13 พฤศจิกายน 2546 15:23 น.
tiki
@ เวลาเรียน ฉันขอออก ไปห้องน้ำ
แต่น่าขำ ไปเร่ดู ดอกไม้ใกล้
ชมผีเสื้อ เร่ร่อน บินว่อนไว
เถลไถล ไม่กลับห้อง ต้องถูกตี.........( ๓๔)
@ อาจารย์ให้ ไปยืนคาบ ไม้บรรทัด
สองแขนกาง อีกขาหยัด ขาเดียวนี่
ยืนหน้าห้อง เพื่อนหัวเราะ สนุกดี
โรงเรียนนี้ ฉันเริ่มมี วี่แววดัง.........( ๓๕)
ชีวิตสอนชีวิต ตอน สาม (๓) วัยอนุบาล (ต่อ)...โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
@ ในวันนั้น ตัวฉัน ผอมก๋องแก๋ง
ไม่ค่อยมี เรี่ยวแรง ไม่ขึงขัง
มีอย่างเดียว ที่จำได้ ร้องไห้ดัง
คุณแม่ท่าน ยิ่งประดัง ต้องถูกตี.........( ๓๖)
@ ท่านชอบเอ็ด เสียงตวาด ฉันกราดถอย
อีกคุณย่า ท่านยิ่งคอย รุมเต็มที่
สองคนนี้ แสนสาหัส จับฉันนี้
ยามฉันกรี๊ด ลงตุ่มที่ ว่างปิดฝา .........( ๓๗)
@ แล้วหลอกว่า ยิ่งร้อง จะโดนดี
เอาเชือกห้อย มาที่นี่ ว่างู..น่า
โฮโฮโฮ ฉันตัวสั่น เหลือระอา
กลางคืนนอน ร้องไห้จ้า เสือมาแล้ว........( ๓๘)
@ เป็นอย่างนั้น ทุกทุกวัน ทั้งสองคน
จ้าละหวั่น อลวน จนฉันแห้ว
เป็นคนเดียว มีปัญหา ต้องแนะแนว
ที่นอนเปียก หมดแล้ว ได้ทุกคืน.........( ๓๙)
@ ที่โรงเรียน ของฉัน นั้นแหละหนา
เรื่องวาดเขียน คล่องกว่า ไม่ต้องฝืน
อีกร้องเล่น เต้นรำ ไม่จำกลืน
แม้เล่นเล่น เรียนนั้นยืน ว่าเก่งงาน.........( ๔๐)
@ เป็นอะไร ไม่รู้ ดูสับสน
สองครอบครัว อยู่ปะปน อลหม่าน
เดี๋ยวคุณย่า ว่าคุณแม่ ไม่แม่บ้าน
เดี๋ยวคุณแม่ โกรธก็พาล ปิดประตู.........( ๔๑)
@ ....คุณแม่ขา เปิดประตู ให้หนูหน่อย
ห้าทุ่มแล้ว หนูนั้นคอย ขึ้นห้องอยู่
คุณแม่ไม่ เปิดให้ ปิดล็อครู
ฉันเสียใจ ไปนอนอยู่ คุณย่าเคียง.........( ๔๒)
13 พฤศจิกายน 2546 03:34 น.
