31 มกราคม 2547 14:16 น.
tiki
.
เราต่างพบกันในนามของความรัก
หวังประจักษ์น้ำใจนั้นสื่อความหมาย
เพื่อช่วยร่วมสร้างสรรค์สิ่งมากมาย
ด้วยเป็นคล้ายมิตรแท้แน่แก่ใจ
คือบทเพลงบรรเลงให้โลกกว้าง
ก่อไฟล้างอธรรมอันเหลวไหล
เกิดพลังแห่งทิพย์โชติช่วงไกล
เพียงครรลองแนะแก้ไขใช่ชักนำ
บทหนึ่งนั้นเนื่องนับจากประสบการณ์
ข้ามห้วงนานกล่าวขานขับความคมขำ
หนึ่งน้อยนิดในชีวิตและสัจธรรม
หลากถ้อยคำหลั่งไหลให้เห็นจริง
*** แวะมาทักทายค่ะ ***
จาก : รหัสสมาชิก : 4956 - มาแตง
รหัส - วัน เวลา : 213483 - 31 ม.ค. 47 - 10:23
ยามทิวา...แต่ปัญหา....ดาหน้าหวน
ไร้ชื่นชวน.....สบรัญจวน......ครวญทุกสิ่ง
แต่ยามดึก....สิทธิ์อิสระ......จะตามอิง
มาพึ่งพิง.....สิ่งหวานหวาน.....จารให้จำ
ใช่พราวพริ้ง......เล่นคำ......นำหน้าแถว
เพียงยึดแนว.....กลอนครู...........ดูเมื่อค่ำ
อ่านให้เห็น........ว่าแนวหวาน.......งานครูทำ
ช่วยบรรเทา.........จิตระกำ.........ให้อ่อนโยน
สำนึกได้.......ว่าคารม........แต่คมกล้า
ดุจกระบี่.........ฟาดมา.........เสียบห้อยโหน
จึงพยายาม........กระซิบจังหวะ........เป็นจะโคน
ไม่โลดโผน.......โจนทะยาน........ให้ฝันสลาย
คะเนใจ.....ให้ผู้อื่น.....นั่นเป็นสุข
และไร้ทุกข์.........ได้แววยิ้ม.........แห่งจันทร์ฉาย
คะเนพอ..........ที่ทดท้อ........พอผ่อนคลาย
ก็สืบสาน........วิญญานหมาย......ให้นิทรา
ในอ้อมแขน......อันว่างเปล่า.......เราโอบลม
แล้วก็บ่ม.......รักไว้.....ในอีกหน้า
คือเรียนรู้.........คู่ชีวัน........ขวัญชีวา
สถิตย์ฟ้า.......ทุกราตรี........ที่เคียงจันทร์
จึงเรียนคำ........พร่ำขาน.......อันแสนสวย
หอมระรวย.......ดุจดมดอม........มาลีสวรรค์
จึงฝากคำ.......จำมาจาร........ผ่านห้วงวัน
ให้แจ่มจันทร์......ขวัญชีวา.......ทุกราตรี
ในนามของความรัก
ทิกิ_tiki
213549 - 31 ม.ค. 47 - 14:24
อันกลอนกานต์...สานประสาท...ให้ปราดเปรื่อง
คำลือเลื่อง...ประเทองจิต...คิดสร้างสรรค์
กลอนละภาค...ก็มากด้วย...ระรวยครัน
เรื่องเสกสรร...บรรเทา...ทุก ร้าว ภัย...
มาเยี่ยมนะครับ กลอนเพราะมาก ๆ *-*
จาก : รหัสสมาชิก : 6184 - พู่กันของหูกวาง
รหัส - วัน เวลา : 213455 - 31 ม.ค. 47 - 07:42
ที่ระเริงบันเทิงจิตใกล้นิทรา
ด้วยอยากหาความอ่อนหวานมาจารใส่
ให้หลับสุข ให้ทุกข์ร้าง จางห่างไกล
ให้แจ่มใสตื่นมานัยน์ตาฝัน
ทิกิ_tiki
รหัส - วัน เวลา : 213541 - 31 ม.ค. 47 - 13:53
จะเขียนงามตามความฝันที่ฝันหา
จะเขียนงานผ่านตามหาศาล
เพื่อให้คนได้ยลในผลงาน
หรือต่อสานกันบ้างแม้บางวัน
*-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ง่วงนอนมากแล้วนอนก่อนนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ*-*
จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา
รหัส - วัน เวลา : 213433 - 31 ม.ค. 47 - 05:49
เราต่างพบกันในนามของความรัก
ที่สลักรักมั่นไม่หวั่นไหว
เป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ในกลอนไทย
ให้ความหมายยิ่งใหญ่ในชีวี
*-*ผู้หญิงไร้เงาพิมพ์ผิดด้วยค่ะ ต้องขอโทษนะค่ะ เพราะเมื่อคืนง่วงนอมากไปหน่อยนะค่ะ*-*
จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา
รหัส - วัน เวลา : 213784 - 31 ม.ค. 47 - 22:12
..ในนามของความ..ผูกพัน..
จะเกี่ยวฝัน ..ที่ปลายฟ้า...
เส้นทาง..รกร้าง..ห่างตา..
จะฝ่า..จะฝัน..จับมือกัน.. บรรเลง..ต่อไป...
เรน..ขออนุญาตแจม..นะคะ..
คิดถึง... พี่สาว..ที่ใจดี..
จาก : รหัสสมาชิก : 3384 - rain..
รหัส - วัน เวลา : 213862 - 01 ก.พ. 47 - 00:30
.มาจับมือเดินกันไปข้างหน้า
แม้นปลายฟ้าจะห่างไกลสักแค่ไหน
จะไม่หยุดช่วยกันฉุดผลักดันไป
ให้ถึงปลายใสใสของใจเรา
อะนะพี่ก็มั่วเร็วได้เหมือนกัน อิอิ
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
เห็นคุณมาลา จะไปไหนหลอคะ อย่าไปนานนะ คิดถึง
จาก : mini_pk
รหัส - วัน เวลา : 213670 - 31 ม.ค. 47 - 18:39
มาแล้ว มาแล้ว ไม่ลาลับ
บอกว่ากลับ...ก็ต้องกลับ...ให้คอยหาย
มาเถิดมาน้องพี่..นี้อย่าอาย
มาช่วยกัน...เขียนให้ได้ ซึ่งงานดี
สวัสดีตอนดึกค่ะ อิอิ
จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki
รหัส - วัน เวลา : 213913 - 01 ก.พ. 47 - 01:45
..... ...เราพบกันในนามความรู้สึก
มีถ้อยล้ำคำลึกอันสดใส
แม้มิใช่คนแรกในหัวใจ
เป็นอะไรลึกลึกรู้สึกดี
เราพบกันในนามของความรัก
งดงามนักศัพท์ถ้อยทุกสร้อยศรี
ทุกเรียงร้อยรินรื่นชื่นฤดี
เป็นไมตรีดีงาม ...นิยามรัก
***แวะมาทักทายครับ
จาก : รหัสสมาชิก : 6077 - แทนคุณแทนไท
รหัส - วัน เวลา : 214164 - 01 ก.พ. 47 - 16:14
เพื่อความสุขและ อิสระในฝันแห่งนักกลอนทุกท่านในบ้าน..thaipoem.com
ในนามของความรัก
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
31 มกราคม 2547 03:56 น.
tiki
กลอนเก่าขาน........จารไว้.......ได้ทราบแล้ว
ดั่งดวงแก้ว......หลายแนวไหน.........ให้ไปสู่
ความยอกย้อน........กลอนอย่างไร..........ก็ไปดู
ไปตามรู้.........ว่าครูวาง..........ไว้อย่างดี
เรียนลำดับ......จับบทกลอน.......อักษรสาร
เปิดกลอนกานท์........เคารพอาจารย์........ปู่ฤาษี
เหล่าเมธา........ครูบา........อธิบดี
ผู้รจนา.......พจน์เมธี..........ให้โลกชม
อีกแนวทาง......หว่างสัจจะ.......วาทะชีวิต
ไม่รอนริด.......สิทธิ์มนุษย์......พิสุทธิ์สม
เขียนอย่างไร......ด้วยใจชอบ.....สอบคารม
ด้วยคำคม........คาบกลอน.......ก่อนนิทรา
คือภาพเดียว........ได้เกี้ยวคำ......ร่ำฟ้าโค้ง
แล้วเชื่อมโยง.........แนวเถื่อนไพร........ให้เยือนหล้า
อีกยอจันทร์..........ไว้ในฝัน......แห่งกัลยา
ครูบอกข้าฯ.......ว่าผิดอะไร........บ้างไหมครู
จะเขียนงาม.......ตามใจฝัน.........อันสดสวย
ไม่ร่ำรวย........ถ้อยคำ........อันสวยหรู
แต่ใจมั่น........แม้นฝันไป.......ใจตามดู
ได้พร่างพรู........เป่ากระจาย.......ในเวิ้งฟ้า
แล้วจะหลับ.......กับบทกลอน.......อันอ่อนหวาน
ใจสะท้าน.........คิดถึงเธอ.....ถึงเพ้อหา
ในนวลจันทร์........แจ่มบุหลัน.....ดังฝันมา
แนบสนิท.......นิทรา.......เคียงคนดี......
ครูจ๋าครูบอกข้าฯว่าผิดไหม
ที่เขียนอะไรตามใจตัวอย่างนี้
จวบโลกสลายมลายลับกับอัคคี
ก็จะเขียนพร่ำวจี...นี้ก่อนนอน
ถามครูกลอน......วอนนิทรา
โดย ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
30 มกราคม 2547 11:53 น.
tiki
ดุจบัวบานชูช่อลออตา
บุษบาดอกใดไม่เท่าหรือ?
หากประวัติพุทธศาสน์อันบรรลือ
ว่าพรหมถือนับดอกบัว..ซึ่งผุดมา
ว่าแต่ละกัปป์ แต่ละกัลป์นั้นกัปป์ไหน ?
จะมีพระพุทธเจ้าหรือไม่ท่านมองหา
หากกัปป์นั้นมีดอกบัวผุดขั้วมา
ชูช่อลออตา..ปทุมาบุญ
คือจำนวนพระศาสดาแห่งกัปป์นั้น
ส่วนกัปป์เราในปัจจุบัน อันเราคุ้น
พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน..ธรรม์เกื้อหนุน
ไม่สูญคุณ...พระสัจจธรรม..อันสำคัญ
ยังคงเหลืออีกหนึ่งดอกแห่งกาลกัปป์
ซึ่งจะนับองค์ที่ห้าอีกนานมหันต์
มิรู้กี่ล้านปีจะมากำเนิดเกิดในครรภ์
เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ห้านั้น...ข้าฯจนใจ
ที่ได้ทราบ...โลกคงจะหมดไปแล้ว
แล้วจักรวาลก็ผ่องแผ้วเกิดโลกใหม่
เป็นเข้ายุคอันป่าเถื่อนสัตว์อันใด
จะเซลเดียวหลายเซลได้จะเกิดมา .....
และอีกหลายล้านชีวิตจะเกิดดับ
เกิดเกิดดับ อีกคณานับ..เนิ่นมหา
สุดกำหนด...บทเวร...เกณฑ์ชะตา
จะต้องเกิดมา.......เป็นส่ำสัตว์.......ประเภทใด.
จะต้องไปเวียนใหม่ในวิวัฒนาการ
จะสืบสานกี่สเปซีส์ กี่เผ่าไหน
กว่าจะได้ผันกายพร้อมด้วยใจ
กว่ามาได้เป็นมนุษย์พิสุทธิ์ธรรม ?
ไม่บังอาจ อาจเอื้อม..มาสั่งสอน
แต่เพียงเขียน กลอนสังสารฯ..แล้วใจพร่ำ
ผุดออกมา.......เป็นต้นแบบ.......ด้วยลำนำ
ต่อบทล้ำ......บัวน้อย......ด้อยประสพการณ์
.ด้วยสงสาร....เวทนา......ในสรรพสัตว์
หาวิมุติ.......ยากชัด......สุดสมาน
ด้วยกิเลส..........เศษซาก.......กากเดนกานท์
ได้ย้อมเยื้อ......เนื้อประจาน........แต่ฟ้อนฝัน
ซึ่งสลด หมดใจ......ในกลอนนี้
ด้วยเห็นภัย........พิบัติมี........อยู่มหันต์
แต่มิอาจ........พูดสักบาท........ก็ประจัญ
วาระธรรม.....จากนิรันดร์......จึงขาดตอน
เหลือแต่ธรรม.....ข้อเดียว....อุเบกขา
ด้วยเมตตา.......กรุณา......มาสั่งสอน
ด้วยมุทิตา.....จึงยินดี....หอบให้กลอน
ทีคำพร.......จากองค์พรหม.......ปฐมกาล
แต่มนุษย์........นั้นต่างมี......ที่ทิษฐิ
และมานะ........ซึ่งยากจะ........เข้าไถหว่าน
เพื่อปลูกพืช.......แจงพันธ์........อันตระการ
ในดวงมาน........มิเปิดรับ........กับแสงใจ
ข้าฯสลด.........ใจยิ่งนัก....พระภัคคเจ้า
จึงหอบเอา.........กลอนกานท์.......ในพานใหญ่
มาคืนองค์.........พระทรงธรรม์.........ให้รับไว้
เก็บไว้ให้........ใครที่กล้า........มาเผยความ.....
ข้าฯอ่อนแรง.....แสงสุดท้าย........คล้ายลาลับ
ใจคนนับ......ว่าเปื้อนเปรอะ......เลอะเกินห้าม
ข้าหมดใจ.......ให้ทุกอย่าง........ทุกย่างยาม
ให้อ่านตาม........เห็นอารมณ์.......ที่ซมเซอะ
ว่าคือเหตุ......แห่งเภทภัย......ที่ใจหลง
ที่พะวง........เฝ้าหา.......ท่าสะเออะ
ที่สอดแทรก......แหวกใจ.....อันคร่ำเฟอะ
ไม่พบเจอะ........ธรรมะ......กะผู้ใด
หากคนใด.......มีใจ....ใสพิสุทธิ์
ในวิมุตติ........ในภพมหา.........ชลาใส
ขอจงได้.......อ่านได้ความ.......งามในใจ
สลดเหตุ........แห่งเภทภัย..........ที่ตามมา
ให้สลด.......ต่อโลกกาม.....ที่ลามไหม้
อีกสลด.......ต่อพิษภัย......แห่งโทสา
อีกสลด.....ต่อโมหะ.......หลงปะพา
ให้ทุกข์ร้าย......สังสารฯ มา........เข้าครอบเวียน.
.ข้าฯ ขอลา.......ฝากพานกลอน.........ไว้สอนใจ
ฝากไว้ให้.........พระองค์ใด........ช่วยมาเปลี่ยน
ใช้ทุกเล่ห์......เชิงชั้น......เข้าพากเพียร
ให้อ่านเขียน.......เรียนธรรม......ปฐมกาล
ประณตน้อม.......กรอมหัตถ์.......ขึ้นเหนือเกล้า
แล้วข้าฯเจ้า.......ก็วางพาน........ไว้อีกด้าน
สยบกาย.......สยบคำ........เลิกรำคาญ
แล้วไปหา.......ความสำราญ........แห่งโลกา..!!!!!!
บุญปทุมา.....รจนาพจน์
โดย ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
ข้าฯ รำพึงว่า.......
ไอ้ข้าฯ ก็ซุกซนจนเกินพอ..
ทะร่อทะแร่ถูกเค้าเสียบเลียบชายโครง
แต่ยังคิดนึกสนุกนักหนา......
.ไปเต้นแรงเต้นกาเริงระบำ
พระทรงธรรม์โปรดอย่าโกรธลงโทษข้าฯ
ด้วยโลกนี้สุดยอดสนุกทุกเวลา....
อภัยให้เถอดหนา...
.ถ้าข้าฯกำลังหัวเราะระเริงใจอยู่ไหนปาน
กราบ....ด้วยเคารพอย่างสูง
โดย ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
29 มกราคม 2547 21:29 น.
tiki
บัวน้อย...อ่อนด้อยประสพการณ์
งานกลอนต่อจาก **กงจักรนั้นหรือ จะครือบัว ?**
ล้มแล้วลุก....ปลุกปลอบ.......ชอบเกิดใหม่
ยืนผงาด.....คนใจใหญ่.......ให้ความหวัง
ยื่นอ้อมแขน......ให้เกาะเหนี่ยว......ยึดประทัง
ลุกขึ้นนั่ง......พิงอกแกร่ง......แบ่งเวรกรรม
โอบถนอม......จอมขวัญ......วันร้อนรุ่ม
ปาดความกลุ้ม......คลุมความหวัง......ทั้งระส่ำ
มันทุกข์นัก......ก็ผลักปลอบ......แก้บอบช้ำ
ใจระกำ......ก็ฉ่ำชื้น......รื้นด้วยรัก
ที่เคยทุกข์......ก็ปรับเทียบ......ให้เรียบร้อย
ที่ผาดโผน......โจนลอย......ก็แน่นหนัก
ที่รานร้าว......ก็พราวเพริด......เมื่อเชิดชัก
ที่เจ็บหนัก......รักมาซ่าน......สานรอยดวง
ดุจใจแสบ......สันต์ไหม้......ใจอันร้าว
ที่หาญห้าว......ก็แหบพร่า......น่าเป็นห่วง
ที่ทดท้อ......ล้อชีวิต......กลับโชติช่วง
กลบรักกลวง......ร้าวสลาย......กลายจากตา
พักเถิดพัก......จอมขวัญ......อันอ่อนด้อย
ประสพการณ์......ยังน้อย......จึงเสียท่า
ปีกก็ขาด......ผงาดไม่ไหว......ไร้ปัญญา
พักกายา......เพื่อสู้หน้า......คราต่อไป.....
อย่าไปคิด......ว่าตนผิด......ปิดวันเก่า
ยังวัยเยาว์......จึงพลาดท่า......ก้าวหน้าใหม่
ล้มก็ลุก......ปลุกปลอบ......ชอบกับใจ
เริ่มอีกครั้ง......ให้สดใส......ในพรุ่งนี้ ..@
ให้ชีวิต....จากมืดมืด......สู่ลำแสง
กระจ่างแจ้ง.......แทงใจ.......ให้คลายคลี่
คุณค่าธรรม.....จงผ่านใจ.......ใสทวี
อาบวารี.........ไหลเย็น........เพ็ญจันทร์ธรรม
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
ทีละหยาดสาดชุ่มจนลุ่มลึก
ทีละนิดค่อยตรองตรึกให้เห็นค่า
ทีละน้อยค่อยค่อยสร้างทางปัญญา
ทีละก้าวค่อยค่อยฝ่าทางกันดาร
มาเยี่ยมค่ะ
จาก : รหัสสมาชิก : 4920 - พี่ดอกแก้ว
รหัส - วัน เวลา : 212929 - 29 ม.ค. 47 - 23:28
ที่ละค่าที่ละก้าวคราวที่ให้
ทีละใจที่ละดวงที่ห่วงหาญ
ที่ละเรื่องที่ละราวที่ละงาน
ที่ละคนที่สืบสานที่แสดง
ขอบพระคุณคุณดอกแก้วค่ะ
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
ดอกบัวตูมน้อยๆค่อยโผล่พ้นน้ำ
รับแสงงามแสงธรรมแสงธรรมชาติ
เพราะน้ำใจใสงามและสองมือพี่ทิ๊กกี
นี่แหละนะจ๊ะที่พยายามรจนางานงาม
สอนสั่งใจให้ไหวทันโลกย์..รัก..มักวุ่น..วาย
จาก : รหัสสมาชิก : 4525 - พุด
รหัส - วัน เวลา : 212945 - 29 ม.ค. 47 - 23:40
พี่ยืนมองสองฝั่งล้ำลำน้ำใส
มองลงไปเห็นบัวน้อยค่อยผ่านแสง
สืบต้นสายพุ่งผ่านหน้ามาแจ่มแจง
งามบัวแข่งดอกน้อยลอยพ้นน้ำ
.
เปรียบปทุมพุ่มน้อยลอยไสว
เพิ่งผ่องผุดสะดุดใจจะสวยฉ่ำ
ต้องผ่านโคลนผ่านดินรกระกำ
ต้องผ่านช้ำผ่านโศก..โลกวุ่นวาย
ที่จัดแจงแต่งบานเท่าจานกระเบื้อง
ชมพูแดงแข่งประเทืองเช้าจนสาย
แต่บัวน้อยกระร่อยกระหลิบจิบตาชาย
มองละม้ายครวญหาคนปรานี
จะผ่องผุดเพียงไหนเมื่อได้ผ่าน
คอยผลงานจิตใจให้เต็มที่
คอยส่งผลเมตตาและปรานี
ให้คนดีได้เสียบแท้ในแจกัน
ได้ขึ้นหิ้งบูชาอยู่หน้าพระ
ให้คนได้คารวะไม่ห้ำหั่น
พบพระปฎิมายอกรวรปัญญ์
ดอกบัวนั้นได้ชูช่อล้อธรรมา...
พี่หวังส่งบัวน้อยแดงได้แสงธรรม
ได้ซึมซับน้ำคำอันล้ำค่า
ได้กลั่นกรองร้องล่ออยู่นานมา
ให้ตามหาพระธรรมเมื่อช้ำตรม..... .....
ทิกิ_tiki
รหัสสมาชิก : 4895 - tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
รหัส - วัน เวลา : 212957 - 30 ม.ค. 47 - 00:
29 มกราคม 2547 13:24 น.
tiki
คำบิดาแห่งข้าฯเคยสั่งสอน
มือก็วอนลูบผม....คอยชมว่า....
