16 เมษายน 2547 21:11 น.
tiki
คิดถึงเพื่อนเก่า
ขอยกกลอนบทที่เขียนเมื่อคิดถึงเพื่อนมาไว้ตรงนี้
นึกถึงวัยที่ฉันยังเป็นวัยรุ่น
เคยหัวหมุนเพื่อนมากมายหลายสถาน
มาจากโรงเรียนต่างต่างต่างพบพาน
เรียนร่วมห้องร่วมบ้านลานเตรียมอุดมฯ
หนึ่งในนั้นคือสาวตุ๊กผู้สุขสันต์
สวยทุกวันผมยาวสยายผม
สีน้ำตาล จมูกโด่ง และตาคม
ไม่เห็นตรมเรื่องรักหนักอุรา
คือหนึ่งในความเห็นเป็นหลักฐาน
คือหนึ่งความชาด้านหรือสานซ่า ?
**ไล่ตามรักรักจะหนีลี้หน้าตา
หากหนีรัก..รักจะบ้ามาวิ่งตาม**
คติพจน์รดใจในวันนั้น
เพื่อนรักฉันเป็นสุขดีแห่งศรีสยาม
จนบัดนี้ยังดำรงคนหุ่นงาม
ผมน้ำตาลยาวลามเลยเอวปลิว
ทิกิ_tiki
ยังพบกันปีก่อนตอนดูร็อค
ดี๊พเพอร์เพิ่ล **ยังงามยอก ..ชวนสยิว
ไม่ทุกข์ร้อน..นุ่งฮ้อตแพ้นท์...เดินตัวปลิว
นึกความรัก...เล่นเป็นริ้ว...คิดถึงเธอ
Follow love it Flees นี้สัจจะ
ตามรักไป...รักเลิกละ...เสียเสมอ
Flee love it will follow you ดูให้เจอ
คนเซอร์เซอร์มากมายตามร่ายมา
เกมความรัก...มักแปลก...แทบแหลกสลาย
มันไม่คล้าย....ความทรงจำ ...อันล้ำค่า
มันล้วนเกม....ให้ทันกัน...ทันอุรา
เกมนี้ว่า....ใครดีได้...ไม่รั้งรอ
ทิกิ_tiki
19:25
April 16,2004
@ไล่ล่ารักลี้...วิ่งหนีรักล่า รักเร้น...รักไล่... @
Follow love it flees..
Flee love it will follow you
โดย tiki [16 เม.ย. 2547 , 19:13:40 น.]
http://www.bangkokcity.com/2004/member/diary04/detail.php?boid=52837
@ไล่ล่ารักลี้...วิ่งหนีรักล่า @
15 เมษายน 2547 09:50 น.
tiki
ผีเสื้อเขียว...เธอบิน
ดูดกินน้ำหวาน
เกสรดอกไม้หอม
เธอมีแรงบิน....ไกล ไกล
ฉันบิน...ไม่ได้
แต่เวียนหัว
และหวั่นไหว
ที่เธอบิน
มันเตะตาฉัน
และฉันเดินเซอีกครั้ง2
วันนี้ฉันเซสงกรานต์
ไม่อยากเดินตรง
ทิกิ_tiki
หลังจากไปเขียน..
เซมา ใกล้ใกล้พี่ ..
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_51160.php
14 เมษายน 2547 12:39 น.
tiki
................เพิ่งวางงาน...อันเต็มไปด้วยบันทัด เส้นตรงมากมาย ระเบียบ แบบแผน ตามกฎเกณฑ์แห่งสังคม
.....แล้วคนเขียนก็โซซัดโซเซมาตรงนี้ แบบ
หมดเรี่ยวหมดแรง
.....แบบ สลายร่างมาในคราบของคนที่ถอดสูทตัวใหญออก
...สลัดสูทไปทางหนึ่ง นอนซุกที่เงียบๆ ฟังเสียงเพลงที่รันทดซ้ำซาก แบบกระชากอารมณ์ค้างคาให้ออกมาให้หมด
......http://www.kapook.com/newmusicstation/play.php?id=131
ชื่อเพลง/Title : อย่าให้ถึงวันนั้นเลย
อัลบัม/Album : เพลงประกอบภาพยนตร์
กุมภาพันธ์
ศิลปิน/Artist : ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์
--------------------------------------------------------------------------------
เนื้อร้อง
คืนนั้น ....
คืนที่นอนฝัน........
ว่ามันถึงวันสุดท้าย..........
มองเห็น ......เราต้องลากันไป.
ใจทั้งใจมันสั่น.......
