13 มีนาคม 2551 16:36 น.
ToKkY
เฮ้ย! วิทย์ ถามจริงเถอะว่ะ ที่แกมานั่งดูเค้าอยู่อย่างนี้มันจะมีประโยชน์อะไรวะ?!? ไอ้สิทธ์ เพื่อนผมถามขึ้น ผมคิดว่ามันคงจะประหลาดใจน่าดู ที่เห็นผมมานั่งอยู่ริมสนามฟุตบอลโรงเรียน เพื่อรอ... เอาล่ะๆ มาซ้อมได้แล้วสาวๆ!!! และแล้วเสียงสวรรค์ผมก็มาถึง คุณครูสวย ครูสาวขาซ่าประจำโรงเรียนผม จัดการเรียกคณะเชียร์ลีดเดอร์มาซ้อมกันทุกเย็น แต่เป้าหมายผมไม่ได้อยู่ที่ครูสวยหรอกครับ เป้าหมายผมอยู่ที่..
ขะ...ขอโทษค่า!! ครู พอดีพวกผู้ชายมารุมหนูอ่ะค่ะ กว่าจะออกมาได้ แทบจะต้องแทรกแผ่นดินเป็นขอมดำดินมาเลยล่ะค่ะ แหะๆ!! ด้วยการพูดที่ดูคิ๊กคุสมวัย หน้าตาที่น่ารักอ่อนหวาน แล้วก็ตาตี่ๆ แถมด้วยมีรอยยิ้มทรมานใจชาย ไม่แปลกเลยครับ ที่ทำให้สาวน้อยม.4 ชื่อ แพน กลายเป็นดาวโรงเรียนของผม ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอย่างเข้ามาสู่โรงเรียน ( ส่วนผมก็แค่ดาวซินโดรมแค่นั้นแหละครับ เหอๆ!! ) แหมๆ..เป็นคนสวยนี่ดีจังนะยะ มีคนมารุมจีบเยอะจัง ครูสาวแซวซะพวกเชียร์ลีดเดอร์เฮฮากันใหญ่
ใครจะเหมือนจารย์ล่ะคะ ถูกแฟนหักอกมาไม่ใช่เหรอคะ อาทิตย์ก่อนน่ะ 55+ มีเชียร์ลีดเดอร์คนหนึ่งตะโกนขึ้น ครูสวยหันควับทำตาค้อนใส่ทันที ยัยโอ๋!! นี่เธอกล้าแซวครูรึ ไปวิ่งรอบสนามซักรอบเอาม่ะ? เผื่อหัวจะได้โล่งขึ้น! แค่ครูสวยพูดกับโอ๋แค่นั้น ทุกคนก็เงียบหมด ( น่ากลัวจริงๆ!! ) ครูสวยหันมาหาแพนอีกครั้งหนึ่ง เอายัยแพนมาซ้อมได้แล้ว จะยืนเป็นสิ่งศักสิทธิ์ให้หนุ่มๆมาเต้นจั่มบ๊ะแก้บนรึไงยะ! มาๆๆ!!! ถึงจะดูว่าด่านิดๆ แต่ครูสวยก็พูดให้ติดตลกได้อย่างน่าแปลก ทุกคนเริ่มซ้อมอย่างขึงขัง
ในขณะเดียวกันไอ้สิทธ์มันก็ขอตัวกลับบ้านไปซะแล้ว ผมเลยต้องเป็นถ้ำมองคนเดียว เหอๆ ก็นะครับ...คนที่หน้าตาไม่ดี แถมยังทะลึ่งอย่างแรงเช่นผม ถ้าผู้หญิงที่ไม่เล่นหัวกันมาตั้งแต่เด็ก ก็มีแต่อาจารย์สาวๆแค่นั้นแหละครับ ที่มาติดใจผม ( มีเสน่ห์กับคนแก่ด้วยนะนิ! อิอิ ) แต่ถึงยังไงคนที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่เห็นครั้งแรกก็คือแพนนี่แหละครับ ผมนั่งมองแพนที่กระโดดตีลังกากลับหลังซะ 3 รอบ ทำเอาผมนั่งมึนอยู่ข้างสนาม ผมเป็นอย่างนี้อยู่ทุกวันครับ ไม่เคยมีวันไหนที่ผมไม่ได้มานั่งดูเธอกระโดดโหยงไปเหยงมา ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และแล้วก็เป็นเหมือนทุกวันล่ะครับ เดินกลับบ้านด้วยท่าทางดีใจเป็นยิ่งนัก แต่วันนั้นเป็นวันที่ผมหัวใจพองโตมากที่สุด...
เธอตรงนั้นน่ะจ่ะ..เธอนั่นแหละ เสียงที่ใสเหมือนแจกันกำลังรินน้ำออกนั้น ไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน ผมหันหน้าไปหาทันที สิ่งที่ผมเห็นเป็นภาพที่สวยจริงๆครับ สาวน้อยร่างบอบบางที่ชื่อแพน ยืนท่ามกลางแสงแดดยามเย็น ยอมรับเลยครับ..ว่าหน้าที่สดใส แถมยังทำแก้มป่องเหมือนงอนๆยังไงชอบก๊ล ชอบกล ใจผมเริ่มสั่นระรัว ผมค่อยๆหันไปหาเธอทั้งตัว เธอเดินมาใกล้ผมอย่างรวดเร็ว ยื่นหน้ามาใกล้ ทำให้ผมแทบใจสลายซะเดี๋ยวนั้น
เรียกแล้วเธอก็ไม่หันน่ะ หน้าชั้นไม่สวยขนาดเธอไม่มองเลยรึไง?!? เธอกล่าวเหมือนกวนๆผมนิดๆ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ละ..แล้วคุณเรียกผมทะ..ทำไมเหรอครับ? ถึงผมจะตะกุกตะกักไปซักหน่อยแต่ก็รอดมาได้ เธอยิ้มที่มุมปาก แล้วเอ่ยเบาๆ ชั้นเห็นเธอชอบมามองที่เชียร์ลีดเดอร์บ่อยๆน่ะ เธอชอบใครในนั้นรึไงจ๊ะ? อิอิ ระหว่างที่เธอกำลังถามนั้นเอง ไม่รู้มีตัวอะไรมากัดผมที่ขา ผมจึงอุทานออกมาอย่างดัง โอ๋ยยยย!!! เธอทำหน้าตะลึงพักหนึ่ง แล้วก็หลุดยิ้มออกมา ผมก็งงว่าเธอยิ้มอะไรหว่า? ฮะๆ!!...เธอชอบยัยโอ๋นี่เองเหรอจ๊ะ แหมๆ ไม่เห็นต้องตะโกนดังขนาดนั้นเลยนี่ อะ...อ้าวไหงพูดงี้ล่ะครับบ!! สงสัยตอนที่ผมร้องโอ๋ย เค้าคงได้ยินเป็นโอ๋ล่ะมั้งครับ ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะครับ จะบอกว่าชอบแพนผมก็ไม่กล้า ดังนั้น.. คะ..ครับบ ก็..ก็คนมันรักนิครับบ เลยพูดซะดังขนาดนั้นอ่า ผมก็ต้องได้แต่ตามน้ำไปเพียงเท่านั้นล่ะครับบบบ!! ( ซิกๆ! ) แพนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่ยิ้ม แล้วเดินจากไปเฉยๆ หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเซ็งสุดๆ ในใจผมคิดว่า ทำไมตูมีโอกาสบอกรักแล้ว ก็ไม่บอกให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปฟะเนี่ยยย?!? แต่จะมาคิดตอนนี้ก็เหมือนสายไปแล้วล่ะครับ ต้องรอดูพรุ่งนี้...ว่าเหตุการณ์มันจะดำเนินไปยังไงกัน วันรุ่งขึ้นผมไปที่โรงเรียนด้วยท่าทางไม่สบายใจอย่างทุกที เจ้าสิทธ์มันก็เดินมาถามผม
วิทย์เว้ยยย!! เป็นอะไรไปวะ ทำหน้าตาเหมือนกะอึออกมาก้อนเท่าขาช้างอย่างงี้ งั้นแกอยากทานขาชั้นซักข้างก่อนไหมล่ะ?!? ผมกล่าวก่อนจะยกเท้าขึ้น มันผงะตัวออกทันที..
