1 ตุลาคม 2551 11:48 น.
vanda_blue
ฉันลืมตาสัมผัสกับความมืดมิด
พบแต่ความเงียบสนิทจนเหน็บหนาว
สายฝนหล่นพร่ำดั่งน้ำในตาเรา
....เมื่อไรฉันจะลืมเธอ
วันวานที่เคยร่วมคำรัก
ไออุ่นที่โอบรัดไม่เคยจางหาย
อยู่ท่ามกลางแสงดาวอันพร่างพราย
....ไม่มีวันใดที่ไม่มีเธอ
หลับตาลงพร้อมความรู้สึก
เจ็บจนใจในเสี้ยวลึกมันยิ่งหนาว
ทน...ทรมานติดอยู่กับภาพในวันเก่า
หัวใจฉันปวดร้าวใครจะดูแล
ลืมตาอีกครั้งพร้อมความว่างเปล่า
กลิ่นกายเธอยังคลุ้งเคล้าไม่จางหาย
ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ที่ที่เคยมีเธออยู่ข้างกาย
ให้ฉันเดินต่อไปได้ยังไง....ถ้าไม่มีเธอ
ฉันเจ็บ ฉันจำ แต่ฉันยังมีน้ำตา ...
เมื่อไรฉันจะลืมเธอ
13 พฤษภาคม 2551 13:47 น.
vanda_blue
รอเพียงหนึ่งคำจากชายผู้หนึ่ง
คำว่ารักแสนสุดซึ้งเคยให้ฉัน
รอเพียงความมั่นใจจากชายที่ผูกพัน
ฉันเฝ้ารอมันจนชักไม่มั่นใจ
เขาบอกให้รออย่างมีหวัง
สร้างวิมารอันผุพัง โอนไหว
ไม่มีเสาหลักอันแข็งแกร่งในจิตใจ
มีแต่คำว่ารักแล้วรอได้ไหม แค่นั้นเอง
เธอมีอีกคนที่รออยู่
หญิงสาวผู้เข้ามาก่อนฉัน
เคยอ่อนหวาน ปลอบโยน และรักกัน
แล้วมาเปลี่ยนไปในวันที่ฉันเข้ามา
ฉันผิดที่หลงใหล
ฝันใฝ่ถึงเจ้าชายที่เฝ้าหา
นึกว่าเจอแล้วที่รอมา
กลับกลายเป็นว่า....คือคำลวง
เธอบอกให้รอ ฉันก็รอ
รอจนท้อ จนน้ำในตาล่นร่วง
รอจนถามตัวเอง กับใจอีกหนึ่งดวง
....ฉันกำลังรออะไร
รอให้เธอเอ่ยคำลา
รอให้น้ำตาฉันเหือดหาย
รอให้เธอและเขาพบความเข้าใจ
รอจนแทบทนไม่ไหว....ให้เลิกกัน
พอแล้วความรู้สึก
ขอหลีกทางเหวลึกให้ห่างฉัน
ได้โปรดอย่าเอ่ยว่า รออีกวัน
เพราะมันคงไม่มีวันเป็นจริง
13 พฤษภาคม 2551 02:49 น.
vanda_blue
แค่หนึ่งช่วงเวลาที่เธอเข้าใจผิด
แค่หนึ่งช่วงชีวิตที่หายไป
แค่เสี้ยวหนึ่งวินาทีที่ไม่ได้อยู่ข้างกาย
ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใยดี
ไม่เคยโทรถามความรู้สึก
ไม่เคยไถ่ถามความคิดนึกของคนคนนี้
ไม่มีเลย แม้เพียงข้อความอันห่วงใยที่แสนดี
ไม่มีเสียงจากฟากฟ้าเลยจริงๆ
แล้วตอนนี้เธอถามหาถึงความหมาย
ว่าสิ่งใดทำให้ฉันแปรผัน
จากวันหนึ่งที่เราเคยมีกัน
หายไปหมดความผูกพัน...คำว่าเรา
เธอมีคนข้างกาย ฉันรู้สึก
คนที่เธอบอกรักมากมาย ในวันเหงา
ตอนนี้เธอมีเขา และใช้คำว่าสองเรา
แล้วเธอเอาฉันเข้าไปทำไม
ให้ฉันอยู่ตรงนี้โดยไม่มีเธอ
ยังดีกว่าให้ฉันพร่ำเพ้อต้องร่ำไห้
ให้ฉันอยู่ห่างๆ แต่ห่วงเธอไกลๆ
ดีกว่าให้ฉันอยู่ใกล้ใจ แต่ไร้รักของเธอ
เข้าใจหรือยัง
เข้าใจฉันบ้างไหม
ความรู้สึกของฉันอันมากมาย
แต่เธอไม่เคยเข้าใจมันเลย
บอก บอก บอก ว่าฉันผิด
พลาดไปแล้วความใกล้ชิดที่ผ่านพ้น
แล้วนี้อะไร มาบอกว่ารักฉันจนเกินทน
แล้วคนอีกหนึ่งคน เธอเอาไว้ที่ใด
เริ่มต้น...เธอเป็นคนสร้าง
ตอนกลาง...ฉันเป็นคนฝัน
สุดท้าย...พอเราจากกัน
เธอต้องหาเหตุผลอีกร้อยพัน....มามัดฉันทำไม
26 เมษายน 2551 13:29 น.
vanda_blue
นิ่งและลุ่ม ลุ่มแล้วลึก นะพายเจ้า
กอดความเหงาไว้ใยไม่ปล่อยเหงา
เรื่องใดใดพอจะบอกก็ตอบเรา
เพื่อว่าเจ้าจะทุเลาความเศร้าตรม
เหมือนกับล่นอยู่กลางบ่อ น่ะฟื้นฟ้า
ไร้หนทาง น้ำตาก็หดหาย
ยิ่งมากเรื่อง มากความคิดมืดรอบกาย
วอนพระพายพัดใจให้คลายที
ข้าแต่ท่านผู้มาใหม่ที่ได้ร้อง
ขอลมล่องลอยพัดระบัดบี้
เราพระพายจะรู้ได้ไฉนมี
ว่าอกตรมป่นปี้แต่เรื่องใด
เสมือนหมอรักษาไม่รู้โรค
คนป่วยไข้ได้โศกหรือจะหาย
ผู้มาขอขอให้พัดกำจัดใด
บอกได้ไหมแก่เราเจ้าสายลม
เรานั้นทุกข์ โศกตรมมานานนัก
เพราะความรักที่มีไม่สุขสม
โอ้ลมเอ่ยช่วยพัดความระทม
โปรดเจ้าลมหอบทิ้งไปให้หายคราว
ครั้งหนึ่งก่อนเจ้าลมเคยพัดรัก
มาให้ข้าได้พิงพักจนหายหนาว
แต่เหมือนลมเจ้าเอยได้เพียงคราว
พอตื่นเช้าเจ้าก็ผ่านจากข้าไป
ว่าเมืองโน้นมีรักที่เหือดแห้ง
เมืองนี้แล้งรักร้างอ้างว้างไหม
เมืองนั้นเปลี่ยวเสี้ยวเหงาเล้าหัวใจ
เมืองนี้หายจากรักมาแสนนาน
เราจะลองเสี่ยงลมให้พัดเป่า
หอบรักเอาจากโน้นลองมาผ่าน
แล้วเอารักจากนี้ไปเขียนจาร
เผื่อจะหวานทั้งสองเมือง..ท่านว่าไง
เมืองแห่งข้าไร้รักมานานเนิ่น
ท่านเข้ามาอาจห่างเหิน ไม่เกิดใส
หรือบางทีเมืองท่านอาจไม่จริงใจ
หรือบางทีข้านี้ไม่คู่สมพอ
เพราะข้าเคยถูกรักหักหาญจิต
จึงไม่เคยนึกคิดจะสร้างก่อ
ความจริงใจที่เคยมีไม่เพียงพอ
หรือเมืองเจ้าจะต่อใจสัญญา
หากไม่รับคำรักจากเมืองนี้
ลมที่มีรักเจ้าที่เฝ้าหา
ผู้ใดเล่าจะเอารักที่พัดมา
มีแต่ข้าเมืองนี้ที่หมายปอง
รัก จะรับ รับแล้วรัก ไม่อักอ่วน
ช้าหรือด่วน ข้าก็หวังเป็นเจ้าของ
เมื่อก่อนข้าเคยพัดไปให้หมายปอง
เจ้าก็ครองอยู่พักหนึ่งจึงจากไป
ข้าหรือเจ้าที่เฝ้าเปลี่ยนพลัดเวียนรัก
อยากรู้นักใจชักเริ่มหวั่นไหว
พอมีเจ้าเข้ามารักข้าปักใจ
แต่ข้ารู้ลมไม่เคยหยุดไหวดั่งใจคน
อยากจะเก็บลมเช่นเจ้าให้เฝ้าข้า
อยู่ให้ใกล้กายาทุกแห่งหน
ลมเจ้าเอยเจ้านั้นช่างแสนซุกซน
พอหยุดนิ่งก็ร้อนรน จนต้องไป
แต่ครานี้ลมรักจะพักแล้ว
อยู่กับแก้วดวงมณีที่สดใส
แม้จะหม่นอยู่บ้างช่างประไร
ลมจะพัดขัดใจให้รักนาน
พักแล้วพักจะหยุดแล้วในหน้าที่
ต่อแต่นี้จะร่วมเจ้าผู้แสนหวาน
จะไม่จากไม่ทิ้งไปให้รำคาญ
สุดแต่ท่านผู้ร้องขอ พินิจฯครวญ
พอแล้วพอสมแล้วที่ใจหวัง
จะลองรับซักครั้งไม่เหหวน
คำเอื้อนเอ่ยของเจ้าช่างเย้ายวน
จนใจข้าปั่นป่วนไม่เหลือดี
ขอให้คำสัญญาแด่ข้ารัก
ให้เจ้านั้นพิงพักใจข้านี้
ให้ข้าอยู่กับเจ้าเท่าทวี
จะรักเจ้าเท่าฟ้ารักปฐพี.....ตลอดกาล
28 มีนาคม 2551 14:14 น.
vanda_blue
ญ: จันทร์เจ้าเอ๋ย....ใยเจ้าละเลยคำข้า
จ: มนุษย์จ๋า.... ช้าก่อนจะได้ไหม
จ: มีธุระแห่งกิจลิขิตใด
ญ: ข้าเพียรขอรักจากใจ ...มิใช่คำลวง
จ: เคยขอข้าวขอแกงแล้วมิใช่หรือ
จ: ทั้งวงแหวนสวมมือที่ยังห่วง
ญ: แต่ตอนนี้ข้าอยากได้ใจทั้งดวง
ญ: ขอดาราทั้งปวงเป็นพยาน
จ: อนิจาความอยากของมนุษย์
จ: มากที่สุดยิ่งกว่าฟ้ามหาศาล
ญ: ใจมนุษย์เช่นข้าที่ซมซาน
ญ: น้ำตาโศกเนินนาน...โปรดข้าที
จ: ว่าดวงใจในข้านี้มีเพียงหนึ่ง
จ: จะมอบเจ้าเข้าถึงก็เกินที่
ญ: โอ้จันทร์เอ๋ยข้านี้เศร้าเท่าทวี
ญ: ใจของข้านั้นหลบลี้จากที่ไป
จ: พอจะจำดวงใจได้ไหมเล่า
เผื่อว่าเราจันทร์เจ้าจะช่วยได้
แสงของเราเฝ้าส่องท้องดินไกล
หากหล่นหายคงเจอได้ในไม่นาน
ญ: ดวงใจข้านี้เบาเท่ากับลม
จะเอื้อมจับให้สมข้ามิหาญ
แสงของเจ้าเฝ้าส่องได้มินาน
เพลาผ่านรัตติกาลมิอาจครวญ
จ: จริงอยู่ว่าเรานั้นคือจันทร์ส่อง
ทองแสงทองฟ้าเวหาหวน
ถึงผืนดินถิ่นมนุษย์สุดกระบวน
ที่ยังยวนขอคำอยู่ร่ำไป
ญ: คืนนี้จันทร์เป็นใจโปรดตอบข้า
ใยความรักที่ใฝ่หา เริ่มห่างหาย
จันทร์เจ้าเด่นมีดาราเฝ้าเรียงราย
มิเหมือนข้าที่เดียวดายไร้คู่เคียง
ท้องฟ้าช่างแสนใหญ่กว้าง
แต่กลับอ้างว้างสงัดเสียง
มีเดือนจันทร์กับข้าลำพังเพียง
ร่ำกลอนร่าย ในรัตติกาล.....