ตื่นขึ้นมา .....น้ำตายังคลอตา
ขออย่า...ให้เหมือนในฝัน
มันไม่จริง....
มันไม่จริง .....
เราไม่เป็นอย่างนั้น
คืนนั้น... เป็นแค่เพียงฝัน......
ยังรับมันไม่ไหว.....
ความฝัน .......
มันจะจริงวันใด....
ในหัวใจยังหวั่น
* อยากวิงวอน..ขอเธอ ......
ด้วยดวงใจ
ขอ..อย่า..ใจร้าย.... กับฉัน
มีอะไร ....ให้อภัย....
มีจิตใจต่อกัน
อย่าให้ถึง....วันนั้นเลย.............
......... แค่เพียงแต่คิด .............
หัวใจ...ก็เจียน..สลาย ...........
........วันแห่งความ...ปวดร้าว ..............
วันที่เจ็บ .......ช้ำใจ
อย่าให้ถึงวันนั้นเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นจริง
อย่าให้ถึงวันนั้นเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นจริง
สิ่งใดใดที่มี เทียบไม่ได้กับเธอ
โลกยังดีเสมอ ถ้าเธอยังอยู่
(*)
อย่าให้ถึงวันนั้นเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นจริง
อย่าให้ถึงวันนั้นเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นจริง
อย่าให้ถึงวันนั้นเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นจริง
อย่าให้ถึงวันนั้นเลย
12 เมษายน 2547 14:15 น.
tiki
@... มหาสงกรานต์....@
๏ คุณแม่....ใครแล..? ๏
๏ ...ถึงสงกรานต์วารล้ำสัมมาเสนอ
บำรุงเธอบำเรอท่านให้ผ่องใส
วันผู้สูงอายุพ่อแม่ประชาไทย
น้อมรวมใจเทิดท่านขวัญประชา>......๚
๏ ....คือเสมือนร่มเกล้าเราทั้งชาติ
พ่อแม่ปู่..ย่าญาติ..เราถ้วนหน้า
น้อมเคารพ..สามัคคี..มีปัญญา
ครอบครัวค่า..วัฒนธรรมไทย..ใสเย็นนาน......๚
๏ .... นำฝากเพียงสองบทกลอนในร้อนนี้
วันเวลาวารีมีสืบสาน
วัฒนธรรมไทยแท้แต่โบราณ
เยือนผู้ใหญให้ถึงบ้านแล้วยอกร......๚
๏ .... มือประนมพานในมือคือมาลัย
กระแจะร่ำเจิมใจให้ท่านสอน
รินน้ำอบสบน้ำใจนำไหว้พร
พนมมือเวียนไหว้วอนบิดรมารดา.....๚
๏ ... อีกผู้ใหญ่เมื่อผู้น้อยคอยยอไหว้
ให้รับใจงามสะอาดมาดสมค่า
เป็นพฤฒาครูเฒ่าเขาบูชา
ปฏิบัติปฏิปทาปัญญาชน.... .... ๚ะ๛
ทิกิ_tiki 12:08
April 12,2004
10 เมษายน 2547 15:57 น.
tiki
เวลาเริ่มบันทึก 11:52 นาฬิกา
พระเสาร์ ๑๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
กลางตึกสูงระดับกลาง กลางกรุงเทพฯมหานคร
ลมพัดเรื่อยเกินกว่าเบาธรรมดา ไม่ถึงขนาดพายุ
นำไอน้ำเย็นชื่นจากอ่าวไทย ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ผ่านธนบุรี ผ่านลำน้ำเจ้าพระยา
พัดพาไอเย็นฉ่ำมาถึงตรงนี้ ตรงที่ ฟ้า สว่างกระจ่างแจ้ง
แต่ผ่านแสงสีเทาประกายหมอก...เป็นบางช่วง
เช่นสนามกีฬาใหญ่ ตรงหน้ารับแสงแดดเพียงครึ่งสนาม
แต่ลมกำลังไล่กองเมฆให้ผ่านพ้น
แสงจึงไล่สาดเข้ามาเรื่อยๆๆ จน ส่องจ้าเหนือหลังคาตึกนี้
เสียงเพลงเบาๆบรรเลงไปทั่วห้อง ก้องเบาๆไปทั่วฟ้า...
