22 สิงหาคม 2554 01:57 น.
wanderer
มองดูสับสน...
วกวนเรื่องราว...
เกินกว่าจะกล่าว...
ยืดยาวเกินไป...
จำทนรู้สึก...
ปวดลึกในใจ...
น้ำตารินไหล...
ไม่ได้อยากเป็น...
แต่ต้่องจำทน...
ดิ้นรนแสนเข็ญ...
น้ำตากระเซ็น...
ยากเย็นเข็ญใจ...
เป็นเพียงซากศพ...
ไม่พบแสงไฟ...
ไม่มีหัวใจ...
ไม่มีใดเลย...
8 พฤษภาคม 2552 23:55 น.
wanderer
ไม้ขีดไฟก้านน้อยรีบเปล่งแสง
ลุกร้อนแรงเร่งเร้าสุกไสว
ใช้แสงส่องความมืดให้หายไป
แม้ชั่วคราวดับไซร้ยังตรึงตา
ไม้ขีดไฟเปรียบเหมือนผู้นำเหล่า
เสียสละตัวเก่าจุดส่องฟ้า
ส่งไฟต่อจุดเทียนแห่งประชา
ผสุธาส่องแสงอันเรืองรอง
ไฟแม้ถูกจุดแล้วยังมีดับ
แรงลมขับดับสิ้นไม่มีสอง
ฤาหมดเชื้อสิ้นไปตามครรลอง
ความมืดย้อมดับสิ้นแสงเปลวไฟ
ไม้ขีดไฟก้านใดยังไม่จุด
ขอจงหยุดตรองดูสิ้นสงสัย
จุดตนเองต่อเนื่องซึ่งเชื้อไฟ
ให้ลุกไหม้โชติช่วงตลอดกาล
7 พฤษภาคม 2552 01:49 น.
wanderer
มรรค คือทางพ้นทุกข์ ทุกขอบ
มี แปดองค์คลุมครอบ รอบไว้
องค์ อันเหล่าทำชอบ ลุล่วง
แปด สิ่งดำริไว้ แต่ครั้งบรรพกาล
อันว่ามรรคกล่าวไว้ครั้งกาลก่อน
เป็นคำสอนศาสดาน่าเลื่อมใส
ปฏิบัติง่ายดายน่าสนใจ
แจกแจงไซร้แปดข้อตริตรองดู
ปัญญาอันเห็นชอบมาที่หนึ่ง
คือเห็นซึ่งอริยสัจที่สวยหรู
ถึงตัวเหตุทุกขังไม่น่าดู
สัมมาทิฏฐิรู้ไม่เสียใจ
มาข้อสองสัมมาสังกัมปะ
คือการละจากกามเครื่องหลงใหล
ละพยาบาทเศร้าหมองออกจากใจ
ละเบียดเบียนออกไซร้ดำริดี
อีกสัมมาวาจาเจรจาชอบ
พูดในกรอบสุจริตไม่หมองศรี
โบราณยังบอกว่าหากพูดดี
จะเป็นศรีแก่ตัวแลตระกูล
มาครึ่งทางเว้นจากกายทุจริต
อย่าทำผิดทำชั่วมันเปล่าสูญ
ทั้งฆ่าสัตว์ลักทรัพย์ปฏิกูล
จะเสียสูญไม่มีใครมาเห็นใจ
ข้อต่อมานั้นคือการเลี้ยงชีพ
เป็นประทีปส่องทางให้สดใส
อย่าไปเบียนชีวิตของสิ่งใด
จึงจะใช่สัมมาอาชีวา
สัมมาวายามะคือเพียรชอบ
องค์ประกอบความสำเร็จที่ชิวหา
หากไม่ทำมัวคร้านสุดระอา
จะต้องมาชีช้ำตามผลกรรม
ทำอะไรต้องมีซึ่งสติ
ไม่มีสิทธิ์ผิดพลาดให้คนขำ
สัมมาสติดำรงซึ่งชอบธรรม
จงจดจำให้ดีไม่มีภัย
ข้อสุดท้ายว่าด้วยสมาธิ
ที่ดำริผุดผ่องดูสดใส
ออกมางามหยดหยาดจากจิตใจ
สัมมาสมาธิไว้ซึ่งสิ่งดี
รวมทั้งหมดมีอยู่แปดหัวข้อ
อย่ามัวดื้อลุ่มหลงให้ผิดผี
มรรคนั้นไซร้ปฏิบัติเป็นการดี
จะไม่มีความทุกข์อยู่ในใจ
7 พฤษภาคม 2552 01:45 น.
wanderer
ขอกราบลงบูชากวีเทพ
ผู้สุขเสพความดีบนสวรรค์
ท่านผู้สร้างวรรณกรรมทุกชิ้นอัน
ผู้รังสรรค์ศิลปะงานกวี
สักการะท่านด้วยกลอนกาพย์ฉันท์
ทุกสิ่งอันล้วนมาจากสมอง
ผ่านความคิดพิจารณาและตริตรอง
บรรจงเขียนด้วยสองมือของเรา
ขอกวีเทพจงเจริญผล
ไม่ขัดสนความสุขฤเศร้าหมองเศร้า
ให้สำเร็จลุล่วงแก่ตัวเรา
และสรรพสิ่งรอบเราตลอดไป
19 มกราคม 2552 03:42 น.
wanderer
ชีวิตคือละครมีหลายบท
ทั้งสลดโศกเศร้าน้ำตาไหล
ทั้งตลกโปกฮาอย่าบอกใคร
ทั้งรักใคร่หอมหวานตามองตา
แต่ละคนมีบทที่สรรค์สร้าง
เปลี่ยนไปบ้างตามหนทางที่ตามหา
บ้างพอใจบ้างทุกข์ร้อนบ้างระอา
แสนเหนื่อยล้าจะเปลี่ยนบทให้ถูกใจ
แต่ก่อนนั้นได้แต่ขำติดตลก
"แ-ง! โกหกหลอกลวงน่าสังสัย
ใครกันหนอจะเปลี่ยนบทให้ทุกข์ใจ
เปลี่ยนทำไมพอแล้วคือตัวเรา"
แต่วันนี้ถึงคราวเราเปลี่ยนบท
ให้ปรากฎผันตามเหมือนอย่างเขา
กลับนิ่งอึ้งนึกได้ถึงคำเรา
ที่ว่าเขาไร้สาระครั้งแล้วมา
ยังจำได้พอใจในตัวแล้ว
ยังมิแคล้วขาดคำให้กังขา
ไงดีล่ะถึงคราวชี้ชะตา
ตามวาจาหรือว่าจะตามคุณ
ในที่สุดตัวฉันก็เลือกได้
บทของฉันสร้างไว้แม้สถุล
แต่ตัวฉันสร้างเองไม่มีทุน
ขอขอบคุณที่การุณย์และกรุณา
ทำไงได้ก็ฉันเป็นแบบนี้
เป็นแบบที่ตัวเธอไม่มองหา
เป็นแบบที่ตัวเธอทุกข์อุรา
เป็นแบบที่โศกาน่าไม่อาย
จึงแยกตัวก่อนทุกข์ไปกว่านี้
เพราะรู้ดีเข้าไม่ได้ไม่ขวนขวาย
ไปดีนะอย่าร้องไห้ฟูมฟาย
ฉันไม่ตายเธอไม่ตายแค่แยกกัน