8 กันยายน 2554 21:46 น.
victoriasecret
๐ โลกนี้..คือละคร
ที่ยอกย้อน..ซ้อนปม..อารมณ์ฝัน
ทั้งสุข-เศร้า..เร้ารุม..เข้าสุมกัน
จะสุขสันต์..รันทด..ทุกบทมี
๐ โลกนี้..คือละคร
อาจบางตอน..อ่อนไหว..ในวิถี
ควรกำกับ..ปรับวาง..อย่างพอดี
คอยปรับแต่ง..แสงสี..และลีลา
๐ ทุกบทตอน..ย้อนย้ำ..ให้พร่ำคิด
ทุกชิวิต..เวียนว่าย..ราวคล้ายว่า
ทั้งหลายฉาก..หลากล้วน..มวลมายา
คือมรรคา..แห่งมนุษย์..ปุถุชน
๐ ถูกกำหนด..บทให้..ไม่อาจหนี
บนเวที..ที่สนอง..ทุกผองผล
มีทั้งสุข..ทุกข์-เศร้า..เคล้ากมล
คอยปรับเปลี่ยน..เวียนวน..บนรอยทาง
๐ ดำเนินไป..ในวิถี..แห่งชีวิต
ที่เรานี้..มีสิทธ์..ลิขิตร่าง
และกำกับ..ปรับบท..กำหนดวาง
เพื่อแผ้วถาง..ทางตน..ก้าวด้นไป
๐ อันดี-ชั่ว..ตัวเรา..เข้าใจหมด
จะกำหนด..บทวาง..ไปทางไหน
ทางชีวี..ที่สร้าง..จบอย่างไร
อยู่ที่ใคร..ไหนเล่า.......ตัวเราเอง......
15 สิงหาคม 2554 22:55 น.
victoriasecret
๐ ยินเพรงกาล..หวานล้ำ..ในคำพจน์
เพียงมธุรส..ปลอบใจ..ที่ไหวอ่อน
ปลอบขวัญห้วง-อุรา-คราร้าวรอน
และลดทอน..ความเศร้า..ให้เบาบาง
๐ ความรวดร้าว..คราวจาก..ก็พรากสิ้น
รอยถวิล..ตรึงอยู่..มิรู้สร่าง
ที่ลำบาก..ยากเข็ญ..พอเห็นทาง
ประกายแห่ง..แสงสว่าง..นำทางเดิน
๐ จากที่เคย..ท้อแท้..กลับแน่แน่ว
เสียงกระซิบ..วิบแว่ว..เพียงแผ่วเผิน
ก็เพียงพอ..ชักนำ..ให้ดำเนิน
แม้เผชิญ..พลัดพราก..วิบากกรรม
๐ หากบุญญา..พารัก..สลักให้
สมดั่งใจ..ใฝ่เฝ้า..ในเช้าค่ำ
ความรวดร้าว..คราวเจ็บ..เคยเก็บ-จำ
ที่ครอบงำ..กลางมาน..ก็รานไป
๐ หมายนวลเรียง..เคียงขวัญ..ประหวั่นจิต
ด้วยรู้แจ้ง..แห่งฤทธิ์..พิสมัย
ยามรักจาก..พรากพลัด..ยากตัดใจ
ต้องคร่ำครวญ..หวลไห้..อาลัยนุช
๐ เพราะเพรงกาล..ขานสู่..จึงรู้ว่า
ปรารถนา..ในจินต์..มิสิ้นสุด
ยังหมายปอง..สองมือ..ยังยื้อยุด
หมายรั้งฉุด..รักไว้..มิให้กลาย
๐ คำกรองมอบ..ปลอบขวัญ..ในวันนี้
ทุกทุกถ้อย..ร้อยวลี..มีความหมาย
ปลุกปลอบห้วง..ดวงฤดี..ของพี่ชาย
ผ่อนความเศร้า.เหงากาย.ให้คลายลง (อักษรารำพัน)
๐ หากเป็นเพราะเพรงกรรมชักนำให้
สองดวงใจเวียนวัฏฏ์..กายพลัดหลง
หวังสายใยหวานล้ำผูกจำนง
ให้รักคงมั่นอยู่อย่ารู้คลาย
๐ แม้เนิ่นนานเพียงไหนขอใจชิด
ทุกขณะแห่งจิตนิมิตหมาย
ขอมีน้องแนบในห้วงใจชาย
ผูกเป็นสายใยฝันสู่วันครอง
๐ สุดแผ่นหล้าฟ้าห่างอยู่ต่างถิ่น
ฝากถวิลผ่อนปรนความหม่นหมอง
ปัดเป่าความเงียบงัน..สู่ครรลอง
ที่ทรวงสองปรารถนาร่วมฟ้าเดียว
เพรงสัญญาก่อนเก่าสองเราสร้าง
ยามจากร้างคอยแต่ชะแง้เหลียว
ความคิดถึงฝังจมดั่งคมเคียว
บาดทุกเสี้ยวส่วนทรวงผ่านล่วงวาร-
วอนบุพเพร่ำบทกำหนดให้
สบสมัยเสมอรักสมัครสมาน
ร่นฟากฟ้าจรดดินหลอมวิญญาณ
รวมดวงมานหวานซึ้งเป็นหนึ่งทรวง
เช้านี้..สร้อยไมตรีจะคลี่บท
จำเรียงร้อยมธุรสจนจรดสรวง
จากหัวใจหวานซึ้งของหนึ่งดวง
ผูกเป็นบ่วงรัดล่ามความอาลัย
ต่ออีกหนึ่งดวงใจที่ไกลถิ่น
ค่อยหลั่งรินถึงกันคลายหวั่นไหว-
รับรู้เถิดรักล้นจากคนไกล
บัดพลีให้เพียงพี่..สุดที่รัก...(วลีลักษณา)
๐ คำเรียงร้อย..สร้อยสาน..ที่ขานขับ
ยามซึมซับ..กับใจ..ให้ประจักษ์
เหมือนน้ำทิพย์..ชโลมใจ..คราไกลพักตร์
จึงตระหนัก..รักยิ่ง..เพียงมิ่งใจ
๐ แม้อยู่ห่าง..ร้างนุช..ถึงสุดหล้า
ฝากรักงาม..ข้ามฟ้า..มอบมาให้
แทนถ้อยคำ..ล้ำค่า..จากฟ้าไกล
ว่าฤทัย..ใบนี้..มิมีคลาย
๐ เพราะหน้าที่..มีทำ..จึงจำพราก
ความตรากตรำ..ลำบาก..ทั้งหลากหลาย
ที่หนาวเหน็บ..เจ็บแสน..ถึงแก่นกาย
คือพี่ชาย..กรายพราก..ไปจากนวล
๐ ยังหมายพบ..สบพร้อง..ร่วมครองฝัน
ยังหมายมั่น..วันชื่น..พี่คืนหวน
ยังหมายใจ..ในฝัน..อันรัญจวน
ยังหมายชม..ชิดชวน..เพียงนวลปราง
๐ เป็นรักที่..พลีให้..โดยไม่ฝืน
แม้วันชื่น..คืนสู่..ยังอยู่ห่าง
ยังมุ่งมั่น..ฝันปอง..เพียงน้องนาง
แม้ฟ้าขวาง..ทางไกล..ไม่อาจคลอน
๐ ขอฝากความ..ห่วงใย..ส่งไปถึง
ยังคงซึ้ง..ตรึงอยู่..มิรู้ถอน
จากแดนไกล..ในพง..ท่ามดงดอน
สู่นาคร..วอนขวัญ..อย่าหวั่นเลย..ฯ..(อักษรารำพัน)
6 สิงหาคม 2554 10:25 น.
victoriasecret
๐ ร้อยมาลัย..ในกลอน..อักษรศรี
ร้อยมาลี..ที่ใจ..ด้วยใหลหลง
ร่วมเรียงร้อย..ถ้อยคำ..ในจำนง
เป็นสื่อส่ง..ตรงให้..ในจำนรรจ์
๐ แทนน้ำจิต..มิตรแท้..เผื่อแผ่ให้
แทนน้ำใจ..ใสซื่อ..สื่อรังสรรค์
จึงสานถัก..อักษรา..มารำพัน
เฝ้ากรองกลั่น..สรรคำ..มารำพึง
๐ แม้บทกลอน..อ่อนด้อย..ในถ้อยขาน
แม้บทกานท์..สานไว้..ชั้นไม่ถึง
ยังหมายใจ..ใคร่เขียน..เพียรคำนึง
หมายให้ซึ้ง..จึงย้ำ..เพียรคำนวณ
๐ เป็นการเสริม..เพิ่ม-ปรับ..มาขับขาน
เป็นการสาน..จารจรด..บทกระสวน
รจนา..คารม..ตามสมควร
ในกระบวน..ล้วนความ..ตามสมคำ
๐ เพียงมุ่งหมาย..ร่ายกลอน..สะท้อนฝัน
เพียงมุ่งมั่น..สันต์สุข..ทุกเช้าค่ำ
จึงรังสรรค์..บรรณบท..ไว้จดจำ
ร่ายลำนำ..ย้ำพจน์..ไว้จดจาร....
27 กรกฎาคม 2554 13:03 น.
victoriasecret
ก กาพย์กานท์กลอนกลั่นกรอง...แล้วลองหัด
ข ขุ่นข้องขัดข้อเขียน...พากเพียรฝึก
ค ใคร่ครวญค้นคว้าคำ...ด้วยสำนึก
ฆ โฆษฯ ฆ้อง ฆึก ฆน ฆาน...ผสานไป
ง งุนงงง่วนงมงาย...ยังหมายมุ่ง
จ แจ้งใจจูงจิตจง...ด้วยหลงใหล
ฉ ฉันท์เฉิดฉายเฉกฉ่ำ...ใช่จำใจ
ช ช่ำชองใช้เชี่ยวชาญ...กาพย์กานท์กลอน
ซ ซึมซาบซึ้งแซ่ซ้อง...ฉลองเฉลิม
ด ดีดั่งเดิมดุจดัง...ครูสั่งสอน
ต ตัดต่อเติมแต่งแต่...ให้แน่นอน
ถ ถามถ่ายถอนถกถ้อย...เรียงร้อยกานท์
ท เทิดทูนทั้งทวนทบ...ให้ครบถ้วน
น นุ่มนิ่มนวลแน่นอน...ดูอ่อนหวาน
บ บทแบบบัวบานใบ...อยู่ในธาร
ป เปรยเปรียบปรานปราดเปรื่อง...ให้เรืองรอง
ผ ผุดผ่องแผ้วผลิผล...แม้จนยาก
ฝ เฝ้าฝันฝากฝึกฝน...เช่นชนผอง
พ พึ่งพิงพักพัวพัน...ในครรลอง
ฟ ฟื้นฟูฟ่องเฟื่องฟ้า...ภาษาไทย
ภ ภพภัคภาคย์ภูมิภาพ...ซึมซาบจิต
ม เหมือนมิ่งมิตรมนต์มาลย์...ช่วยขานไข
ย อย่างยอดเยี่ยมยืนยง...หลักธงชัย
ร ร้อยเรียงร่ายรื่นรมย์...ให้คมคาย
ล หลงลายลักษณ์โลมไล้...ด้วยใจมั่น
ว ว่างเว้นวันหวิวไหว...ให้ใจหาย
ศ ศศิเศร้าโศกศัลย์...เกินบรรยาย
ส สุดสิ้นสายสุขสม...ตรอมตรมจินต์
ห ให้แหนหวงห่วงหา...ภาษาชาติ
อ โอนเอียงอ่อนแออาจ...พินาศสิ้น
ร่วมรังสรรค์...มั่นไว้...ในแผ่นดิน
เคียงคู่ถิ่น...แผ่นดินไทย...ไปชั่วกาลฯ
13 มิถุนายน 2554 14:19 น.
victoriasecret
ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๏ อุราไหวฤทัยรอน มิอาจถอนฤดีไกล
สะท้านขวัญประหวั่นใน ละม้ายใจจะขาดรอน
๏ ประสบพักตร์ประจักษ์โฉม ประดุจโคม ณ อัมพร
ละออองค์อนงค์อร ผินางฟ้าวิลาวัณย์
๏ พธูปรายชม้ายพักตร์ ก็นึกรักประจักษ์มั่น
มนัสตรึงคนึงฝัน มิมีวันจะหันลา
๏ นรีใดมิหมายสิ้น จะมอบจินต์อภิญญา
ฤทัยวางมิสร่างซา กระจ่างหล้าและฟ้าดิน๚ะ๛
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏ เพียงยลกระวนวาย อุระชายมลายสิ้น
เนตรปรายละลายจินต์ ศิขรินทร์ถล่มพลัน
๏ วงพักตร์ก็งดงาม นะจะหยามและเย้ยจันทร์
ไม่พบประสบขวัญ ศศินั้นสิบั่นทอน
๏ ยามยิ้มประพิมพราย ฤติวายสยบอร
คิ้วโก่งขนงงอน ดุจะศรพระจักรา
๏ หากแม้นสุดาดวง จิตะพ่วงและห่วงหา
ร่วมโศก ณ โลกหล้า จะละฟ้ามิอาลัย๚ะ๛
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
๏ เพียงพบสบน้อง พี่ต้องหวั่นไหว
ศรรักปักใน ดวงใจพี่ชาย
๏ ว้าวุ่นครุ่นคิด ด้วยจิตมุ่งหมาย
อยากอยู่คู่กาย ไม่คลายสัมพันธ์
๏ พี่นั้นมั่นคง ซื่อตรงไม่สร่าง
หมายชวนนวลปราง ร่วมสร้างทางฝัน
๏ หากแม้นทรามวัย มีใจให้กัน
จนสิ้นชีวัน รักมั่นเพียงเธอ๚ะ๛
อีทิสังฉันท์ 20
๏โฉมสะคราญสราญถวิลจะเจอ
มิพบอนงค์ก็หลงละเมอ เสมอไป
๏ เปรียบประดุจอรุณละมุนละไม
ตะลึงตะลานและซ่านฤทัย ละออตา
๏ ภักดิ์จะมั่นจะหมาย ณ สายสุดา
สุรางคะใดมิปรารถนา ณ ดวงมาน
๏ นัยะนาพะพราว ณ คราวประสาน
นภากระจ่างสว่างตระการ สราญนัก๚ะ๛
ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๏ คะนึงฝันก็หวั่นจิต นิรามิต ฤ ห้ามหัก
สะพร่างใสประไพพักตร์ กมลปักลดาวัลย์
๏ ระโหยอ่อนมิผ่อนคลาย ฤดีหมายจะครองขวัญ
ชะรอยบุญ ณ ปางบรรพ์ มโนมั่นสวาทนาง
๏ ประจักษ์ในหทัยแล้ว ผิคลาดแคล้วสิวายวาง
ศิโรราบบ่ห่อนจาง มิแรมร้างละนางไป
๏ เพราะใจรักตระหนักมั่น มิมีวันนิราศไกล
จะหมายมาดสวาทใน พธูนั้นนิรันดร์กาล๚ะ๛
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏ คิดถึงคะนึงหา นะยะนาประสบสาน
เพลิงรุมประชุมมาน มนะซ่านสิรานรอน
๏ รักแท้มิแปรผัน จิตะมั่นมิสั่นคลอน
ผูกพันนิรันดร อะนะธรมิห่อนคลาย
๏ อาวรณ์ฉะอ้อนฝัน อุระมั่นมิกลับกลาย
ปักในหทัยชาย ฤติหมายบ่คลายปอง
๏ ประสบ ณ ภพใด หฤทัยสิหมายครอง
ขอพบประสบคล้อง นุชะนารถมิคลาดไกล๚ะ๛
มาณวกฉันท์ ๘
๏ พักตร์นฤมล วน ณ หทัย
ชวนพิ-ศมัย นาถะนะรี
๏ พรรณะวิไล ในปฐพี
ใครก็มิมี เทียบดุจะอร
๏ ทุกขณะคิด จิตก็สิหลอน
ปานอุระรอน ราวมนะราน
๏ ใจปฏิพัทธ์ มัดศศิกานต์
ทุกทิวะวาร มั่นอภิรมย์๚ะ๛
กมลฉันท์ ๑๒
๏ อภิธานกวีเทพ ฤจะเสพธุลีสม
ระวิโชติกระไรชม สมนัยอนุชครอง
๏ ศศิพักตร์กระจ่างภพ ศิริกลบศจีหมอง
กระจะทาบละอองทอง พสุไท้ประทานเธอ
๏ นขทารณ์มิปานเนตร ปรเมศวร์ตะลึงเผลอ
ผิพิมานมิผ่านเจอ กลเท่ห์ถกลไกล
๏ รชะอ่อนลออคลี่ นลินีขจรไหว
ปรทิพย์ปทุมใด ก็มิกรายนลินกร
๏ อุระอั้นประหวั่นอก ดุจนกตระหนกศร
ระติร้าวผะผ่าวรอน สิธิดาเผดิมดิน๚ะ๛