30 มิถุนายน 2546 11:42 น.
tiki
(15) มีแสงสลัวระรัวเหลือง เรื่อเรืองขึ้น
ครันยินเสียงฝีเท้า กระทบหู
ผ้านุ่มเบา โบกสะบัดอยู่หน้าตู
ดาบวาววับยกชู แตะใต้คาง
(16) แสงตะเกียงวาบมาตกลุกวาว
ไปสีนิล จ้องจาบทั้งสองข้าง
เสียงหัวเราะ เบากระหึ่ม ฟังครึมคราง
เจ็บตรงข้าง เธอกระชั้น คั้นที่ปลาย
(17) มาทำไมอีกเล่า เจ้าเด็กน้อย
แล้วปลายดาบก็เลื่อนลอยมาข้างใต้
เจ็บต้นคอกระไรหนอ...ขออย่าตาย
เออกระไร แม่นักรบพบพอดี
(18) ฉับสบตา กล้าประกายไฟนิลนั้น
น่างามพลัน นวลแอร่มแจ่มรัศมี
เออหนองาม ฉันคิดเลิศอินทรีย์
จะออกไปหรือตายที่นี่ ก็บอกมา
(19) เฮ่อ...เสียงเอยเสียงใด ช่างไพเราะ
ช่างงามเพราะ ไปทุกอย่างดั่งฝันหา
ฉันจ้องมอง ตาประกบ ไม่หลบตา
ตอบช้า ช้า ยินดีตาย....หมายพบคุณ
(20) ปลายดาบกดจิกไหล่ ผ้าไหลร่วง
แปรบปรามทรวง เธอกลับควงดาบไฟหมุน
มีอะไรตามทำไม ช่างว่ายวุน
แล้วปลายดาบก็ผลักรุน รุกเข้าไป
(21) เป็นเวิ้งคู ดูประหลาดผมพลาดล้ม
เธอก็ก้ม หิ้วผมขึ้นมาใหม่
เหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าใจ
แปรบปราบปราย มือคว้าไขว่ ใจช็อกเลย
30 มิถุนายน 2546 11:14 น.
tiki
(8) จากวันนั้นถึงวันนี้ดูทีหรือ
คอยยึดถือหยิบหมวกมาสวมใส่
นึกถึงยิ้มพริ้มเพราเจ้าทรามวัย
ยามปาดดาบปราบวัยในสายตา
(9) รอยหมวกขาดไม่ประหลาดเท่าขาดหาย
มองหนใดเธอหายเร้นไม่เห็นหน้า
ฉันแปะหมวกเบา ๆ เร้าอุรา
คิดถึงท่าแสนร้ายมิวายคะนึง
(10) นับจากวันนั้นมาถึงครานี้
ฉันอยากพบเธอเต็มที่สักทีหนึ่ง
ถ้าตวัดปลายดาบมายังตราตรึง
หากเงื้อเสียบคงจะซึ้ง....ยินดีตาย
(11) คนหมู่บ้านของฉันนั้นก็แปลก ๆ
เห็นสวมแทรกหมวกใบใหม่กันมากหลาย
เป็นสีขาวพอผมถามก็ยิ้มอาย
ถามว่าซื้อมาจากไหน ก็ยิ้มกัน
(12) เขาว่าเธอหายไปในถ้ำเขา
พรานว่าเห็นเป็นรอยเงาเมื่อบ่ายนั่น
ยินข่าวเธอ... จะเป็นอะไรก็เป็นกัน
ตัดสินใจกระชั้นก้าวตามรอย
(13) ที่หน้าถ้ำมืดดำดูสลัว
ถึงหน้ากลัวก็จะเข้าไม่คิดถอย
แตะผนังผาหลึบ...คลืบเข้าคอย
ตัวฉันลอยหล่นไปในเวิ้งพง
(14) เจ็บที่กายแต่ว่าใจไม่ยักเจ็บ
กลับดีใจใช่เลยที่ฉันหลง
ตะปุ่มตะป่ำ คลำดูรู้ว่างง
พบซอกหลืบอีกคืบลงสุดโค้งคู