13 กุมภาพันธ์ 2547 01:53 น.
tiki
ไม่ขอใคร.......แต่จะขอคุณ
ที่รับตอบแล้ว....แต่ขอคุณใหม่อีกหน....
คืนนี้.......ฟ้าดูมืด...ลมก็เย็นมาก
เว็บบางกอกซิตี้ที่ไว้เขียนไดอารีมีอันล่มสลาย
เหตุเกิดจากเมื่อสาย และเมื่อบ่ายเป็นต้นมา
*****
**************
ขอถือเอาความเคยชิน
อย่างไรก็ยังอุ่นใจว่า
คืนนี้มีคนเขียนงานงามมา
ยังมีชื่ออยู่ ณ.หน้าเดียวกันนี้นั้น
อะไรทำให้ฉันมาที่นี้
บ้านไทยโพเอ็มนี้อันลือลั่น?
ถ้าไม่ใช่เพราะบทประพันธ์ของคุณนั้น
ช่างอ่านแล้วคม...สำคัญจนตามมา...
บทประพันธ์เรื่องงานพุทธประวัติ
ชีชัดถึงวาระใจที่มีค่า
ฉันอ่านงานของคุณซึ้งทุกครา
กดชื่อคุณ..ก็โผล่มาหน้าบ้านนี้ !
ฉันเฝ้าดูคุณอยู่ห่างห่าง
ระยะหลังถึงเอ่ยถ้อยวจีที่
ฉันชอบจะบอกว่าคุณเป็นคนดี
แต่ตัวฉันนี้ดีหรือไม่ดีฉันไม่รู้
ในเวลาห้วงวันฝันและเหงา
ในเวลาปวดร้าวเข้าสิงสู่
งานประพันธ์งดงามซึ้งควรดู
ซึ้งและอยู่ในใจทุกเวลา
หลายหลายครั้งคุณเขียนตอบงานของฉัน
หลายหลายวันฉันก็บ่นถ้อยภาษา
ในบางครั้งคุณหายไปไม่ผ่านมา
บางทีท่าคุณทักทายมาแล้วผ่านไป
ฉันคงเขียนงานอยู่ที่นี่
อาจจะเพราะยังไม่มีที่จะไปที่ไหน
ส่วนบางเว็บก็มักมีแต่เรื่องงานใด
ฉันส่งใจให้คุณทุกทุกวัน
มีอยู่สิ่งไม่ขอใคร..แต่ขอคุณ
ทุกงานบุญให้แผ่เมตตาให้แก่ฉัน
ทุกความรักให้แบ่งปันให้แก่กัน
ทุกทุกวันฝันจะดีมีเธอเคียง
ฉันขออะไรมากไปหรือเปล่า
เกือบปีเข้า...คงขอไม่มาก...และไม่อยากเสี่ยง
ฉันไม่ขอมากกว่านี้...ขอสิทธิ์นี้เพียง
ความรักฉันเยี่ยง...ในกลอนกานท์..หวานหวานของคุณ
ฉันอาจถือสิทธิ์มากไปสักนิด
และขอถือสิทธิ์ที่เธอเกื้อหนุน
และขอวางใจไว้ในมือนักบุญ
ขอความการุณย์ให้อุ่นอกใจ
ไม่มีจันทราในราตรีนี้
ไม่มีคนดีที่เคยเคียงใกล้
มีแต่งานฉันท์กาพย์กลอนละไม
ที่คุณฝากไว้ให้ฉันยินดี
ขอแค่นี้....คงไม่ผิดกฏหมายจักรวาล ?
ในความเงียบเหงาเวิ้งว้างห่างหาย
เงาของเธอฤาย่างกรายผ่านใจฉัน
ยามทิวาฟ้าสลัวมัวทั้งวัน
ใจใครกัน..คล้ายรันทด..สลดใจ....