วะ...วิทย์ ต้องมีผีเข้าสิงแกแน่ๆ ไอ้บ้าเอ๊ยย!! นี่แกเป็นอะไรไปวะ? มันถามผมขึ้น ผมจึงเล่าเรื่องเมื่อวานให้มันฟัง ฮะๆๆ!! ประสาทแล้ว!....ไอ้ลามกซุ่มซ่ามม เค้าเล่นพูดยังงั้น แล้วแกจะทำยังไงต่อไปล่ะวะ ฮะ!? มันหัวเราะซะดังทำเอาเพื่อนทั้งห้องหันมามอง แต่มันก็ไม่แคร์ ( เคยลองตบหน้ามัน แต่มันก็บอกว่าไม่เจ็บอ่ะงับ.. ) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ถ้ายังงั้นชั้นคงต้องจีบ... ปึ๊งงงง!!! ผมพูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงประตูห้องก็ดังขึ้น ปรากฏร่างของหญิงสาวสองนาง ทำเอาห้องผมที่มีแต่ผู้ชายทั้งห้องถึงกับค้างทำอะไรไม่ถูก ( ซึ่งท่านผู้อ่านคงจะพอเดานะครับ ว่าเป็นใคร? )
นี่ไงโอ๋...คนที่บอกว่ารักเธอน่ะ อิอิ คนที่มาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ เจ๊แพนแล้วก็เจ๊โอ๋นั่นเอง แถมยังบอกอีกว่าผมเป็นคนที่รักโอ๋ เพื่อนในห้องผมแทนที่จะเฮฮากลับเงียบฟังอย่างน่าแปลก โอ๋หันมามองหน้าผมช้าๆ ดูท่าเธอจะอายน่าดู เจ๊แพนมองไป มองมาสงสัยนึกรำคาญ ลากคอผมกับโอ๋มาติดกัน พวกเราหน้าแดงกันทั้งคู่ คนในห้องลุ้นระทึก
แล้วเธอล่ะโอ๋?...รักเค้าป่าว? แพนไม่รอช้าถามขึ้นทันที หน้าโอ๋ตอนดูใกล้ๆสวยมากๆครับ ผมสั้นเท่าติ่งหู ใบหน้าขาวเนียน แถมตอนอายยังหลับตาปี๋ แถมหน้าแดงอีก น่ารักมากมายครับบ!! เธออ่ำๆอึ้งๆนิดหน่อยก่อนที่จะหลุดคำพูดที่ทุกคนในที่นั้นคาดไม่ถึงออกมา...
ชะ...ชั้นก็ชอบคุณ ตะ..ตั้งแต่ที่คุณมานั่งข้างสนาม คะ..ครั้งแรกแล้วล่ะค่ะ!! เฮ้ยยยยย!!! ผมอยากจะกลับไปเกิดใหม่ซัก 20 รอบ คนที่สวยน่ารักขนาดพอที่จะเป็นดาวโรงเรียนได้เนี่ยนะ มาชอบไอ้เห่ยอย่างผม คิดแล้วขนลุกซู่เลยล่ะครับบบ! ตอนนี้ในหัวผมเบลอไปหมด ทุกคนในห้องต่างก็เฮฮากันใหญ่ มีแต่คนเชียร์ผมให้ตอบตกลงไปเลย ผมมองหน้าเจ้าสิทธ์ มันก็ส่ายหน้ายิ้มๆ ผมมองไปที่แพน แพนก็หันหลังไปซะแล้ว
ปะ..เป็นแฟนกับผมนะครับบบบบบบ คุณโอ๋!!! ผมไม่รู้แล้วครับ ในหัวผมคิดว่าสู้รักคนที่เค้ารักเราซะดีกว่า ผมเห็นหน้าโอ๋ที่หลับตาปี๋ ค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำตาคลอเบ้า ตก..ลง..ค่ะ เพียงแต่เธอตอบแค่นั้น พวกเพื่อนที่เฮฮากันมันไม่แค่แซวเปล่าๆ มันเล่นกระโดดมากอดผมหมดเลย ในที่สุดก็มีแฟนนะเว้ยย!! วิทย์.. โครตอิจฉาเลยว่ะ! โอ๋น่ารักขนาดนี้ อิอิ โชคดีเว้ยเพื่อนนน!!! มันมาแสดงความยินดีกับผมกันใหญ่ แพนก็กอดคอโอ๋พร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าให้ ทันใดนั้นเอง... เพี๊ยย!! เอาล่ะๆ! เจ้าหนูวัยคะนองทุกคนน !!! นั่งที่ได้แล้ว หรืออยากจะโดนไม้เรียว เสียวตุ๊ด..ฟะ?!? ครูสวยเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟาดไม้เรียวแช่น้ำมนต์ 7 วัด 7 วา ลงบนโต๊ะไม้อย่างแรง พวกผมวิ่งนั่งที่ยังกับนักกีฬาวิ่ง 100 เมตร เจ๊ทั้งสองคนก็ไม่รอช้าครับ โกยเถอะแพน!! เหอๆ... ครูสวยมองเหลียวหลังแพนและโอ๋ไป พร้อมกับทำหน้างงๆแล้วหันมาที่พวกผม
ยัยแพนกับยัยโอ๋มาทำอะไรที่ห้องนักโทษเดนตายอย่างนี้เนี่ย? เล่นพูดงี้มานักโทษเดนตายอย่างพวกผมก็ตอบไปอย่างโจ่งแจ้งเลยครับ นู๋โอ๋เค้าตกลงเป็นแฟนกับไอ้วิทย์เมื่อกี้เองครับ จารย์!!! มันจะตรงเกินไปแล้วม้างงง! เพื่อนผมพูดจบปุ๊บ ครูสวยหันมาปั๊บด้วยสีหน้าที่งงสุดๆ ( นึกภาพปลาจวดหันหน้ามาส่งจูบให้คุณในตู้ปลาดูซิครับ ) จริงรึเนี่ยยยย!!! ไอ้วิทย์ที่หน้าเห่ยๆ แล้วชอบไปนั่งเกาะอยู่ข้างสนาม ดูลีดเดอร์ซ้อมเนี่ยนะ ครูสวยกล่าวพร้อมกับเดินมาหาผม ทำเอาผมแทบเขวเลยทีเดียว แต่ครูก็เห็นบ่อยนะ ยัยโอ๋ตอนซ้อมชอบเหม่อลอยยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเค้ารักเธอจริง แล้วเธอก็รักเค้า...ครูยินดีด้วยนะ อย่าทำให้ยัยโอ๋ร้องไห้ล่ะ!! ครูสวยพูดแล้วจับไหล่ผมเบาๆ ทำให้ผมใจสงบลงขึ้นเยอะ ครูสวยทำให้ผมนึกถึงคุณแม่นะครับ.. ผมเอ่ยตามความรู้สึก แม่เธออายุเท่าไหร่จ๊ะ? คงจะอบอุ่นนะ แม่ผมอายุ 60 ครับ..อบอุ่นเหมือนครูเดี๊ยย!! ครูสวยทำหน้าเบี้ยวทันที ทั้งห้องฮากันใหญ่ แต่ครูสวยยกไม้ขึ้นเท่านั้นก็สยบกันหมด ( อีกตามเคย.. )
ตอนเย็น... ห้องผมมันก็ไม่ใช่ห้องเด็กแก่เรียน แก่ลมซักเท่าไหร่หรอกครับ! อยากให้มันเลิกเรียนเร็วๆเหมือนกัน และแล้ว... ก๋องๆ เสียงที่เหมือนกับระฆังแต่งงานนี่คือ เสียงเลิกเรียนของโรงเรียนของผมเองครับบ!! พวกผมเฮกันทั้งห้อง อาจารย์ถึงกับหน้าซีดรีบเดินออกจาห้องอย่างเร็ว ทำเอาพวกผมบอกกล่าวลาแทบไม่ทัน และแน่นอนครับ ในเมื่อผมได้ตกลงปลงใจเป็นสามี เอ๊ยย!! เป็นแฟนของโอ๋แล้ว มีรึ...คุณโอ๋จะไม่ทำหน้าที่แฟนที่ดี เธอเดินเข้ามาที่ห้องผมอย่างสุภาพ ทุกคนพร้อมใจกันร้องเพลงพร้อมกัน โฉมเอย..โฉมงามม! อร่ามแท้ แดจังกึม เย้ยยย!! แลตะลึง... ( เว่อร์ไปป่าวหว่า!.. นิยายเรื่องนี้ ) ผมได้แต่ยืนมองตาค้างพูดอะไรไม่ออก ในที่สุด..เธอก็ทำในสิ่งที่ทุกคนเข็มขัดสั้น ( คาดไม่ถึง ) ขึ้น!.... จุ๊บ.. เสียงออกมาชัดมากครับพี่น้องง!! ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มมากของโอ๋ สัมผัสกับแก้มที่สากยังกะหนังจระเข้ของผม ( อะไรจะขนาดนั้นน!! ) เธอก็หน้าแดง ผมก็แดงในแพ้กัน เพื่อนทั้งห้องก็อึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ คนที่มีฉายาว่า คุณหนูช่างแซว ความสามารถด้านกีฬาเก่งกว่าผู้ชายบางคนซะอีก ( เก่งกว่าคนเขียนอีกแน๊ะ!! เดี๋ยวก็ปั๊ด!!!...ตบจูบ ) ดั๊นน...มาจุ๊บผมต่อหน้าเพื่อนผมทั้งห้อง เราทำอะไรไม่ถูกไป 0.2 วินาที จนในที่สุด ผมก็จูงมือเธอวิ่งออกไปข้างนอกอย่างฉุกละหุก
ทะ..ทำไมอยู่ๆถึงมาจะ...จุ๊บผมล่ะครับ? ผมถามตะกุกตะกักเล็กน้อย หลังจากที่เราทั้งสองวิ่งออกมาจากห้องเรียน ก็...ก็คนมันชอบนี่คะ เธอก็ตอบแบบอายๆไม่แพ้กัน ทำเอาใจผมแทบต้องเอาแช่ตู้เย็น ( เดี๋ยวมันละลายครับบ เดี๋ยวละลาย อิอิ ) คิดดูภาพสาวน้อยร่างเล็กบอบบาง ผมสั้นสีดำเงางาม หน้าแดงเหมือนลูกตำลึงดูซิครับ!! มันช่างน่ารักจริงๆพี่น้อง ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดอะไรขึ้นมา รู้ตัวอีกทีมือเจ้ากรรมทั้ง 2 ข้างของผมมันก็ไปพาดกอดที่ไหล่ของหนูโอ๋เค้าซะแล้ว โอ๋หลับตาปี๋ ผมว่าเธอคงอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีเลยล่ะ ผมค่อยๆโน้มตัวลงไปสู่ใบหน้าที่แสนจะน่ารักของโอ๋ ริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มชุ่มชื้นเกินวัยของโอ๋ ทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่จะลิ้มลอง ขณะที่ผมกำลังจะบรรจงจุมพิตโอ๋อยู่นั้นเอง...
ตุ๊บ!! นิยายเรื่องนี้มันยังไงกันฟะเนี่ยย!! ชอบมีตุ๊บมีตั๊บตอนที่ตูกำลังมีเรื่องสำคัญอยู่เรื่อยเลย ผมหันไปทางเสียงนั้นทันที ภาพที่ผมเห็นคือคุณยายท่านหนึ่งทำของตกเกลื่อนพื้น แล้วก็กำลังเก็บอยู่ ด้วยความโมโหขาดสติผมเกือบจะเอ่ยปากว่ายายอยู่แล้ว แต่...คุณยายคะ หนูช่วยนะ! โอ๋ไปหาคุณยายท่านนั้น แล้วเก็บของที่ตกอย่างไม่ลังเล เธอทำให้สติผมกลับคืนมา ผมเกือบจะทำความชั่วแล้วไหมล่ะเนี่ย?!? ผมรีบเข้าไปช่วยโอ๋เก็บทันที
นี่ครับ / ค่ะ พวกเรากล่าวพร้อมกันหลังจากที่เก็บของที่ตกบนพื้นจนหมดแล้วส่งให้คุณยาย ขอบใจนะจ๊ะ พวกเธอเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจังนะ... คุณยายพูดแล้วก็จากไป ผมกับโอ๋มองหน้ากันและหัวเราะอย่างอายๆทั้งคู่ ผมก็เพิ่งรู้วันนี้นะครับ ว่าการได้ช่วยเหลือคนอื่นเนี่ย มันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง เพราะงั้น...ทำความดีไว้นะครับ พี่น้องง!!! ผมกลับมาบ้านพร้อมกับความสุขใจ และเสียใจนิดๆ เพราะพลาดโอกาสที่ได้จูบกับโอ๋ไปน่ะซิครับบบ แงๆ แต่ก็อย่างว่านะครับ สิ่งที่ได้กลับมาคือความสุขใจ มันก็คุ้มค่าแล้วนิ แหะๆ!!
หลายวันต่อมา...ขณะที่ผมกำลังจะนอนอยู่นั้นเอง... วิทย์โว๊ยย!! พ่อมีเรื่องจะคุยกับแกหน่อย มาหาพ่อทีดิ๊ คุณพ่อสุดจ๊าบวัย 38 ปีของผมเรียกอย่างแข็งขัน คร๊าบๆ ลงไปเดี๋ยวนี้แหละครับพ่อ โธ่...จะเรียกทำไมนักหนาหว่า?!? ผมมีบ่นเล็กน้อยก่อนที่จะเดินลงไปหาพ่อที่ห้องรับแขก ทันทีที่ผมมาถึงห้องนั้น ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง นั้นๆ..ถึงกับตัวแข็งเชียวนะแก คงไม่ได้แข็งแต่ตัวหรอกมั้งนะ!!!.. สิ่งที่ผมเห็นต้องหาว่าผมโม้แน่ๆ สาวน้อยอายุประมาณ 14 ปี หน้าตาขาวสวย ไว้ผมหน้าม้ายาวน่าจะถึงสะโพก หน้าอกแทบจะหกออกมาจากเสื้อนักเรียนของเธอเลยทีเดียว คุณผู้อ่านครับบ...อะไรมันจะน่ารักขนาดนี้ฟะ ผมทำอะไรไม่ถูกไปพักหนึ่ง ก่อนที่พ่อผมจะจับผมนั่งลงกับโซฟา
จะขอแนะนำให้รู้จักเลยแล้วกันนะ นี่ ขวัญ ลูกเพื่อนพ่อจากสุพรรณ แกน่าจะเคยเจอแล้วล่ะมั้ง? ตอนเด็กๆนะ เค้าจะมาเรียนต่อที่นี่น่ะ...เลยฝากฝังไว้กับพ่อ จะให้อยู่ที่บ้านเราซะเลยเป็นไง? พ่อหันมาทางผมแล้วถามอย่างไม่ทันให้ผมตั้งตัว ผมแทบจะลมใส่อยู่ตรงนั้น เธอหันมามองผมแล้วพูดอย่างตะกุกตะกัก... ขะ...ขวัญค่ะ ฝากเนื้อฝะ..ฝากตัวด้วยนะคะ พะ..พี่วิทย์ ใจผมบินว่อนไปทั่วห้องแล้วล่ะครับ!! เธอพูดแนะนำตัวแล้วเรียกชื่อผมอีกตังหาก พ่อบอกว่าเราเคยเจอกันตอนเด็กๆ ผมนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกซักที ( สมาธิสั้นนี่ครับบ ++ )
ตกลงว่าหนูขวัญนอนห้องพ่อ... ผมกับขวัญหันหน้าไปมองพ่อทำตาค้อน อ่ะ..เออล้อเล่นนน่า!....เอางี้นอนห้องแกก็แล้วกันนะวิทย์ อย่าเคลิ้มๆ แกลงมานอนข้างล่างโว๊ยย!! ไม่ใช่ให้ไปนอนกับเสือที่หิวสาวอย่างแก ผมจะทำตาหื่นนิดๆก็ไม่ได้ ท่าทางจะเป็นลูกเพื่อนที่พ่อสนิทมากคนหนึ่งครับ เพื่อนเยอะจริงนะพ่อช้านน!!!
