6 มีนาคม 2547 10:13 น.

:-.,_@,.-:..ราวตะวันอันอ่อนโยน``*:-@,.

tiki

 ``*:-.,_@,.-:..ราวตะวันอันอ่อนโยน``*:-.,_@,.-:.... 



  ,.-:*``*:-.,_@,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_@,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,@_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,@.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.@,_,.- ``*:-.,_@,.-:.... 




..  .@.......จวบรุ่งเช้า....ราวคืนหลับ...ไปกับฝัน
.
ทิวาอัน....เย็นสยาย....สายลมอ่อน

ราตรีงาม.....ท่ามธูปเทียน......เวียนจากจร

ทิวาย้อน......คืนมา.......อาบค่ามนุษย์


........ทิวาแสง....แทงกระจ่าง.....จางห่มสี

ให้อบอุ่น......ชุบชีวี....ที่ผ่องผุด

ไม่จ้านัก.....ได้จักคลี่.....สีวิมุติ

อาบประดุจ....วิมุติรัก...ทักขอบฟ้า....


........จวบจนสาย......ยังมิคลาย....งามอบอุ่น

แสงละมุน.......เรื่อจาง......อยู่ข้างหน้า

เหมือนแสงใจ......งามกระจ่าง....ทุกทางมา...

คือเมตตา......งามตระการ.....สู่บ้านไทย...


..........ตะวันนี้....ช่างดีงาม......ไม่หลามเดือด

ช่างอ่อนหวาน....ไม่ชักเชือด.....แผดเผาใส่

ช่างละมุน.....คุณค่า.....เมตตา..ใจ

ช่างงามได้.....ทุกชั่วยาม....ความรักเรา..............@.. 




,.-:*``*:-.,_@,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_@,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,@_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,@.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.@,_,.- 
.... 

ทิกิ_tiki 

     				
5 มีนาคม 2547 16:38 น.

..@..ร่มไม้..@

tiki

ร่มไม้

@...ร่มไม้ใบพฤกษสุนทร   .....นยวิริยบ่คลอน
เย็นสิอาภรณ์..........ประดับกาย


ปลดปลิวลิ่วลมสิเรียงราย..............วจนะพิริยะบ่คลาย
แกว่งกระพือกราย........ผิว์เมตตา





.ในวันเวลาสงบรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระผู้ตรัสรู้ดีตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง 
 ผู้ทรงเปล่งกระแสพระวจนะบรรเลง
เปล่งพระสีหนาทกถาเพลงพระเมตตา


ต้นไม้มีใบพุ่มหนางดงาม..ไม่เพียรหยุดให้ร่มเงาประดุจอาภรณ์อันเย็นฉ่ำ ... งามห่มกายเราทั้งหลายให้เย็นกายเย็นใจ...
.

ใบไม้แต่ละใบปลิวไปตามลมอย่างไม่หน่าย
แต่ละใบปลิวลิ่วลมไสวดุจดังพระเมตตาล้ำ
แห่งพระวจนะพระพุทธองค์ยังคงแผ่ไป....สู่มวลมนุษย์

ทิกิ_tiki   

วันศุกร์ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
วันมาฆะบูชา
ขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสี่

ทิกิ_tiki				
5 มีนาคม 2547 02:38 น.

@..กามเทพคืนงาน..@

tiki

.ตอน ๑..@..จากวัดเส้าหลิน
.@


.@..*.ครูครับครู......อยู่ไหมครู.....อยู่ที่ไหน..?

ผมมาไหว้.....ครูตอนนี้.....เหยียบตีหนึ่ง

ครูทำอะไร.....ผมอยากกวน.....ชวนครูซึ้ง*

ครูลืมตา.....ยิ้มรำพึง.....จึงยิ้มแย้ม



***เออทารก....เจ้าถือธนู......เจ้ารู้ไหม ?

หัวศรไซร้......กลมมนไป......จงฝนให้แหลม

อีกคันศร......จงหาไม้......เหลามาแซม

โค้งคืนแรม......วงเรียว......ให้เพรียวลม


เวลากว่า........แปดเดือน.......ซึ่งเลือนล่วง

เราทั้งปวง.......รักษาเจ้า.......ด้วยยาขม

ถอดให้เห็น.......หัวใจเจ้า.......ซึ่งโง่งม

ถอนลูกศร.......รักระทม.......ออกจากใจ.



บัดนี้เจ้า......เข้มแข็งได้......ในวันนี้

ยาครูดี......รักษาเจ้า......จนหายได้

รักษาแผล......ซึ่งบาดเจ็บ......จนเลือนไป

มองตรงไหน......เรียบสนิท......เลือนมิดรอย.


คงทิ้งไว้......แต่วัยเยาว์......ของเจ้านี้

เที่ยวจับคู่......คนโน้นคนนี้......ชี้ชวนถ้อย

สนุกสนาน......ร้ายเหลือ......ไล่ตามคอย

เล่นรักร้อย......ผูกเขา......เข้าด้วยกัน


ข้าฯมองเจ้า......มาตลอด......ให้รอดฝั่ง

มิอาจรั้ง......เอาไว้ได้......ใจเจ้านั้น

ที่บาดเจ็บ......เย็บสนิท......แผลปิดพลัน

ความเข้มแข็ง......เริ่มย้อนผัน......มาใกล้ทาง

.@

นี่คือศร...... คันใหม่...... ข้าฯให้เจ้า

หน้าที่เร้า...... คู่รักใหม่...... มิให้ห่าง

จงออกบิน...... บินไป...... ในฟ้ากว้าง

มองระหว่าง...... คู่ใคร...... ให้รักกัน  


จงเลือกคน...... ผู้มีใจ...... อันใสซื่อ

หยิบรักถือ...... ไว้ในใจ...... ไว้ใส่ฝัน

ให้รักกัน...... ตราบฟ้า-ดิน...... สิ้น-..ินิรันดร์

ให้สวรรค์...... ตามจ้อง...... คอยมองตาม

.

@อย่าสับสน......ดลใจ......ให้ผิดคู่

ถือธนู......จงยั้งคิด......พิษรักขาม

อย่าวุ่นวาย......ยิงผิดตัว......มั่วลุกลาม

โลกจะทราม......คู่ระทม......ตรมอุรา..@



จงคัดเลือก........ให้คนดี........ได้มีคู่

ไม่เจ้าชู้........สัตย์ซื่อ........ถือคุณค่า

เลือกคนดี........ให้คนดี........มีปัญญา

โลกวันหน้า........กามเทพฯช่วย........ด้วยรักจริง !



@..กามเทพติดปีก


ทิกิ_tiki

กามเทพ ตอน 1
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_37503.php


กามเทพ ตอน 2

http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_38153.php				
4 มีนาคม 2547 14:46 น.

..@..เพชรพรรณนาวานะระ..@..

tiki

 @...เพชรพรรณนาวานะระ..@..  


เอ้อ..ก๊อกก๊อก......ครูครับครู.....อยู่หรือเปล่า?

ผมมาเฝ้า.....หน้าบ้าน.....นานนักนี่

หอบปัญหา.....มาถามครู.....ดูอีกที

ครูโผล่หน้า.....มาจะดี.....นะครับครู.. 


 **อือ......ศรีสวัสดิ์ นะเจ้า......เอ้าเป็นอะไร ?

ข้าฯภาวนา......อยู่ในใจ......แล้วหนวกหู*****  

ผมมีปัญหา......วันนี้......ที่พธู

นางหนึ่งนั้น......มิมีรู้......คู่ใจตน


นางผู้นั้น......เฝ้ามอง......ผู้ปองขวัญ

แล้วเอื้อนอิด......มิคิดวัน......อันน่าฉงน

แล้วไม่ยอม......รับคิดถึง......ซึ้งในกมล

เขียนกลอนบ่น......เพ้อหาชาย......อยู่หลายครา


ผมจึงได้......ไปแจ้ง......แถลง  *สาส์น * 

ให้นางนั้น.....สดับอาการ.....แห่งใจว่า 

 หากนางรัก....รีบไกล่เกลี่ย....อย่าเสียเวลา

ครูดูว่า.... *สาส์น *  ผม....คมไหมเอ๋ย..?


..
......@............*สาส์น * .....@...........



เมื่อจบ  * สาส์น* ปู่ครู......  ดูแล้วเน้น  

 ***ข้าฯเขม่น.....   หัวคิ้ว.....   ถึงขิวหา

มันก็ดีหรอก.....   สาส์นเจ้า.....   ช่างจับตา

ช่างอ่อนหวาน.....   ที่จารว่า.....   ช่างอ่อนโยน


อันสาส์นเจ้า.....   เปรียบเพชรพจน์.....   รจนา

แต่โยนหา.....   เหล่าลิง.....   ผู้ห้อยโหน

เพชรของเจ้า.....   ลิงก็ทิ้ง.....   วิ่งตะโกน

เหล่าทะโมน.....   โยนเล่น.....   เข่นเจ้ามา...


ข้าฯ ได้ยิน.....   เสียงด่า.....   จนหนาหู

เพชรของเจ้า.....   ร่วงพรู.....   มาถึงข้าฯ

เจ้านั้นเขียน.....   เวียนไป.....   ด้วยเมตตา

แต่ไร้ค่า.....   ดั่ง***เพชรวรรณนา.....   สู่วานร***



นี่เพราะเจ้า.....   วางให้.....   ไม่ดูประเทศ

จึงเกิดเหตุ.....   *กาละ..เทศะ*.....   วาทะย้อน

หากเปิดวาง.....   หน้าจอบ้าน.....   สานอาภรณ์

บทอักษร.....   จะเพราะพริ้ง.....   ยิ่งงดงาม***   


ว่าแล้วปู่......ครูผม......ซึ่งคมชัด

ลึกเหลี่ยมรัศมิ์......แจ่มจรัส......ในสยาม

ก็มองผม......เปิดหน้าจอ......เพื่อต่อความ

ดูแวววาม......เพชรพรรณนา......ค่าสุนทร



แล้วครูมอง......อีกครั้ง......มิรั้งว่า 

กลอนเจ้างาม....... หนักหนา......ค่าอักษร

แต่.... ท้ายความ  ......เขียนเสียแรง......ถึงบังอร

คนถึงค่อน......ได้ถึงหู     ......**ครูแรงจริง**  


จำไว้ว่า .......คราวหน้า.......เขียนหน้าบ้าน

จะจดงาน.......จารกระไร.......ได้ทุกสิ่ง

อย่าข้ามลอด.......สอดกระแซะ.......ไปแตะติง

**เพชร**จะยิ่ง.......วรรณกรรม.......ล้ำแผ่นดิน..****


***********@*************************@*****************@******


 *สาส์น * 


  *ประหนึ่งสรรค์.......คำบอก......มาออกรับ

ยินสดับ......มานาน......ดังขานเอ่ย

อ้างพี่น้อง......พ้องกัน......กระนั้นเลย

หากใจเผย......รักกัน......ตามสัญญา...


.....พึงประคอง......ใจเขา......ซึ่งเหงาหงอย

ใยชะรอย......ทำพี่น้อง......ล่องหน..หา..

ใยไม่เปิด......ใจคน......ที่ค้นมา

บอกเถิดว่า......**ยังรักกัน**......จงกลั้นใจ


.....เพียงเย้ยเยาะ......เคาะความ......ลามสาวหนุ่ม

ให้ร้อนรุ่ม......รู้จักตน......เอาใจใส่

พี่เขียนบอก......มานาน......ไม่อ่านไป

บอกว่า**คนบนหอคอยนั้นไซร้...ช่างเหงาทรวง***


........เขาช่างขาด......ความรัก......ความอบอุ่น

ใยนวลน้อง......ไม่การุณย์......หรือแหนหวง

ปล่อยเขาล่วง......ดายเดียว......เสียวเจ็บทรวง

พี่ไม่ล้วง......ดอกเจ้า......จงเข้าใจ


.......เพียงหยิบแหย่......กระแสให้......ได้ป่วนปั่น

คะนึงฝัน......วันเห็นหน้า......รู้หรือไม่ ?

ใครไม่รับ......กับตน......ก็จนใจ

เมื่อพี่ไกล......จงค้นฝัน......ที่มันคา

ทิกิ_tiki 


.....@...จบ*สาส์น * ...@....


...........**********@.......................@***********.........
ท้ายความ  


 แบบไม่ค่อยเข้าใจว่า

...หนุ่มสาวที่เขารักกัน...ทำไมต้องนำ ความจน ความรวย ฯลฯ 
อะไร มากั้นซะจริง....

....แบบถ้าพี่จะ ฟัน ใคร     รับรองฟันไปนานแล้ว ไม่รอมาเป็นปีนี่หรอก
...ขอบอกความจริง น้องเอ๊ย...

......รักรักกันไปเหอะ..อย่าเล่นองค์ทรงเครื่องนักเลย..

ทิกิ_tiki   อีกหน    คนเรามันจะตายจากกันวันไหนไม่รู้เนอะ.... 



. ในนามของความรัก ..แด่มนุษยชน 
ทิกิ_tiki 
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน 				
4 มีนาคม 2547 04:35 น.

@..สลดใจ...ในโลกิยะธรรม..@

tiki

@..สลดใจ...ในโลกิยะธรรม..@


...@..ในความฝันอันเนิ่นนานแต่กาลไหน

ยังจำได้ความหมายทั้งภาพ-เสียง

ผ่านปฏิบัติ ศีล-วัตร..ชัดพร้อมเพรียง

สวดมนต์..เสียง....ปฏิบัติ ..ชัดพรรณนา


จึงยามดึก......หลับสนิท......จิตดิ่งฝัน

เทพยดา......ท่านนั้น......ท่านมาหา

ทำความเคารพ......แล้วเชื้อเชิญ......**โปรดตามมา**

พาเลียบท่า......ริมกำแพง......แห่งพระนคร


เป็นเมืองใหญ่......หนักหนา......ท่าน่ากลัว

เทพยดา......ท่านก้มตัว......ดูหลบซ่อน

ทำจุ๊ปาก......ให้เงียบเงียบ......ยืนห่างก่อน

แล้วเผยภาพ......เห็นครึ่งค่อน......เมืองนัครา


ฉันยืนนิ่ง......มองภาพ......คล้ายวาบหวาม

ดูเทพบุตร......ล้อมลาม......นางแพศยา

นอนเปลือยกาย......ธุเรศร้าย......ร้องก้องมา

เทพยดา......เผยให้ประจักษ์......รักเสรี


เสียงนางกรีด......หวีดหฤหรรษ์......แหวกชั้นฟ้า

เพศวิปริต......หรรษา......อย่างเร้ารี่

เทพยดา......จุ๊ปาก......**ระวังให้ดี**

เผยเทพบุตร......เล่นจำจี้......กับนางนั้น


แล้วเทพยดา......ท่านหัน......มาส่งจิต

ทั้งกำชับ......เรื่องนิมิต......กามานั่น

อย่าหลงใหล......ใฝ่ต่ำ......ดั่งจำนรรจ์

มนุษย์หฤหรรษ์......เริงร่า......ฟ้าถอนใจ


หากสตรี......ยังเริงท่า......ท้ามังกร

เสพย์สนาน......ตีน-หัวนอน......ดังภาพไข

ตายย่อมเกิด......ไปเป็นเปรต......ดูจังไร

กลัวหรือไม่..?......ท่านถามมา......วาระมอง


เป็นคำถาม......ยากจะตอบ......ลอบถอนใจ

แต่งงานไป......ใจภัสดา......จะหม่นหมอง..?

จะทำไฉน......เกิดเป็นหญิง......นะ นวลละออง

เรื่องในห้อง......ก็ต้องประคอง....เกรงผิดใจ


เทพยดา......ว่าไว้......ก็พากลับ

ยืนคำนับ......แล้วเจรจา......ว่าความใหม่

เราพาท่าน......ไปวันนี้......เพื่อเตือนใจ

โลกิยะ......นั้นไซร้......มันติดพัน


ถ้านัวเนีย......เลียลาม......เกินห้ามจิต

จะวิปริต......ห้ามไม่ได้......แม้นในฝัน

หากดับจิต......เกิดไปโน่น......แดนเปรตนั้น

แล้วฉับพลัน......ท่านก็มลาย......หายวับไป


ยามเมื่อตื่น......แสนสมเพช......สังเวชจิต

เฝ้าครุ่นคิด......ภาพปริศนา......ซึ่งเทพฯ ไข

โลกิยะ.....**.เทพนิมิต**......ได้พาไป

เป็นสัจจะธรรม......ธุเรศใจ......ให้แสยงกาม....@


ทิกิ_tiki
เขียนค่ำคืน ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki