24 ตุลาคม 2546 14:24 น.
vaproud
ลมหนาวพราวห่มรัตติกาล
พัดหมอกม่านเมฆมัวสลัว-ใส
เวิ้งฟ้าเบิกนาฏกรรม อำไพ
ละอองดาวน้อยใหญ่ระเริงระบำ
วะวับวามตามจังหวะระลอกลม
ระยับพรายคล้ายจะพรมให้ชื่นฉ่ำ
ประดับฟ้าตรึงไว้ในรอยจำ
สะท้อนใจไหวช้ำ หม่นอารมณ์
ก่อนปิดฉากนาฏกรรมอำลาลับ
ก่อนซึมซับหยดหยาดอิ่มอาบฝน
ก่อนเมฆหมอกระลอกผ่านจะซานซม
กร่อนดวงใจทุรนจม เพียงธุลี
ณ พร่างพราวของละอองช่วยส่องแสง
นำสารสื่อแสดงสู่ถิ่นที่
ถึงมิ่งมิตรผู้ห่างไกล กาล-ฤดี
ด้วยศรัทธาคงมีมิเสื่อมคลาย
อย่าตัดรอนเพราะรอนร้าวอยู่เปลี่ยวลึก
ฝากสารจารจาลึก สู่ทิศหมาย
ผ่านคุ้งฟ้าโพ้นทะเลมาเรียงราย
เพื่อร้อยเรียงเคียงกายด้วยไมตรี
ฉันยังเป็นดั่งพลัง ยามแพ้พ่าย
หรือเพียงแค่กรวดทรายเปื้อนป่นสี
แหลกสะท้านรับคลื่นลมถมทวี
หรือไร้ค่าควรที่จะครอบครอง...???
18 ตุลาคม 2546 09:58 น.
vaproud
เราต่างแปลกเปลี่ยวเดียวดายบนโลกกว้าง
รอนแรมบนหนทางเพื่อฝันวันหมาย
ร้อยพันผันผ่านอาจ รกร้าง วุ่นวาย
เคว้งคว้าง ว้าง ว่าย ในกระแสเวลา
เราต่างก้าวย่างตามจังหวะชีวิต
เธอ-ฉัน ลิขิต ด้วยใจอันใสกล้า
ปีกแห่งฝันโบกโบยสู่ท้องนภา
เพื่อเสาะหาดวงตะวันที่ส่องฉาย
แม้เราต่างแปลกเปลี่ยวเดียวดายต่อโลก
บทเพลงโศกคงคร่ำครวญมิรู้หาย
อาจเปล่าเปลี่ยวบนเส้นทางระหว่างกาย
ให้รู้สึกทุรนทุรายเหมือนกัน
เพียงศรัทธา เพื่อรัก ต่างที่รู้สึก
เพียงส่วนลึกเท่าปรารถนา แห่งฝัน
เพียงก้าวผ่านโพ้นทะเลภูผาชัน
จะทะลายกำแพงกั้นระหว่างใจ
16 ตุลาคม 2546 15:27 น.
vaproud
เสียงเพลงบรรเลงจากเบื้องฟ้ามาแผ่วเบา
เธอกอดความเศร้า
กลั้นหยาดน้ำตาอาวรณ์ไม่ให้เอ่อไหล
รินเถิด รินรู้สึกที่จริงแท้ภายใน
น้ำตามิใช่เครื่องหมายของผู้อ่อนแอ พ่ายแพ้
หากแต่เวลานี้
ในหยดหยาดพราวพร่างเปรียบดั่งละอองดาวถักทอแสง
คอยนำทางแห่งรักเพื่อเป็นนิรันดร์
เพียงแต่...
เรี่ยวแรงของฉันอาจไม่มากพอที่จะก้าวผ่านคืนนี้ไป
โปรดปล่อยวางทุกสิ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของกาลเวลา
แม้เสี้ยววินาทีข้างหน้า
ต่างปวดร้าว จากลา
พบเพียงความเงียบงันยืนอยู่ระหว่างกาย
บาดลึก แหลกสลาย
ฉันจะมีคุณเป็นความทรงจำสุดท้าย...
21 กันยายน 2546 15:12 น.
vaproud
ฝากฝน
ละอองพร่างพราวจากเบื้องบน
ณ ฟากฟ้าราตรีหม่นในห้วงคำนึงคิด...
.........................................................
ภาพเบื้องหน้า
ยามเม็ดฝนพรมจากฟ้า หล่นเป็นสาย
สัมผัสถึงสิ่งซ่อนลึกมากมาย
ที่พรูพรายให้ความชุ่มฉ่ำ
ภาพเบื้องหน้า
มองผ่านกระจกหนา ฟ้ามืดดำ
บทกวีเธอคงควรค่าจดจำ
ส่องสว่างทางสีคล้ำให้ก้าวไป
ก้าวเดินแม้หนทางคดเคี้ยว
เปล่าเปลี่ยวเหนื่อยล้าเพียงไหน
เธอยังคือศรัทธาแห่งดวงใจ
เป็นดวงดาวของบางใครแห่งนี้
คงรำลึกถึง
ในห้วงคิดคำนึงทุกราตรี
ในกาลเวลาผันผ่านทุกนาที
ในทุกสิ่งที่หยิบยื่นแก่กัน
ภาพเบื้องหน้า
คือ สายฝนพรมจากฟ้าและรอยฝัน
พรูพรายในดวงใจผู้เงียบงัน
แม้ห่างไกลมิอาจกั้นความรู้สึก...
17 กันยายน 2546 09:12 น.
vaproud
เย็นยะเยือก
พัดผ่านจากเทือกภูหนาว
สายลมหอบฝนมาพร่างพราว
ดับความรวดร้าวภายใน
ถ้อยคำเอื้อนเอ่ยของพี่
ดั่งบทกวีอันยิ่งใหญ่
สลักลึกลงผลึกดวงใจ
ขอจารจำไว้ตราบนิรันดร์