27 เมษายน 2547 14:54 น.

๏ ใดเล่าจะรักเท่า .?

tiki

บทกลอนสอน วอนให้ นึกถึงแม่

ถึงรักแท้ แน่วแน่ ใครใคร่เหมือน

คำบอกกล่าว ของแม่ ที่คอยเตือน

มิลางเลือน เคลื่อนอยู่ ตามเวลา



 ๏ ยิ่งมาฟัง คำจัก ที่พี่สอน

ยิ่งเว้าวอน ให้นอน ตรึกตรองหนา

บาปอันใด ไม่สู้ทำแม่ เสียน้ำตา

มิเชือนช้า ทำให้ แม่สุขเอย....


 7557 - ปะการังสีเงิน  
259162 - 26 เม.ย. 47 - 21:03  


๏   ใดเล่าจะรักเท่า .? ยามคนเราคิดว่าจะทำชั่ว

ใจอาจมัวหมองไหม้ในโมหา

คือมืดบอดต่อธรรมกรรมตามมา

เห็นจักราเป็นยุบลฉงนใจ


     ๏    แต่หากหักรักสักนิดคิดถึงแม่

คิดตาท่านยามมองแลด้วยน้ำใส

น้ำตาท่านจะเอ่อล้นสักปานใด

คิดถึงใจแม่จะย้ำ...ให้ทำดี ๚   


ทืกิ_tiki
: 4895 - tiki  
 259444 - 27 เม.ย. 47 - 09:55  

 

   ประคองใจนึกถึงวงศ์พงศ์ตระกูล

ได้เพิ่มพูนเกียรติยศและศักดิ์ศรี

ณ.วารวันเวลาใดได้ทำดี

ย่อมยังจิตน้อมใจนี้ให้สู่ธรรม


     ในห้วงรักหักหาญที่ผลาญพร่า

จะเตือนตนใดหนาไม่ถลำ

หนึ่งในวงศ์วารใดให้พ้นกรรม

กรรมเก่าย้ำวิ่งไล่ไม่พ้นกัน


     ก็หนึ่งนั้นยามตรึกนึกถึงแม่

ผู้เฝ้าแลรักลูกผูกให้พรั่น

ด้วยรักแม่แม่จะต้องไห้จาบัลย์

เพราะลูกนั้นจะทำชั่วจะมั่วรัก


      ให้รู้ว่าสิ่งที่ทำกรรมที่สร้าง

ไม่หักล้างกันได้ด้วยยากหัก

แต่ลองเถิดกราบตักแม่แน่ใจนัก

เอาความรัก..ตราแม่ไว้..ในใจเทอญ



ทิกิ
9:33
เช้าอังคาร 27 เมษายน 2547 

 
 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
27 เมษายน 2547 09:37 น.

@ เบิกฟ้าเมษา ฯ

tiki

@ เบิกฟ้าเมษา ฯ



         .   ๏ ชมฟ้าเมษระย้า..........เรืองแสง

รวิสาดส่องแทง.....................ทั่วหล้า

แสงธรรมสู่แสดง...................ใครจัก...คิดฤา

วันหนึ่งวันเบิกฟ้า..................เร่งพ้นวันใด๚  



ฟ้าเอยงามอร่ามนักถักทอฝัน

ยามเมื่อจันทร์เบือนหลบซบน่านฟ้า

ตะวันยอนซอนซอกออกเมฆา

จรัสแสงเรืองฟ้าประกายยล 


          
ช่างสวยงามยามฟ้านภาทัศน์

งามจำรัสเคียงธารามาสถล

งามจากฟ้าทอดตาดินรินสายชล

คือธรรมชาติอันลุล้นสาดแสงธรรม 


ทิกิ_tiki
จารเมื่อ ๙:๑๐ นาฬิกา
พระอังคาร ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗


   ๏  งานงามงามพิศพ้น             เพียงใจ

   ธรรมหลั่งกระแสไหล              ไป่แล้ว

   งามธรรมดั่งกลอนไทย            ดอกเด่น แก้วเอย

   รินธาตุธรรมเพริดแพร้ว            มุ่งล้วนธรรมธาร๚    



ทิกิ_tiki
http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew13&topic=1211

 
 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
26 เมษายน 2547 18:41 น.

@.....โซ่......@

tiki

@.....โซ่......@


                          ๏ .ก็ใจฉัน.......ฝันอิสระ .......และเสรี

ใจฉันนี้.......ไม่มีโซ่........มาล่ามฝัน

ส่วนพวกคุณ.......จะล่ามโซ่.......กันทุกวัน

ก็สุดแต่ใจ.......คุณนั้น.......จะเป็นไป..๚  .


                           ๏ .ส่วนตัวฉัน.......จะยังฝัน.......ฝันถึงเขา

ฝันว่าเรา.......ยังสนุกสนาน.......เมื่อเคียงใกล้

ฝันคุยเล่น.......สดชื่นกัน.......ทุกวันไป

สิทธิ์ของใจ.......ของฉัน.......นั้นน่ารัก.๚  


                           ๏ .โยนโซ่ตรวน.......ของพวกคุณ.......ไว้ห่างห่าง

อย่ามาง้าง.......ล่ามฉัน.......มากันกัก

ไปล่ามใจ.......พวกคุณไว้.......ให้ดีนัก

ล่ามใจคุณ.......อย่ามาภักดิ์.......จักเป็นคุณ.๚  


                           ๏ .อิสระ.......เสรี.......นี้ใจฉัน

บินต่อกลอน.......กันทุกวัน.......เพื่อนเกื้อหนุน

อยู่ภพไหน.......ใจจะล้อ......ต่อสกุล

วงศ์วรรณหนุน.......อักขรา.......ภาษาใจ.๚  


                           ๏ .เก็บโซ่ตรวน.......เก็บไว้ .......ไปห่างห่าง

อย่ามาง้าง.......มางัด.......จัดความไข

ฉันก็คน.......คุณก็คน.......อย่าปนไป

อักขระ.......หฤทัย.......ใจตอบกัน...๚ะ๛ 



ทิกิ_tiki
๑๘:๑๘
พระจันทร์ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช  ๒๕๔๗

 @.....โซ่......@
 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
26 เมษายน 2547 01:21 น.

๏..มารรักมารร้าว...๚

tiki

๏..มารรักมารร้าว...๚



๏ ..ฤามารแลส่งแสร้ง..........แปลงใจ

จำหลักจักอาลัย......................หลอกข้า

ดูราวนุ่มเย็นไฉน....................นวลผ่อง...เรียบฤา

ลึกดั่งใครจักกล้า.................หยั่งรู้ใจนาง.๚  


๏ ..คำสองสวาทสิ้น..............ยินหู

ใจนี่เจ็บเจียวกู.......................เก็บกล้า

สองมึงชื่อเรืองชู้....................วอนดาบ...กูฤา

กูจักลงดาบคว้า......................บั่นชู้เคียงกัน.๚  


๏ .สองใจอกสะท้าน..............ครวญเมียง

สองสั่นสองยินเสียง........................แผดท้า

สองแอบร่างริมเคียง.......................กรก่าย....กรเฮย

สองเจ็บราวกรรมกล้า......................ก่อไว้ตามทวง.๚  





๏ ..อนิจจาเจ้ายาใจ
เจ้าหลงใหลคำใครวอน
เจ้าเอ่ยเจ้าละอ่อน
ใครเขาอ้อนเจ้าก็หลง.๚  



โฉมแม่ต้องปวดร้าว
ร้อนผ่าวใจพะวง
ลูกข้าฯช่างปลดปลง
แม่ฯจะรวดปวดร้าวใจ


นวลนางเจ้าวางชีพ
ปลดกลีบสุมาลย์ให้
วางวายด้วยรักใด
ให้แม่ช้ำน้ำตาริน


นั่นแม่สิรักเจ้า
อย่างว่าจะกลืนกิน
ได้แต่แลยุพิน
รักหลงปลงกับใคร...?


                           ทิกิ_tiki
                           ๐๐:๕๑
                        คืนพระอาทิตย์ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๗

 ๏ ...มารรักมารร้าว...๚  


                ใดใดในโลกล้วนเท่ารักแม่
สองมือแท้อุ้มชูมาคราเจ้าหวาน
แม่ย่อมรักหวังดีมิมีปาน
เมื่อเจ้ารานแม่สลายหมดกายใจ  


                โอ้น้องหญิงความสาวอันพราวสด
ช่างงามงดมีค่าจะหาไหน
แม่ถนอมกล่อมเกลี้ยงรั้งหวังวันใด
ชีวิตเจ้าจักสดใสให้แม่ยล


                 แต่หากเจ้าปวดร้าวในรักหลง
ใจพะวงเสาะหาแต่ทุกข์ผล
ใจเล่าใครจะทุกข์ซ้ำช้ำกมล
แม่ของเจ้านั้นแหละคนต้องรับกรรม



คิดให้ดีก่อนมีรักนะดวงใจ
ทิกิ_tiki
๙:๔๕
เช้า พระจันทร์ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

๏..มารรักมารร้าว...๚
 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
25 เมษายน 2547 09:34 น.

๏ รติรส พจน์มาลา๚

tiki

 รติรส พจน์มาลา๚    


                  ๏        บุปเพหวนแต่เบื้อง................บางไหน

รอยก่อรอยกรรมไข......................แต่อั้น

เพียงภาพผ่องเพียงใจ..................จะขาด....ฤาอร

ใจมิอาจหักกั้น..............................ก่อเกื้อปางบุญ๚ ....ทิกิ_tiki ๘:๐๐


         ๏    เป็นกำลังนี่นั้น             ในใจ

บุญก่อรอยกรรมใด.............ใคร่ค้น

บาปตามติดเวรไกล.............ตามก่น...มาฤา

ใจย่อมตกแรกล้น...............เร่งล้ำรตี ๚  

                           ทิกิ_tiki
                           ๑๐:๓๑


๏ ...นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน....  ๚ 

              ,มนุษย์เราเมื่อเกิดมา ต่อให้เกิดมาบน กองเงินกองทอง
พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเกียรติยศข้าทาสบริวารมหาศาลปานใด

หากไร้ซึ่งสติปัญญาไม่รู้ที่มาที่ไปแห่งจิตวิญญานตน
ก็ปานประหนึ่งวานรร่อนเร่อยู่บนกองแก้วแหวนเงินทอง
 ย่อมผลาญทรัพย์สิน เกียรติยศ ข้าทาส บริวาร มหาศาลเหล่านั้นลงสูญสิ้น
ย่อยยับด้วยอวิชาแห่งความประมาทในกรรม และความประมาทในธรรม

             จึงนั้น
            เหล่าปราชญ์ผู้มีปัญญาจึงได้ก่นเขียนงานจารไว้ให้เห็นเสมอว่า
          อัน ความรัก ราคะ ความใคร่ ความหลงอันเร่าร้อนใจนั้น 
เป็นสัญญานอันตรายในหลงสู่ประตูนรก..
 ด้วยเห็นแล้วว่า ในที่สุด บุคคลอันตามืดบอดต่อธรรม
ย่อมตกไปสู่การสูญสิ้น ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง
 เริ่มแต่ปัญญาอันบอดลงเสียด้วยรัก

             ตามไปด้วยการเสื่อมสิ้นซึ่งเกียรติยศ.....
แม้นว่าเคยดูยิ่งใหญ่ อัครฐานน่ากรานกราบไหว้เพียงใด 
..ยามเมื่อตกไปอยู่ในบ่วงเล่ห์เสน่หาแห่งเพศตรงข้าม
ผู้เจนจัดด้วยเล่ห์กลกาม  
 ฤาด้วยภายใต้เงื้อมมือเจ้าวัยเยาว์เจ้าเล่ห์แห่งศรกามเทพ นั้นก็ดี
           บัดนี้ ย่อมไม่เปรียบปานกับเจ้าแมวเชื่องๆไร้ฤทธานุภาพเสียสิ้น
          ย่อมห่อเหี่ยว ไหล่ตก วิ่งตามรักไปกระเซอะกระเซิงดุจบ้าคลั่งฉะนั้น
         
            ก็ดังฤา เกียรติยศชื่อเสียงแม้นสั่งสมไว้นานปานไฉน 
ย่อมกลายให้เด็กวานซืนได้เย้ยเยาะใยไพ 
แม้นว่าปากนั้นจะสงสารเจ้าปานใด
 แต่ใจย่อมหัวร่อหุยฮาให้เป็นที่ปรากฎแก่สาธารณชน 
ย่อมก่นว่ากันสาดเสียเทเสีย ด้วยใจอันไม่รู้จักยับยั้งในเล่ห์กลแห่งราคะจริตอันเกิดด้วยใจประมาทฉันนั้น

           แม้นเพียงเกียรติยศยังถูกหมิ่นแคลนแล้ว 
 อันใดจะเหลืออยู่คู่กับเจ้าในโลกอันโหดเหี้ยมโหดร้าย ดังฤา 
 แม้นว่าทรัพย์สินเงินทอง ยามมืดหน้าตามัว
สมบัติอันพ่อแม่ปู่ย่าตายายสร้างสมไว้ให้เพื่อใช้ในการดำรงชีพสืบสกุล
ก็จักหมดสิ้น อาจไปถึงต้องดำรงตนเป็นขอทานเสียแต่ในสังคม

               ก็นี้ฤา ใช่เพราะเหตุใด ....
ด้วยความ หลงมัวเมาในรัก....
 ย่อมไม่เปรียบประดุจโคถึกอันคึกพิโรธ ? จะโผดโลดไปเสียแต่ให้ใจปราถนา 
 ใครจะหักจะรั้งจะก่นว่า
เจ้าก็จะทำเสียว่าไม่เคยได้ยินได้ยลคนเขาทักท้วงติง

                  ทรัพย์สินเสียก็ประเคนให้ ..
จักให้สุดที่รักแห่งเจ้านั้น สบายกายสบายใจ 
จึงทุ่มนานับประการไซร้ ให้เขานั้นได้เยิรยล 
 โอ้อกเอ๋ยกมล เจ้าก็หล่นเสียแต่ในกาม 
จึงมิใครจะหักห้าม จะเอ่ยว่าประการใด 
เจ้าก็โลดแล่นไปเสียที่จะไม่ฟัง
แต่ไหนแต่ใดเล่า ผู้ไหนจะห้ามเจ้า ดังฤา


               จึงภพชาติแห่งเจ้าผู้มัวเมาในรัก
           จึงไม่แม้นเปรียบเทียบไกลไปจากผู้ตาบอดไปได้ ?
       จึงเป็นผู้หลงงมงายอยู่แต่ในกามราคะจริต
      จึงสมควรให้มิตรต้องเมินหมางระคางในความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
     จึงแม้นได้ผิดพลาดไปเสียแต่แม้ประการใด แห่งใจอันไม่ยับยั้ง
   จึงราวกับ ทะเลคลั่งที่เรือไร้หางเสือใดย่อมล่มลงสู่ก้นธารเสียเท่านั้น


              ข้าฯนี้ได้เห็นเหตุแห่งกรรมซึ่งหล่นมาคาดคั้นให้ปราชญ์ได้เสียคน
        มาหักสะบั้นโภชน์ผลในตนก็ด้วยฤทธิ์แห่งกาม 
      มาเงื้อง่ามงงงันให้ปัญญามันหาย
  มาทะลวงทะลายซึ่งทรัพย์สินแม้นแผ่นดินจะไม่มีกลบหน้า
โอ้ว่าอนิจจาเอ๋ยเจ้าเชยสมรเจ้าละอ่อนเจ้าทารกเอ๋ย
               คำของข้าฯ นี้นิดเจ้าจะได้เข้าใจเลยก็หาไม่
           ต่างเร่ร่อนบินร่ายเข้ากองไฟแห่งดนูรติทิวาราตรี
        อกเอ๋ยเจ้าก็ลิ้มรสเสน่หายวนยีอันเร่งรี่เผาผลาญใจ
     แล้วเจ้าก็ม้วนไขตกหล่นเสียแต่วัยเยาว์อันเขลาทึมสีดำ

                  บัดเดี๋ยวดลยลเสียให้พอใจ..
              แล้วเจ้าจงจากไปผลักใจให้ห่างกรรม
          ให้เจ้านั้นระเริงยลทุกเงื่อนงำ
        ให้สำนึกซ้ำว่า กรรมนั้นรอยเกวียน
      ให้แล่นเรียบแม้นทางเตียนและทางรกชัฏระดะตา
     สิ่งใดเล่าหนาจะตัดกรรมมิให้ซ้ำซากเคืองใจ
  ก็ด้วยสำนึกในวงกรรมวงเกวียน ให้หลบเสี้ยนคาใจเสียให้ดี
ให้รู้รอบระบอบวิธียกจิตพิจารณานี้แต่ในธรรม

              ขอความสุขสวัสดีมีชัยในรติการ  พึงมีแต่วิญญูชน
           ให้ไกลหม่นความขัดระเคืองเรื่องเศร้าหมอง
          ให้เจ้าหลายได้ประคองใจไว้เนิ่นนาน
         ไม่พลาดพานผ่านพาลอันกรายมาแต่ในรติรักแห่งรสใจ

             ขอให้เจ้าทั้งหลายได้มองเห็นเช่นข้าฯได้เห็นเป็นสาระแห่งกรรม
            อดีตเจ้าทำไว้อย่างไร จึงหวั่นไหวกันได้ถึงเพียงนั้น
            ให้เดินทางด้วยความระมัดระวังกันไว้
              ให้สดชื่นรืนเริงใจเสพสนานเยาว์วัยของเจ้าด้วยดี


                                                       ทิกิ_tiki
                                                 จารจบเมื่อ  ๘ : ๔๕
                                       พระอาทิตย์ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

ที่มาของภาพ Source of Picture with compliment : http://www.portmac.com/Private/wallpaper/iceburg.jpg 





          ๏  รติรส พจน์มาลาสงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki