6 พฤศจิกายน 2547 00:21 น.
venom_aki
มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงน่าดู
เหมือนกับระเบิดที่พร้อมจะระเบิดตูมออกมาได้ทุกเวลา
รู้สึกอยากจะครอบครองไว้แต่ก็ทำไม่ได้
อยากสัมผัส...ก็ไม่ได้... อยากโอบกอด...ก็ไม่ได้...
เอื้อมมือเท่าไหร่ ไขว่คว้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งห่างออกไปทุกที...
ไม่เคย...ที่จะได้มาไว้ในมือ...
ถ้าจะให้แสดงออกมา...
ผมเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่ง
ที่ทำได้อย่างจริงใจ... คือร่ำไห้ให้กับโชคชะตาอันเจ็บปวดที่แสนหวาน
ร่ำไห้ดีใจไปกับชีวิตของเค้า...
ยิ้มทั้งน้ำตา...กับความสำเร็จของเค้า...
โดยที่ผมเฝ้ามอง...และติดตามอยู่ห่างๆ
สัญญาที่มีให้กันครั้งก่อนนี้ผมก็ทำไม่ได้
อยากเจอ..อยากกอดแทบขาดใจ
แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับผม
ถึงจะคุกเข่าอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าเท่าใด...
ท่านจะมองเห็นผมไหมนะ?
จะมองเห็นดวงใจที่บอบช้ำของผมหรือเปล่า?
จะทำให้ผม " สมหวัง " สักครั้งได้หรือไม่..?
กับชีวิตที่ต้องเผชิญกับกรอบแห่งลวดหนามมาตลอด
ทั้งๆที่หัวใจโบยบินไปแล้ว...
แต่ร่างกายกลับมี...มีแต่ร่องรอยแห่งความปวดร้าว...
พระเจ้า... จะให้ผมเจอเธอสักครั้งไม่ได้หรือไร?
ผมกระทำสิ่งต่อพระองค์ผิดเพี้ยนไปหรือ?
พระองค์จึงลงโทษผมแบบนี้
หรือว่าผม...ไม่สมควรที่จะได้รับความเห็นใจจากพระองค์?
ถ้าอย่างนั้นจะขอสักครั้งได้ไหม?
เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นจริงๆ
ไม่ว่าหลังจากนี้ จะฆ่าจะแกงยังไงก็เชิญ...
หรือจะให้ผมต้องทนเดินกับขวากหนามก็ได้...ผมยอม...
แต่ยังไง...ผมก็จะร่ำร้องหาโชคชะตาที่ไม่มีวันเจอะเจออีกต่อไป..
เพราะยังไง...
ผมก็รักเธอ...เหลือเกิน...
5 พฤศจิกายน 2547 15:15 น.
venom_aki
การกระทำที่มืดบอดบดบังหัวใจ
ทิ้งรอยยิ้มที่เสแสร้งไว้ในกระจก
ภาพมายาที่ยังคงชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นผม หรือเธอ ก็ดูขัดตาไปหมดสิ้น
รอยร้าวตรงรอยต่อของภาพปริศนา
มันคมเสียจนจะบาดได้ดั่งแก้วที่แหลกราญ
คำพูดหวานปานน้ำผึ้ง
เหลือไว้เพียงเสียงอื้ออึงรบกวนโสทประสาท
รำคาญชะมัด...
ผู้คนที่เดินขวักไขว่ต่างไม่รู้ว่าสภาพของตนว่าต่อไปตนเองนั้นจะเป็นเช่นไร
ขังตัวเองอยู่ในห้องที่มืดมิด
ราวกับถูกลงโทษจากสิ่งเร้นลับ
โลกภายนอกนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน
ผมเดินไปยังร่างไร้วิญญาณของเธอ
คมมีดกรีดลงที่หัวใจ...
เธอไม่รักผมแล้ว
พระเจ้าก็ลงทัณฑ์เธอ
ให้เธอต้องเจอกับสิ่งนี้สินะ
ด้วยน้ำมือของผม...
ความรักที่ไร้เงื่อนไขของผม มันต้อนผมจนมุมซะเอง
หนวกหู... เสียงข้างนอกช่างหนวกหู น่ารำคาญ
รอยยิ้มสุดท้ายของเธอทำให้ผมต้องทำ
เพราะรักเธอ
ไม่อยากให้เธอจากไปไหน
ทำอย่างไรจึงจะรั้งเธอไว้ได้นะ
ให้ความรักของเราอยู่นอกสายตาพระผู้เป็นเจ้า
ถึงแม้พระองค์จะไม่อวยพรให้เราก็ตาม...
ทำไมข้างนอกมันหนวกหูนักนะ...
เหมือนมีผึ้งนับร้อยบินอยู่ในสมองซะงั้นน่ะ
อา... รักเธอ...รักเธอ...
ผมกอดหัวใจของเธอที่เต้นตุบเป็นครั้งสุดท้าย
กระแสเลือดแดงฉานเปรอะเต็มใบหน้า...
ปัง!!! กระสุนทะลุที่กลางหัวใจ
อา... ผมคงจะได้ตามเธอไปแล้วสินะ...
ในที่สุด พระเจ้าก็ไม่เข้าข้างเราอยู่ดี...
หึหึหึ...
5 พฤศจิกายน 2547 01:32 น.
venom_aki
กับสิ่งที่ผ่านมา ในเวลาที่เป็นทุกข์
ดวงตาที่แสนเศร้าของเธอนั้นช่างดูอ่อนล้า
จะปลอบโยนเธออย่างไรดีนะ
จะทำอย่างไรดีให้เธอหายเหนื่อย
ตั้งแต่คิดว่าเราสองคนไปด้วยกันไม่ได้
ก็มีแต่เธอเท่านั้นแหละนะที่คิดจะตีจาก
ผมทำสิ่งใดผิดไปหรือไงนะ
ทั้งๆที่อยากจะดึงเวลาเพื่อที่จะยืดเวลา
ที่มีแต่เราไว้
แต่เธอกลับจะตัดขาดมัน
พระเจ้า......ผมจะทำอย่างไรดี
จะทำอย่างไรให้เธอรักผมเหมือนเก่า
หรือจะมีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ผมได้เธอคืนมา
หนทางข้างหน้ามืดมิดเหลือเกิน
การกระทำที่ไม่ชัดเจนของผมดูจะทำให้ยิ่งตกต่ำลงไป
ถ้าไม่ชิงลงมือซะแต่ตอนนี้ ทุกอย่างก็คงจะสาย
ผมต้องฆ่าเธอ ในขณะที่เธอยังอยู่กับผม
เพื่อที่เธอจะได้อยู่กับผมคนเดียวตลอดไป...
พระองค์...ลูกบาปมั้ย???
ถึงพระองค์จะไม่ทรงอภัยให้ลูก
ลูกก็พร้อมที่จะรับโทษทัณฑ์
เพียงถ้าลูกจักขายวิญญาณให้ปิศาจ
พระองค์จะตรึงลูกไว้กับบาปนี้นานแค่ไหนลูกก็ไม่เสียใจ
เพียงแค่ลูกมีเธอเท่านั้น...ตลอดกาล...
4 พฤศจิกายน 2547 21:34 น.
venom_aki
เพราะรักมาก...อยากให้บินไป...อย่างที่ใจฝัน
ทำทุกอย่าง...อย่างที่ใจอย่างทำ...
แต่ผมกลับกลัวว่า...นกแสนสวยตัวนั้น...จะบินจากผมไป...
ทั้งๆที่รักแสนรัก...ไม่อยากจะทำร้าย...
การเด็ดปีกนกน่ะ เป็นสิ่งเลวร้ายใช่ไหมนะ?
อยากปล่อยให้นกตัวนั้นเป็นอิสระ
แต่ก็กลัวว่าจะบินจากไป....
กลัวว่าจะจากไป...
จนอยากจะเด็ดปีก...ขังกรง...ล่ามโซ่ไว้...
ให้เป็นของผมคนแค่คนเดียว...
อยากจะผูกมัดไว้ไม่ให้จากไปไหน...
อยากจะรับรู้ในทุกๆที่ที่บินไป...
ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ?
ผมคงเป็นคนบาปล่ะมั้ง?...
เพราะรักมาก...ผมอยากเก็บไว้...ยอมตกนรก
แต่ถ้าผมทำแบบนั้น...
นกที่ผมรักนักหนาตัวนั้น...จะเกลียดผมไหมนะ...?
แต่ถึงจะเกลียดชังกันยังไง
ได้โปรด...
" อย่าไปจากผมเลย... ผมไม่อยากสูญเสียอะไรอีกแล้ว..."
4 พฤศจิกายน 2547 17:24 น.
venom_aki
การกระทำที่เรียกว่า "กฎเกณฑ์"มันเหมือนกับน้ำโสโครก
ที่ไหลวนอยู่ในอุโมงค์ที่มืดสนิท
การเติบโตขึ้นมาของฉันเปรียบกับการเดินไปในอุโมงค์
โดยไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่แห่งใด
การที่ฉันเรียนรู้เท่าใด
ก็เหมือนกับการได้รู้ว่าความสกปรกของอุโมงค์มีมากแค่ไหน
ถึงจะสะอิดสะเอียนเท่าใด
ฉันก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดี
พวกผู้ใหญ่ในสังคมสำหรับฉัน
ก็เปรียบเหมือนหนูสกปรกที่คอยตามกัดกินเศษอาหารของฉัน
และคอยแต่จะทำร้ายกันอยู่เสมอ
ขณะที่ฉันต้องดำเนินชีวิตอยู่ในอุโมงค์ที่มืดสนิทและอับชื้นนั้น
ก็ได้แต่เฝ้าภาวนาถึงพระเจ้า
ให้มอบพลังให้แก่ฉัน...
" ข้าอยากได้พลังที่สามารถ
ทำให้ข้าเดินในอุโมงค์ที่มืดมิด
อย่างกล้าหาญ เดินไปคนเดียว
โดยลำพังได้ โดยไม่กังวลกับสิ่งใด
พลังที่สามารถทำให้ข้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้
แม้จะอยู่ในที่ที่ว่างปล่าวสักแค่ไหน
ได้โปรดเถอะพระผู้เป็นเจ้า
เป็นคำขอร้องจากลมหายใจสุดท้ายที่แสนเหนื่อยล้า
ได้โปรด... มอบพลังนั้นให้ข้าที..."