tiki
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
@ ในครานั้น ตัวฉัน เริ่มเรียนแล้ว
แม่พาเข้า สตรีวรนาฏ ไม่อาจหยาม
เรื่องเรียนเก่ง ฉันคงเก่ง ไม่มีทราม
แต่อารมณ์ ไม่อาจห้าม เรื่องน้อยใจ.........(๒ ๙)
@ จำได้ว่า ในบางวัน ก็งอแง
ร้องว่าย่า.........หนูนั้นแย่ ไปไม่ได้
คุณย่าถาม ว่าหลานขา เป็นอะไร
หนูท้องไหล ปวดไม่ไป ค่ะโรงเรียน.........( ๓๐)
@ คุณย่าจับ หัวดู รู้ว่าแกล้ง
แต่ช่างเถิด หลานแสดง ฉวัดเฉวียน
พอท่านไป หลานกระโดด โลดวนเวียน
ดีใจมาก ไม่ต้องเรียน ไปบางวัน.........( ๓๑)
@ ตอนอนุบาล อยากอยู่บ้าน อยู่ไม่ได้
คุณแม่ไม่ ให้อยู่บ้าน นะอิฉัน
เรียนสักพัก ให้ไปสอบ อีกที่พลัน
ละอออุทิศนั้น รัฐบาล ท่าน คอยดูแล.........( ๓๒)
@ ฉันคือลูก คนที่สาม ในครัวบ้าน
คุณหลวงท่าน ให้ค่าเรียน ช่วยพ่อแม่
รัฐส่งเสีย เป็นเด็กรัฐ - บาลแท้
แต่ฉันแย่ เด่นดัง ไม่ตั้งใจ........( ๓๓)
@ เวลาเรียน ฉันขอออก ไปห้องน้ำ
แต่น่าขำ ไปเร่ดู ดอกไม้ใกล้
ชมผีเสื้อ เร่ร่อน บินว่อนไว
เถลไถล ไม่กลับห้อง ต้องถูกตี.........( ๓๔)
@ อาจารย์ให้ ไปยืนคาบ ไม้บรรทัด
สองแขนกาง อีกขาหยัด ขาเดียวนี่
ยืนหน้าห้อง เพื่อนหัวเราะ สนุกดี
โรงเรียนนี้ ฉันเริ่มมี วี่แววดัง.........( ๓๕)
12 พฤศจิกายน 2546 17:35 น.
tiki
@ แม่ลงทุน มากคุณค่า กว่าห้าปี
กลายเป็นหนี้ แสนเศร้า หมดความหมาย
ชวนคุณพ่อ กลับมาอยู่ คู่เคียงกาย
ใจสลาย ทรัพย์วอดหมด อดหนทาง.........( ๑๙)
@ พอเข้ามา อยู่ศรีย่าน บ้านซอยหนึ่ง
ลูกเข้าเรียน โรงเรียนซึ่ง เก่งฝรั่ง
พี่สองคน อยู่ยออัน - นาดาร์คดัง
สตรีวรนาฏ ตัวฉันหวัง เข้าอนุบาล.........(๒ ๐)
@ .น้องคนเล็ก ครานั้น ก็เกิดแล้ว
แม่หมดแรง เสียงแผ่ว ไม่คิดอ่าน
กลุ้มแสนกลุ้ม ลูกก็รุม แม่รำคาญ
แต่แม่นั้น งามสคราญ เหมือนเทพธิดา........(๒ ๑)
ชีวิตสอนชีวิต ตอน สอง (๒) วัยทารก (ต่อ)
@ ฉันยังเด็ก เล็กนั้น แต่รู้ได้
ว่าแม่โกรธ เกรี้ยวกระไร อยู่ตรงหน้า
ได้แต่งง สงสัย น้อยใจมา
ไม่รู้ว่า แม่เป็นไร ไม่ชอบเรา.........(๒ ๒)
@ แล้วแม่ได้ ทำงาน ฝ่ายบัญชี
ด้วยก่อนแต่ง กับพ่อนี้ แม่เคยเข้า
เรียนที่เตรียม ธรรมศาสตร์ วาดวัยเยาว์
ว่าจบแล้ว แม่นวลเจ้า จะทำงาน.........(๒ ๓)
@ แต่ว่าพ่อ ตามง้อ คอยขอแม่
ให้ออกมา แต่งแน่แน่ เป็นแม่บ้าน
พ่อจะเลี้ยง ดูแม่ ให้สำราญ
แม่คิดฝัน วันที่ผ่าน จึงตกลง.........(๒ ๔)
@ วันนั้นหนอ ไม่กี่ปี ที่งามงด
แม่ยิ่งกลับ สวยสด ชวนให้หลง
แม่มีเงิน ฉันจำได้ ไม่งวยงง
กระเป๋าหนัง จรเข้คง กว่าสามพัน.........(๒ ๕)
@ แม่ให้เพื่อน วันเกิด เลิศเลอนัก
ตัวฉันนั้น ได้ประจักษ์ ไม่แปรผัน
สังคมแม่ สูงนัก จักรำพัน
แล้วถึงวัน แม่ใจอ่อน ถึงร้อนใจ.........(๒ ๖)
@ เธอชื่อเล็ก เป็นญาติแม่ และเป็นเพื่อน
ตามมาเยือน มาหยิบยืม แม่ไม่ให้
เขาให้แม่ พาไปหา นายทุนไซร้
ได้เงินไป โดยแม่นั้น ประกันแทน.........(๒ ๗)
@ เขาหายไป ไม่ส่งเงิน ต้นและดอก
ญาติแม่มา ย้ำตอก นับเป็นแสน
แม่ทำงาน งกงกมา ต้องแร้นแค้น
จ่ายเงินต้น ดอกรำแพน ออกงอกงาม.........(๒ ๘)
ในช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิง สับสนเรื่องงานในชีวิต
ชั่วขณะหนึ่งที่ได้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และต่ออินเตอร์เน็ทเป็นวิถีหนึ่งที่คนในยุคปัจจุบันคุ้นชินเหมือนคนสมัยก่อนยกหูโทรศัพท์ในบ้าน หรือยุคสิบกว่าปีที่ผ่านมา คนต่อโทรฯมือถือ
อินเตอร์เน็ตช่วยให้มองหาข้อมูลไว้ทำงาน และ ช่วยให้พักผ่อนได้พอสมควร
...
ขอทดแทนพระคุณครูทุกคน ทุกสถาบันที่เรียนมา
อนุบาลสตรีวรนาฎ
อนุบาลละอออุทิศ
สาธิตวิทยาลัยครูสวนสุนันทา
....
.....
....
ตลอดจนกราบคารวะพระคุณท่านอาจารย์พระภิกษุและฆราวาสทุกท่าน
ตลอดจนกวีชาติครูภู่ สุนทรภู่ ศรีปราชญ์
กราบถวายพระพร พระเจ้าแผ่นดินมหาปราชญ์กวีสยามทุกพระองค์
และที่จะเว้นขอบคุณมิได้เลย คือท่านเจ้าของเว็บทั้งหลายที่กรุณาให้คุณทิกิ tiki
ไปเขียน เขียน เขียนไว้เปลืองหน้าเว็บเค้านั่นแหละ แฮ่ะ ทิกิ tiki
กวีคอนโด
http://www.plangprachachon.com
http://www.thaipoem.com
http://www.bangkokcity.com
http://www.toursong.com(ลานกลอนกวีไทย)
http://www2.ezyplaces.com/nickmanthanako
12 พฤศจิกายน 2546 13:10 น.
tiki
กลอนบทนี้
จึงขอทดแทนพระคุณชาติที่รักของข้าฯ
จึงขอทดแทนพระคุณศาสนาซึ่งบ่มจิตใจมา
จึงขอทดแทนพระคุณพระบรมราชวงศ์ซึ่งหล่อเลี้ยงตระกูลปู่ยาตายายข้าฯ
จึงขอทดแทนพระคุณพ่อ พระคุณแม่
จึงขอทดแทนพระคุณครูทุกคน ทุกสถาบันที่เรียนมา
บทนี้เริ่มแต่สตรีวรนาฏ...ที่เก่าที่เดิม..บนถนนที่มีรถรางวิ่งเดิมนั่นแหละค่ะ
และที่จะเว้นขอบคุณมิได้เลย คือท่านเจ้าของเว็บทั้งหลายที่กรุณาให้คุณทิกิ tiki
ไปเขียน เขียน เขียนไว้เปลืองหน้าเว็บเค้านั่นแหละ ค่ะ
โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
@ แม่ฝ่าคลื่น ลมชีวิต คิดหวนไห้
จะลำบาก ยากอย่างไร ตอนมีฉัน
เมื่อคลอดแล้ว ต้องทุกข์ยาก ลำบากครัน
มีลูกหญิง ต้องคุ้มกัน เกินพรรณนา.........( ๑๓)
@ อีกตัวฉัน ครั้นเกิดมา ก็น่าเกลียด
ตัวดำดำ แม่นึกเหยียด เมื่อเห็นหน้า
ไม่เห็นสวย ไม่น่ารัก เหมือนปลาร้า
แต่พ่อว่า ช่างเถอะน่า มันน่ารัก.........( ๑๔)
ชีวิตสอนชีวิต ตอน สอง (๒) วัยทารก
@ เวลานั้น แม่มีสวน อยู่ที่ตราด
พ่อสร้างคอก ม้าฟืดฟาด ข้างที่พัก
ฉันคงซน แม่คอยห้าม ตามว่าทัก
เล่นไปหมด สนุกนัก สวนทุเรียน........( ๑๕)
@ ส่วนบ้านเรา ที่ศรีย่าน ปู่ย่านั้น
พาคุณอา สองสามคน มาอ่านเขียน
คุณอาน้อย ทั้งสามนั้น ต่างพากเพียร
ยังเล่าเรียน พักเฝ้า บ้านเรากัน.........( ๑๖)
@ แม่เล่าว่า ในครานั้น เงินท่านหนา
มีการค้า อยู่เมืองตราด พลอยฉายฉัน
คราท่านเข้า เมืองกรุงเทพฯ พบเพื่อนพลัน
แจกทั้งนั้น ของสวยงาม อร่ามตา.........( ๑๗)
@ แต่ต่อมา คราวิโยค โศกสลด
เงินต้องหมด อีกอัคคี ไหม้หมดป่า
ลามต้องสวน ทุเรียนแม่ หมดพารา
เจ็ดสิบไร่ ของแม่หนา หมดวอดวาย.........( ๑๘)
@ แม่ลงทุน มากคุณค่า กว่าห้าปี
กลายเป็นหนี้ แสนเศร้า หมดความหมาย
ชวนคุณพ่อ กลับมาอยู่ คู่เคียงกาย
ใจสลาย ทรัพย์วอดหมด อดหนทาง.........( ๑๙)
@ พอเข้ามา อยู่ศรีย่าน บ้านซอยหนึ่ง
ลูกเข้าเรียน โรงเรียนซึ่ง เก่งฝรั่ง
พี่สองคน อยู่ยออัน - นาดาร์คดัง
สตรีวรนาฏ ตัวฉันหวัง เข้าอนุบาล.........(๒ ๐)
@ .น้องคนเล็ก ครานั้น ก็เกิดแล้ว
แม่หมดแรง เสียงแผ่ว ไม่คิดอ่าน
กลุ้มแสนกลุ้ม ลูกก็รุม แม่รำคาญ
แต่แม่นั้น งามสคราญ เหมือนเทพธิดา........(๒ ๑)
11 พฤศจิกายน 2546 18:25 น.
tiki
ผ่านงานเขียนไหว้ครูสุนทรภู่ เมื่อ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๖ นี้มา ทิกิ tiki ก็พบ
ว่าตัวเองกลายเป็นนักกลอน ๒๔ ชั่วโมงไปเสียแล้ว
วิญญานนักกลอนที่ ทิกิtiki แอบซ่อนไว้ในตัวก็เผ่นโผงออกมา จะปิด จะเอายันต์
แปะไว้ให้สงบเสงี่ยมก็ไม่ได้ มันก็กลายเป็น
หนึ่งสมองสองมือถือคีย์บอร์ด กดตลอดมาเป็นกลอนตอนรักเศร้า
และมีบ้างอย่างดุเด็ดเผ็ดไม่เบา เขียนทุกครั้งเหมือนเขย่าเข้าสังคม
นับจากวันนี้น
ถึงวันนี้ ทิกิtiki ก็เป็นนักกลอนจนเด็กในบ้านบ่นกันว่า เขียนแล้วพิมพ์ออกมารกเต็มบ้าน เอาละ จะเขียนและพิมพ์และตัด และแปะเป็นรูปเล่ม
และวันนี้ ถ้าไม่เขียนเชิดชูสตรีไทย ศิลปะวัฒนธรรมไทยแล้วไซร้
คงเสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นคนไทย
ซึ่งเป็นประเทศชาติที่มีอิสระเสรีสุดยอดที่สุดชาติหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
และจะถือว่า ไม่ได้ตอบแทนพระคุณชาติเลย
กลอนบทนี้
จึงขอทดแทนพระคุณชาติที่รีกของข้าฯ
จึงขอทดแทนพระคุณศาสนาซึ่งบ่มจิตใจมา
จึงขอทดแทนพระคุณพระบรมราชวงศ์ซึ่งหล่อเลี้ยงตระกูลปู่ยาตายายข้าฯ
จึงขอทดแทนพระคุณพ่อ พระคุณแม่
จึงขอทดแทนพระคุณครูทุกคน ทุกสถาบันที่เรียนมา
และที่จะเว้นขอบคุณมิได้เลย คือท่านเจ้าของเว็บทั้งหลายที่กรุณาให้คุณทิกิ tiki
ไปเขียน เขียน เขียนไว้เปลืองหน้าเว็บเค้านั่นแหละ แฮ่ะ แฮ่ะ
ทิกิ tiki
กวีคอนโด
http://www.plangprachachon.com
http://www.thaipoem.com
http://www.bangkokcity.com
http://www.toursong.com(ลานกลอนกวีไทย)
http://www2.ezyplaces.com/nickmanthanakorn
โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
@ พอคุณพ่อ ย้ายทำงาน เมืองระยอง
มักมีเรื่อง ระแหงระหอง อยู่ไม่หาย
หึงคุณพ่อ ทั้งปู่ย่า คุณตายาย
ก็มาย้าย ในบ้านนี้ รวมพี่น้อง.........( ๘)
@ คุณพ่อบอก อยากได้ ลูกผู้หญิง
แม่แน่จริง กล่าวไหว้สิ่ง เทพทั้งผอง
เวลาผ่าน ทางทะเล เมืองระยอง
ยกมือป้อง ไหว้ไป ในทะเล.........( ๙)
@ ปีต่อมา ครานั้น แม่ตั้งท้อง
บอกว่าอยาก ดินสอพอง กินกันเบ้
ไม่อย่างนั้น จะอาเจียร เพียรเกเร
แถมอยากกิน ต้มแซบเห่ ทะเลทอง.........( ๑๐)
@ อุ้มท้องอยู่ เก้าเดือน ช่างลำบาก
แสนทุกข์ยาก แม่จ๋า ท่าเดินป่อง
ไหนเดินทาง ไปหาพ่อ ถ่อระยอง
ไหนจะต้อง แก้ปัญหา ประสาคน.........( ๑๑)
@ คิดถึงแล้ว ในวันนี้ แม่ที่รัก
ต้องลำบาก ยากนัก โกลาหล
พี่ชายสอง ไปกับแม่ ฝ่าแสร์ชล
อีกหนึ่งเจ้า ในท้องปน ไปด้วยกัน.........( ๑๒)
@ แม่ฝ่าคลื่น ลมชีวิต คิดหวนไห้
จะลำบาก ยากอย่างไร ตอนมีฉัน
เมื่อคลอดแล้ว ต้องทุกข์ยาก ลำบากครัน
มีลูกหญิง ต้องคุ้มกัน เกินพรรณนา.........( ๑๓)
@ อีกตัวฉัน ครั้นเกิดมา ก็น่าเกลียด
ตัวดำดำ แม่นึกเหยียด เมื่อเห็นหน้า
ไม่เห็นสวย ไม่น่ารัก เหมือนปลาร้า
แต่พ่อว่า ช่างเถอะน่า มันน่ารัก.........( ๑๔)