณ เจ็บป่วยไข้
คล้ายเบื่อหน่าย ดั่งชีวิต จะสูญสิ้น
ธารน้ำใส สองข้างตา ไหลรวยริน
ความหวังสิ้น ภินทร์พัง ดั่งสิ้นใจ
ช่างเหนื่อยล้า เต็มทน จนอ่อนล้า
ดั่งวิญญาณ์ ราวกับแยก แตกสลาย
หัวใจเคย สุขสดใส คล้ายหมองไป
ดังเมฆร้าย บดบังไว้ ให้มืดมน
แสนเหน็บหนาว ชีวา พาใจโศก
วันนี้โลก หมองเศร้า หรือเราหม่น
เหมือนดั่งพลัด ร่วงลงไป ในวังวน
โหดร้ายจน หัวใจ ใกล้ผุพัง
กอดดวงใจ ดวงเหงา นั่งเจ่าจุก
ไม่อยากลุก ไร้เรี่ยวแรง แห่งความหวัง
คลื่นความรัก ถาโถม โหมประดัง
ไร้พลัง หมดแรงสู้ อยู่เดียวดาย