เหมือนทั้งโลกหยุดนึ่งกริ่งเกรงฟ้า
ใยหาญกล้า...คนเช่นเธอ...มาหาญได้..?
ฉันเปิดกฏ.....กฎหมายมี....ทุกที่ไป
กฎหมายใด...มิได้มี...ผิดที่กลอน..?
ฤาข้อความ........ฉันนี้.....ช่างอุกอาจ
ฤามันบาด.......ใจใคร........เข้าครึ่งค่อน
ฤามันแสบ........เหมือนน้ำกรด......ไปรดรอน
มิได้อ้อน........แต่ความจริง.......ยิ่งของใจ
หากฟากฟ้า.......สาปไว้.......ในความฝัน
เคยถูกมัด.........เป็นพัลวัน..........ก็แก้ได้
กรรมที่สร้าง........อาจปิดทาง.......สวรรค์ไป
ทั้งสามโลก........จะหม่นไหม้.......ในคำขอ
ก็ฉันขอ......ขออะไร.......ในเมตตา...?
ก็ล้นฟ้า.........รับเมตตา.......อยู่ล้านช่อ
หากเจาะจง.........ฉันขอเขา.......ก็เพียงพอ
แล้วคำขอ.........ฉันผิดตรงไหน......ในโลกา
หรือผิดกฎ........ข้อใด......ในบทบัญญัติ
เจตนา.........ก็ชี้ชัด........ไม่มัดขา
ไม่มัดตัว..........ไม่มัดกาย.........ไม่มัดปัญญา
ไม่ขออะไร.........แค่ใส่หัทยา.......อุ้งมือเธอ
ขอบคุณที่คุณตอบมาแต่วันแรกแล้ว
แต่วันนี้เห็นงานสองบทนี้น่าจะเป็นแนวให้ได้เป็นรสชาติ
ตามกันมาของการ...เพ่งใจก่อนจะเขียนกลอน...
12 กุมภาพันธ์ 2547 17:45 น.
tiki
-ขาดปัจจัย...ใช่ขาดดวงใจ..
ในความขาดแคลนข้าฯนี้มีที่พี่ง
คือใจซึ่ง...เห็นสิ่งใด...ก็ใคร่แบ่ง
อยากให้....ใครทุกคน...มีเรี่ยวแรง
และกล้าแข็ง....ต่อสู้.....อยู่ทุกครา
ในความขาดแคลนข้าฯนี้มีที่มั่น
ยึดซึ่งสัน..ติจากใจ...ดูคล้ายบ้า
เหมือนจะไร้....ความรู้สึก...ลึกระอา
แต่ทว่า....เมื่อข้าฯเจ็บ....ก็โยนใจ
โยนออกไป......ให้ไกลลับ......ไปกับฟ้า
ไปให้ไกล.......ทั่วนภา....เกินหาได้
ประพฤติตน......ราวดั่งคน......ซึ่งไร้ใจ
ไม่ฝันใฝ่......ต่อผู้ใด.....ด้วยเจ็บจำ
ข้าฯอ่อนแอ.......แพ้พ่าย......ซึ่งทุกอย่าง
ไม่อาจละ.......อาจวาง......ด้วยกลืนกล้ำ
ไม่อาจเก็บ.....ดั่งอดทน......ให้พ้นกรรม
ข้าฯจักทำ.......บาปหนา.......ทุกคราไป.....
