18 พฤศจิกายน 2546 16:43 น.
tiki
@ ครานั้น เมื่อคุณยาย ย้ายต่างเมือง
ก็มีเรื่อง คุณทวดมะเฟือง ท่านดับหาย
ต่อไม่นาน คุณก๋งผู้เศร้า ตามเมียไป
เหลือน้องสาว คุณยายไว้ ไฉไลตา.........( ๑๔๑)
@ ในช่วงนั้น คุณป้าฉัน เกิดมาแล้ว
อีกคุณแม่ ร้องแง้วแง้ว อยู่ทุกท่า
พอคุณแม่ เริ่ม เติบโต มินานช้า
ท่านเป็นสาว สุดโสภา ท่าสามชุก.........( ๑๔๒)
@ ส่วนคุณตา ต้องเทียวมา แล้วเทียวไป
จากกรุงเทพ สู่หัวเมือง ให้สนุก
แต่ทว่า ไปไม่นาน ก็มีทุกข์
คุณยายไม่สุข ใจอีกแล้ว นั่งซึมเซา.........( ๑๔๓)
@ ท่านมัวแต่ วุ่นยุ่ง เลี้ยงลูกยา
เลยเสียท่า น้องสาว เฉลยเฉลา
คุณยายท่าน เงียบขรึม และแสนเศร้า
คุณแม่เล่า ถึงเรื่องนี้ กี่หนครั้ง........( ๑๔๔)
@ ข้างคุณยายน้อง ก็ยินดี กระดี๊กระด๊า
คุณพี่เขย กลายกลับมา หาขึ้นฝั่ง
จึงเป็นเรื่อง ว่ามาพัก กรุงถี่จัง
อพิถัง ท่านมาหา น้องน่ารัก.........( ๑๔๕)
@ ในวันนั้น ชีวิตสลด รดดวงจิต
อันรอยพิษ แสนร้าย มิวายสลัก
ล้วนเวียนวน พลาดไป ให้ทายทัก
จึงประจักษ์ นิยายชีวิต ใครขีดตอน.........( ๑๔๖)
@ กี่บทนี้ อ่านดีดี จะแลเห็น
โลกนี้เป็น เพียงแหล่ง อนุสรณ์
ฝากความดี ให้ชื่นใจ ให้อาทร
ฝากความชั่ว ให้ทุกข์ร้อน ทั้งใจกาย.........(๑๔๗ )
ตอน สิบเอ็ด (๑๑) สองฝั่งลำน้ำ (ต่อ)
@ เรียนแล้วว่า มิได้อยาก จะเอื้อนเอ่ย
ลืมเฉลย คุณยายแฉล้ม ก็ใจหาย
นี่ประวัติ ต้นตระกูล เหมือนนิยาย
แต่ละตอน มองละม้าย คล้ายละคร.........( ๑๔๘)
@ คือความรัก แสนเศร้า อยู่สองฝั่ง
กว่าจะถึง รักแม่ฉัน นานเนิ่นก่อน
คือนิยาย รักรันทด หลายบทตอน
แม่ฉันย้อน สองฝั่งน้ำ เล่าให้ฟัง........(๑๔๙ )
@ คุณยายไม่ เคยเล่าให้ ใครฟังหรอก
ทั้งไม่บอก ลูกคนไหน ให้เคียดคั่ง
ด้วยผู้ดี อบรมมา คราประดัง
เรื่องทุกข์ยัง ตื่นแต่เช้า ต้มข้าวกิน.........( ๑๕๐)
@ คุณแม่เล่า ว่าเหลือบไป ให้เห็นคุณตา
ผู้งามสง่า นักหนา เป็นนิจสิน
ท่านโอบกอด คุณยายน้อง ดูไม่ชิน
น้ำตาริน คือยายฉัน เงียบงันใจ.........(๑๕๑ )
@ แล้ววันนั้น ก็ผ่านไป ใจเลือนลับ
ชีวิตกลับ เริ่มเข้มแข็ง กันขี้นใหม่
คุณยายฉัน กำหนดจิต คิดปรับหทัย
ไม่สนใจ จะเป็นไร ก็ช่างมัน.........(๑๕๒ )
@ มีหน้าที่ อยู่ที่หน้า ไม่ฝ่าฝืน
มีจุดยืน อบรมธิดา ไม่อาสัญ
อีกบุตรใหม่ ทั้งหญิงชาย รวมหกนั้น
ท่านแข็งใจ กัดฟัน ประคับประคอง.........(๑๕๓ )
@ ดูจิตใจ ที่ท่านเจ็บ ประเสริฐเหลือ
ลุกขึ้นยืน หยัดเยี่ยงเสือ แม้หม่นหมอง
คุณยายฉัน งามเสมอ เมื่อฉันมอง
รักจากคลอง บางหลวง คล้ายลวงกัน.........(๑๕๔ )
17 พฤศจิกายน 2546 23:52 น.
tiki
@ เป็นสาวงาม ซึ้งใน เพราะใจดี
ซื่อตรงมี คงมั่น และหรรษา
บุตรคุณก๋ง เป็น.คห -บดีค้า
ตึกสามชั้น เรือนเคหา ใกล้ท่าน้ำ........( ๑๒๗)
@ ปัจจุบัน นั้นคงชอบ สอบแนวตึก
ว่าไม่ลึก คือสะพาน -พุทธพาดผ่าน
หลวงฯเขาขอ เวนคืน ทำสะพาน
คุณก๋งท่าน ต้องย้ายบ้าน ถัดเข้ามา........( ๑๒๘)
@ คุณยายเล่า ท่านเข้ามา จากจีนใหญ่
ดูรูปถ่าย แสนสนเท่ห์ เป็นหนักหนา
รูปคุณก๋ง หล่อนัก ละออตา
กิริยา ท่าผู้ดี มีสตางค์.........( ๑๒๙)
@ คุณยายเล่า ให้ฟังว่า หน้าคุณก๋ง
ยิ้มละไม ใจมั่นคง เช่นนายห้าง
ท่านซื้อของ หลวงรักษาฯ ค้าขายทาง
เครื่องทองบ้าง ของเก่าหา มามากมาย.........( ๑๓๐)
@ ดูรุปท่าน หยิ่งทะนง และองอาจ
ลูกนัยน์ตา ฉายฉลาด ดูยิ่งใหญ่
ท่านพูดเพราะ เจรจา .คราครั้งใด
คนติดใจ คบหา การค้าดี........(๑๓๑ )
@ เรือนร่างสูง ตัวใหญ่ ใบหน้าผ่อง
หน้าผากกว้าง อล่องฉ่อง มีราศรี
ฉันดูรูป คุณก๋งครั้งไร มิตรไมตรี
ฉายรัศมี ทอมา น่านิยม.........(๑๓๒ )
@ ส่วนคุณทวด มะเฟืองนั้น ท่านผู้ดี
ตระกูลมี ชื่อคุ้นอยู่ คู่อุ้มสม
พุก........... ฟังเป็นแขก ไทยมั่นคง
เผ่ายืนยง ญาติตระกูล อยู่ข้างยาย........( ๑๓๓)
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ตอนสิบ(๑๐) เสน่ห์ลำน้ำ (ต่อ)
@ สรุปแล้ว ฉันมีทวด เป็นชาวมอญ
อีกทวดก่อน แขกขาว มีเชื้อสาย
ญาติทางย่า ฉันก็เป็น ชาววังใน
ญาติทางตา คุณพระไทย อาลักษณ์งาม........( ๑๓๔)
@ ญาติทางยาย ได้สดับ ท่านเป็นจีน
แม่คุณยาย นั้นทั้งสิ้น ไทยอิหม่าม
พุก............. ฟังเหลือเชื่อ เชื้ออิสลาม
คิดไปตาม ต้นตระกูล ดูวุ่นวาย.........( ๑๓๕)
@ ถ้าเปรียบสาย เลือดไทย อันบริสุทธิ์
ก็ผ่องผุด เลิศล้ำ ได้ความหมาย
หากถามหา เชื้อ จีน อยู่ในกาย
อีกเชื้อสาย แขกขาว ก็เข้าที.........( ๑๓๖)
@ แล้วเชื้อมอญ แม่แท้แท้ ทั้งปู่ย่า
คิดแล้วอย่า หัวเราะ นะโฉมศรี
นี่เรื่องจริง คนคนเดียว เกี่ยวพันนี้
ทั้งธานี จะให้ดี ต้องตรวจกัน.........( ๑๓๗)
@ สรุปว่า พอวันหนึ่ง ถึงวันเหมาะ
คุณตาก็ ขอคุณยาย ของอิฉัน
ไปแต่งงาน สร้างเมือง รุ่งเรืองครัน
ที่ปากน้ำ ศรีประจันต์ สามชุกชล.........( ๑๓๘)
@ ถ้าจะเปรียบ ลำน้ำ นาวาชีวิต
ไหลล่องมา ไกลฝั่งริด รอนหาผล
ญาติทั้งมวล ล้วนชาวน้ำ ริมสายชล
ทุกทุกคน ต้นตระกูล ทูนสายเย็น.........( ๑๓๙)
@ แต่ละทิศ แต่ละทาง หว่างสายน้ำ
ด้วยแรงกรรม จากกระแส สุดแลเห็น
จากต่างเมือง มาเกี่ยวเนื่อง เรื่องรักเร้น
ฉันเปิดให้ ได้อ่านเป็น เรื่องสอนใจ.........( ๑๔๐)
17 พฤศจิกายน 2546 23:48 น.
tiki
@ ด้วยใจรัก คิดลึก ตรึกตรองแล้ว
คุณตาอยาก พบอาแก้ว และแม่บ้าน
จึงทำเรื่อง ขอไปทำ หน้าที่งาน
ที่สามชุก ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี.........( ๑๑๙)
ชีวิตสอนชีวิต
ตอนเก้า(๙) รักคงมั่นสุพรรณบุรี (ต่อ)
@ ที่ทำเรื่อง ขอทำงาน การต่างเมือง
อยากเห็นน้อง คนละพ่อ อยู่เต็มที่
น้องทั้งหลาย ของคุณตา นั้นดูดี
คุณตามี รักทั้งหลาย แจกจ่ายกัน.........( ๑๒๐)
@ นับแต่วัย เด็กเล่น คลองบางหลวง
ท่านโชติช่วง เรื่องดนตรี กวีฉันท์
อีกระนาด กลองตะโพน ร้องรำพัน
อีกสีซอ คุณตาท่าน ชาญเชี่ยวมา.........( ๑๒๑)
@ แม่เล่าว่า เห็นคุณตา เล่นดนตรี
ทั้งดีดสี ตีเป่า ล้วนเข้าท่า
ทั้งรูปงาม นามเพราะ เหลือคณนา
หลานพระแก้ว นว........... พากระเดื่องนาม.........( ๑๒๒)
@ ครั้นสมัย สมเด็จพระมหา วชิราวุธ
ทรงประกาศ นามสกุลผุด ในสยาม
พระราชทาน นามสกุล ใ้ห้เกียรติงาม
ให้เป็นนาม .................... เกริกรัชกาล.........( ๑๒๓)
@ อยู่เมืองไกล เมืองสุพรรณ ไม่รันทด
อาคุณตา ยอยศ พระแก้วประสาน
ตั้งสกุล แก้ว......... จำเริญพิมาน
ยอยศผ่าน พี่น้อง ท้องเดียวกัน.........( ๑๒๔)
@ ที่เล่ามา ใช่จะว่า ใครให้ร้าย
แต่เล่าไว้ ให้เตือนใจ โศกในฝัน
เขียนยังซึ้ง สะเทือนใจ ทุกคืนวัน
เป็นนิยาย รักอัน เกิดขึ้นจริง.........( ๑๒๕)
@ ยามคุณตา กลับมา ถึงเมืองหลวง
หอบลูกไม้ มาหลายพวง ผ่านตึกใหญ่
ริมเจ้าพระยา คือนิวาศน์ อนงค์ใน
คุณยายฉัน นั้นไซร้ ท่านงามตา.........( ๑๒๖)
17 พฤศจิกายน 2546 22:44 น.
tiki
@ ดั่งนิยาย รักชีวิต คิดปวดร้าว
ใครจะเข้า ใจหญิงหนึ่ง ซึ่้งซึ้งฝัน
แล้วเหตุการณ์ ไม่มีใคร คาดได้ทัน
แสนรันทด หดหู่พลัน ทั้งวงศ์ไทย.......( ๑๑๑)
@ ในคืนหนึ่ง ซึ่งไม่มี ที่จะคาด
แม่คุณตา ผลุนผลันผาด คลาดเคลื่อนไหล
คว้าถุงผ้า เพียงชุดเดียว ติดตัวไป
โจนข้ามท่า บางหลวงไซร้ ในนที.........( ๑๑๒)
ตอนเก้า(๙)..รักคงมั่นสุพรรณบุรี ..
ชีวิตสอนชีวิต
@ คงอัดอั้น ตันจิต คิดไม่ตก
คุณอาพก คอยความรัก อยุ่ทุกที่
ได้ชื่อว่า นางแพศยา นางกากี
โจนตามน้อง สามี เตลิดไป........( ๑๑๓)
@ ชะรอยเป็น เช่นบุพเพ สันนิวาส
แม่ประกาศ ตามน้องพ่อ ถ่อไปไหน
ทิ้งคุณตา แต่ตัวน้อย ยังเยาว์วัย
ดิ้นดุกดิก พลิกคว่ำไว้ ไร้ชนนี.........( ๑๑๔)
@ คุณพระปู่ พอรู้เรื่อง เคืองสุดขีด
ผิดจารีต ประนามด่้า ขึ้นอึงมี่
เออ..เอ็งสอง ไปเสียได้ ไอ้กาลี
อย่าได้มี เดินกลับมา ข้าฯ สาปมัน.........( ๑๑๕)
@ แม่ของตา ท่านใจเด็ด ในเรื่องรัก
พ่อของท่าน ไปหาญหัก ชิงมานั่้น
เมื่อตามอา ของตา ไป ถึงสุพรรณ
คุณตาฉัน จึงกำพร้า นะพระคุณ.........( ๑๑๖)
@ ท่านทั้งสอง ไปครองคู่ อยู่เมืองไกล
ตั้งรกราก จำจากไกล ให้หัวหมุน
แต่สองรัก สองชิดกรรม ไปค้ำจุน
บุตรธิดา อีกสี่คุณ ก็เกิดมา.........( ๑๑๗)
@ น้องแท้แท้ แม่เดียวนะ คนละพ่อ
คุณตารัก จักพะนอ อยากพบหน้า
พอเรียนจบ ได้งานทำ คร่ำวิชา
กระทรวงเกษตร นั้นคุณตา ชลประทาน.........( ๑๑๘)
@ ด้วยใจรัก คิดลึก ตรึกตรองแล้ว
คุณตาอยาก พบอาแก้ว และแม่บ้าน
จึงทำเรื่อง ขอไปทำ หน้าที่งาน
ที่สามชุก ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี.........( ๑๑๙)
17 พฤศจิกายน 2546 22:36 น.
tiki
กลับท่องจำ เร่งศึกษา พยายาม.........( -๙๕)
@ คิดดูเป็น เรื่องแปลก แสนประหลาด
เมื่อคนขาด เคยรวยมา คราคนหยาม
เหมือนยากจน อาศัยเขา ตกต่ำทราม
เคยเป็นญาติ มาดเคยขาม ลามลบแปร.........( -๙๖)
@ ด้วยลำบาก อยู่ภายใต้ ชายคาเขา
ด้วยเจ็บเอา กลับมุ่งมั่น ฟันกระแส
ลุง-อาทุกคน คิดสู้ญาติ ฉลาดแท้
เหมือนดั่งทอง ซึ่งตีแผ่ ก็เป็นทอง.........( -๙๗)
@ .แต่ละภาค การศึกษา ทุกคราครั้ง
ลูกของย่า สอบไล่ดัง ไม่มีสอง
ล้วนที่หนึ่ง มีชื่อเสียง เป็นก่ายกอง
คนทั้งผอง ซึ่งคิดเหยียด ต้องหยุดดู..( -๙๘)
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ตอนแปด ( ๘ ) จากย่า ถึง ตา-ยาย
@ ย่าคอยสอน ลุงและอา มาเสมอ
ว่าอย่าเผลอ สติมั่น ฝ่าฟันสู้
ลูกของย่า จึงศึกษา เก่งเยี่ยงครู
ลุงคนโต ได้ทุนสู่ ญี่ปุ่นไกล.........( -๙๙)
@ ส่วนคนรอง ย่าส่งเรียน ธรรมศาสตร์
ช่างองอาจ เรียนกฎหมาย เอาใจใส่
ส่วนพ่อฉัน อยากเป็นทหาร ผู้ชาญชัย
กลับสอบได้ ทุนเรียนล้น ชลประทาน.........( -๑๐๐)
@ อาหญิงนั้น ท่านมีโรค ประจำตัว
คือหู-หัว ปวดเสมอ ไม่ชอบอ่าน
ย่าจึงส่ง อาไปเรียน นาฏการ
เรียนร้องรำ ศิลปะงาน การทั้งปวง........( -๑๐๑)
@ ในครานั้น คุณปู่ได้ บ้านในวัง
ไปอยู่พวก ข้าราชบริพาร หลังวังหลวง
ย่าได้งาน ปักถักร้อย เพิ่มทั้งปวง
มาลัยพวง ดวงบุษบา ร้อยมาลี .........( -๑๐๒)
@ ครั้นพ่อฉัน เรียนจบ ครบถ้วนหลัก
ต้องสมัคร ให้กรมส่ง เสริมราศรี
ฝึกเรื่องน้ำ ท่าประตู สุพรรณบุรี
สามชุกมี ศรีประจันต์ ขั้นชลประทาน.........( -๑๐๓)
@ มาจะกล่าว ท้าวครานี้ ที่ตา-ยาย
ฉันมิได้ ขยายความ ตามประสาน
ปู่คุณตา คือพระแก้ว ผู้เชี่ยวชาญ
เป็นอาลักขณ์ คณาจาร ในเวียงวัง.-(๑๐๔)
@ เป็นอาลักขณ์ คือเขียนการ งานหนังสือ
ให้ราชวงศ์ บรรลือ ถึงรุ่นหลัง
จดต้องความ ตามกระแส ทรงรับสั่ง
เรื่องเวียงวัง แต่ครั้ง ต้นกรุงไกร.........( -๑๐๕)