คืนนั้นที่ห้องรับแขก ผมนอนอยู่บนโซฟาอย่างตาแดง ก็มันนอนไม่หลับนี่ครับ ไม่ได้ลงมานอนห้องรับแขกนานแล้ว มันก็เลยไม่คุ้นแล้วอีกอย่าง ดันมีสาว สวย หมวย เอ็กซ์ เด็กแนว มานอนที่บ้านนี่ซิครับ ปัญหาใหญ่เลยล่ะ!! ผมอดไม่ได้ค่อยๆย่องไปที่ห้องผมทันที ประตูล็อคก็ไม่ต้องกลัวครับ อิอิ ห้องผมผมก็ต้องมีกุญแจอยู่แว้ววว! ผมค่อยๆไขเข้าไปช้าๆ จริงๆก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรที่มันลามกหรอกนะครับ เพียงแต่ว่าอยากมาดูหน้าขวัญซักนิดก็พอ ในใจตอนแรกคิดยังงั้นแหละครับ พอเข้ามาในห้องนี่ซิ...เลือดกำเดาผมแทบจะพุ่งออกมาตรงนั้น ภาพที่ผมเห็นคือขวัญนอนแผ่สองสลึงอยู่บนเตียงที่ผมเคยใช้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนอน หรือว่า....ก็ตาม แล้วนอนไม่ใช่นอนธรรมดา หน้าอกที่อวบอึ๋มดั๊นน..หลุดหลุ่ยออกจากชุดนอนสุดวาบหวิวลายลูกไม้สีขาว ผมกลืนน้ำลายเสียงดังอึ๊กทันที ตอนนี้ความหื่นอยู่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วครับบ!! แต่ผมก็ยังท่องไว้ในใจว่า
ลูกเพื่อนพ่อเว้ยย!! ลูกเพื่อนพ่อ! ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับผมก็หุนหันพลันแล่นเข้ามาเกิดจนได้ ไม่รู้ว่าเพราะละเมอหรือจงใจ ท่อนแขนที่ขาวเนียนของหนูขวัญพับมาพาดบ่าของผมอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวๆแม่คุ๊ณณ!! ผมนึกในใจตอนที่เธอใช้แรงที่ไหนก็ไม่รู้ ดึงผมลงไปแนบกับตัวเธอ สติมันขาดหมดแล้วล่ะครับ!!!! ผมกำลังจะถอดเสื้อถอดผ้าอยู่แล้วเชียว.....หูผมก็ได้ยินเสียงขวัญที่ละเมอออกมาอย่างแผ่วเบา ขวัญรัก...พี่วิทย์นะ หา!!! ผมได้ยินเท่านั้นแหละครับ ผมหน้าซีด ขาชา ตัวแข็งแทบเป็นหิน ความหื่นมันก็หายไปหมดเลยครับ เสียงที่ขวัญพูดออกมา ผมรู้สึกได้เลยทีเดียวว่ามันแฝงไปด้วยความจริงใจ เธอเป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ และอีกอย่างผมก็งงอย่างรุนแรงที่เธอมาบอกรักอะไรกับผม ( ทั้งที่มันจะเป็นการละเมอก็ตามน่ะนะครับ... ) ผมค่อยๆแกะมือของเธอแล้วลุกออกไปจากตัวขวัญด้วยอาการใจลอยเต็มที่ ขณะที่ผมกำลังจะเดินผ่านบานประตูห้องนอนนั้นเอง
ทะ...ที่ขวัญพูด ขะ...ขวัญไม่ได้ละเมอนะคะ!! เสียงที่ดูเหมือนคุ้นหูมากๆ ผมค่อยๆหันหลังไปช้าๆ เหมือนกับกระถางต้นไม้เหี่ยวเฉามานานได้รับน้ำที่ชุ่มชื้นบริสุทธิ์จากสวรรค์ ( อะไรจะปานนั้นน!! ) สิ่งที่ผมเห็น บอกได้เลยครับว่าสวยมากๆ ขวัญยืนที่หน้าเตียงนอนของผมยามทอกับแสงจันทร์ที่นวลผ่องของดวงจันทร์ยามค่ำคืนผมคิดว่า เธอช่างสวยจริงๆ เฮ้ย...ใช่ ผมจำได้แล้วครับ สมัยผมเด็กๆผมเคยช่วยเด็กหญิงคนหนึ่งจากการถูกรุมแกล้งโดยเพื่อนๆของเธอ และในคืนนั้นเองเราก็...ลอยกระทงด้วยกัน ( อย่าแอบคิดลึกนะครับ ฮุฮุ! ) ความทรงจำในตอนนั้นมันผุดขึ้นมาในสมองอันน้อยนิดของผมทันที ยัย...ยัยสาวขี้แยคนนั้นเองเหรอเนี่ยย!?! ผมอุทานออกมาตอนที่ผมคิดเรื่องนี้ได้ เธอถึงกับตาโตน้ำตาขวัญก็พลันเอ่อล้นออกมาอาบแก้มที่ป่องๆของเธอ ขะ..ขวัญญ!! ผมพูดตะกุกตะกักอย่างเร็ว เมื่อนู๋ขวัญพุ่งเข้ามาสวมกอดตัวผมไว้แน่น กลิ่นกายที่หอมนวลของเธอเหมือนกับดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งสวน นะ..หนูไม่ได้ต้องการให้พี่รับความรู้สึกของหนูหรอกนะคะ ตะ..แต่ก็อยากให้พี่รู้ไว้ว่า หนูรักพี่ รักแต่พี่ แล้วก็รักมานานแล้วด้วยย!! แม่คู๊ณณณ!! อะไรจะพูดขนาดนั้น ใจผมละลายไปอยู่กับพื้นห้องแล้วล่ะครับ
ทันใดนั้นเอง วิทย์คะ.. เสียงเรียกชื่อผมพร้อมกับใบหน้าของโอ๋มันลอยขึ้นมาในหัวผม ผมรีบผละตัวออกจากขวัญทันทีทันใด ขวัญ คือพี่...พี่มีแฟนแล้วน่ะ ขะ...ขอโทษด้วยนะ! อยู่ๆความซื่อสัตย์ของผมที่มีต่อโอ๋มันก็เอาชนะความลามกได้อย่างสิ้นเชิง ขวัญตาโตขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนกับตกใจ เพียงเล็กน้อยเธอหลับตาคู่นั้นลงแล้วยิ้มออกมา โธ่..หนูก็รู้ล่ะค่า!! ว่าพี่ต้องมีแฟนแล้ว เพียงแต่หนูก็อยากบอกไปแค่นั้นเอง อกหักก็ช่างมันซิ เนอะ! เนอะ! ใบหน้าเธอดูยิ้มแย้มมากแต่ดวงตาของเธอดูเศร้ามาก ผมก็รู้น่ะนะครับว่าคนที่อกหักคงไม่ได้มายืนยิ้มโชว์ฟันขาวปิ๊งตรงหน้าคนที่หักอกหรอก เออ..คือ.. เข้านอนได้แล้วมั้งคะ? พี่วิทย์ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนได้นะคะ อิอิ ตอนที่ผมกำลังจะแก้ตัวออกไปเธอก็พูดตัดบทผมซะก่อน ผมจึงยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องอย่างเสียใจไม่แพ้ขวัญเลย
รุ่งเช้า ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความงัวเงียเต็มที่ เนื่องจากเมื่อคืนก็ไม่ได้นอนอ่ะนะครับ ( มัวแต่คิดเรื่องของขวัญอยู่น่ะครับ แหะๆ!! ) แต่ก็นะครับ...เธอก็คงคิดมากกับเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย ที่โต๊ะทานข้าว บรรยากาศก็ดูธรรมดาจนน่าแปลก ขวัญเธอก็นิ่งซะเหลือเกิน คุยโน่นจ้อนี่จนนึกไม่ออกเลยว่าเมื่อคืนผมหักอกเธอมา ( พูดเหมือนพวกหลงตัวเองยังไงชอบกลนะผม ) ผมว่าพ่อคงสงสัยมั้งครับที่ผมเอาแต่เงียบๆไม่เหมือนปกติ เลยเอ่ยถามขึ้น..
