31 กรกฎาคม 2546 05:14 น.
tiki
@เสียงน้ำเอื่อยไหลเฉื่อย ฉาบสองฝั่ง
เสียงลมหวีด กรีดพฤกษ์สะพรั่ง ..พนาสวรรค์
ฉันกรีดพิณ แผ่วแผ่ว แว่วจำนรรจ์
ดุจดังเสียง เธอและฉัน ยามเจรจา๑
@คือเสียงใน จากใจ ที่ไปถึง
เป็นเสียงซึ้ง สุขสันต์ และหรรษา
เป็นเสียงตอบ ชอบกัน ด้วยปัญญา
เสียงนี้พา ใจสว่าง กระจ่างพลัน๒
@แล้วมองปราชญ์ ผู้มีรัก อยู่เป็นฟ่อน
ไว้แจกแลก สโมสร มิตรฉันท์
โน่นปราชญ์หนุ่ม ผู้กรุ้มกริ่ม ในเชิงกัลย์
ส่วนปราชญ์สาว เยาวะ นั้น ชั้นลีลา ..๓
@ล้วนสุขสันต์ จากสวรรค์ ณ. ชั้นไหน
ล้วนหัวใจ เพ้อฝัน และหรรษา
ล้วนแววขัน แพรวพราย หลายลีลา
ล้วนหลงว่า ตนนั้น มันของจริง๔
@แต่แยกเถิดความฝัน อันวาบหวาม
กับความรัก ที่ทวงถาม อยู่ทุกสิ่ง
มันไม่มี ไม่มีอะไร ที่เป็นจริง
ทุกทุกสิ่ง ล้วนผ่านมา แล้วผ่านไป..๕
@จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ในภาพลักษณ์
ล้วนตระหนัก ภาพมายา มิสงสัย
ว่าความรัก รักนั้น .คือฉันใด
คือห่วงหา ห่วงใย .ในชั่ววัน.๖
@ก็แค่นั้น ฉันปลิดกลีบ ผกานุสรณ์
ฝากล่องลอย ตามสาคร ที่ผ่านผัน
ฝากกลีบมาลย์ ลอยผ่าน ไปธารวัลย์
สู่สวรรค์ ชั้นไหน. .ในสายธาร.๗
@เพียงชีวิต แต่ละกลีบ ซึ่งลอยล่อง
ไปสู่ห้อง ห้วงสาคร ห้วยละหาน
จากบึงใหญ่ ไปมหา ชลาธาร
จากทะเล สมุทรตระการ ..มหาชล.๘
@ฝากทุกกลีบ ลอยไป ในโลกฝัน
สู่ห้วงแห่ง มหาสมุทร สุดฉงน
สุดจะลึก หยั่งมิได้ น้ำใจคน
ฝากห้วงสมุทร มหาชล ช่วยกลั่นกรอง.๙
ทิกิ_tiki
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
๗ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
29 กรกฎาคม 2546 22:58 น.
tiki
๒๕ ::แม่ไทยไห้หวน
แม่ของหนู ....
@ คุณแม่ขา ครูสอนว่า สังคมไทย
นั้นผู้ใหญ่ ต้องเข้มแข็ง และเปิดเผย
ผู้หญิงไทย ต้องสง่า น่าชมเชย
คำพังเพย เด่นมา น่ายินดี
@ อันหญิงไทย ต้องเก่งกล้า และสามารถ
ต้ององอาจ รบพุ่ง ไม่คิดหนี
มือก็ไกว ดาบเก่งสู้ กู้ธานี
หนูก็เชื่อ คุณแม่นี้ มาช้านาน
@ แล้ววันนี้ ภาพหญิงไทย ไยแปรประหลาด
ทิ้งดาบกล้า ดาราวิปลาส กันเกลื่อนบ้าน
แถบส่งภาพ คราบนางโลม เหลือประมาณ
ไม่คิดอ่าน ทำอะไร ให้มันดี
@ แม่ขาแม่ ใกล้วันแม่ แล้วนะคะ
หนูรักแม่ มากค่ะ บอกไว้นี่
หนูอยากให้ แม่ที่รัก ของเรานี้
อย่าได้ออก ทีวี วิดีโอรัก
@ สังคมดี มีแม่เรา ปกเหย้าเรือน
ไม่แชแชือน เบือนบิดไป ให้ประจักษ์
แม่คนไทย ทุกวันนี้ มีความรัก
ให้ลูกพัก พิงเถิด ประเสริฐเอย
ทิกิ_tiki
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
16:58 21 กรกฏาคม พ.ศ. 2546
29/07/2546
--------------------------------------------------------------------------------
29 กรกฎาคม 2546 21:50 น.
tiki
เมตตาหมาไทย
@ เห็นแมวหมา น่ารัก ข้างถนน
ขอเพียงคน เมตตา ให้อาหาร
อย่ารังแก เตะตบด่า ไม่ต้องการ
แต่วันนี้ เห็นแต่พาล ทารุณกรรม
@ บ้างจับผูก ปิดปาก มัดเท้าหมา
จับโยนลง คลองประปา ฆ่าไม่ขำ
บ้างเอาไม้ แหลมทิ่มตา อาชญากรรม
บ้างกระหน่ำ ถลกหัว หมากลัวตาย
@ ข่าวเนชั่น แชนแนล เห็นแล้วเศร้า
ร่วมด้วยช่วย...กัน มาเข้า เวลาบ่าย
แสนสมเพช เวทนา ฆ่าทำไม ?
พาลคนไทย เป็นอะไร ในวันนี้
@ สองสัปดาห์ ก่อนพรรษา ยิ่งพาเศร้า
หมาหลายเผ่า วัดบัวขวัญ ถูกบดขยี้
โจรใจร้าย วางยาพิษ ปลิดชีวี
หมาอนาถา ทั้งร้อยนี้ ถูกฆ่าตาย
@ เอน็จอนาถ แมวหมา น่าสงสาร
คนทุกบ้าน โปรดอย่าฆ่า เว้นไว้ให้
คนเกลียดหมา หมาเป็นเหตุ เภทต้องตาย
อย่าทำร้าย ให้ชีวิต ไม่ผิดกรรม
@ อันชีวิต ของใคร ใครก็รัก
ไม่มีใคร อยากสมัคร ให้กระหน่ำ
เกิดเป็นหมา ก็ทุกข์แค้น แสนชอกช้ำ
ขออย่าซ้ำ เติมบีฑา ฆ่าเขาเลย
ประพันธ์โดย คุณ ทิกิ_tiki
22 กรกฏาคม พ.ศ.2546
สงวนลิขสิทธิ์..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
18 กรกฎาคม 2546 13:18 น.
tiki
@มองรอบกาย ไม่มีใคร นอกจากเสียง
น้ำไหลเรียง ..เอื่อยเฉื่อย สองฝั่งข้าง
ความสุขซึ้ง ซาบ..ผ่าน มานบางบาง
เป็นสุขเย็น ที่เว้นวาง ว่างโทษภัย ๑
@ เสียงคนธรรพ์ บรรเลง เพลงดนตรี
มโหรี ขับกล่อม ย้อมใจให้
ฟังเสนาะ เพราะเพียง เสียงหทัย
ดินแดนไกล ใสเย็น เป็นเสียงธาร ๒
@ แดนไกลลิบลิบนั้น ฉันเคยคุ้น
ปราชญ์มีบุญ ทั้งผองผ่อง แย้มยิ้มผ่าน
สงบเย็น ดำริตอบ ชอบชลธาร
ปราชญ์ตอนกานท์ กวีกัน ไม่ชั้นเชิง ..๓
@ ด้วยไมตรี สุภาพ ไม่หยาบกร้าน
สุนทรกรรณ วรรณกานท์ ไม่ยุ่งเหยิง
ล้วนเมตตา ปรานี ไม่มีเชิง
ไม่หลงเหลิง เบิ่งท้า ภาษากลอน ๔
@ ธรรมดา ปวงปราชญ์ ต้นชาติเชื้อ
เสวนา ไม่พร่ำเพรื่อ เอื้ออักษร
คอยปลอบโยน กระแสใจ เอื้ออาทร
ด้วยชาติพันธุ์ ปราชญ์บวร ฉลาดจริง ..๕
@ ล้วนเมตตา ปรานีมนุษย์ ให้หยุดคิด
เราหรือผิด ไม่มาช่วย ด้วยชาย..หญิง
ซึ่งบำเพ็ญ บารมี มีอยู่จริง
หลายสมัย ภพชาติยิ่ง เกินพรรณา .๖
@ แล้วปวงปราชญ์ กระวีกระวาด ผลุนมาช่วย
จึงบังเกิด เป็นไทยทวยราษฎร์ถ้วนหน้า
เป็นปราชญ์กลอน ผลิกานท์ กร้านวิชา
แต่ใจนั้น หนักแน่นหนา ในเชิงพรหม.. .๗
@ จึงเป็นปราชญ์ เดินดิน กินข้าวแกง
ฝ่าระแหง อยู่ในพื้น พิภพล่ม
จึงเดินสวน ไปมา ในสังคม
มีแววตา ลูกผสม รู้บาป..บุญ .๘
@ หากไม่รู้ วาชั่วนั้น เป็นฉันใด?
จะแยกแยะ บอกใคร ได้เกื้อหนุน
หากไม่รู้ งานสิ่งใด เป็นงานบุญ
จะบอกคุณ ..ท่านรู้ได้ ใด..ดีเลว .๙
Tiki
๗ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
ทิกิ_tiki
สงวนลิขสิทธิ์..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
9 กรกฎาคม 2546 19:06 น.
tiki
รักฉันผลิวันหวาม..ข้ามมิติฝัน...ตอนสอง
ความรักเอ๋ย..คืออะไร ไม่รู้จัก
เขาว่าคือ ห่วงนัก ละห้อยหา..
คือหวิวหวำ หวามไหว ในอุรา..
แนบสนิท นิทรา เคียงกมล. ๑
@ ฉันนั่งเหม่อ มองสาย นทีไหล
ไม่รู้สึก สาอะไร ใจฉงน
หากว่ารัก เมื่อแรกรัก จักอยากยล
อยากจะพบ ยอดคน ที่คอยเคียง ๒
@ แต่ใจนี้ กลับชาชืด จืดสนิท
คนใกล้ชิด .เฝ้าถามไถ่ .ใยฉันเลี่ยง..?
ใจฉันกลับ ข้ามมิติ ไปอิงเอียง
สู่อีกภพ ลี้ลับเพียง แต่ผู้เดียว ๓
@ เห็นบ้านน้อย กลางเนิน ในเรือนใจ
แวดล้อมไซร้ หนังสือกลอน ไว้นอนเกี่ยว
จิตข้ามฝัน เตลิดไป ไร้ คม..เคียว
มิอาจเหนี่ยว รั้งไว้ ในภพนี้ ๔
@ นักปราชญ์น้อย คอยฉัน อยู่ที่ไหน ?
ยิ้มละไม มองหา อยู่ทุกที่
จิตวิญญาน อันใสสด งดงามนี้
ประเทืองจิต ประทับชีวี ทุกวี่วัน ๕
@ ฉันนั่งลง พงหญ้า ท่าธารน้ำ
แล้วบรรเลง ดนตรี ตามที่ฝัน
หัวใจยิ้ม ปริ่มรัก อักขร..บรรณ
เป็นปราชญ์ชั้น ชอบดนตรี กวีแวว ๖
@ ติดข้อไหน จงถามไถ่ ปัญญาเอ๋ย
จะได้คอย ช่วยเฉลย ให้ผ่องแผ้ว
เสียงดนตรี สร้างปัญญา ให้เพริดแพรว
จิตสดใส หวานแว่ว ว่าบทกลอน ๗
@ เธอดีดพิณ เสียงปร่า ถ้ายังต่ำ
เธอปรับก้ำ เกินค่า เสียงแข็งค่อน
เธอปรับสาย พอดี เสียงแว่ววอน
เหมือนสายตา อาทร พอดีพอดี ๘
@ ทางสายกลาง มีไว้ ให้พินิจ
คัดแยกจิต พิจารณา ให้ถ้วนถี่
ฉันเอนกาย เพลินเสียงพิณ เพราะฤดี
ยิ้มละไม ในวันนี้ ที่สายกลาง ๙
ทิกิ_tiki
สงวนลิขสิทธิ์..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved