4 เมษายน 2546 15:29 น.

เรื่องน้ำตาแม่ตก

tir

เราจะขอเล่าเรื่องต่อไปนี้เพราะนี้คือเรื่องจริง  ที่เขาเล่าต่อๆกันมา  มีเพื่อนร่วมโรงเรียนจบพร้อมกันและอายุเท่ากัน  ปีเดียวกันแต่ทำงานคนละแผนกในอำเภอเดียวกัน  วันหนึ่งในเวลาราชการ  เราออกจากแผนกที่ดินเพื่อนำหนังสือมาเสนอให้นายอำเภอลงนาม  
             ก่อนที่จะเข้าห้องนายอำเภอ  ต้องผ่านหน้าห้องมีโต๊ะปลัดอำเภอตั้งอยู่เห็นแม่ของเพื่อนยืนร้องให้อยู่ที่ข้างโต๊ะปลัด  เห็นเพื่อนผู้เป็นลูกยืนแสดงสีหน้าเครียดกำลังอารมณ์เสีย  ขึ้นเสียงดังด้วยความโกรธ  เรามายืนนิ่งฟังอยู่ห่างๆ  เพราะยังไม่รู้เรื่องต้นสายปลายเหตุ  ที่สุดก็จับใจความได้ว่าเพื่อนผู้นี้กำลังจะไล่แม่ให้ออกจากบ้านไม่สนใจว่าแม่จะไปอาศัยอยู่ที่ไหน
           เราฟังแล้วต้องชะงักยืนงง  ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเพื่อนจะใจเหี้ยมโหดรุนแรงถึงเพียงนี้  เราคิดแล้วก็เศร้าใจเพราะเพื่อนผู้นี้เคยจบพร้อมกันและเวลานั้นเพื่อนก็มีภรรยาแล้วแต่ยังไม่มีบุตรด้วยกัน  เมื่อมาพิจารณาดูตั้งแต่เพื่อนได้ภรรยาแล้วก็เปลี่ยนนิสัยไป  ก่อนอยู่สองคนกับแม่ก็เป็นคนดี  เราได้ยินปลัดอำเภอได้พยายามไกล่เกลี่ยเปรียบเทียบชี้ให้เห็นบุญบาปที่ทำให้แม่เสียอกเสียใจถึงกับน้ำตาตกร้องให้สะอึกสะอื้นแล้วพูดด้วยสั่นๆไม่หยาบคาย  เหมือนไม่โกรธตอบลูก  แต่พูดให้ลูกเห็นใจ  มิได้ใช้วาจาหยาบคายตามอารมณ์  ฟังแล้วก็คิดสงสาร  เสียงผู้เป็นแม่พูดว่า
             แม่ได้ยกบ้านให้ลูกแล้วเพียงแต่แม่อาศัยไปวันหนึ่งๆเท่านั้น  แม่ไม่ต้องการอะไรทั้งหมดและแม่ก้ไม่โกรธลูกที่ว่าแม่  ลูกไม่ควรจะไล่แม่ไปอยู่ที่อื่น  แล้วแม่ไปอยู่ที่ไหนล่ะ  ไปอาศัยใครเขาก็คงรังเกียจคนแก่  ช่วยทำงานอะไรให้เขาก็ไม่ไหว  เห็นแก่แม่ที่เลี้ยงลูกจนโตเถิด  แม่แก่แล้วจะอยู่กับลูกไม่นานก็ตาย
            เรายืนฟังด้วยความสลดใจ  น้ำตามันจะไหลออกมา  ข้าราชการบนอำเภอนั้นต่างก้หน้าเศร้าเหมือนจะร้องให้เพราะความสงสารผู้เป็นแม่  คำพูดของแม่แต่ละคำมิได้พูดให้กระเทือนใจลูกเลย  มีแต่คำอ้อนวอนให้ลูกมีความสงสารแม่เท่านั้น  แต่ลูกกลับมีกิริยาทั้งขู่ทั้งตวาดใช้วาจาหยาบคายต่อแม่บังเกิดเกล้า  เสียงตวาดว่า
            ต้องออกจาบ้านเพราะบ้านเป็นของฉัน  แม่ยกให้ฉัน  ไม่ใช่ของแม่แล้วแม่ไม่มีสิทธิจะอยู่ต่อไป  แม่ไม่มีที่อยู่ไปอยู่วัดก็ได้  ขอให้ไปพ้นบ้านฉัน!
           เรามาฟังแล้วมีความแค้นและเจ็บใจแทนผู้เป็นโยมแม่ของเพื่อน  ไม่นึกว่าเพื่อนจะมีจิตใจร้ายกาจเยี่ยงสัตว์เช่นนี้  พวกข้าราชการบนอำเภอต่างก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเรา  มีแต่คนแช่งคนด่าชังน้ำหน้า  ไม่มีใครยกย่องว่าเป็นคนดี
     เรารู้สึกหูหน้าร้อนชา  เลือดฉีดแรงขึ้นหน้าเพราะโกรธแทนแม่ของเพื่อน  สงสารและเห็นใจนึกในใจเพื่อนอย่างนี้เลิกคบค้าสมาคมนับแต่บัดนี้เป็นต้นไปเรารู้ตัวดีจึงรีบเดินออกจากที่นั้นก่อนที่จะระงับอารมณ์ไม่อยู่  ทนดูเพื่อนเป็นไอ้ลูกอกตัญญูไม่ไหว
      ต่อจากนั้นเราก็ไม่อยากทราบเรื่องให้เกิดความขุ่นใจเปล่าๆ  เพราะเราตัดการเป็นเพื่อนฝูงสิ้นสุดกันแล้ว  เราคิดว่าเพื่อนคนนี้ต่อไปจะไม่มีความเจริญ  มีแต่จะเสื่อมลง  กรรมจะต้องตามสนองในวันหนึ่งข้างหน้า
     หลังจากนั้นต่อมาประมาณเดือนเศษหรือสองเดือนเราก็จำไม่ได้  ในปีเดียวกันเพื่อนผู้นี้ได้ขี่จักรยานยนต์มาทำงานหรือเรียนวิทยาลัยประจำ  เช้าวันนั้นประมาณ  8.00 น.  เพื่อนได้ขี่รถออกจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 6 ก.ม.  เมื่อขี่จักรยายนต์ผ่านมาถึงศาลากลางจังหวัดเหตุการณ์ที่ไม่เคยนึกเคยฝันก็เกิดขึ้น  รถที่เพื่อนขี่มานั้นวิ่งตรงเข้าชนท้ายรถเมล์จอดอยู่ข้างถนนเหมือนมีอาถรรพณ์  เป็นเหตุให้รถแหลก  ตัวเองก้บาดเจ็บสาหัส  มีผู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้นเล่าว่า  เมื่อเข้าช่วยพยุงร่างที่ไม่ได้สติออกมาเพื่อจะรีบนำตัวคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล  แต่พอรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาก็ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด  สุดท้ายก่อนที่เพื่อนของเราจะสิ้นลมหายใจก็ร้องไห้ออกมาเหมือนทารกแล้วรำพันเป็นครั้งสุดท้ายว่า
         แม่จ๋า  ลูกรู้ตัวว่าลูกผิดไปแล้ว  แม่จ๋า  อภัยให้ลูกด้วย  แม่อยู่ไหนพอสิ้นเสียงก็สิ้นใจ
   เมื่อรู้ถึงผู้เป็นแม่ว่า  ลูกชายเกิดอุบัติเหตุก็ตกใจลืมเรื่องที่ลูกเคยไล่ให้แม่ออกจากบ้าน  เหลือแต่ความรักความอาลัยที่มีต่อลูก  เมื่อรู้ข่าวว่าลูกตายก็เหมือนใครมาควักเอาดวงใจออกจากร่าง  ร้องออกมาว่า
          โธ่  ลูกรัก  เจ้าหนีแม่ไปแล้วก็ร่ำไห้รำพันถึงความรักที่มีต่อลูกชายคนเดียวจนสิ้นสติสมประดี  หมดอาลัยในชีวิตที่จะอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไป
   นี่ก็ชี้ให้เห็นว่า  ความรักในโลกนี้ไม่มีใครรักลูกเกินกว่าแม่บังเกิดเกล้า  แม้ลูกจะชั่วร้ายอกตัญญู  ไม่รู้คุณทั้งยังทำให้แม่น้ำตาตกแม่ก็ยังรักและยังให้อภัยลูกเสมอ  แม่ฆ่าลูกไม่ได้  ขายลูกไม่ขาด
     เราอยากจะบอกว่า  ลูกคนใดมีความเคารพกตัญญูต่อพ่อแม่บังเกิดเกล้า  กรรมดีจะเป็นศิริมงคลมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตของผู้นั้น  ตรงข้ามผู้ใดอกตัญญูต่อผู้มีพ่ะคุณ  กรรมชั่วนั้นจะตามสนองเพราะไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมไปได้  อยู่ที่เวลาจะช้าหรือเร็วเท่านั้น
          วันนั้นเป็นวันเกิดผม  เวลาค่ำคืนนั้นได้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในวันเกิดผมคือ  ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน  และผมกับพ่อและแม่นั้นนอนคุยถึงเรื่องต่าง  ผมก็คิดขึ้นได้ว่าเอาหละวันนี้จะต้องทำให้พ่อกับแม่ดีใจให้ได้  ผมเลยบอกพ่อกับแต่ว่าพ่อครับแม่ครับ  ให้เวลาผมซัก 5 นาทีน่ะครับ พ่อกับแม่ก็สงสัยถามว่ามีอารายหรือให้พ่อกับแม่นั่งทำไม   พ่อแม่ของผมก็ลุกมานั่นเรียบร้อย     ผมก็คุกเข่าและคลานเข้าไปกราบท่านทั้งสอง  ด้วยความปราบปลื้ม  และกราบท่านทั้งสองคนเสร็จแล้วบอกท่านว่าผมรักพ่อกับแม่มากน่ะครับ  และพ่อกับแม่ก็โผเข้ากอดผมและบอกกับผมว่าพ่อกับแม่ก็รักเจ้ามากน่ะเจ้าจงตั้งใจเรียนน่ะลูกหมาน้อยของแม่และพ่อ และพ่อกับแม่ผมจะไปไหนออกจากบ้านไม่ถึงกิโลผมก็จะโทรศัพท์บอกท่านทั้งสองทุกครั้งว่า  คิดถึงพ่อแม่มากเลยครับ  และแม่กับพ่อจะบอกผมเสมอว่าไอ้ลูกชายของเราเอาอีกแล้วติดพ่อกับแม่จังเลยน่ะไม่รู้จักโตซะทีเลย  และพ่อกับแม่ของผมก็บอกว่าพ่อกับแม่ก็รักเจ้าเสมอน่ะ   ผมขอท้าทุกคนใครบ้างจะมาแข่งเรื่องทำความดีที่มีให้พ่อกับแม่บ้าง  ผมรู้น่ะทุกคนคงจะถ้อสู้ผมไม่ได้จริงไหมครับ
( เอก  สิ่งดีๆๆ   )				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtir
Lovings  tir เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtir
Lovings  tir เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtir
Lovings  tir เลิฟ 0 คน
  tir
ไม่มีข้อความส่งถึงtir