เจ้าลูกรัก...จักจำไว้....ในหัทยา
ว่า*ปากกา* นี้....มีคม....สมดังใจ
.หนึ่งหมื่นแค้น..แสนเจ็บ...จนตัวสั่น
แต่เจ็บนั้น...เท่าวาจา.....มาเชือดใส่..?
จงอย่าพูด....ปราดเปรื่อง......กระเดื่องไกล
เหมือนดาบ...ลับ..คมไว้..เก็บให้ดี
แต่ปากกา....หากทิ่มแทง.......แย้งข้างหลัง
ต่อหน้าดั่ง...ชมเลิศ..ประเสริฐศรี
จักก้าวล่วง...ไปบ่วงกรรม..ด้วยวจี
จงรักษา.......ใจให้ดี......ที่เมตตา..
จะอบรม....พอสมควร..ที่สั่งสอน
เด็กยังอ่อน...อายุน้อย....ด้อยเยาว์กว่า
พูดเพราะเพราะ...นุ่มละไม...ใช้จรรยา
และที่ท่า......โอบสวม...หลวมละมุน
ให้ผูกใจ....ไว้ให้ดี......เป็นที่หนึ่ง
ให้ซาบซึ้ง.......ลดาดอม......อันหอมกรุ่น
เก็บพระเดช......ของลูกไว้.......ใช้พระคุณ
จะเป็นบุญ......แก่พารา.....คราเมื่อชม.....
ข้าฯ.....นี้รับ.....จับใจ...กระไรนัก
คำบิดา.....ข้าฯ..สลัก......จักใจบ่ม
อีกสอนสั่ง......รับใส่น้อม....ค้อมประณม
อีกทั้งก้ม....กราบเท้าพ่อ.....ท่านพอใจ
ในโลกนี้.......หากมีใคร.......ใจอุกอาจ
มาหยามชาติ....ให้อุบาทว์......มาตกใส่
ข้าฯก็นิ่ง........ไม่โต้ตอบ....ลอบกัดใคร
อีกทั้งใจ.......อหิงสา.....มาคืนคำ
ยิ่งนับวัน....ยิ่งกระเดื่อง.....กระด้างลาง
ยิ่งเอ่ยอ้าง......อาจอง...จงหยาบหยาม
ยิ่งนับวัน.....ยิ่งทำลาย.......ขยายความ
ยิ่งนับวัน.......ยิ่งประนาม...ข้ามทุกมรรค
เธอ..ถลา....มาว่า........วาทะสอน
แต่บทกลอน........ของเธอ.......นั้นแตกหัก
แต่ละประโยค.....โชกมีดเชือด......เลือดอาบนัก
แล้วใครจัก.......รักเธอ...?........จักเผลอใจ......?
คำแห่งเธอ.....โหดร้าย......ไร้เมตตา
เยี่ยมทุกหน้า.....เสมือนว่า......*ข้าฯนี้ใหญ่*
ทั้งเงื่องแง่ง.....หงุดหงิด.....คิดโค่นใคร
ทั้งหยามเหยียด...ให้หม่นไหม้....และเย้ยยาม
ที่ตามแล.....แปรไป.....ในหนังสือ
ข้าฯก็ถือ.......ว่าเธอนั้น........เพียงกิ่งหนาม
แค่ตำแย.....แต่จะย่ำ.....ให้ล้ำความ
เหมือนคนทราม.....อาบกระฉอก...กระออกไอ.....
อนิจจา....ตัวหนังสือ...ข้าฯถือเลิศ
อักขระ...พระฯประเสริฐ...จะหมองไหม้
ดูทีหรือ.?...นำมาฆ่า......ปากกาไว
เที่ยวทิ่มแทง.....ให้ช้ำใจ........ไปทุกคม
เถอะ..! ถ้าเจ้า..พอใจ...จงขว้างมา
ตบลูกแรง....ประเด็นฆ่า....ให้สาสม
แต่ข้าฯนิ่ง......อโหสิ......เมื่อปริพรม
ไม่ซานซม.......ไม่ขมใจ........ไม่ยินดี
ขอนำพาน......ขึ้นกราบทูล.....ทำนูลขอ
ช่วยยกยอ........ตัวข้าฯ......พาหลีกหนี
ทูนอักขระ.......พาก้าวไป.....ไกลอเวจี
อยู่กับสวรรค์........สรรค์วจี.......มีเมตตา ..!!
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน .