10 กันยายน 2550 08:49 น.
unicorn
ทุกเช้าที่ตื่นลืมตา. . .
คงน้อยคนนัก ที่จะไร้ซึ่งภารกิจ ที่ต้องกระทำ
ชีวิตประจำวันของแต่ละคน. . .
จึงผิดแผกแตกต่างตามแต่หน้าที่ ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ
เชื่อเหลือเกินว่า. . . คนทุกคนต่างมีความมุ่งหวัง
มีความฝัน. . . ที่อยากมีอนาคตที่ดี
การที่เราตื่นลืมตาขึ้นมา เพื่อออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ก็เพื่อก้าวเดินไปสู่จุดที่มุ่งหวังไว้ และต้องทำให้สำเร็จ
คนทุกคน มีอนาคตที่ดี
และมีความเป็นได้สูง ที่จะสมดังใจ
แต่ในมุมอีกมุมหนึ่ง ของความเป็นจริง ยังมีคนที่ยึดติดกับอดีต
ยังจมปลักอยู่กับ ปัญหาชีวิตต่างๆ นานาร้อยพัน
บางคนอาจเจ็บปวดกับความรัก บางคนอาจวิตกกังวลเรื่องงาน
บางคน. . . อาจมีปัญหาทางการเงิน
หลากคนก็หลากปัญหา ที่ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
และใครบางคนที่ว่าไว้
อาจเป็นตัวเราเอง ที่กำลังจมดิ่งอยู่กับปัญหาเหล่านั้น
ถ้าตอนนี้ . . .เรากำลังทุกข์อกทุกข์ใจ
ยังตื่นลืมตาขึ้นมาในทุกเช้า ด้วยความปวดร้าว
ยังลืมอะไรที่ฝังในหัวไม่ลง ยังยึดติด ยังจมปลัก
. . .ยังวนเวียนอยู่ในร่องรอยของอดีต
เราจะกลายเป็นผู้แพ้ และผู้แพ้คนนั้น ...
ก็เป็นผู้ทำลายอนาคตด้วยมือของตัวเอง
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า...
"นกที่ตื่นแต่เช้า
มักจะได้หนอนที่อร่อยที่สุด"
อย่ามัวแต่หลับหูหลับตา. . .
จมอยู่แต่อดีต ต่อไปอีกเลยดีกว่า
จงกล้าหาญอย่างนกเสรี . . .
ที่พร้อมจะกางปีกบินในทุกๆ เช้า
และพร้อมออกไปเผชิญโลกกว้าง ไปผจญภัย
. . . และคว้าชัยชนะ มาไว้เป็นของตัวเอง
หนอนที่อร่อยที่สุด ก็คืออนาคตที่สวยงามที่สุด
ซึ่งรอวันจะตกเป็นของนกเสรี และมีความกล้าหาญ
และเราก็มีโอกาสเป็นนกตัวนั้นได้เสมอ
ถ้าใจเราพร้อมเริ่มต้นใหม่ พร้อมสลัดทุกความทุกข์ออกไปจากใจ
. . .อย่างคนที่เข้าใจและยิ้มรับมัน
ให้โอกาสตัวเองอีกสักครั้ง . . .
ด้วยการเอาเรื่องอดีต ที่ทำให้เป็นทุกข์ออกไปวางให้ห่างตัว
บอกตัวเองให้ยิ้มสู้ ย้ำเตือนตัวเองว่า . . .
เรายังมีปัจจุบันที่ต้องดำเนินไป
และเรายังมีอนาคต ที่ก้าวไกลรอเราอยู่
อดีต . . .ก็จงปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีต
เก็บส่วนที่ดีเอาไว้ ในความทรงจำ
สิ่งที่เราต้องทำให้ดีที่สุด ก็คือปัจจุบัน
อยู่เพื่อเรียนรู้มัน ด้วยความรักและความเข้าใจ
เพื่อเป็นหนทางที่ดีสู่อนาคตที่สดใส
และย้อนกลับมา . . .มอบความภาคภูมิใจให้แก่เรา
22 มีนาคม 2550 21:37 น.
unicorn
ว่ากันว่า โดยธรรมชาติของคนส่วนใหญ่นั้น มักชอบเอาดีใส่ตัวเอง เอาชั่วใส่คนอื่น ถ้าจะดันตัวเองให้สูงขึ้น ก็มักจะต้องเหยียบไหล่คนอื่นขึ้นมา แต่จะมีทางอื่นไหมที่เราสามารถจะถีบตัวเองให้สูงขึ้น โดยไม่ต้องกดไหล่คนอื่นให้ต้อยต่ำลง ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งว่า อาจารย์สอนยูโดชาวญี่ปุ่นอายุปูนปัจฉิมวัยคนหนึ่ง ชวนลูกศิษย์หนุ่มชาวอเมริกันเดินทอดน่องไปตามชายหาดยามเย็น ช่วงหนึ่งของการสนทนา อาจารย์ได้ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นบนผืนทรายขาวละเอียด เส้นหนึ่งยาวประมาณ 5 ฟุต อีกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 3 ฟุต
เธอลองทำให้เส้นที่ยาว 3 ฟุต ยาวกว่าเส้นที่ยาว 5 ฟุต ให้อาจารย์ดูหน่อยสิ เสียงอาจารย์บอกเป็นเชิงท้าทายอยู่ในที ลูกศิษย์อเมริกันหยุดคิดพินิจเส้นทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก็เผยยิ้มที่ริมฝีปากเหมือนค้นพบคำตอบ เขาบรรจงใช้เท้าข้างหนึ่งค่อยๆลบรอยเส้นตรงที่ยามประมาณ 5 ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือนิดเดียว โดยวิธีนี้เส้นที่ยาวราว 3 ฟุต จึงโดดเด่นขึ้นมาแทน
ลบเสร็จ เขาเงยหน้าสบตาอาจารย์ พรางขอความคิดเห็น เช่นนี้ใช้ได้หรือยังครับ ผู้เป็นอาจารย์ใช้ไม้เท้าเคาะหัวเขาเบาๆหนึ่งทีก่อนบอกว่า ใช้วิธีนี้ ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลว รู้ไหม? คนที่คิดจะยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งนั้น ไม่สู้ฉลาดเลย ทางที่ดี จงยกตัวเองขึ้น แต่อย่าลดคนอื่นลง ว่าแล้วอาจารย์ก็ขีดเส้นทั้งสองใหม่ แล้วสาธิตให้ดูโดยการปล่อยเส้นที่ยาว 5 ฟุตไว้อย่างเดิม แต่ขีดเส้นที่ยาว 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุต ฝ่ายลูกศิษย์ยังคงกังขา
คู่แข่งของเธอไม่ใช่ศัตรู แต่คือครูของเธอ และเขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม เธอลองคิดดู หากไร้เสียซึ่งคู่แข่ง เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน ไม่มีความ-อัปลักษณ์ เธอจะรู้จักความสวยงามได้อย่างไร คู่แข่งขันของเรายิ่งเก่ง ยิ่งฉลาดล้ำ ก็จะทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น
อาจารย์สอนต่อไปว่า นักสู้ที่ดีนั้น เขายืนหยัดอยู่ในสังเวียนได้เพราะมีคู่แข่งที่เข้มแข็ง คู่แข่งที่อ่อนแออาจทำให้เราเป็นผู้ชนะ ชัยชนะนั้นมันไม่ยืนยง คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยการฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อน ถึงแม้จะทำได้สำเร็จ แต่นั้นก็เป็นเพียงความสำเร็จที่ปราศจากเกียรติคุณ ไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรมกับการเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิธีทางของเขาอย่างเสรี มีผลลัพธ์ต่างกันเพียงไร
การเลื่อนตัวเองขึ้น พร้อมกับลดคนอื่นลง เธออาจชนะ แต่ก็มีศัตรูเป็นของแถม การเลื่อนตัวเองขึ้น แต่ไม่ลดคนอื่นลง เธออาจเป็นผู้ชนะที่พร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมาย วิธีไหนจะดีกว่ากัน?
19 พฤศจิกายน 2549 14:36 น.
unicorn
เมื่อก่อนนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน และผืนน้ำ เป็นเพื่อนรักกัน
ทั้งสามอยู่ใกล้ชิดติดกัน จนกระทั่งโลกได้กำเนิดพืชและสัตว์ขึ้น
แผ่นดินและผืนน้ำก็มัวแต่ดูแลเอาใจใส่พืชและสัตว์
จนละเลยและไม่สนใจท้องฟ้า
ท้องฟ้าก็เริ่มรู้สึกน้อยใจ และถอยตัวห่างออกไป ห่างออกไปทุกที ทุกที
จนถึงวันที่มีนกตัวแรกออกโบยบิน
แผ่นดินและผืนน้ำจึงได้รู้ว่าท้องฟ้าได้จากไปไกลแสนไกล>
แผ่นดินและผืนน้ำพยายามส่งเสียงเรียกท้องฟ้า แต่ท้องฟ้าอยู่ไกลมาก
เลยไม่ได้ยิน
นกตัวนั้นจึงอาสาที่จะไปบอกกับท้องฟ้า นกก็บินขึ้นสูง สูงขึ้น
สูงขึ้น และส่งเสียงเรียก
แต่เสียงนกนั้นเบาเกินไป ไปไม่ถึงท้องฟ้า>
แต่นกก็สัญญาว่า ต่อไปนี้นกทุกตัวจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
เพื่อนำข่าวจากแผ่นดินและผืนน้ำไปบอก
ผืนน้ำและแผ่นดินรู้สึกเศร้าใจที่เพื่อนได้ห่างออกไปไกล
และคิดถึงเพื่อนเหลือเกิน
ผืนน้ำพยายามที่จะม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่า
แผ่นดินพยายามยกตัวสูงจนตั้งตระหง่าน แต่นั่นก็ยังสูงไม่พอ
ยังไม่ใกล้ท้องฟ้า
พระอาทิตย์ซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์มาโดยตลอด
ก็บอกกับทั้งสองว่า "เราอาจจะช่วยพวกเจ้าได้"
พระอาทิตย์อาสาช่วย โดยการส่องแสงลงมายังผืนน้ำและแผ่นดิน
ทำให้ระเหยกลายเป็นไอ ลอยไปรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ
ลอยขึ้นไปบอกข่าวแก่ท้องฟ้า
เล่าเรื่องราวต่างๆเป็นรูปตามที่แผ่นดินและผืนน้ำได้พบเจอมา
และบอกว่าแผ่นดินและผืนน้ำคิดถึงมาก
อยากให้ท้องฟ้าลงมาสนิทแนบชิดเหมือนเมื่อก่อน
ท้องฟ้าได้รับรู้เรื่องราว ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็กลับลงไปไม่ได้
"ฉันกลับลงไปไม่ได้หรอก เพราะฉันเติบโตขึ้น และอยู่สูงเกินไป
ลงไปไม่ได้แล้ว ฉันได้แผ่ขยายตัวเองจนกว้างขวาง
ที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่เฝ้ามองดูอยู่ไกลๆ
และโอบกอดแผ่นดินและผืนน้ำไว้อย่างอ่อนโยนเท่านั้น
และถึงแม้จะมีนกบินมาส่งข่าว แต่ฉันก็ยังคิดถึงแผ่นดินและผืนน้ำ
และอยากจะบอกกับทั้งสองว่า ฉันเองคิดถึงเพื่อนมากมายเพียงใด"
ก้อนเมฆก็ตอบว่า "อยู่บนนี้นานๆ ก็เหงาเหมือนกัน
บางทีก็อยากกลับลงไปข้างล่างบ้าง"
ท้องฟ้าเลยบอกว่า "ฉันก็เหงาเหมือนกัน แต่ว่าฉันกลับลงไปไม่ได้
แต่เจ้าลงไปได้นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งเจ้ากลับลงไป
และความคิดถึงของฉันก็หนักมากพอที่จะส่งพวกเจ้าลงไปหมดทั้งท้องฟ้า"
จากนั้นก้อนเมฆทั้งหมดก็รวมตัวกัน
และรวมเข้ากับความคิดถึงอันมากมายของท้องฟ้า
แล้วตกลงมาเป็นหยาดฝน ส่งผ่านความรัก
ความคิดถึงมายังแผ่นดินและผืนน้ำ
จึงไม่แปลก ถ้าเมื่อใดที่ฝนตก แล้วเราจะรู้สึกคิดถึงคนที่เรารัก
คนที่เราผูกพัน และบางครั้ง ท้องฟ้าก็ส่งความเหงาลงมาด้วย
18 พฤศจิกายน 2549 23:53 น.
unicorn
ทำไม ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ นิ้วนาง ด้วย?
ไม่ใช่แค่เพราะเราเรียกมันว่า ring finger แน่ๆ
มันต้องมีความหมาย มากกว่านั้น
ทดลองพิสูจน์ความมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง
ลอง แบมือ 2 ข้าง เข้าหากัน แล้ว งอนิ้วกลางลง เอา หลังนิ้วกลาง ทั้ง2 ข้าง มาชนกัน
ทีนี้นิ้วที่เหลือ ก็คือ โป้ง/ ชี้/นาง/ ก้อย ให้เอาปลายนิ้วมาชนกัน
ลองปล่อยนิ้วที่เอาปลายชนกัน ให้ออกจากกัน ทีละนิ้ว โดยที่
นิ้วกลางยังคงงอแตะกันอยู่
จะพบว่า นิ้วชี้ ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วโป้งก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วก้อย ก็ปล่อยจากกันได้ อย่างสบายๆ
แต่นิ้วนางกลับปล่อยออกจากกันไม่ได้
นั่นเป็นเพราะ
นิ้วกลาง แทน ตัวเราเอง
นิ้วโป้ง แทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
นิ้วชี้ แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
นิ้วก้อยแทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง / มีสังคม/ครอบครัว ของตัวเอง
นิ้วนาง แทน "คู่ชีวิต" ทีนี้ก็เหลือแค่ "คู่ชีวิต" แล้วล่ะที่จะอยู่กับเราไปจนแก่
til death do us part"Today is a gift, that's why it is called the present."
16 พฤศจิกายน 2549 20:47 น.
unicorn
ผมรู้จัก..ผู้หญิงคนหนึ่ง..ด้วยความบังเอิญ
แต่ผมบอกตัวเองว่า..เป็นเพราะ..พรหมลิขิต
ผมพบเธอ..ที่ริมบึงขนาดใหญ่..หน้ามหาวิทยาลัย
ขณะที่..ผมกำลังไปวิ่งออกกำลังกาย
เธอกำลังง่วนอยู่กับผืนผ้าใบ .. และภาพอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ผมยาว..ที่ถูกรวบเป็นมวยด้านหลัง..ถูกปักด้วยพู่กันอันโต..
แทนปิ่นปักผม
เสื้อกล้ามสีขาว..
สร้อยข้อมือเต็มแขน
กางเกงยีนส์สีซีด..และรองเท้าผ้าใบโทรมๆ
เธอคงดูเป็นผู้หญิงเรียนศิลปะ..เซอเซอ..จนไม่น่าดู
หากไม่เพราะ..ใบหน้าที่งดงาม..ราวภาพวาดของจิตรกรเอกนั้น
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย ..หากไม่พิศมองอย่างดี
แต่เธอก็ดูน่ารักมาก..ในสายตาผม
ผมบอกตัวเองว่า..หากผมวิ่งวนกลับมาอีกรอบ..แล้วเจอเธอ
ผม..จะเข้าไปคุยด้วย
วันนี้ ..จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง..เข้ามาคุยกับฉัน
เขาเรียนวิศวะ..และดูเป็นคนเจ้าสำอางทีเดียว
แต่ดูท่าทาง..จะเป็นที่รู้จักในคณะน่าดูนะ
เพราะตอนที่ช่วยฉัน..หอบอุปกรณ์วาดรูป..มาส่งที่รถ
มีรุ่นน้อง..มาทักเยอะเชียว
ยิ่งรู้จัก.. ผมยิ่งรู้สึกว่า..เธอน่ารักครับ
เธอเป็นรุ่นน้องผม 1 ปี ..แต่ก็ไม่เคยเรียกผมว่า
"พี่"..ซักคำ
>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >
>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>> >>>>
เธอบอกว่า.. เรารู้จักกันในฐานะเพื่อน.. ไม่ใช่รุ่นพี่.. รุ่นน้อง
เพราะเธอขี้เกียจนอบน้อม..ให้ผม .. อย่างที่รุ่นน้องในคณะเป็นกัน
ก็แหม..เคยเป็นประธานเชียร์นี่ครับ ..รุ่นน้องก็ต้องเกรง..เป็นธรรมดา
เธอเป็นผู้หญิง..ที่ใจดีมากครับ
ทุกวันเสาร์..เธอจะไปสอนศิลปะ..ให้เด็กกำพร้า
และวันไหนที่ว่าง..ก็จะไปอ่านนิทานอัดเทป..ให้เด็กๆ ตาบอดฟัง
ตอนนี้..ผมมั่นใจแล้วครับว่า..ผมชอบเธอมาก
แถมภูมิใจมาก..ที่คนที่ผมชอบ..เป็นคนดีมากด้วย
เขาเป็นผู้ชาย..ที่ใช้ได้ทีเดียวแหละ
อย่างน้อย..ก็รู้จักเทคแคร์ผู้หญิง..
มากกว่า..เพื่อนที่คณะของฉัน..เยอะทีเดียว
แล้วก็เป็นคนมุ่งมั่นดี ..
เขาตั้งใจเรียนมากเลยนะ .. ไม่เคยขาดเรียนเลย
เล่นเอาฉันรู้สึกผิด
..ที่โดดเรียน..เป็นว่าเล่น
แล้วก็เป็นคนขยันทำกิจกรรม..ของมหาวิทยาลัย ..ซึ่งฉันไม่คิดจะทำ
ต่างกันจริงแฮะ..ฉันกับเขา
วันนี้..เธอชวนผม..ไปขับรถเล่นครับ
เธอบอกว่า..อยากไปอุทยานแห่งชาติ..ที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยนัก
แต่ก็เป็นร้อยกิโล..เลยนะครับ
ผมมองมอเตอร์ไซต์เก่าๆ.. โทรมๆ.. ของผมแล้ว ..ก็ยากจะไปถึงครับ
เธอทำหน้าขรึม..แล้วยื่นกุญแจรถของเธอ..ให้ผม
บ้านเธอรวยครับ ..เธอมีรถยนต์ส่วนตัวใช้
ผมรู้สึกได้ทันทีว่า..เธอกำลังไม่สบายใจ
รถไปได้เดี๋ยวเดียว..เธอก็ร้องไห้โฮเลยครับ
ผมเลยรู้ว่า..เธอขี้แยไม่เบา
เรื่องของเรื่อง..ที่เธอกลุ้มใจ..ก็คือ
ที่บ้านเธอ..ไม่ยอมมาเยี่ยมเธอในวันนี้..ตามที่นัดไว้ครับ
เพราะน้องชาย..ไม่สบายนิดหน่อย
ผมขำไม่ออกเพราะท่าทางเธอเสียใจ..กับเรื่องที่ผมเห็นว่า..เป็นสิ่งเล็กน้อยนี้มาก
จึงได้แต่เงียบ.. แล้วก็เล่าเรื่องของผม..ให้เธอฟังบ้าง
ฉันไม่กล้าฟูมฟาย..เลยทีเดียว
เมื่อเขาเล่าเรื่องครอบครัวของเขา..ให้ฉันฟัง
..เขาเล่าให้ฟังว่า..
พ่อกับแม่ของเขา..เลิกกัน
และเขาก็ไม่เชิงว่า..มีใครเลี้ยง..
เพราะอยู่กับพ่อบ้าง
..อยู่กับแม่บ้าง ..อยู่กับญาติบ้าง
และแต่ละที่..ก็ไม่ใช่ที่ของเขา
เพราะทุกคน..ต่างมีครอบครัว..ของตัวเอง
อยู่ที่ไหน..เขาก็เหมือนเป็นแค่..คนอาศัย
ตอนนี้..เขาอาศัย..การได้ทุนการศึกษา..
และค่าใช้จ่าย..ที่พี่สาวส่งให้นิดหน่อย..ดำรงชีวิต
เพื่อก้าวไปยังเส้นทาง..ที่สบายขึ้น
ฉันทึ่งมาก..ที่เขาเข้มแข็ง ..และไม่ร้องไห้..กับโชคชะตาของตนเอง
ตั้งใจเรียน ..ไม่เกเร ..
ฉันโชคดีกว่าเขา..เยอะมากทีเดียว ..
สงสารเขาจังแฮะ
เธอบอกผมว่า ..
บางที..ถ้าผมเสียใจ ..ผมควรจะร้องไห้บ้าง
เพราะถ้าไม่ร้องเสียบ้าง ..
ความเสียใจต่างๆ.. จะถูกสะสมเป็น..ตะกอนในหัวใจ..ของผมเอง
แล้วท้ายที่สุด ..หัวใจของผม..จะกลายเป็น.."ก้อนหิน"
แม้จะแข็งแกร่ง
..และผมจะไม่มีวันเสียใจอีก
แต่มันจะทำให้..คนใกล้ตัวของผม..บอบช้ำ..ยามโดนผมกระทบ
ผมก็เลยบอกเธอว่า ..ผมเห็นเธอเป็น..ดอกไม้..ของนายก้อนหิน
ดอกไม้..ที่ช่วยมาเติมความอ่อนหวาน..
ให้กับก้อนหิน..ที่ไม่ค่อยมีค่า..ก้อนนี้
สรุปแล้ว..วันนั้น.. เราก็ไปไหน..ไม่ได้ไกล
เพราะทันที..ที่เห็นทุ่งนาเขียวขจีกว้างไกล ..
เธอก็ขอให้ผม..หยุดรถ
แล้วลงไปวิ่ง ..เหมือนไล่คว้าอะไรบางอย่าง
เธอบอกว่า.. เธอกำลังวิ่งไล่จับ.."ความฝัน"
วันนี้..เขารับปริญญา ..ฉันอาสาเป็นตากล้อง
ครอบครัวเขา..มีแม่..มาแค่คนเดียว
แต่บ้านฉัน..มากันทั้งบ้านเลยแหละ
พ่อแม่ ..และน้องชายฉัน..ชอบเขามาก...ก็ดีแล้วล่ะ
..เพราะฉันอยากให้เขา..ได้รับความอบอุ่นในครอบครัว
อย่างที่ฉัน..ได้รับมาเสมอบ้าง
ฉันอยากให้เขา..มีความสุข
เพราะความสุขของเขา..ก็เป็นความสุขของฉัน..เหมือนกัน
วันนี้..เราสนุกสนานกันใหญ่..
เหล่าเด็ก..อย่างพวกเรา..
พาคนสูงวัย 3 คน..ไปปล่อยแก่กัน..ในคาราโอเกะทั้งคืน
ก็ไม่ได้จ่ายเองนี่ ..พ่อแม่มาทั้งที.. นี่นา
แม่ของเขา..เข้ากับแม่ของฉัน..ได้ดีทีเดียว
ผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัย..ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น
เหงามากครับ..
ทั้งที่ผมเคยชินกับความเหงา..มาตลอดชีวิต ..
ก่อนที่จะพบเธอ
ผมหลีกเลี่ยงความเหงา..
โดยการตั้งใจเรียน ..เวลาว่าง..ก็ทำงานพิเศษ
ผมเก็บเงินได้ก้อนโต..ทีเดียวครับ
คิดว่า..พอเรียนจบกลับไป..จะไปขอเธอหมั้นไว้ก่อน
เธออีเมล์..มาเล่าให้ฟังว่า ..
เธอได้งาน..ในบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์..แห่งหนึ่ง
กำลัง..สนุกกับงาน
อีกไม่กี่เดือน..เขาก็จะกลับมาแล้ว
เห็นบอกว่า..เอาแต่เรียน..กับทำงาน ..จนไม่มีเวลาใช้เงิน ..
แหม..คงรวยใหญ่
ฉันเอง..ก็กำลังสนุกกับงานที่ทำ
อาจเหงาบ้าง.. แต่อีกไม่กี่เดือน..คงหายเหงา
พ่อเพิ่งซื้อคอนโดไว้ให้
..กำลังตกแต่ง
พ่อกับแม่..วางแผนไว้เสร็จสรรพว่า..
พอเขากลับมา..จะยัดเยียดลูกสาว..ให้ทันที
แล้วให้ย้ายไปอยู่คอนโดใหม่ซะ
พ่อกับแม่..ให้เหตุผลว่า..
อพาร์ทเม้นที่ฉันอยู่..มันไม่ค่อยปลอดภัย..
สำหรับ..การอยู่คนเดียวนัก
วันนี้..ผมได้รับจดหมาย..จากที่บ้านของเธอ
เดาได้ว่า..เธอคงยังไม่รู้เรื่องแน่ๆ
พ่อกับแม่ของเธอ..เขียนจดหมายมาบอกว่า..
ให้ผม..กลับไปรับลูกสาว..ไปจากอกท่านด่วน
พร้อมกับซื้อคอนโดไว้..เป็นค่าสินสอดให้แล้ว
ถ้าผมจะเรียกร้องอะไรอีก..ก็ขอให้บอก
ขอเพียงช่วยรับลูกสาวท่าน..ไปเลี้ยงดูแทนก็พอ
พร้อมกับ..ส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมาด้วย
ที่บ้านของเธอ..น่ารักอย่างนี้เสมอครับ
ทั้งๆ ที่..ผมเป็นคนอื่น...แต่ท่านทั้งคู่..ก็เอ็นดูผมมากทีเดียว
กลายเป็นว่า..เงินทองที่ผมสะสม..เพื่อขอเธอแต่งงาน..ก็อดใช้ครับ
เก็บไว้ให้ลูกแทน..แล้วกัน
ตื่นเต้นครับ ..อีกไม่กี่วัน..ผมก็จะได้กลับไปหาเธอแล้ว
ดอกไม้..ของผม
พรุ่งนี้..เขาจะกลับมาแล้วล่ะ
เดี๋ยวตอนเย็น.. ฉันจะออกไปหาซื้อข้าวของ..และอาหาร
มาเตรียมไว้..ทำให้เขากิน..พรุ่งนี้
เขาต้องแปลกใจมากแน่ๆ.. ที่ฉันทำอาหารเป็นแล้ว ..หุหุ
ใช้เวลาฝึกฝน..แรมปีเชียวนะ
โอ๊ย .. ตื่นเต้นจังเลย..
>>> >>>> >แล้วพรุ่งนี้..เจอกันนะ
นายก้อนหิน..ของฉัน
เราสมัครใจ..เป็นดอกไม้...ที่อยู่ข้างก้อนหิน
เพราะดอกไม้ดอกนี้ ..แสนบอบบาง
เราจะมีก้อนหิน..คอยดูแล..ปกป้อง
นายไม่ต้องห่วงหรอก
นายไปเรียนแค่ 2 ปี.. เราอยู่คนเดียวได้..สบายมาก
ถึง 2 ปีนี้ .. ดอกไม้..จะไม่มีก้อนหิน..คอยดูแล
ดอกไม้..จะฮึด..เอาความแข็งแกร่งทั้งหมด..มาดูแลตัวเอง
เพราะ..เมื่อก้อนหิน..กลับมา
ดอกไม้..ก็ไม่ต้องมีความแข็งแกร่ง..ก็ได้
ยังไง..ก็มีคนดูแลอยู่แล้ว
แต่..ผมไม่ได้ขอหมั้นเธอ..หรอกครับ
ไม่มีงานแต่งงาน..เกิดขึ้นด้วย
คอนโด..ก็ถูกขาย
ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านของเธอ ..กับพ่อแม่ ..และน้องชายของเธอ
..................แต่..............
ไม่มีเธอ..หรอกครับ..........................เธอถูกวัยรุ่นเมายา-กลุ่มหนึ่ง
.......ขับรถชนในวันที่..ไปซื้อข้าวของ..เพื่อทำอาหารให้ผมครับ
.......แค่เสี้ยววินาที..เท่านั้นที่ผมจะกลับมาดูแลเธอ..ได้แล้วแท้ๆ
แต่มันก็..สายเกินไป
ไม่มีอีกแล้วครับ..
ดอกไม้..ของนายก้อนหิน
ใครที่ยังมี...คนสำคัญของหัวใจ...ข้างกายอยู่
ดูแลเขาให้ดี.. ทุกวินาที..นะครับ
เพราะเพียงพริบตา..ที่ไม่ได้ดูแล
เมื่อคุณ..ลืมตา..อีกครั้ง
อาจไม่มีเขา..ให้ดูแลแล้ว..ก็ได้