26 มกราคม 2548 18:31 น.
venom_aki
ผมเฝ้ามองกระจกบานนั้นวันละหลายๆครั้ง...
เพื่อที่จะมองเห็นชายคนนั้นวันละหลายๆหน
ใบหน้าเรียว ขาวแบบลูกครึ่ง ผมสีน้ำตาลเข้ากับหน้าหวาน
คิ้วโก่งรับกับดวงตาสีฟ้าอ่อน และรอยยิ้มละมุน
ไม่รู้ว่าผมเฝ้ามองเค้ามาตั้งแต่เมื่อไร
ตั้งแต่ผมเห็นเค้าอยู่ในนั้น ผมก็ไม่เป็นอันทำอะไร
อยากสัมผัสพูดคุย เข้าไปในโลกของเค้า
พ่อ กับ แม่ ก็ออกไปทำงานด้านธุรกิจที่ต่างประเทศ
ผมซึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างเพียงลำพังตั้งแต่เช้า
เดินลงจากเตียงด้วยเชิ้ตขาวคลุมร่างเพียงตัวเดียว
ยื่นมือไปสัมผัสกับกระจกเย็นเยียบบานนั้น.
ชายในกระจกจะรู้จะเห็นไหมนะ?
ว่าทุกครั้งที่ผมมองเค้า ผมรู้สึก ร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก
ใจเต้นถี่ เกิดอารมณ์หฤหรรษ์ทุกครั้ง
ผมจึงต้องปลดปล่อยอารมณ์ของตนเองด้วยตนเอง
เค้าจะรู้มั้ยว่าผม.
ตุบ เค้าผลักผมลงกับเตียง
เค้าออกมาจากกระจกบานนั้นได้อย่างไร??
ผมมีคำถามมากมายเต็มหัว
เค้าคร่อมผมไว้ ตัวเค้าช่างใหญ่
ผ้าคลุมอาบน้ำผืนเดียวที่ปกคลุมร่างของเค้าในวันนี้เป็นสีขาวผ่อง
เอ่ออ เค้าไม่ยอมให้ผมพูดอะไรไปมากกว่านี้
ริมฝีปากเราทั้งสองสัมผัสกัน ปลายลิ้นอุ่นรับรสหวานของการจูบ
เค้าบอกว่าเค้าเห็นผมทำร้ายตัวเองเพราะเค้า เค้าจึงทนไม่ไหวมาช่วยผมเอง
เราทั้งสองก่ายกอดกันเป็นเวลานาน
อ้อมกอดของเค้าเร่าร้อนดุจเปลวไฟจนแทบทำให้ผมละลาย
..
..
กี่คืนแล้วนะที่ผมอยู่ในอ้อมแขนที่ผ่าวร้อนของชายที่ผมไม่ทราบชื่อ
เราก่ายกอดกันอย่างไม่ลืมตาดูตะวันหรือจันทรา
เรียวขาของผมเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
เราสองคนมีแค่การกระทำดิบๆ 4 อย่างของมนุษย์เท่านั้น
ดื่ม กิน ทำ แล้วก็ นอน
ผ่านไปสองปี ที่ผมกระทำแบบนี้กับเค้า และทุกๆครั้งเมื่อเค้าทำให้ผมเสร็จ
เค้าก้อจะหายเข้าไปในกระจกบานนั้น
ผมอยากให้เค้าอยู่กับผมตลอดเวลา
ผมอยากจะทุบกระจกบานนั้นให้แหลกซะ เค้าจะได้ไม่กลับไปยังโลกของเค้าได้
แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด
วันนั้นหลังจากที่เค้าหลับหลังจากที่เราเสร็จกามกิจกันแล้ว
ผมก็ลุกออกจากอ้อมอกเค้า และตรงไปที่กระจก
ยกเก้าอี้ทุบมันอย่างแรง.
เค้าสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ!!!
อย่า อย่าทุบมัน ไม่งั้น คุณจะ
คำพูดของเค้าหายไปเพราะเศษกระจกที่แตกทั้งเล็กและใหญ่
ลอยตัวขึ้นมาและพุ่งเข้าที่คอของผมรอบด้าน
คอของผมแทบขาด
ผมตายในอ้อมกอดของเค้า ชายที่ผมรัก..
สามเดือนต่อมาหลังจากที่ผมตาย
พ่อกับแม่ก็ขายบ้านนี้ทิ้งกระจกยังคงอยู่ในสภาพเดิม
เพราะพ่อกับแม่ยังคงต้องการให้ห้องของผมเหมือนเดิมทุกอย่าง
ส่วนผมน่ะเหรอ??? หึหึหึ
ก้ออยู่กันอย่างมีความสุขกะชายที่ผมรักในบานกระจกนั่นไง.
26 ม.ค. 48
25 พฤศจิกายน 2547 18:07 น.
venom_aki
ณ บ้านหลังหนึ่ง ในครอบครัวที่แสนอบอุ่น
ครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ชายจอมวายร้าย
และน้องชายผู้อ่อนโยน...
หลายครั้งที่ พี่ชาย...แย่งตุ๊กตาของน้องชายไป...
น้องชาย ร้องไห้เท่าไหร่ ... อ้อนวอนเท่าไหร่...
เค้าก็ไม่ให้คืน...
" พี่จ๋า.. ขอผมคืนเถอนะ.. บ๊อบ เอาตุ๊กตาของผมคืนมา..."
เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน...
จนกระทั่งวันหนึ่ง น้องชายได้เลิกร้องไห้เอาตุ๊กตาคืน...
น้องชายได้ของเล่นใหม่... มันทั้งยาวและหนัก...
ตรงปลายเป็นใบมีดใบใหญ่ หนาและคม...
ขวานนั่นเอง...
พี่ชายเริ่มสงสัย
เมื่อเห็นน้องชายเงียบไปเมื่อเขาแย่งตุ๊กตาตัวโปรดของน้องชายผู้อ่อนแอ
พี่ชายเริ่มแกล้งน้องชายแทน...เงียบ
ทำเท่าไหร่ๆ น้องชายก็ยังเงียบอยู่ดี...
เมื่อเห็นน้องชายผู้แสนอ่อนแอเงียบอย่างนี้
จึงอดรนทนไม่ไหวพี่ชายเริ่มโมโห
ทั้งเตะ ทั้งต่อยน้องชายสารพัดโดยไม่รู้ชะตากรรมเบื้อหน้า...
น้องชายผู้แสนดีลุกขึ้นมาผลักพี่ชายออกไป
พร้อมกับเขวี้ยงขวานใส่หน้าพี่ชายครั้งแล้วครั้งเล่า
จนไม่เห็นใบหน้า... จนจำไม่ได้ว่าหน้าตาพี่ชายตนเป็นเช่นไร
พี่ชายร้องโอดครวญพร้อมกับเลือดที่ไหลนอง...
ร้องขอให้น้องไว้ชีวิต...
เด็กชายผู้น้องออกแรงสับคอพี่ชายขาดกระเด็น
สายเลือดกระเซ็นเปรอะเต็มใบหน้าน้องชายผู้อ่อนแอ...
เด็กชายวางขวานเปื้อนเลือดลงเบื้องหน้าแล้วดึงตุ๊กตาขึ้นมากอด...
รอยยิ้มเปรอะเปื้อนบนใบหน้าในที่สุดเด็กชายก็ได้ตุ๊กตาคืนมาอีกครั้ง...
"รอยยิ้มของไมเคิล จะยังคงอยู่ตลอดกาล..."
22 พฤศจิกายน 2547 12:03 น.
venom_aki
ในวันหนึ่งเมื่อได้เวลา สองทุ่ม เราทั้งครองครัว เลิกทานอาหารกัน
แม่จะยืนอยู่ประจำที่อ่างล้างจานในห้องครัว
พ่อจะเข้าไปพูดคุยและสวมกอดแม่...
กอดจูบจนแม่เคลิ้มและขาอ่อนแรงล้มพับไป
ผมก็จะเข้ามาที่ข้างหลังแล้วใช้ไม้เบสบอลฟาดเข้าที่หัวแม่ดังโพละ
พ่อจะมองหน้าแม่ด้วยความเย็นชา...
ในขณะที่ผมฟาดแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า...
เสียงกะโหลกศีรษะยุบพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาช่างน่าสะอิดสะเอียนนัก
แล้วพ่อก็จะออกไปข้างนอกเพื่อขุดหลุมเตรียมฝัง....
หลุมที่พ่อจุดลึก สาม เมตร กว้างยาวสองเมตร....
ผมต้องจัดกับศพที่เหลือยังไง คุณรู้มั้ย??
ผมต้องลากร่างของแม่ออกมาข้างนอก บนผืนดินหลังบ้าน
พอดีว่าบ้านผมตั้งอยู่ในที่ดินที่เปลี่ยวดี ไม่มีคนผ่านไปมา
จึงสะดวกแก่การร่วมกันกระทำฆาตกรรมคืนนี้...
ผมถอดเสื้อผ้าของแม่ออกจากร่าง...
มีดสับซี่โครงหมูใบใหญ่ที่แม่ใช้ประจำ
ผมต้องนำมาใช้ในคืนนี้...
ผมสับคอแม่ออกจากร่าง
ด้วยความที่ผมเป็นเด็กผู้ชายร่างเล็กแรงไม่ค่อยมี
จึงต้องออกแรงสับสับหลายครั้งหน่อย
หลังจากนั้นจึงจัดการกับแขนตรงข้อไหล่ทั้งสองข้าง และโคนขาทั้งสอง
การสับคนตรงโคนขานั้น ผมพูดได้เลยว่ามันเหนื่อยมาก
ไม่ถึงกับยาก แต่มันเหนื่อยจริงๆ โดยเฉพาะเด็กอย่างผม
กระดูกชิ้นใหญ่ สับยังไงก็ไม่เข้า.... ผมออกแรงอยู่นานพอควรเลยล่ะ...
ไม่น่าเชื่อว่าผมจะฆ่าคนที่ผมรักได้ลงคอ...เพราะอะไรน่ะเหรอ...เดี๋ยวได้รู้กัน...
...มือเปื้อนเลือดสีแดงจากร่างของแม่
ปากก็กล่าวว่า ผมขอโทษ ผมเลือกเขาคนนั้น ผมขอโทษ...
เด็กน้อยจะรู้มั้ยนะ ว่าตัวเองได้กระทำบาปที่ไม่มีวันได้อภัยไปแล้ว...
พ่อนำร่างของแม่ที่กลายเป็นชิ้นๆไปใส่ในหลุมที่เค้าได้ขุดไว้
โยนเสื้อผ้าลงไปและที่ลืมไม่ได้ พ่อได้โกยดินบริเวณที่ผมได้ฆ่าหั่นศพแม่ลงไปด้วย
พ่อตั้งต้นไม้ขนาดย่อมลงไปในหลุม
ต้นไม้ที่แม่เป็นคนไปเลือกซื้อมาตามคำบอกของพ่อ...
โดยไม่รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นต้นไม้ที่บ่งบอกถึงหลุมศพของตนเอง...
แม่ผู้น่าสงสาร...
ผมเข้าไปในห้องครัว ล้างคราบเลือดที่พื้นออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหมดเกลี้ยง...
ถอดเสื้อผ้าของพ่อและของตัวเองออกมา เผาที่เตาผิง....
ผมกับพ่อมองหน้าสบตากันที่หน้าเตาผิง....
ผมเดินเข้าไปกอดพ่อ.... จูบอย่างรัดรึง....ก่อนที่จะพากันขึ้นเตียง...
ผมกับพ่อเป็นคนรักกันตั้งแต่ผมขึ้นม.ต้นแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ผมอยู่ม.ห้า
ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนรักของผม....
ใครก็ตามที่เป็นกว้างขวางคอ ผมพร้อมที่จะกำจัดทิ้ง
พ่อครับ...ผมรักพ่อ...
17 พฤศจิกายน 2547 00:42 น.
venom_aki
ผมจะบีบคอมันให้มันสลบ
แล้วฉีดยาที่ทำให้มันเคลิ้ม.....
รอให้มันฟื้นจนกว่าที่มันพร้อมที่จะรับรู้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร...
จากนั้นก็เฉือนหน้าอกมันทิ้ง... ฟังเสียงกรีดร้องของมันไปด้วย....
ใช้มีดทำเครื่องหมายกางเขนหัวกลับแทนสัญลักษณ์ซาตานที่ท้องของมัน
เลือดจะไหลจนมองไม่เห็นอะไร
ถ้าเป็นผู้ชาย...
ผมจะผ่าแท่งเนื้อของมันเป็นสามแฉก
ถ้าเป็นผู้หญิง...
ผมจะใช้มีดแทงเข้าไปๆๆ ที่ช่องคลอดของมัน
เสียงร้องของมันจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆๆ พร้อมกับคำร้องขอชีวิต....
ไม่ล่ะ ผมยังสนุกไม่พอ...
นิ้วแต่ล่ะนิ้วของมัน ผมจะใช้ตะปูตัวเล็กๆตอกทีละนิ้ว...ทีละนิ้ว...
ตอกทีละข้อนิ้ว...ตอกที่มือ...ใช้มีดกรีดที่ท้องแขนทั้งสองข้าง...
ที่ขาและเท้าก็เช่นกัน....
ใครที่โกหก ตอแหล ผมจะดึงลิ้นออกมากรีดออกเป็น สาม แฉก
แล้วใช้ตะปูตอกทีละแฉก ทีละแฉก...
เอาเลื่อยมาเลื่อยกะโหลก...แล้วเอาสมองออกมาทำอาหาร
นั่นคือเมนูเด็ดของวันนั้นเลยล่ะ
ถึงเวลานั้น...มันคงตายแล้วล่ะนะ...ฮ่าๆๆๆๆ
โยนสมองให้สุนัขที่คอยเฝ้าดูเหตุการณ์กิน... มันกินด้วยความเอร็ดอร่อย...
จากนั้น...ผมจะกรีดเอาหัวใจมันออกมา
ใช้ค้อนทุบ ให้เละที่สุดเท่าที่จะเละได้...
เลือดจะนองไปทั่ว... จะเอามาทาให้ทั่วตัวก็คงทำได้...
เอาหัวใจที่ทุบแล้วยัดใส่ปากของมัน... ให้มันได้ชิมรสชาด หัวใจสกปรกของมัน
ที่ทำร้ายจิตใจของชายผู้นี้....ใจของผม....คนนี้....
6 พฤศจิกายน 2547 15:32 น.
venom_aki
ผมเดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความแน่วแน่อย่างประหลาดเมื่อเปิดประตูบ้าน
ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าแม่
แม่กำลังเตรียมอาหารค่ำให้สมาชิกครอบครัวได้กิน
ในห้องที่เปิดไฟสวางจ้า
พ่อ... นั่งดูโทรทัศน์ในห้องที่ปิดไฟมืดมิด
มีเพียงแสงจากโทรทัศน์เท่านั้นที่ส่องมา
พ่อหัวเราะกับรายการวาไรตี้ที่ไร้สาระ
มันเป็นเวลาพักผ่อนของพ่อในช่วงเวลานี้ประจำ หลังสองทุ่ม...
พ่อมักกลับบ้านค่ำ พ่อบอกว่า งานที่บริษัทเยอะ
และมักจะทะเลาะกับแม่ด้วยเรื่องในบ้านเป็นประจำ
ทุบตีแม่...แล้วก็มาลงที่ผม...
เห็นผมกับแม่เป็นที่ระบายอารมณ์
แม่... ผู้หญิงโสโครก...
แม่นอนกับผู้ชายคนไหนก็ได้ที่ทำให้แม่รู้สึกอบอุ่น
แม้กระทั่งลูกตัวเอง...
หึหึหึ... บางคนคงยอมรับไม่ได้สินะ
ก็แม่น่ะ ไม่สมควรเป็นแม่เลยด้วยซ้ำ...
คืนนี้...ผมต้องหยุดวัฎจักรที่โสโครกนี้เสียที
ผมเดินเข้าไปในห้องของพ่อ
หยิบไม้กอล์ฟที่พ่อใช้ตีกับลูกค้าขึ้นมา...
ผมเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
เสียงกระซิบในหูบอกว่า ฆ่ามันซะ!!! ปิดฉากเสียที!!!
ผมหวดไม้กอล์ฟลงบนศีรษะพ่อไม่ยั้ง
ฟาดเข้าไป ฟาดเข้าไป
อะไรที่พ่อทำกับผมกับแม่ คราวนี้ ผมเอาคืนบ้างล่ะ!!!
เลือดพร้อมกับเนื้อสมองที่ไหลออกมาจากกระโหลกศีรษะพ่อ
ดูน่าพิศมัยยิ่งนัก... พ่อตายแล้ว...
แม่ที่วิ่งเข้ามาดูกรีดร้อง
ผมเดินเข้าไปหาช้าๆพร้อมกับมือที่เปื้อนเลือด
พร้อมกับบอกว่า แม่ไม่ต้องกลัวนะ ผมฆ่าคนที่ทำร้ายเราแล้ว
ถ้าแม่รักเค้า เดี๋ยวผมจะให้แม่ไปอยู่กับเค้า
แต่ถ้าแม่รักผม...
เชือกที่หยิบติดมือมาด้วยรัดคอแม่
แม่ดิ้นทุรนทุรายสักสามนาทีก็ขาดใจ...
ผมทิ้งศพพ่อกับแม่ไว้ในห้องนั่งเล่นนั้น
นึกถึงการกระทำของตัวเองที่เพิ่งทำผ่านมา...
เดินไปอาบน้ำ ชำระคราบเลือด ชำระบาปของตัวเอง...
เสียงอื้ออึงในหูผมหายไปเหลือเพียงเสียงแห่งความเงียบงัน
หึหึหึ พระเจ้าคงไม่ให้อภัยผมสินะ...
ผมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วนั่งทำการบ้านที่อาจารย์ให้มา
พรุ่งนี้ ผมจะได้ไปโรงเรียนแล้วใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขเสียที.....