เฮ่ย!!...ไอ้วิทย์ แกจะนิ่งเงียบ เหมือนโดนตะเกียบเสียบตูดทำไมฟะ? คุยซิคุย... เออ ไอ้นี่ พ่อโวยผมเล็กน้อย ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับขวัญ เธอไม่ได้ทำสายตาเศร้าหมองเหมือนอย่างที่ผมเห็นเมื่อคืนซักนิดเลยครับ ขวัญทำหน้าทำตาทะลึ่งทะเล้นอย่างเคย ผมเห็นแล้วถึงกับงง
นี่ไม่เศร้าซักนิดเลยรึไงฟะเนี่ย?!? ผมพลันคิดในใจอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เศร้า เราก็อย่าเศร้าซิเฟ้ย จะมานั่งเศร้าให้มันได้อะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ แล้วอีกอย่างยังมีหนูโอ๋รอตูอยู่ที่โรงเรียนนี่ ไหนๆเมื่อคืนก็ตัดใจบอกไม่เอาขวัญแล้วนี่ ยิ้มซิ..ยิ้มม!!! ป่ะ...ไปเรียนกันได้แล้วยัยขวัญ!! ทันทีที่ผมทานข้าวเสร็จผมก็จูงมือขวัญออกไปทันทีอย่างไม่อายสายตาพ่อ ขวัญก็ดูจะมึนนิดๆเหมือนกัน
ที่โรงเรียน ทุกสายตาเหมือนจะจ้องมาที่ผม บรรยากาศก็เหมือนจะอึมครึมแต่เช้า ด้านซ้ายผมมีโอ๋ สาวน่ารักแห่งโรงเรียนอีกคนหนึ่ง และที่แน่ๆเธอคือแฟนผม ด้านขวามีขวัญนักเรียนใหม่ใสกิ๊ก และยังเป็นผู้ที่แอบชอบผมอีกด้วย ขณะนั้นเอง ฮะ...เฮ้ย วิทย์ แกคิดจะควงสองไม่อายใครในโรงเรียนเลยรึอย่างไรกันน่ะ ไอ้สิทย์แหวกฝูงชนเดินเข้ามากระซิบข้างหูผม พร้อมกับออกสำเนียงภาคใต้ตามถิ่นบ้านเกิดของมัน ( มันอยู่ที่พัทลุงครับ ^^ )
คนนี้อ่ะ...ชื่อขวัญ เป็นเพื่อนกะชั้นตั้งแต่สมัยเด็กๆ พ่อฝากให้ดูแล เทคแคร์อย่างดี ไม่งั้นพ่อเอาตี-นมายัดปากชั้นแน่ ผมถือโอกาสแนะนำขวัญให้เจ้าสิทธ์รู้จักซะเลย แล้วรีบหันไปหาโอ๋ที่ดูเหมือนจะงอนผมอยู่
โอ๋จ๊ะ โอ๋จ๋า... ผมพูดลากเสียงเล็กน้อย คล้ายกับจะอ้อนเธอดู โอ๋ก็ยังทำแก้มป่องอีกนั่น ไม่ต้องมาอ้อนเลย! พาผู้หญิงทีไหนมาด้วยห่ะ...ชั้นเป็นแฟนคุณนะยะ!!! เราก็คบกันมาเกือบอาทิตย์แล้วนะคะ! แล้วอีกอย่าง...ชั้นก็รักคุณมากด้วย!! เธอปล่อยว๊ากมาเล็กน้อย ผมก็ต้องรีบอธิบายล่ะครับ นี่นะน้องคนนี้ชื่อ ขวัญ เป็นลูกเพื่อนของพ่อ เค้ามาพักอยู่ที่บ้านผมเอง เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็เหมือนเป็นพี่น้องกันนั่นแหละ ใช่ไหมขวัญ? ผมหันขวั๊บไปทางขวัญทันที ภาพที่ผมเห็นอะไรรู้ไหมครับ? ผู้ชายมารุมเธอเต็มไปหมด
ผมรีบวิ่งเข้าคว้ามือเธอไว้ แล้วพยายามดึงออกมาจากฝูงชนที่รุมทึ้งเหมือนแร้งรุมเหยื่อยังไงยังงั้น แต่หินเจ้ากรรม มันดั๊นน!!...ทำให้ขวัญล้มลงมาทับผม จุ๊บ! ทับไม่ทับเปล่าริมฝีปากที่นุ่มนวลของเธอมาประกบกะปากของผมซะงั้นน ซ้ำร้ายโอ๋ก็เดินมาเห็นอีก ชีวิตจบกันผมม!!!! ในห้องเรียน ผมนั่งเหมือนวิญญาณออกจากร่าง คนทั้งโรงเรียนคงกำลังเม้าส์เรื่องผมกันสนุกปากล่ะมั้งเนี่ย หันไปทางไหนเพื่อนมันก็ตั้งใจเรียนผิดปกติ ไม่รู้จะหันไปคุยกับใครดีแล้ว
เฮ้ย!..วิทย์ ทำหน้าซักกะตายอะไรขนาดนั้นวะ ผีเข้ารึไง? หัดตั้งใจเรียนเหมือนคนอื่นเค้าบ้างดิ๊!!! ครูสวยหันหน้าออกมาจากกระดานมาตวาดผมทีหนึ่ง ผมก็ยังไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ ครูสวยเหมือนจะมองผมอีกที คงทนไม่ไหว เดินเข้ามาหาผมทันที
ครูว่าเธอต้องทะเลาะกับโอ๋มาใช่ไหมเนี่ย? โธ่..อย่าคิดมากไปเลยน่า ชีวิตคู่มันก็เหมือนลิ้นกับฟันนั่นแหละ นะ เจ๊สวยเธอเดินเข้ามาจับไหล่แล้วปลอบผม ผู้หญิง? ก็เหมือนลิ้น.. ผู้ชายล่ะครับ? เอ้า..ก็ฟันซิ รออะไรวะ!?! ทันใดนั้นเสียงฮาก็เกิดระงมขึ้นทั้งห้อง ผมก็อดขำไม่ได้ จึงปล่อยก๊ากออกมาเหมือนกัน
เห็นม๊า? ยิ้มแล้วๆ ยังไงวันนี้ก็ไปขอโทษโอ๋ซะนะ เค้ารักเธอนี่ คงรอให้เธอไปง้ออยู่แน่ๆ เชื่อครู.. ครับบ!!! ผมตอบอย่างมั่นใจ รับรอยยิ้มของเพื่อนทุกคนรวมทั้งคุณครูสวยด้วย
เย็นวันนั้น ผมรีบเดินไปหาโอ๋ที่ห้องอย่างทันที พะ..แพน โอ๋ไปแล้วเหรอครับ? ผมมองไม่เห็นโอ๋อยู่ในห้องเลย จึงเอ่ยถามแพนออกไป เธอมองซ้ายมองขวา อืม...คงไปแล้วล่ะ เดี๋ยวชั้นว่าจะหาโอ๋หน่อย เราเดินตามหาโอ๋ด้วยกันม่ะ? แพนถามขณะเก็บของยัดใส่กระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่ของเธอ ผมอ้ำๆอึ้งๆอยู่พักหนึ่งก็ตัดสินใจ
ได้ครับ.. หลังจากที่ผมตอบได้ไม่นาน เราก็เดินไปหาขวัญกันที่ห้อง ขวัญญ กลับบ้านได้แล้วเว้ยย!! ไม่งั้นไม่รอจริงๆด้วยนะ ผมพูดตะโกนเข้าไปในห้องโดยไม่เปิดประตู วันนี้พี่วิทย์กลับไปก่อนเถอะค่า! หนูมีงานต้องทำกับเพื่อนอีกนิดหน่อยอ่ะ เธอตะโกนตอบออกมาอย่างไว ผมก็เลยไม่เป็นห่วงอะไร ผมกับแพนก็รีบวิ่งไปหาโอ๋ทันที
โอ๋อ่ะ บางครั้งก็ชอบมารอรถเมย์ที่ป้ายหน้าโน้นน่ะ.. ระหว่างที่ผมเดินผ่านประตูโรงเรียนแพนก็พูดออกมา ผมก็หันไปหาเธอ งั้นเราก็รีบไปกันเถอะครับ...ผมมีเรื่องที่เข้าใจผิดกับแพนอยู่น่ะ ถ้าไม่ขอโทษวันนี้รับรองหัวผมระเบิดแน่ๆ รีบเดินหน่อยซิแพน!! ผมเริ่มหัวเสียนิดๆเมื่อน้องแพนเธอเดินช้าเหลือเกิน จ้าๆ รีบแล้วๆ อุตส่าห์อยากเดินด้วยกันนานๆแท้ๆอ่ะ เธออุทานออกมา ผมฟังไม่ค่อยถนัด อะไรนะแพน ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะ ไม่มีอะไรหรอกน่า!! รีบเดินเถอะ เดี๋ยวรถเมย์ออกไม่ได้ขอโทษโอ๋จริงๆด้วยนะเอ้า!!!!! แพนรีบตัดบท ขณะที่ทั้งสองมือผลักผมไปข้างหน้าจนผมแทบหัวทิ่มพื้น
ป้ายนี้แหละ...อืมๆ..เฮ้ย! นั่นไงโอ๋! โอ๋!! พวกเรามาหยุดที่ป้ายรถเมย์แห่งที่ใกล้โรงเรียนเรามากที่สุด แพนมองหาโอ๋ พอเห็นปุ๊บ เธอก็เรียกแฟนของผมทันที โอ๋หันมาทางแพน แล้วโบกมือมาให้ แต่พอเธอหันมาเจอผมก็นั่งลงกับม้านั่งทันที แม่นี่ทำไมงอนนานอย่างงี้เนี่ย!!!