ข้าฯเห็นใคร......เหน็บใจ......อยู่ซ้ำซาก
อ้อนระห่ำ ซ้ำถาก......ให้ข้าฯไหว
ทำเหมือนว่า.........ข้าฯนี้........มันตืนใคร
ขออภัย.........คนบนหัว........ยังกลัวกัน
อย่ามาทำ........ให้ข้าฯเจ็บ....เหน็บให้ร้าว
อย่ามากร้าว......เพราะจักเกรง........จะห้ำหั่น
ข้าฯปรานี......ทุกเวที.......ที่จำนรรจ์
เกลือกชนชั้น........ซึ่งต่ำทราม.....ด้วยน้ำใจ
ด้วยที่ตา......สองข้าฯเห็น....เป็นแต่คน
ซึ่งหมองหม่น.......ทุกข์ทุกหน้า......ละโหยไห้
ด้วยสองตา........ที่ข้าฯแล.......แส่ออกไป
ข้าฯมอบใจ........ให้ทุกคน......บนมรรคา
ข้าฯนบไหว้......ทุกคน....บนความดี
ไม่หลีกหนี......แม้นว่าชั่ว........มาหลายท่า
ไม่เลี่ยงใคร.......ใช้สติ........และปัญญา
ปราถนา.......ให้พ้นทุกข์........สุขทุกคน
แม้นรอบกาย.......หลายแผล......ที่เสียบปาด
ดั่งมีดบาด.......แทงเสียบ......น่าฉงน
ทุกมีดคม.......เสียบข้าฯ.......หวังทุกข์ทน
กลับกลายวน.......กรีดพิษ.......กรีดจากใจ
เพราะด้วยใจ......แกร่งกร้าว......ห้าวของข้าฯ
แม้นทวยเทพ.....เทวดา.....ยังล้อมใกล้
แม้นเจ้าปาด.......ข้าฯทุกครั้ง.........ไม่ยั้งใจ
กระดอนกลับ.....กระเด็นไป......ให้เจ้าคืน.....
ด้วยรสธรรม.......ค้ำใจ.........ให้เด่นชัด
จึงยืนหยัด........ให้พวกเจ้า.........เข้ามายื่น
ทิ่มแทงข้าฯ........ตามปราถนา.....ดาบปลายปืน
กลับกลายคืน.......เป็นอมฤต.......ประสิทธิ์กาย
ข้าฯฝากความ.......ลามสวรรค์......มั่นแผ่นดิน
ฝากปลายดาบ.......ซึ่งกรีดดิน......ทิ้งความร้าย
ฝากจดฟ้า......จดดิน......จดถิ่นทราย
ฝากความคล้าย......ร้ายของเจ้า.......ดินเอาคืน....
. ในนามของความรัก แด่เพื่อนมนุษย์
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
12 กุมภาพันธ์ 2547 04:31 น.
tiki
เงียบเงียบคนเดียวอย่างนี้
ความรู้สึกดีดีหนหลัง
ความรู้สึกมากมายเสียจัง
ขอหวังไม่รู้สีกอะไร
อีกคืนอีกวันผันผ่าน
ความรักเคยซ่านผ่านไหว
ก็เพียงอารมณ์ผ่านไป
ไม่จริงจังอะไรใครคน
ฝันถึงแสงดาวท้องทุ่ง
ฝันมุ่ง...ถิ่นไพร...ใสสน
ฝันหา....รักใคร...ในตน
พอพ้น....ผ่านกัน...ผันลืม
สิหลง..พะวง...หรือไฉน
น้ำใจ.....ใครหรือ...ทำปลื้ม
เก็บตัว.....แยกย้ำ...*หยิบยืม*
รักเอ๋ย...หลงลืม...หลงตน
รำพึงก่อนเช้าสิบสองกุมภ์
ตกหลุม สิ่งใด....ให้ฉงน
อ้อล้อ.....รักเร่...หลงกล
ไม่เห็น......สักหน.......คนใด?
ขอเพียง...ใจฉัน...วันนี้
สุขสงบ.....วจี......ใจใส
ขอเพียง.....ทุกคน.....สุขใน
ใจตน......แน่ไซร้.........ดีงาม
หวังให้.....ใจผ่อง...พิสุทธิ์
ก้าวรุด....ลืมคน...เหยียดหยาม
ทุกก้าว....ไกลคน...ลบลาม
ทุกความ....เมตตา...การุณย์
ในนามแห่งความรัก...ตัวเราซะเหลือเกิน
ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
แม้นจะข้ามวันมาแล้ว
แต่ความรู้สึกยังตราตรึงร่มเย็นในใจ
ดืกที่ผ่านมา
สาวน้อยสวยใส
นำขนมเค้กมาให้
พร้อมจุดเทียน
รักแม่คะ ขอให้แม่สุขสันต์วันเกิด
จริงๆเมื่อวานจะเอ่ยสักคำก็มิกล้า
ปล่อยให้เหล่าปวงประชา
รินหลั่งรจนาเชือดเนื้อเถือหนังอยู่ตามหน้าเว็บ
คาวันเกิดเราได้สะใจดีจริง
ความสุขอยู่ที่บ้านนี่แหละ
กับหัวใจดวงน้อยของบ้านเรา
อยากให้ทุกคนรักบ้านของตนมากมาก
รักใจ
ประคองใจ
ทุกคนในบ้านไว้นะคะ
จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki
รหัส - วัน เวลา : 219308 - 13 ก.พ. 47 - 15:39
11 กุมภาพันธ์ 2547 08:12 น.
tiki
อิสระวรรณ..
กุมารน้อยท่องโลกอย่างเริงร่า
ห่างบิดามารดาออกจากบ้าน
ไปเร่ร่อนกลางสถล..สำเริง..สำราญ
จากไปนานมิอยากกลับปรับใจกาย
เหตุผลเฉียบ..กฏระเบียบ......มันมีมาก
เขามิอยาก....อยู่ในกฏ..ตะแกรงข่าย
เขาอ้างเหตุอิสระ.ใจ..ใช่สนตะพาย..?
ใจและกาย...คือผลงาน....สืบสานวรรณ
จะทุกข์ยากจะลำบากอยู่ล้นเหลือ
เขาไม่เบื่อ...อิสระภาพ.....เกินใฝ่ฝัน
สองมือแบก....สองบ่าคอน...ก่อนตะวัน
จะลับฟ้า....ก็ฝ่าฟัน....ด้วยสองมือ
มีชีวิตอยู่ข้างถนน....คนเดินผ่าน
ใจห้าวหาญ......สู้กว่าควาย........เจ้าสัตย์ซื่อ
หนีจากบ้าน.....มาทำงาน........ราวกิ้งกือ
ทั้งแบกถือ......หาบหาม.......ตามที่มา
แต่อิสระ......ยิ่งใหญ่......ในชีวิต
เอกสิทธิ์........อิสระภาพ.......ตราบแรงกล้า
ตราบชีวิต......จะลิขิต......บิดปัญญา
ให้เหหัน.......ลำบากท้า.......โลกาแรง
กว่าจะรู้.....หมดไป.....ไกลเกินครึ่ง
กว่าจะซึ้ง.....ใจดื้อดึง........อันแอบแฝง
กว่าจะพบ.........ว่าทางตัน....มันสำแดง
ไร้เรี่ยวแรง.......นึกถึงบ้าน.......ก็รานร้าว
กลับไปบ้าน......หวังว่า.......หาพ่อแม่
ก็พบแต่.......เรือนร้าง.......อันว่างเปล่า
ชาวบ้านว่า.......พ่อตายก่อน.....ไปนานยาว
ส่วนแม่เจ้า......เร้าอัมพาต.......ขาดคนดู
แต่บุญแม่.......เค้ายังมี........ที่เจ็บหนัก
ไร้คนรัก.......คนประคอง.......คนเคียงคู่
แม่เจ็บหนัก........ก็ตายซ้ำ.....กรรมของกู
เจ้าหนี้เขา.......รื้อเรือนคู่.....พอค่าคืน
เจ้าหนุ่มใหญ่........ใจสลาย.....คล้ายสิ้นท่า
นั่งปิดหน้า.........ร้องไห้........ไร้ยางฝืน
น้ำตาพราก......จากพ่อแม่ .......แต่วานซีน
จะคิดคืน........ทั้งชาติ....นี้.........ไม่มีทาง..!!!...
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันเพศวัยไร้ตัวตน
tiki
10 กุมภาพันธ์ 2547 17:21 น.
tiki
เดือดร้อนอะไร......ข้าฯเปลือยใจ ...?
แม้นรักจะทำงานกับน่านฟ้า
ใจเต็มสี...หรรษา....สีหม่นไหม้ ...?
ฟ้าก็เห็น....แสงมันสว่าง......จากกลางใจ
แต่จะสว่างด้วยสีอะไร...อีกเรื่องกัน
บ้างสว่างด้วยแดงโร่แห่งตัณหา
บ้างม่วงดำ...ดุจดารกาใน..แรมมืดนั้น
บ้างเหลืองอร่าม........ด้วยพุทธจริต......ฤทธิ์ประพันธ์
บ้างฟ้าใส........ขาวกระนั้น.......ด้วยใจตน
ก็เพียงกิเลศ.....ราคะ......จะพาไป
ตัณหาใหญ่......ในใจ.....ไม่ต้องฉงน..
ล้วนส่งสี........ดุจใจรุ้ง........พุ่งจากตน
จะกังวล.......บ่นอะไร........กับใจเรา...?!!
ข้าฯทะนุถนอม......กล่อมเกลี้ยง.......เลี้ยงใจข้าฯ
เจ้าทารก.......ไร้เดียงสา.....มันมาเข้า
มาสิงสู่.........สนุกสันต์.......แสนวันเยาว์
อยากจะเร้า........เร่งอะไร.......ช่างใจมัน.....
ต่างคนต่าง......มีกรรม...เคยทำผูก
เคยเป็นพ่อแม่ลูก...ผูกใกล้ฝัน
หรือเคยสนิท.......เสน่หา........ในปลายบรรพ์
บุปพกาล.....อันผ่านผัน.......วันเนิ่นยาว
แม้นรักจะทำงานกับน่านฟ้า
จะเปิดใจ........หมื่นครั้งเวลา.......เผื่ออื้อฉาว
ข้าฯก็ไม่.......เดือดร้อน........ในเรื่องราว
จงข้ามก้าว.......ดูท้องฟ้า......สินั่นอะไร ??
ล้วนคลื่นเสียง...กระซิบกระซาบ.....กำซาบซ่าน
จากฝีปาก......ระริกหวาน.......ล้วนขานไข
เปิดโทรศัพท์.......ไร้สาย........คายพจน์ไกล
หมื่นล้านไหล.........พรูพลั่ง.......ทั้งล้านความ
น่ะเปิดใจ.......ในสื่อคลื่น.....ที่หมื่นล้าน
แล้วมาสะท้าน.......ใจเดียวข้าฯ....มาหมิ่นหยาม?
เอาเครื่องวัด........จับคลื่นเท็จ......เผด็จความ
ที่ลุกลาม........หมื่นล้านถ้อย......พร้อยบนฟ้า
เครื่องคงสั่น...งันงก...ผงกไม่ทัน
ด้วยหนาวสั่น........เท็จวจี.......ที่ผ่านหล้า
เสียงโทรศัพท์......ไร้สาย.......พรายผ่านฟ้า
ล้วนวจี........เท็จมายา........ในคลื่นไกล
ข้าฯมีเพียง......ใจเดียว....ที่คงนิ่ง
ไม่เกรงกริ่ง.........ที่จะเผย.....เอ่ยความไข
ด้วยความซื่อ.....ถือสัตย์......ซึ่งรัดหทัย
จะเดือดร้อน.....ข้าเปลือยใจ.....ทำไม.ฤา???... .....
. ในนามของความรัก ...แห่งกุมภาพิศวาส
ทิกิ_tiki
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน