15 มีนาคม 2550 13:55 น.
White roses
เข้ามาเปิด..เครื่องคอมพ์..ในวันนี้
คลิ๊กไปที่..ไทยโพเอ็ม..สมใจหมาย
หวังได้อ่าน..บทกวี..เพื่อผ่อนคลาย
ตอบกระทู้..เพื่อนหญิงชาย..หลายข้อความ
ได้ยลยิล..พี่ชาย..ชัยชนะ
น้องนั้นน่ะ..แสนสงสาร..อยากวานถาม
พี่บอกโดน..พิษรัก..จากนงราม
ให้วาบหวาม..ระทวยระทด..ในบทกลอน
กามเทพ..แผลงศร..อ่านกลอนยิ้ม
ดั่งศรทิ่ม..ติดบ่วง..ดวงสมร
หลงเสน่ห์..อรรถรส..ในบทกลอน
ทุกบทตอน..ครวญคะนึง..คิดถึงนาง
อ่านติดหนึบ..พรึบเผลอ..ละเมอหา
เปิดเครื่องมา..อ่านกลอน..นอนฝันค้าง
มิได้เห็น..ชื่อเธอ..แทบวายวาง
น้ำตาพร่าง..พรูไหล..ใจตรอมตรม
ดั่งเด็กติด..เกมส์กด..รันทดหนัก
แทบกระอัก..ไม่ได้เล่น..เป็นขื่นขม
กระวนกระวาย..ด่าวดิ้น..แทบสิ้นลม
เมื่อไม่สม..ดั่งจิต..คิดต้องการ
ยกตัวอย่าง..มากมาย..มาหลายบท
มิเท่ารส..บทกวี..ที่วาบหวาม
อ่านคราใด..ครวญใคร่..ให้ติดตาม
ขอจดจำ..ชื่อของนาง..จนวางวาย
ด้วยบทกลอน..อ่อนหวาน..ซ่านซึ้งจิต
เธอประดิษฐ์..อักขรา..พาวาบไหว
สัมผัสซึ้ง..ถึงอิทธิพล..อยู่ภายใน
เหมือนอะไร..มารบกวน..ป่วนอุรา
จึงเอ่ยปาก..ชวนนวลนาง..ทางเว็บไซท์
เที่ยวท่องไป..นครวัด..ที่จัดหา
ทัชมาฮาล..หอไอเฟล..เอนปิซา
หรือจะมา..กำแพง..แห่งเมืองจีน
เยี่ยมมัมมี่..ปิรามิด..ตามจิตเจต
แวะทิเบต..เมืองอารยธรรม..งดงามศีล
ไปเอเวอร์เรส..ยอดเขา..เข้าป่ายปีน
เหมาอพอลโล..ไปย่ำดิน..ถิ่นจันทรา
จะพานาง..ลอยล่อง..นภากาศ
ชมความงาม..อันพิลาศ..ท้องเวหา
บอกขอยืม..ยานอวกาศ..นาซ่ามา
นึกอิจฉา..นวลนาง..ที่กลางใจ
เห็นพี่ชวน..บรรยาย..มาหลายเรื่อง
ล้วนสิ้นเปลือง..เงินทอง..ใช่หาง่าย
ดั่งตำน้ำพริก..แล้วนำ..ไปละลาย
เกลื่อนกระจาย..สายน้ำ..ไม่เข้าที
อยากประสบ..รอยยิ้ม..อันพริ้มเพริศ
เชื่อน้องเถิด..พี่จ๋า..หันมานี่
น้องจะช่วย..สาธยาย..ด้วยไมตรี
หวังว่าพี่..คงไม่โกรธ..ขอโทษนา..
อันความรัก..ยิ่งใหญ่..กว่าใจคิด
หวังสนิท..ชิดชม..ควรสมค่า
มิได้ใช้..เงินทอง..เพื่อแลกมา
รวยล้นฟ้า..เพียงใด..อย่าหมายครอง
หากรักใคร..ชอบใคร..ใจปรารถนา
มอบความรัก..สูงค่า..ไม่เป็นสอง
มีความรัก..หนึ่งเดียว..แน่นเหนียวครอง
อย่ามีสอง..หรือสาม..ติดตามมา
คอยดูแล..ห่วงใย..เอาใจใส่
หมั่นถนอม..ออมน้ำใจ..ไว้พี่จ๋า
โปรดให้เกียรติ..กันและกัน..ปันเวลา
รู้คุณค่า..ลึกซึ้ง..ถึงจิตใจ
ให้เธอเป็น..ตัวเอง..อย่างที่เป็น
อย่าเคี่ยวเข็ญ..ให้เปลี่ยนตน..เป็นคนใหม่
ชีวิตพี่..จะมีสุข..ทุกคราวไป
เพราะต่างฝ่าย..ต่างเห็นใจ..มอบไมตรี
จะสรรค์สร้าง..วิมาน..อันบรรเจิด
สร้างไปเถิด..สร้างด้วยใจ..ให้เต็มที่
สร้างด้วยรัก..ด้วยห่วงใย..มีไมตรี
ดั่งฉิมพลี..วิมานแมน..แสนสุขใจ...
14 มีนาคม 2550 13:58 น.
White roses
กระท่อมน้อย..ดุจสวรรค์..อันบรรเจิด
เพราะเลอเลิศ..เปี่ยมด้วยรัก..อันยิ่งใหญ่
สองชีวิต..รวมเป็นหนึ่ง..ซึ้งฤทัย
สองดวงใจ..ประสานคู่..อยู่เคียงกัน
อิ่มอาบด้วย..ไมตรี..มีสุขล้ำ
แสนดื่มด่ำ..มีพี่อยู่..คู่เคียงฝัน
ยามเหนื่อยล้า..คอยดูแล..แคร์ผูกพัน
ยามหนาวสั่น..มีอกอุ่น..ละมุนละไม
ท่ามราตรี..คืนนี้..พราวระยิบ
พร่างกระพริบ..ด้วยดารา..สว่างไสว
ดั่งเพชรนิล..จินดา..อ่าอำไพ
ซึ่งทวยเทพ..ประดับไว้..ณ.ปลายฟ้า
ดูซิจ๊ะ..พี่จ๋า..คราจันทร์ส่อง
นวลสีทอง..แพรวเพริศ..บรรเจิดจ้า
ในอ้อมกอด..ได้ซึมซับ..อาบจันทรา
สุขใดหนา..จะเทียบเท่า..เราไม่มี
"โอ้ละหนอ..จันทรา..อย่าลาล่วง
ประกายแสง..โชติช่วง..อย่าหน่ายหนี
เป็นพยาน..แห่งความรัก..ความภักดิ์ดี
สองเรานี้..ครองคู่กัน..นานแสนนาน"
สายลมพลิ้ว..บรรเลง..เป็นเพลงรัก
ได้ประจักษ์..ถึงรักแท้..แผ่ไพศาล
หอมระริน..กลิ่นมาลี..คลี่ดอกบาน
สองแววตา..สื่อประสาน..ซ่านทรวงใน
ถึงแม้เป็น..กระท่อม..ล้อมป่าเขา
เพียงมีเรา..กันและกัน..ไม่หวั่นไหว
รักตราตรึง..ผูกสัมพันธ์..ทุกวันไป
ดุจสวรรค์..อันวิไล..ในแดนดิน..
13 มีนาคม 2550 15:58 น.
White roses
ทำงานเสร็จ..ขึ้นมา..มองหาพี่
พี่นั่นสิ..ไปอยู่ไหน..ใจห่วงหา
ตามหาพี่..รอบบ้าน..จนปัญญา
แสนเหว่ว้า..หงอยเหงา..เศร้าโศกตรม
ไม่เห็นพี่..แม้เงา..เฝ้าคอยหา
จนเวลา..ล่วงเลยไป..ให้ขื่นขม
คอยจนท้อ..ฝ่อใจ..ให้ระทม
จึงซานซม..หม่นหมอง..นองน้ำตา
เหตุใดพี่..ไม่เอ่ย..เฉลยถ้อย
บอกสักหน่อย..ให้รู้บ้าง..นะพี่จ๋า
ปล่อยให้คอย..น้อยใจ..ใยไม่มา
รู้ไหมว่า..น้องหงอยเหงา..เศร้าเพียงใด
เดินขึ้นห้อง..ด้วยหัวใจ..อันหดหู่
เปิดประตู..มองเห็นพี่..นี้หลับไหล
อยู่นี่เอง..นึกว่าพี่..หลีกลี้ไกล
ตื่นเร็วไว..ตื่นเถิดหนา..อย่ารอรี
มาแอบนอน..ในห้อง..น้องเรียกหา
ไม่ได้ยิน..เสียงตอบมา..นี่หนาพี่
หลับจนเพลิน..สินะ..พี่คนดี
ปล่อยน้องนี้..เดินตามหา..จนตาลาย
ทั้งหน้าบ้าน..หลังบ้าน..น้องขานเรียก
จนเหงื่อเปียก..ชุ่มทั่วร่าง..พรางใจหาย
ไม่เห็นเงา..ของพี่..ทุกที่ไป
จึงเสียใจ..หม่นหมอง..นองน้ำตา
คราวหลังพี่..ห้ามหนีนอน..ตอนเย็นย่ำ
เดี๋ยวพลบค่ำ..นอนไม่หลับ..หรอกพี่จ๋า
ขอเข้าบ้าน..ไปอาบน้ำ..ฉ่ำอุรา
เปลี่ยนเสื้อผ้า..ที่เปียกเหงื่อ..เพื่อผ่อนคลาย
ทานข้าวแล้ว..หรือยัง..มานั่งยิ้ม
ตากรุ้มกริ่ม..จ้องมอง..น้องอยู่ได้
หยิบจานมา..เถิดหนา..อย่าร่ำไร
ทานผัดไท..ฝีมือน้อง..นะคนดี
เข้ามานั่ง..ใกล้ใกล้..ทำไมนะ
ถอยออกไป..ซีจ๊ะ..อย่าทู่ซี้
น้ำไม่อาบ..มานั่งใกล้..ไปเสียที
รีบไปซี..ไปอาบน้ำ..ชำระกาย..
นึกว่าพี่หนีไปซะอีก..น่ะซี..
12 มีนาคม 2550 19:34 น.
White roses
ม่านสายรุ้ง..ทอแสง..แห่งความเศร้า
ส่องประกาย..ความหงอยเหงา..เศร้านักหนา
ปลายฟากรุ้ง..ที่พุ่งไกล..สุดสายตา
ไร้เงาของ..พี่ยา..แสนอาลัย
สายลมพัด..สะบัดต้อง..น้องเหน็บหนาว
ระรวดร้าว..สุดทน..จนหวั่นไหว
เย็นยะเยียบ..ถึงขั้ว..ของหัวใจ
รักสลาย..จากไป..ให้ตรอมตรม
มีแต่ความ..เงียบเหงา..มาเร้าจิต
ความมืดมิด..สยายม่าน..พาลขื่นขม
สงัดเงียบ..วังเวงเศร้า..ร้าวอารมณ์
จึงตรอมตรม..ซุกมุมห้อง..นองน้ำตา
อยู่แห่งใด..ไม่มาเยือน..กลับเลือนร้าง
ต้องอ้างว้าง..เดียวดาย..ใจห่วงหา
หนาวเหลือเกิน..ค่ำคืนนี้..ทรมา
ไร้พี่ยา..มาปลอบขวัญ..เช่นวันวาน
11 มีนาคม 2550 18:56 น.
White roses
ค่ำคืนนี้..ไร้แสงดาว..สกาวส่อง
น้องเหม่อมอง..ออกไป..แล้วใจหาย
ม่านราตรี..สยายกว้าง..แสนยาวไกล
ปวดหัวใจ..แสนเหว่ว้า..ทุกราตรี
พลิ้วสายลม..พรมพัด..สบัดต้อง
หัวใจน้อง..ยิ่งเหน็บหนาว..เศร้าโศกศรี
เย็นยะเยียบ..จับหัวใจ..ไร้ปราณี
ค่ำคืนนี้..เปลี่ยวเหงา..ร้าวระบม
เสียงหรีดหริ่ง..บรรเลง..ดุจเพลงเศร้า
ยิ่งเร่งเร้า..วิญญา..พาขื่นขม
อยู่เดียวดาย..ว่างเปล่า..เหงาตรอมตรม
ไร้คู่ชม..ต้องอ้างว้าง..ห่างคนแล
ไม่มีแม้..แสงจันทร์นวล..ล้วนมืดมิด
ในดวงจิต..คล้ายมอดดับ..อาบรอยแผล
ยิ่งนานวัน..หัวใจนั้น..พลันอ่อนแอ
รอยเรียวแผล..ยิ่งลึกร้าย..ไร้เยียวยา
อยากมีใคร..มาเคียงข้าง..ห่างความเหงา
ปลุกเร่งเร้า..หัวใจ..ได้หรรษา
แผลลึกร้าย..สมานคืน..ฟื้นกายา
ได้เริงร่า..สุขสันต์..เช่นวันวาน..