โอ๋!!! เมื่อเช้าน่ะ ผมขอโทษน้าๆๆ!!!! ผมตะโกนไปทางป้ายรถเมย์ที่โอ๋อยู่ โดยไม่กลัวสายตาชาวบ้าน โอ๋หันซ้ายหันขวาเห็นคนมองกันเต็มเลยลุกขึ้นทำตาเขียวใส่ผม
ตาบ้าๆๆ!! ตะโกนทำไมยะ?! อายคนอื่นเค้าเป็นไหมม?!!!! แม่คู๊ณณณ! เธอก็ดันตะโกนกลับมาบ้างซะงั้น ผมก็แอบยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะตอบกลับไป
อายทำไม?!! คนเยอะแยะ!! แล้วอีกอย่าง...ถ้าผมไม่ได้ขอโทษคุณ ผมก็ยิ่งอายเพื่อนผมที่มันเชียร์เราอยู่ด้วยนะครับบบบ!!!!! โอ๋เริ่มสายตาอ่อนลงบ้าง พร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ผู้คนที่อยู่แถวๆนั้นก็ปรบมือกันใหญ่ ( คงสงสัยว่าไอ่คู่รักคู่นี้ มันติ๊งต๊องจริงๆ!! )
เดี๋ยวชั้นจะเดินไปหาเธอด้านโน้นนะ!! โอ๋ตะโกนกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง ท่าทางโอ๋จะหายโกรธเธอแล้วนะ ดีใจด้วย... แพนกล่าวด้วยท่าทางยิ้มๆ แต่ผมก็สังเกตแววตาของเธอดูเศร้ายังไงบอกไม่ถูก ผมหันกลับไปทางโอ๋ เดินข้ามทางม้าลายดีๆนะครับบบ!! ผมป้องมือตะโกนไปหาเธออีกที
อืม!! คงไม่มีใครขับรถพุ่งใส่ทางม้าลายตอนคนข้ามหรอก.........................................................................
ปึ๊งงงงงงงงงงงง!!!!! มันเกิดขึ้นในชั่วพริบตา...รถกระบะขนเหล็กพุ่งมาด้วยความเร็วสูง กันชนหน้าประทะกับร่างของคนที่ผมรักมากที่สุดอย่างเต็มแรง ...ร่างของโอ๋ที่เคยยิ้มให้ผม....เคยจูบผม...เคยกอดผม กระเด็นออกไปไกลกว่า 2 เมตร.....
โอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เสียงตะโกนดังลั่นของผมและแพนดังไปทั่วบริเวณนั้น ผมวิ่งไปคว้าร่างของโอ๋ที่เต็มไปด้วยเลือด น้ำตาที่เก็บไว้ตลอดหลายปี ได้พลั่งพลูออกมาท่วมแขนที่โอบกอดโอ๋ไว้ ใครก็ได้!!! ...ฮืออออ! ใครก็ได้ระ..เรียกรถพยาบาลที!!!!! ผมตะโกนไปทางบรรดาไทยมุงที่มามุงกัน ผมหันไปมองหน้าของโอ๋ เธอ..เธอลืมตาขึ้นมา พร้อมกับรอยยิ้มที่เธอพยายามทำอย่างเต็มที่
อะ...โอ๋ คะ...คุณต้องไม่...ไม่ตายนะครับ ฮืออ!! ผมรักคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ ได้ยินไหมว่าผมรักคุณน่ะ!!! อย่าตายนะโอ๋!!!!! ผมกล่าวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจนแทบจะกลายเป็นสายเลือด โอ๋ค่อยๆเอื้อมมือมาจับหน้าผมช้าๆ เป็นภาพที่ผมไม่อยากจะให้เกิดขึ้นในชีวิตผมเลย
ว...วิทย์คะ..ชะ...ชั้นก็ร..รักคุณนะ..เธอพยายามพูดในลมหายใจสุดท้ายของเธอ ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้วน่า!!! แต่คุณต้องอยู่กับผมต่อไป เข้าใจไหม? หาๆๆ!! ผมพูดเพื่อให้โอ๋มีพลังที่จะรอ จนกว่ารถพยาบาลจะมา
ชะ..ชั้น ดีใจทะ..ที่คุณอยู่เคียง...เคียงข้างชั้นจะ..จนวินาทีสุดท้าย ตะ...แต่สัญญาอะไรได้ ไหม? โอ๋พูดตะกุกตะกักพลางไอไปด้วย ผมยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น ผมได้ยินเสียงผู้คนที่มามุงดู...ร้องไห้ มันเศร้ามาก ได้!! ได้โอ๋!!
มี...มีความสุขเผื่อ ชะ...ชั้นด้วยนะ....คะ ทันทีที่เธอพูดจบพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ตาเธอค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ พร้อมกับความเสียใจที่เอ่อล้นออกมาจากตัวผม ผมเอื้อมมือไปสัมผัสลมหายใจของเธอ แต่เธอกลับ...ไม่หายใจแล้ว
ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!! โอ๋จากพวกเราไป...ตลอดกาล
งานศพโอ๋ถูกจัดขึ้นที่วัดในตัวเมือง ทั้งคุณครูและนักเรียนเกือบทุกคนมาร่วมงานในวันเผาศพของโอ๋ ทุกคนเศร้ามาก ทั้งครูสวย ไอ้สิทธิ์ แพน แล้วก็ผม ผมเฝ้ามองรูปของโอ๋ที่อยู่บนเมรุอย่างสิ้นหวัง เธอจากผมไปจริงๆเหรอเนี่ย!!...ถึงเราจะคบกันได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ตาม ถึงตอนแรกผมจะไม่ได้รักเธอ แต่หลังจากที่ผมคบกับโอ๋ มันทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จนวันนี้ผมรู้ว่า ผมรักโอ๋...จากใจจริง
ไอ้วิทย์...คนร้ายที่เมาเหล้าแล้วขับรถชนโอ๋น่ะ ถูกจับแล้วนะ โอ๋คงขึ้นสวรรค์ได้อย่างหมดห่วง ไอ้สิทธิ์เดินมาจับไหล่ผมพร้อมกับแพนที่มาในชุดดำยาว
เราได้สูญเสีย นักเรียนที่มีทั้งความมุ่งมั่น...ความอดทน และความรักที่มั่นคง... คุณครูสวยเป็นตัวแทนเหล่าคุณครู ได้กล่าวไว้อาลัยแด่โอ๋ พชรพรเป็นเด็กสาวที่...แม้แต่วินาทีสุดท้าย เธอ....เธอก็ยังอยากจะให้คนที่รักมีความสุข นะ...ในนามของโรงเรียน ดิฉันขอไว้อาลัย...นางสาว พชรพร ดิเรกศิลป์ ค่ะ ทันทีที่ครูสวยกล่าวจบ มีบุคคลหลายๆท่านร้องไห้ออกมา รวมทั้งครูสวยด้วยเช่นกัน
ในลำดับต่อไป ขอเชิญตัวแทนนักเรียนขึ้นมากล่าวคำไว้อาลัยด้วยครับ ขอเชิญครับ... บุคคลที่ผู้บรรยายเชิญขึ้นบนแท่น ก็คือผมเองครับ ทุกคนต่างให้ผมเป็นตัวแทนของนักเรียนทุกคน กล่าวคำไว้อาลัยให้โอ๋
กราบสวัสดีทุกท่านที่มาเป็นเกียรติในพิธีประชุมเพลิงศพของนางสาวพชรพร ดิเรกศิลป์ หรือว่าโอ๋ของพวกเราทุกคน.. ผมไม่มีสคริปอะไรเลย ที่ผมพูดทุกคำ มันเอ่อล้นออกมาจากใจทั้งสิ้น สาวน้อยที่ชื่อว่าโอ๋ ผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักเธอหรอกนะครับ เธอเป็นเด็กสาวที่น่ารัก สดใส บางครั้งอ่อนหวานเหมือนผ้าพับไว้ ตอนแรกผมก็รู้แค่ว่าเธอเป็นอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่...หลังจากผมได้รู้จักกับโอ๋อย่างจริงจัง มันทำให้ผมหลงรักเธอ โอ๋ใจดีกับทุกคน แม้แต่คุณยายที่โอ๋ไม่รู้จัก ทำของตก เธอก็เข้าไปช่วยอย่างไม่รีรอ ผมดีใจ..ดีใจที่เกิดมาพบ...แล้วก็รักโอ๋ ขอบคุณครับ... ผมต้องรีบลงแล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้นผมคงปล่อยโฮออกมาแน่ๆ ผม ไอ้สิทธิ์ แล้วก็แพน พวกเราสามคนกอดคอกันร้องไห้อยู่ข้างหลังแท่นพิธี
พวกเราทุกคนก็ส่งพี่โอ๋เรียบร้อยแล้วซินะคะ ขวัญกล่าวกับพวกเรา ขณะมองกลุ่มก้อนควันที่ส่งโอ๋ไปสู่สวรรค์อย่างสงบใจ
หลายอาทิตย์ต่อมา ที่สนามบอล ผมเล่นเป็นผู้รักษาประตู พวกเราเล่นทีมกันระหว่างห้อง 3 ที่มีแพนเป็นผู้จัดการทีม กับห้อง 9 ของผม ซึ่งมีไอ้สิทธิ์เป็นกุนซือ
เฮ้ยๆ!! ยิงมาๆ อุ๊บบ!!!! ผมพูดท้าทายเล็กน้อย ก่อนที่เจ้ามิกค์ดาวยิงประจำห้อง 3 จะวิ่งมาซัด แต่มันไม่ห่างตัวเท่าไหร่ ผมก็ปัดบอลออกไปได้หวุดหวิดเหมือนกัน
555+ นี่แหละเว้ยย!! รู้จักเปล่า? พอล โรบินสั้น อ่ะ อิอิ ผมใช้มุขตลกกลบเกลื่อนความเจ็บมือที่เซฟลูกเมื่อกี้ออกไปได้ มิกค์มันมามองดูที่หว่างขาผม เออ..สั้นจริงๆว่ะ เหอๆ!! ฮาจริงนะแกๆๆ!!! พักดื่มน้ำหน่อยเถอะพวกเรา!!! ผมตะโกนบอกทุกคนแล้วหยอกกับมิกค์อย่างเมามันส์
ช่วงนี้เจ้าวิทย์มันดูร่าเริงขึ้นเยอะเลยนะ คุณแพน ระหว่างที่ผมหยอกไอ้มิกค์เล่นก็ได้ยินไอ้สิทธิ์มันพูดกับแพน ผมเดินมาหาพวกเค้าแล้วนั่งลงข้างๆแพน จำไม่ได้เหรอแพน ก่อนไปโอ๋พูดว่ายังไง?.. แพนหันมามองหน้าผม มีความสุขเผื่อชั้นด้วยนะ... ผมกับแพนพูดพร้อมกันแล้วก็ยิ้มอย่างเศร้าๆ ผมเหม่อมองไปบนฟ้าที่มีสีฟ้าสวยงามและสุดลูกหูลูกตา
โอ๋คง...กำลังยิ้มให้เราแน่ๆเลยเนอะ แพน ไอ้สิทธิ์ พวกเราทั้งสามมองขึ้นไปบนฟ้าที่สดใส ราวกับรอยยิ้มที่โอ๋มีให้พวกเราทุกคน
ตอนเลิกเรียน อยู่ๆแพนก็มาหาผม แล้วลากผมไปคุยด้วย วิทย์...มากับชั้นหน่อย มีเรื่องจะพูดด้วย พอมาถึงบริเวณหลังสนามบาสเปลี่ยวคนเธอก็เอ่ยขึ้น
เมื่อวานนี้ คุณแม่ของโอ๋เค้าเอาไดอารี่ที่โอ๋เขียนมาให้ชั้น เพราะว่าในนี้..มีเรื่องของเธอ..กับชั้นอยู่ แพนยื่นไดอารี่ปกรูปหัวใจสีแดง ไม่มีรอยยับเลยซักนิด คงจะพยายามเขียนอย่างทะนุถนอมแน่นอน เธอยื่นไดอารี่ให้ผมดู
ผมค่อยๆเปิดอ่านมันอย่างช้าๆ
วันที่ 21 พฤษภาคม 25xx
ชั้นเห็นผู้ชายคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆอยู่แถวๆที่พวกเราซ้อมเชียร์ลีดเดอร์กันด้วยอ่ะ หน้าตาเค้าก็ใช้ได้นะ แต่คงเป็นพวกโรคจิตแหงๆเลย!!
วันที่ 26 พฤษภาคม 25xx
ชั้นเห็นตาคนที่ถ้ำมองอยู่ข้างสนามซ้อมทุกวัน เล่นบอลตอนเที่ยงด้วยแหละ รู้สึกจะชื่อวิทย์นะ แค่เล่นเก่งน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พอเวลามีคนล้มปุ๊บ ตาวิทย์ก็พุ่งเข้าไปหาคนที่ล้มปั๊บโดยไม่สนใจลูกบอล แหม..เป็นพ่อพระเกินคาด ( แต่ก็เท่นิดๆนะ แหะๆ )
วันที่ 29 พฤษภาคม 25xx
หา!! ไม่จริงน่า วิทย์คนนั้นเค้าชอบชั้นงั้นเหรอ? ยัยแพนมาบอกชั้นเองล่ะ เห็นบอกว่ารักมากด้วย ว๊ายย!! ทำไงดีเนี่ย เราก็เริ่มจะชอบเค้านิดๆแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องไปหาวิทย์ด้วย ทำไงดี ไดอารี่จ๋า!!!!
วันที่ 30 พฤษภาคม 25xx
ดีใจที่สุดเล้ยยยย!!! ชั้นได้เป็นแฟนกับวิทย์ด้วยล่ะ สงสัยต่อไปคู่เราต้องหวานกันมากแน่ๆ อ่อ...ลืมไปชั้นเกือบจะได้จูบกับวิทย์ด้วย!! อิอิ แต่เราสองคนเห็นคุณยายที่ทำของตกก็เลยช่วยกันเก็บ ความสัมพันธ์เราดีมากๆเลย
ผมอ่านไดอารี่อย่างมือสั่น ผมกลั้นน้ำตาไว้แทบจะไม่อยู่ โอ๋รักเรามากขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย เธอ...เธอดีใจที่ได้เป็นแฟนกับเรามากเลยเหรอเนี่ย?!?
ลองดูบันทึก วันสุดท้ายของโอ๋ซิวิทย์ แพนกล่าวกับผม ตาของแพนบวมแดงไม่น้อย สงสัยจะผ่านการร้องไห้มาแน่ๆ ผมเปิดไปดูไดอารี่วันสุดท้ายของโอ๋ มันอยู่หน้าถัดไป ผมอ่านแล้วยิ่งทำให้ผมร้องไห้แล้วเข่าอ่อนขึ้นทันที
วันที่ 5 มิถุนายน 25xx
คบกับวิทย์เค้ามาได้เกือบอาทิตย์แล้วนะ ไดอารี่จ๋า... ตอนแรกก็คิดว่าหมอนี่คงเป็นคนบ้าๆบอๆตลอดล่ะมั้ง? แต่ไม่ใช่เลย เค้าเป็นคนที่ถึงจะเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่ก็พยายามเทคแคร์ชั้นอย่างดี เป็นคนอบอุ่น ไม่ขี้เก๊ก และที่สำคัญ เค้ารักชั้นมาก ชั้นรู้สึกยังงั้น คิดงั้นไหม? ไดอารี่จ๋า! แต่..ถ้าชั้นเกิดเป็นอะไรไปจริงๆ ก็อยากฝากให้แพนดูแลตาวิทย์เหมือนกัน เพราะยัยแพนอ่ะ ตอนที่มาบอกชั้นว่าวิทย์ชอบชั้น ยัยนี่ก็ทำหน้าเหมือนเศร้าๆยังไงบอกไม่ถูก แต่เอาเถอะจ่ะ...ถ้าวิทย์มีความสุข โอ๋ก็ไม่สนอะไรแย้ววว!!!
ทันทีที่ผมทรุดตัวลงกับพื้น แพนก็โผเข้ากอดร่างของผมทันที ผมถึงกับตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก
ชั้นรู้...ชั้นรู้ว่าชั้นแทนโอ๋ไม่หรอกนะ ตะ...แต่ว่า ชั้นจะดูแลเธอเอง ฮืออ!!...ไม่ใช่เพราะว่าโอ๋ขอร้องหรอกนะ แต่เพราะ... สายตาของแพนดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ผมแทบจะอดใจไม่ไหว เพราะชั้น...รัก...ขณะที่แพนกำลังจะเอ่ยคำใดออกมา ในสมองผมก็ผุดภาพของโอ๋ขึ้นมา ผมจึงผลักแพนออก
ชะ...ชั้นแทนโอ๋ไม่ได้จริงๆซินะ...!! แพนพูดพลางนำมือที่อ่อนนุ่มของเธอเช็ดที่น้ำตาที่ดวงตาคู่นั้นพลันวิ่งออกไปอย่างเร็ว แพนน!! เดี๋ยวว!!! ผมพยายามจะตะโกนเรียกแพนแต่ก็ไม่ทัน เธอเหมือนวิ่งไปลับตาผม จนผมไม่สามารถไขว่คว้าได้
ปึ๊งง!! ทันทีที่ผมกลับถึงบ้าน ผมล็อคประตูแล้วอยู่ในห้องอย่างใจลอย ผมต้องเสียทั้งโอ๋ที่ผมรักมาก แล้วก็เสียแพนคนที่พยายามจะดูแลผมอย่างเต็มที่ ผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วว!! ตอนที่ผมคิดอะไรไม่ออกนั้นเอง
ก็อกๆ! เสียงเคาะประตูห้องผม ผมหันไปทางเสียงนั้นทันที เข้ามาซิ...ประตูล็อคอยู่ ล้อเล่นน่า! เชิญเข้ามาซิ ผมมีติดมุขตลกเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวเชิญเข้ามา
ไงคะพี่? หนูขอนั่งนะคะ ขวัญนั่นเอง..อยู่ๆไม่รู้คิดยังไง หลังจากที่ได้ห้องของตัวเองแล้ว ก็ยังมานั่งเล่นห้องผมอีก ชั้นมีความรู้สึกว่า พี่กำลังไม่แน่ใจอะไรบางอย่างนะคะ? เหมือนจี้ใจดำผม ขวัญพูดถูกเหมือนกัน พี่กำลังไม่แน่ใจว่า จะเลือกพี่โอ๋ คนที่พี่รักมากกๆ แต่เธอไปในที่ที่มีความสุขแล้ว หรือว่าจะเลือกพี่แพน สาวแสนน่ารักที่อยู่ข้างๆพี่ตลอด ยังงั้นใช่ไหมคะ? ยัยนี่เป็นหมอดูรึไงวะเนี่ย?!? รู้ไปซะทุกเรื่อง ทำไมเธอถึงรู้อ่ะ? ผมถามเธออย่างสงสัย
อย่าดูถูกเซ้นผู้หญิงนะคะ...อีกอย่าง พี่แพนก็โทรมาหาหนูก่อนที่พี่จะกลับ แล้วก็เล่าเรื่องให้หนูฟังหมดแล้ว มิน่าถึงรู้ดีจังแม่คุณณณ!! แล้วเธอว่าพี่ ควรจะทำยังไงล่ะ? ผมเริ่มจะขอความคิดเห็นจากเธอบ้างเล็กน้อย ขวัญทำหน้าเหมือนเซ็งๆ พี่คะ!! หนูไม่ใช่พี่นะ พี่ต้องตัดสินใจเอาเอง!!! ใจมันก็ใจของพี่ ถ้าพี่เลือกพี่โอ๋มันก็คือความพอใจของพี่ หรือถ้าพี่เลือกพี่แพนมันก็คือหัวใจพี่เรียกร้อง เพราะฉะนั้น...เดินตามเสียงหัวใจของพี่เถอะค่ะ!!!!! ประโยคที่เธอตวาดใส่ผม มันทำให้ผมได้คิดแล้วก็ตาสว่างทันที
ขอบใจมากนะขวัญ! ขอบใจเธอมากกก!!! ผมตบไหล่ขวัญพร้อมกับรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้ คือไปที่บ้านแพน ตอนนี้น่าจะทันรถเที่ยวสุดท้ายนะเนี่ย?!!! ผมรีบวิ่งสุดชีวิตไปที่ป้ายรถเมย์สายประจำของแพน ซึ่งเธอจะกลับรถเมย์สายนี้ทุกวัน ไม่ไหวแล้ววว! ผมทรุดตัวลงนอนแผ่กับพื้นด้วยความเหนื่อย ขณะที่ผมหลับตาอยู่นั้นเอง...
มานอนทำซากอะไรตรงนี้ยะ พ่อหนุ่มมือโกล... เสียงที่ผมได้ฟังจนจำได้ ผมลืมตาขึ้น ภาพที่ผมมองเห็นคือ แพนนั่งยองๆแล้วพูดกับผมพลางยิ้มไปพลาง ผมไม่คิดหน้าคิดหลังแล้วครับบ!! ผมพุ่งตัวเข้ากอดแพนทันที
แพน!! พวกเราจะมีความสุขร่วมกับโอ๋นะ ผมจะเดินตามเสียงหัวใจของตัวเองพร้อมกับคุณ ผมรักคุณนะ แพนนนน!!!! ถึงมันจะไม่ใช่คำสารภาพรักที่เลิศหรูอะไร แต่ผมก็รู้สึกว่ามีน้ำอะไรหยดมาบนศีรษะผม ผมแหงนหน้ามองขึ้นไปเห็นแพนร้องไห้พร้อมกับรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เหมือนกับโอ๋มอบให้ผม เป็นรอยยิ้มที่สร้างโลกให้สดใส
ชั้น...ชั้นก็จะดูแลเธอวิทย์ ชั้นจะดูแลเธอเหมือนที่โอ๋เคยทำ ม่ะ...ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เราจะมีความสุขเผื่อโอ๋...นะ เธอกล่าวอย่างสะอึกสะอื้น ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เปี่ยมด้วยความสุขของพวกเรา...สามคน
6 ปีต่อมา
โอ๋...ปีนี้ผมก็มาเยี่ยมคุณอีกแล้วนะครับ ผมวิทย์เองครับ นี่ก็ผ่านมา 6 ปีแล้ว ที่โอ๋จากเราไป ผมมาเยี่ยมโอ๋อย่างนี้ทุกปี แต่ปีนี้พิเศษกว่าทุกปีครับ
ไงจ๊ะโอ๋ อิอิ ไม่ได้เจอกันมาหนึ่งปี คงสบายดีซินะจ๊ะ? เสียงที่กล่าวออกมาจากปากของ แพน เพื่อนสนิทของโอ๋ แล้วเธอกำลังจะเป็น เจ้าสาว ของผมด้วยครับ
ขวัญก็มาเยี่ยมพี่โอ๋ค่ะ ปีนี้หนูก็ใกล้จะเรียนจบแล้วด้วย เป็นกำลังใจให้หนูนะคะ!... ขวัญกล่าวอย่างร่าเริงเต็มที่ พร้อมกับเอาน้ำส้มคั้นเทใส่แก้ว แล้ววางไว้ข้างหน้าโอ๋
โอ๋ ครูมาเยี่ยมเธอเหมือนกันนะ พาแฟนครูมาด้วยล่ะ ดูซิๆ ครูก็มีความสุขเผื่อเธอเหมือนกันนะ! ครูสวยกล่าวอย่างยินดีขณะนำดอกไม้ไปวางที่หน้าหลุมศพของโอ๋ แล้วสงสัยไหมครับ? ว่าแฟนของครูสวย....คือใคร? นู๋โอ๋เอ๊ยย!! ชีวิตผมต้องมาจมปลักกับคนแก่กว่าจนได้ซิเอ้า! ไอ้สิทธิ์เองล่ะครับบบ!!! ไม่รู้ไปรักกันอีท่าไหน มันบอกมีหลายท่า ( ฮา )
ผมกับแพนจะแต่งงานกัน วันที่ 30 พฤษภา ไม่ซิ...วันที่ผมกับโอ๋เป็นแฟนกันไงล่ะครับ เราอยู่ด้วยกันสามคนตลอดไปนะโอ๋... ผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับบรรจงจุ่มพิตอย่างแผ่วเบาที่ป้ายหลุมศพของโอ๋
ชั้นจะมีความสุขเผื่อเธอนะ.......
อวสาน
( ขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน เหงา มาตลอดครับ ขอบพระคุณมากครับ )
ยศรพี สงบวาจา