ต้นไม้ริมระเบียงไหวไปกับลมหน้าร้อน
กระดาษในห้องปลิวไปแรงลม
สงกรานต์ มาอีกปีแล้ว
วันเวลาช่างผ่านไปเร็ว
ดุจกระแสธารที่ไหลจากต้นน้ำ
ไปสู่ ปลายลำธาร ณ ที่ใด ใครจะแลเห็น
วันสุดท้ายแห่งปีที่ผ่านมา วันอันดับที่ 365 แห่งปีไทยกำลังจะใกล้เข้ามา
นับณ. วันที่ 13 เมษายน 2547 ปีนี้
13 เมษายน จะนับเป็นวันสิ้นปีเก่าเตรียมปีใหม่ไทย
แต่ถ้าไปค้นประวัติไทยจริง ๆ จะสับสนอลหม่านดี น่าสงสารประเทศชาติเรา
ซึ่งวรรณกรรมและการจดบันทึกของชาติเรา
ได้สูญสลายไปใน กองเพลิงมโหฬาร
ระหว่าง สามเดือนก่อนกรุงศรีอยุธยา
ถูกยึดครองเต็มตัว 8 เมษายน พุทธศักราช 2310
การนับศักราชของไทยเราโกลาหล พอสมควร
ทางพงศาวดารแต่ละประเทศ การนับปีก็คลาดเคลื่อนกันไปพอสมควร...
ซ้ำ ยังมาเปลี่ยนแปลง
นับ 1 มกราคม ให้เป็นขึ้นปีใหม่สากล
ทำให้คนสับสน ในการนับ ปีนักษัตร เพิ่มขึ้นไปอีก
13 เมษายน จะนับเป็นวันสิ้นปีเก่าเตรียมปีใหม่ไทย
จากข้อมูลในเว็บไซท์ http://www.muangthai.com/pages/place/subplace/songkran.html
เขียนถึง สงกรานต์ไว้ว่า
*** วันที่ 13 เมษายน เป็นวัน"มหาสงกรานต์" หรือ วันเริ่มต้นปีใหม่
ทั้งนี้เป็นเพราะเป็นจากช่วงเวลาที่ดวง อาทิตย์โคจรผ่านจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษนั้น
โลกโคจรเป็นมุมฉากกับดวงอาทิตย์ จึงมีกลางวันและกลางคืนยาว เท่ากันพอดี
วันสงกรานต์เป็นวันทำบุญใหญ่ประจำปี มี 3 วันคือ
วันมหาสงกรานต์หรือวันส่งท้ายปีเก่า(วันที่ 13 เมษายน)
วันกลางหรือวันเนา (วันที่ 14 เมษายน)
วันขึ้นปีใหม่ หรือวันเถลิงศก (วันที่ 15 เมษายน)
เมื่อวันสงกรานต์ตรงกับวันใดในแต่ละปี ก็จะมีนางสงกรานต์ประจำวันนั้นๆ
นางสงกรานต์มีชื่อดังนี้
วันอาทิตย์ ชื่อนางทุงษ
วันจันทร์ชื่อนางโคราค
วันอังคารชื่อนางรากษส
วันพุธชื่อนางมณฑา
วันพฤหัสชื่อนางกิริณี
วันศุกร์ชื่อนางกิมิทา
วันเสาร์ชื่อนางมโหทร
นางสงกรานต์เป็นธิดาของท้าวมหาสงกรานต์ หรือ ท้าวกบิลพรหม
มีหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันดูแลเศียรของ ท้าวกบิลพรหมซึ่งประดิษฐานอยู่ในพานแว่นฟ้า
เนื่องจาก ท้าวกบิลพรหมแพ้ พนันการตอบปัญหาแก่ธรรมบาลกุมาร
จึงต้องตัดเศียรของตนบูชาแก่ธรรมบาลกุมาร
ก่อนจะตัดเศียร ท้าวกบิลพรหมได้เรียกธิดาทั้ง 7 ซึ่งเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาให้เอาพานมารองรับ
เนื่องจากเศียรของ ท้าวกบิลพรหมเป็นที่รวมแห่งความร้อนทั้งปวง
ถ้าวางไว้บนแผ่นดิน ไฟจะไหม้โลก
ถ้าโยนขึ้น ไปบนอากาศ ฝนจะแล้ง
ถ้าทิ้งลงในมหาสมุทร น้ำจะแห้ง
ธิดาทั้ง 7 จึงผลัดเปลี่ยนกันถือพานรองเศียรของ ท้าวกบิลพรหมไว้ คนละ 1 ปี ***
ปีนี้ นางสงกรานต์เราก็จะเป็น นาง รากษส เพราะตรงกับวันอังคาร แค่ได้ยินชื่อก็สะดุ้งกันไปแล้วนะคะ โอ...
มีเวลาจะเขียนให้อ่านกันอีก
ทิกิ_tiki
14:27
10 เมษายน พุทธศักราช 2547