4 พฤศจิกายน 2547 17:00 น.
venom_aki
ปล่อยฉันไว้คนเดียวได้ไหม
ถึงแม้จะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากใคร
แต่ขอได้ไหม
อย่าทิ้งรอยยิ้มที่เสแสร้งอย่างนี้ไว้กับฉันเลย
แม้ว่าฉันจะโสมม
สกปรก จนไม่มีสิทธิ์ได้รับความรัก ความอบอุ่นอ่อนโยน
จากคุณหรือใครๆ
แต่ขอเถอะ อย่าทำร้ายกันมากกว่านี้เลย
ทิ้งฉันไว้คนเดียวเถอะ
ทิ้งไว้แค่ความเหงา
ความเปล่าเปลี่ยว
ให้เกาะกินใจฉัน
จนตาย...
ก็พอ...
because it's the last thing I want from you...!
4 พฤศจิกายน 2547 16:52 น.
venom_aki
ความรัก เป็นสิ่งที่ตามองไม่เห็น
สัมผัสไม่ได้
แต่เราสามารถรับรู้ได้ว่า
เมื่อใดเรามีความรัก
เมื่อใดคนรอบข้างมีความรัก
ใช่... ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม
ใช่... ความรักทำให้มีความสุข
แต่! เมื่อใดที่ทุกอย่างแห่งความสวยงามดับวูบลง
เมื่อใดที่ความสุขเหลือไว้เพียงความทรงจำ
ความรัก ก็เป็นเพียง "ภาพลวงตา"
ที่ "จินตานาการ" ขึ้นมา
โดยคนๆหนึ่งเท่านั้นเอง...
4 พฤศจิกายน 2547 16:11 น.
venom_aki
ก่อนที่ผมจะกลับสู่แหล่งกำเนิด...ได้โปรด...
ผมชอบกุหลาบสีแดงที่เฉาใกล้ตาย
เพราะสีของมันเหมือนกับหยาดเลือดของผมและเธอ
กลิ่นหอมหวานเย้ายวนประหนึ่งกลิ่นเลือด
กุหลาบเฉา...ทำให้ผมรู้สึกถึงโลกแห่งการพรัดพราก
โลกที่แสนโดดเดี่ยว... โลกแห่งความตาย...
เป็นสิ่งมีชีวิตไร้ชีวิตที่ผมหลงไหล...
ผมอยากเป็นอย่างนั้น
เป็นดั่งกุหลาบแดงเฉา
สีและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์อันเป็นนิรันดร์
ได้โปรด... ทำให้ร่างกายผม
มือคู่นี้... ดวงตาสองดวงนี้...
เต็มไปด้วยสีและกลิ่นประหนึ่งกุหลาบเฉา
สีแดงเลือดที่ผมหลงไหล
มันจะไม่จางไปตามกาลเวลา
ถ้าจะเป็นอย่างนั้น...
" ช่วยส่งกริชเล่มนั้น... แทงลงไปที่ดวงใจสกปรกดวงนี้ที"...
"...ด้วยความรักที่มีให้เธอมันมากมายเหลือเกิน
เกินกว่าใจดวงนี้จะทนไหว
อยากไปเหลือเกิน... ในโลกที่มีเธอ...
อา... ตอนนี้หัวใจของผมกำลังบินสินะ...
บินไปไกล...ไกล..ออกไป...
ไปหาเธอ... เธอ.. เธอที่ผมรัก...."
2 พฤศจิกายน 2547 13:07 น.
venom_aki
อย่าคิดว่าความอ่อนไหวจะจมอยู่กับคนแบบนี้
อย่าไปกระตุ้นความอ่อนไหวที่เขามี
เมื่อความอ่อนไหวถูกกระตุ้น
อาจชักนำไปสู่การฆาตกรรม
การกระทำที่เรียกว่า ฆาตกรรม คือ
สุดยอดความปราถนาของมนุษย์
2 พฤศจิกายน 2547 12:43 น.
venom_aki
ดวงตะวันที่เจิดจ้าจะเป็นเช่นไรนะ
แสงดาว และแสงเดือน จะนวลผ่องแค่ไหน
ก็ใครจะไปรู้ล่ะ...
ในเมื่อผมได้แต่เดินไปในอุโมงค์ที่มืดสนิทแบบนี้...
อยากจะอาเจียนเอาก้อนเนื้อน่ารังเกียจออกมา
ความสกปรกโสมมในอุโมงค์ช่างอับชื้น กดดันหัวใจยิ่งนัก
บาปที่ถูกแทนด้วยหยาดเลือดมันหาที่สิ้นสุดไม่ได้
เหมือนกับการเดินหาทางออกของอุโมงค์นี้
คลำทางไปเรื่อยๆ...
กรงเล็บจิกแทงเนื้อหัวใจ... พร่ำภาวนาเธออยู่หนไหน
...ไม่มีเธอ...
เดินไปเรื่อยๆ.. เดินไปเรื่อยๆ...
เหมือนกับการเอาหอกทิ่มแทงใจ
" ผมอยู่ที่ไหนกันนะ? "
พระเจ้า... พระองค์จะทรงทำอย่างไรกับผมกันแน่
ทำไมพระองไม่ทรงฆ่าผมซะเลยล่ะ
จะให้ผมทนทรมานแบบนี้ไปทำไม
...สนุกใช่ไหมพระองค์?...
ถึงจะเฝ้าภาวนาต่อไปมันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกนะ
" โธ่...พระองค์... พระองค์ให้ลูกเสียเธอไปแล้ว... ยังจะเอาอะไรกับลูกอีก??? "
อยากพบเธอเหลือเกิน
ทำไมพระเจ้าจะต้องทำเช่นนี้ด้วยนะ
จะให้พบกับความสุข กับแสงสว่างไม่ได้เลยใช่ไหม?
พลังที่จะทลายกำแพงอุโมงค์ผมไม่มีแล้ว
น่าเศร้า...ที่ร่างกายมี่แต่ร่องรอยแห่งบาดแผล แผลแห่งความเศร้าใจ
พระองค์เจ้า นำเธอจากไป ไม่มีวันหวนคืนมา
" แล้วผมจะอยู่ได้อย่างไร? "
หรือจะต้องเฝ้าภาวนาต่อไปในอุโมงค์มืดดำอยู่อย่างนี้
แต่ยังไงผมก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดี
เพราะมันคือหนทางสุดท้ายแล้ว
ไม่ว่าจะได้พบเธอหรือไม่
ตอนนี้ได้แต่พร่ำ ภาวนา
...พระผู้เป็นเจ้า... ลูกขอพลัง...ให้ลูกเดินต่อไป
ขอพลังทลายอุโมงค์ด้วยสองมือเปล่านี้ได้ไหม
เพราะลูกไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ขอพบเจอแสงตะวัน
ขอเห็นความงามของแสงจันทร์หรือดวงดาว ...ได้ไหม...
ลูกท้อเหลือเกิน....ลูกเหนื่อยเหลือเกิน...
ลูกขอหลับได้ไหม...
หลับในอุ้งพระหัตถุ์ของพระองค์
แม้ลูกจะไม่มีสิทธิ์ใดๆเลยก็ตาม...
...ลาก่อน...