16 มกราคม 2547 09:55 น.

พันธนาการ 4..........ด้วยแพ้พ่าย

tiki

ก็ยอมรับว่าปรับใจไม่ทันนัก

จึงประจักษ์ รักข้างเดียว มาหลอกหลอน

รักฝังใจ วนเวียนไป ให้ยอกย้อน

ไปตามกลอนอ้อนทุกวันฉันรักเธอ

 


รักข้างเดียวจากหัวใจ ตรงไหนผิด

มันก็สิทธิ์จะหลงไป ว่าเพ้อเจ้อ

บอกตัวเองทุกทุกวัน ฉันรักเธอ

สิทธิ์จะเพ้อ จะเก้อเขิน หรือเกินควร..


   ยังโอบกอดเงาเธอไว้อยู่ในอก

ยังเฝ้าพกรักร่ำขม..ดั่งลมหวน

กอดภาพเธอจำด้วยใจไม่เรรวน

ร้อยโซ่ตรวนพันธนาการ ร้อยผ่านเธอ  


เจ็บแล้ว..ต้องจำ 


ไม่คิดเจ็บ คิดจำ  ทำร้ายใจ

ซ้ำเรื่อยไป  ให้ช้ำซ้ำ สม่ำเสมอ

ทั้งชีวิต  ผิดทุกครั้ง........คลั่งไหมเธอ ?

ราวบ่นเพ้อ...รำพัน...ฝันคนเดียว 


หรือหัวใจ...เหล็ก..แกร่งไฉน...ไม่สับสน

ใยจึงทน.......ให้ฆ่าใจ.......ไม่แลเหลียว

ใยพิฆาต ......บาดหมาง........อย่างปีนเกลียว

ใยจึงเหนียว......ใจสูง.........คว่ำยูงยาง.....


  ให้ต่ำลง.....พงไพร........ดั่งใจนึก

ไม่รู้สีก.....รู้สา.....เลยสักอย่าง

โยนใจเล่น.........เหมือนเช่นใจ.....ไร้ระคาง

ช่างขุ่นขวาง....ขมขื่น........สะอื้นใจ  



อย่าประชดรัก 


ไม่รู้ค่า...รักษาใจ..ให้ผุดผ่อง 

ไม่ประคอง..คุมไว้..ให้ยิ่งใหญ่ 

กลับร่อนเร่...เทขาย..ทอดกายไป 

หมดอาลัย..ตายอยาก..ยากเหลือทน 


 ใจมีค่า....รักษาไว้.....ให้สุดฤทธิ์ 

หากก้าวผิด...จะเจ็บช้ำ...ซ้ำหมองหม่น 

อย่าโยนใจ....อันมีค่า...ฝ่าฝูงชน 

กลางถนน...หนไกล...มิใช่เรา  


.จงตระหนัก...หักใจ..ในวันนี้ 

อย่าประชด.........ชีวี....อย่างโง่เขลา 

หากชาตินี้......ไม่มีรัก....หักจิตเอา 

ของของเขา....ใช่ของเรา...อย่าติดตาม.... 


วานรได้แก้ว 


ไม่รู้จักเจ็บจำ ย้ำความทุกข์ 

ไปเร้ารุก...จึงชิงสุก...เสียก่อนห่าม 

ค่ามณี....ล้ำเลิศ...ประเสริฐงาม.. 

ถูกโยนข้าม...วานรตะกราม...มิห่อนเกรง 


ไม่รู้ค่า....ไม่รู้ราคา..มาเจี๊ยกจ๊าก 

เสียงแควกควาก..แย่งชิง..กันโฉงเฉง 

ค่ามณี...อันควรคน..มายำเยง 

เหล่าวานร.....โยนกันเอง....เล่นเพลงลิง 


น่าสมเพช.....เวทนา...เสียยิ่งนัก 

ถือความรัก....เป็นสรณะ.....กว่าทุกสิ่ง 

รัตนมณี....มีค่า....ราคาจริง 

ถูกโยนทิ้ง.....เขวี้ยงขว้าง....อย่างเมามัน.....				
16 มกราคม 2547 04:51 น.

บินคนละเส้นทาง

tiki

 

ชั่วโมงบินเหนือกว่ามหาศาล

เครื่องก็เลิศล้ำตระการในน่านฟ้า

เทียบเป็นเงินซื้อไม่ได้ไม่พอยา

ใช่ซื้อหาได้ง่ายดายในสายชล


 
เชื้อเพลิงเข้มเต็มถังพลังเหลือ

อีกหน่วยเหนือหน่วยใต้โกลาหล

จะลงเติมที่ไหนไม่อับจน

ไม่ต้องวนเวียนขอบินง้อใคร 


  อีกหน่วยงานซ่อมแซมก็พร้อมเพรียง

พวกเดินเอียงหอบเสบียงมาเต็มไหล่

น็อตหลุดตัวคั่วรีบบึ่งซ่อมถึงใจ

อำนาจหาญบริวารใกล้เต็มอัตรา 


  จะบินเทียบพี่ได้อย่างไรเล่า ?

น้องเพียงเจ้านกกระจอก บอกหมดท่า

เกาะคอนไม้เอียงคอมองอยู่ไปมา

มองพยัคฆ์น่านฟ้า...คราน้องซึม 




 
บินคนละเส้นทาง

				
15 มกราคม 2547 15:15 น.

ฝากใจไวที่นี่

tiki

 ฝากใจไว้ที่นี่กี่บรรทัด

คือคมชัดความรู้สึกสำนึกสัมผัส

ทุกถ้อยคำทุกอักษรยังเด่นชัด

เคยคมคัดคารมเธอคมคาย
 
        

แม้นวันนี้เธอแรมร้างอ้างว้างหน

เคยอยากยลจึงมาชิดสนิทสหาย

หากน้อยเนื้อต้อยต่ำช้ำใจกาย

หากเคยได้ทำเจ็บปวดรวดร้าวใจ


ขอให้รู้ไม่ร้างลับไปกับคนอื่น

ยังคงชื่นส่งกลอนมาเคียงใกล้

มาเลียบเคียงเสียงอักษรไม่จรไป 

ยังยืนมองทุกห้องใจให้ทุกกลอน ....



   ขอให้รู้ไม่ร้างลับไปกับคนไหน

ยังส่งใจมาเลียบเคียงเสียงอักษร

ยืนมองเธอทุกห้องใจให้ทุกกลอน

ยังอาวรณ์เธอทุกวัน..จึงปันใจ

  				
14 มกราคม 2547 00:46 น.

ไม่รุ้เลย...ว่าเธอสำคัญมากขนาดนั้น

tiki

มือถือหายก็คล้ายชีวิตหมด 
แสนรันทดไม่รู้จะตามเธอที่ไหน 
จะบินข้ามขอบฟ้านภาลัย 
ตามหัวใจไปให้ไกลกว่าที่เคย 

นั่งงุนงงเบอร์ลงตรงไว้ในเครื่อง 
สติเฟื่องมาหยิบเปลี่ยนไปเฉยเฉย 
เอาขึ้นเครืองไปอเมริกาเลย 
โธ่รักเอ๋ยจะให้โทรฯ ไปที่ใด 


เบอร์ทั้งหมดรดหัวใจอยู่ในนั้น 
สติแตกแบกไม่ทันพลันหวั่นไหว 
ร้อนราวกับโลกนี้ถล่มไป 
เศร้าอาลัยในอันจะเป็น..กรรมเวรฉัน


ไม่รู้อะไรใยรักได้ขนาดนี้ 

เป็นเพราะเผลอใจเหลือที่จึงสูญขวัญ 

ว่าเป็นเพื่อนคอยตามเตือนอยู่ทุกวัน 

แต่กระนั้นยังหลงทางคว้างจาบัลย์


 อยากหลับลงในอ้อมแขนที่แสนรัก 

แต่กลับผลัก..เธอห่างห่าง อย่างเสียขวัญ 

ใจจะนั่งอยู่ข้างข้าง ..บ้างสักวัน 

แต่กลัวฝันมันเป็นจริง..กริ่งเกรงใจ   

  
 

แต่นี้คงเงียบหายดั่งสายน้ำ

ที่ไหลฉ่ำรินเรื่อยจะเอื่อยไหล

เธอคงคิดฉันแกล้งร้างพลันห่างไกล

มือถือไร้..มิได้ติดต่อ...ท้อเวรกรรม				
13 มกราคม 2547 12:13 น.

พันธนารัก ..๓...ใต้พุ่มไม้ ?

tiki


   แสงแดดอุ่นยามสาย..............ในเหมันต์

มองม่านฝัน.....ผ่านลมหนาว........คราวสดใส


แดดเพิ่งส่อง...ผ่านหมอกคลุ้ม..รุมผ่านใจ

วรุณไหลหลั่งกระโชก..เมื่อค่ำวาน


ยามดึก ..ไปดักขึ้น  รถไฟฟ้า

อากาศเย็นสะทกสะท้า จนสะท้าน

ใจกลับหลังพลั่งพรูไปในกลอนกานท์

กลอนวันวาน  เขียนไว้....ในความเรียง


**  ใต้ร่มไม้...ใบคลุม...เป็นพุ่มช่อ

แว่วหัวร่อ..พ้อชื่น..ระรื่นเสียง

แลเห็นแวว..นัยน์หวาน..ปานสำเนียง

ถึงเป็นเพียง..เนตรงาม ..ยังหวามทรวง


บอกแววรัก แววหวาน..จากมานลึก

ซาบรู้สึก..เสียวซ่า...พาใจหวง

เนตรพราว...วาวซึ้ง..ถึงสุดทรวง

ตาเหมือนล้วง..ลอบล้ำ..รำพันความ


เหมือนจะบอกความนัย...ให้ประจักษ์

สุดแสนรัก...เหลือจะปิด..    อย่าคิดขาม

อย่าปรามเลย...อกเอ๋ย...อย่าเปรยปราม

อย่าคิดห้าม..หัวใจ...มันไม่ควร


...ปล่อยหัวใจเธอไว้...ใกล้กับฉัน

จะเก็บรัก ลับนิรันดร์...ฉันสงวน

จะปิดใย..?..ในเมื่อรัก..ไม่ชักชวน

ก็เมื่อล้วน...รักฉัน..หรือพรั่นใจ?



  เพียงทวงถามความนัย ให้เฉลย

อยากจะเย้ย  ..ยั่วล้อ..ยังพอไหว

เพียงพร่ำพจน์ หมดวลีที่ขอไป

หนักกว่าใคร .....ฉันรักเธอจะเพ้อคอย****

นฤมล  พันธุ์คงชื่น
งานลงพิมพ์ใน **ศาลาคนเศร้า**IS Song Hits
ในปี พ.ศ. 2510-2511  เมื่อรักยังหวานซึ้ง.
.

เธอคนนั้น...ป่านฉะนี้ ..อยู่ที่ไหน

ฉันคงไม่.....ตามถวิล...เหมือนยินเสียง

ตาใสใส..หัวเราะน่ารัก..หวานแว่วเพียง

ก็ไม่เที่ยง.....จากโลกเผชิญ..เกินสิบปี


ทิ้งอารมณ์  แผ่วหวาน..ในงานรัก

กลอนอักษร..ย้อนวัยนัก...หวานไหมนี่..?

คือคำตอบ..ชอบไว้...ให้ฤดี

หวนไปคิด...จิตหวานนี้....เมื่อวัยเยาว์...

				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki