7 เมษายน 2547 04:18 น.

๏ อย่าหลงลม...ขมคนเดียว ๚

tiki

๏ อย่าหลงลม...ขมคนเดียว ๚  
                            

                       ๏ รู้มากมากไป่รู้..............อันใด

คำสั่งสอนยอนใจ.......................จากหล้า

พระคุณแม่ขานไข.......................เคยสั่ง...เรียมเฮย

มากกว่าความคิดข้าฯ....................อย่าพลั้งบอกลม ๚ 


                     ๏ ใจคนมีมากแท้....................หลากคิด

เพียงแต่คำพูดพิษ.......................เล่ห์ล้น

สอนใจแต่คำมิตร........................มากยิ่ง....เตือนนา.

คัดแต่คำพูดพ้น...........................ผ่านลิ้นจริงใจ ๚ 


โคลงสี่ฯ


         ๏ ยามเมื่อเด็กใครหวานมาขานเพราะ

ฟังเสนาะหวานหูก็ไห้หา

เที่ยวลุ่มหลงเล่ห์ลิ้นเจรจา

เขาหลอกท่ากุมารีมิมีเชิง  ๚ 


       ๏ เมื่อผ่านวันผ่านคืนรู้ตื้นลึก

ย่อมรู้สึกรู้สาอย่าหลงเหลิง

คำพูดคนพากย์ลมคมดั่งเพลิง

เป่ากระเจิงไหม้กระจายสลายพลัน ๚ 


       ๏คำแม่สั่งแม่สอนวอนก่อนมา

อย่าอวดรู้ทีท่าอย่าเหหัน

รู้ก็นิ่งอย่าอวดอ้างอย่างสำคัญ

คนจะหั่นห้ำข่มให้ตรมทรวง ๚ 


           ๏ จึงม้วนลิ้นเก็บคำใจไว้ลูกรัก

ยิ้มนั้นจักฝึกปรือให้ลือล่วง

อันคำยอยกของชายทั้งหลายปวง

เพียงผลพวงลวงลิ้นไม่เลิศเลอ๚ 


         
             ๏ ยังคิดคำธรรมสอนแม่ค่อนว่า

สู้อุตส่าห์เก็บใจไม่พลาดเผลอ

อย่าเปรยนักให้ห้ามหักไม่รักเจอ

ให้มันเก้อกับลวงลมขมคนเดียว ๚ะ๛ 


ทิกิ_tiki

หากหลงลม..ก็...ขมคนเดียว 

http://www.kapook.com/newmusicstation/play.php?id=131

ชื่อเพลง/Title : อย่าให้ถึงวันนั้นเลย
อัลบัม/Album : เพลงประกอบภาพยนตร์ กุมภาพันธ์
ศิลปิน/Artist : ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์				
6 เมษายน 2547 11:53 น.

@... ยอยศจักรี ..@

tiki


  @... ยอยศจักรี ..@...ความเดิมหนึ่ง
 
 
            ๏    จวบจักรีราชวงศ์จะทรงผนึก ๚ 

สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกกรุงศรี

ข้ามฝั่งธนฯมาวังหน้าบางกอกมี

พระยาจักรี ธ.ฯ บัดนี้ ขึ้นปราบดา ฯ


        ๏   คือวันที่ หก เมษายน พุทธศักราช

วาระชาติสองพันห้าร้อยยี่สิบห้า

วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า

จุฬาโลกมหาราช...ประกาศไกล...  ๚ะ... 



@... ยอยศจักรี ..@


               
๏  ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมกราบเบื้องพระบาท

     สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช


             ๏       ยกมือสองสูงขึ้นเหนือศีรษะ 

โน้มหน้าผากลงจรดปฐพีศรี

กราบเบื้องบาท...พระผู้ทรงเถลิงเอกราชราชวงศ์จักรี

พระฯทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเกินผู้ใด ๚ 


                ๏   สุดปัญญา ข้าพระพุทธเจ้าจะรจนา

          สุดปัญญาจะอาจเอื้อมเงื้อมวิสัย

     สุดปัญญาจะเรียบเรียงพระภูวนัย

พ้นวิสัยคนธรรมดาซึ่งสามัญ  ๚ 


              ๏   มิอาจเอื้อมเงื้อมกระแสพระราชประสงค์

          ได้แต่คงจารอักษรกลอนความฝัน

      ได้แต่จารถวายบังคมบรมราชันย์

 ได้แต่ทูลเกล้าถวายอักษรานั้นถวายพระองค์  ๚ 



                           
 ๏  ด้วยทรงเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า

        จุฬาโลกมหาราชทรงสูงส่ง

     อีกทรงปรารภภายภาคหน้าจะดิ่งตรง

ทรงประสงค์ขึ้นพระบรมโพธิญาณ  ๚ 


            ๏  ข้าพระพุทธเจ้าผู้น้อยขอยอกร

        แม้นอักษรของข้าฯพระพุทธเจ้าได้สืบสาน

    แม้นจารกลอนของข้าพระพุทธเจ้าได้สื่อพระญาณ

พระฯผู้ทรงบริสุทธิ์โปรดเกล้าฯพระราชทานอภัย   ๚ 


             ๏   ด้วยพระอาญาไม่พ้นเกล้าฯ

           ข้าพระพุทธเจ้าเหน็บหนาวในคำไข

      ข้าพระพุทธเจ้าปวดร้าวในดวงใจ

ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานอภัย พระเมตตา   ๚ 




              ๏  ด้วยมองไปในอดีตประสิทธิ์ชาติ

         เบื้องพระบาทฯ ทรงเหน็ดเหนื่อยแสนเมื่อยล้า

    ธฯทรงภพ สบพระเนตร ทรงปรีชา

ธฯทรงกล้า  ทรงสามารถ มิมีเทียม  ๚ 



                        
 ๏    ทรงเป็นยิ่งพระมหาธีรราช

        ทรงเป็นพระมหาปราชญ์ทรงสูงเยี่ยม

   ทรงเป็นพระยอดฟ้าผู้ปรกเปี่ยม

พระเมตตาหลั่งล้างเกรียมทุกข์ปวงไทย   ๚ 


            ๏  ทรง*สร้างบ้านแปงเมือง*ให้เรืองยศ

        ธฯ หมดจดด้วยพระราชทานทรัพย์มไห

    ธฯทรงประทานพระราชทรัพย์นับเนิ่นไซร้

ธฯพร้อมใจ สร้างบ้านเมืองให้เลืองลือ   ๚ 


           ๏   ต้นแผ่นดินต้นราชวงศ์พระทรงศักดิ์

        พระวงค์จักรพระจักรีทรงลือชื่อ

    ข้าฯพระองค์ผู้น้อยถวายมือ

ขอยึดถือพระองค์นั้นจนวันตาย  ๚ะ๛ 


               ๏   ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ข้าพระพุทธเจ้า
ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย
บทประพันธ์ *ยอยศจักรี* ถวายผ่านเกล้าผ่านฟ้าผ่านกาลเวลา
ถวายพระองค์ท่านไว้ชั่วฟ้าดินสลาย 

            ขออานุภาพของพระศรีรัตนตรัย จงอภิบาลรักษา
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงพระเกษมสำราญ พระเดชพระคุณ
พระนามแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศ เสด็จสถิตในแว่นฟ้าในพระมหานภากาศ
ในพระราชกิจอันมโหฬาร สิ่งใดที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระราชประสงค์
ขอจงดลบันดาลให้พระราชประสงค์ จงสำเร็จทุกประการ เทอญ

หากถ้อยคำของข้าพระพุทธเจ้าจะได้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท 
ฤาจะได้ระคายเคืองเบื้องโสตทิพยประสาทแห่งพระมหาบพิตรเจ้า
พระพุทธเจ้าข้าขอรับ รับใส่เกล้าใส่กระหม่อม ขอพระราชทานอภัยโทษ
พระอาญาไม่พ้นเกล้าพ้นกระหม่อม
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม...ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า    ๚ 


ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ ๑๐:๑๕ วันพระอังคาร  ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม..ขอเดชะ
  


@... ยอยศจักรี  ..@ ความเดิมหนึ่ง  ****
  http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_50418.php
 Date - Time:   05 เม.ย. 47 - 23:44  


@.....ยอยศจักรี @ ...@.... ความเต็ม 
tiki 
 เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ......
http://www.thaipoem.com/web/scoopedit2.php?id=2134				
5 เมษายน 2547 23:44 น.

@... ยอยศจักรี .@.... ความเดิมหนึ่ง

tiki

@... ยอยศจักรี  ..@ ความเดิมหนึ่ง


  ๏   ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ข้าพระพุทธเจ้า
ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย
บทประพันธ์ *ยอยศจักรี* ถวายผ่านเกล้าผ่านฟ้าผ่านกาลเวลา
ถวายพระองค์ท่านไว้ชั่วฟ้าดินสลาย 

            ขออานุภาพของพระศรีรัตนตรัย จงอภิบาลรักษา
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงพระเกษมสำราญ พระเดชพระคุณ
พระนามแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศ เสด็จสถิตในแว่นฟ้าในพระมหานภากาศ
ในพระราชกิจอันมโหฬาร สิ่งใดที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระราชประสงค์
ขอจงดลบันดาลให้พระราชประสงค์ จงสำเร็จทุกประการ เทอญ

               หากถ้อยคำของข้าพระพุทธเจ้าจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท 
ฤาระคายเคืองเบื้องโสตทิพยประสาทแห่งพระมหาบพิตรเจ้า
พระพุทธเจ้าข้าขอรับ รับใส่เกล้าใส่กระหม่อม ขอพระราชทานอภัยโทษ พระอาญาไม่พ้นเกล้าพ้นกระหม่อม
 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม...ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า    ๚ 



ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ ๑๐:๑๕ วันพระอังคาร  ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม..ขอเดชะ
  

                    
                นับสิบห้าปีจากเสียกรุงแก่พม่า

          สองพันสามร้อยสิบพระยาวชิรปราการตั้งมั่นไล่

          สิบห้าปีแห่งการรบยกธงชัย

          เคลื่อนทัพไปขับรอบประเทศทุกเขตคาม
                      
                  จากที่มั่นฝั่งจันทรบุรี

        ล่องอ่าวไทยเข้าไล่ตีปลดโซ่ล่าม

       เพียงเจ็ดเดือนนับเสียกรุงมุ่งลบลาม

       ชูพระนาม*สมเด็จพระบรมราชาที่ สี่*


             เลือกธนบุรีเป็นเขตขันธ์ประจันศึก

      ไม่เคยถอยทรงหาญฮึกผนึกหน้าที่

      สิบห้าปีพระชนม์ชีพ*ตากสิน*นี้

      คือชาติพลี  รบหัวเมือง..เลื่องลือชาติ..


         ยอพระยศขึ้นเด่นเป็นศรีแแผ่นดิน

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช.**

ข้าฯพระพุทธเจ้าน้อมถวายพรฝ่าพระบาท

เอกราชวงศ์จักรีเริ่มที่พระองค์


        สิบห้าปีที่แข็งกร้าวและห้าวหาญ

พระทรงชาญกรำศึกด้วยประสงค์

จะคงชาติคงเอกราชเพื่อธำรง

ให้เผ่าพงศ์อยุธยาฟื้นธานี


        จวบถึงวันเปลี่ยนผัดจัดผนึก

สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกกรุงศรี

ข้ามฝั่งธนฯมาวังหน้าบางกอกมี

พระยาจักรี ธ.ฯ บัดนี้ ขึ้นปราบดา ฯ


         คือวันที่ หก เมษายน พุทธศักราช

วาระชาติสองพันห้าร้อยยี่สิบห้า

วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า

จุฬาโลกมหาราช...ประกาศไกล...  @....
 
 
@... ยอยศจักรี  ..@ ความเดิมหนึ่ง				
5 เมษายน 2547 15:37 น.

๏ คู่สามีภรรยาไทย......เขาอยู่ได้เพราะอะไร ? ๏

tiki

   ๏ คู่สามีภรรยาไทย...เขาอยู่ได้เพราะอะไร ๚ 

          ๏   . งานวิจัยชิ้นนั้นท่านอาจารย์ฯ
แห่งสำนักครูประสานฯ ทำชาติใส
เรื่องอยากรู้คู่เมีย-ผัว ตัวคนไทย
อยู่มาได้ด้วยอะไรสิ่งให้ปอง ๚ 

       ๏    อันดับแรก ท่านแยกไว้ ได้ถ้วนถี่
วิจัยนี้ชี้ชัดหนึ่งไม่พึงสอง
 *หนึ่ง*คือสนิทชิดใกล้ใคร่ปรองดอง
รักประคองสองสามีและภรรยา ๚ 
            
      ๏    ความสนิทชิดใกล้ไม่เหินห่าง
สนิทใจไม่จืดจางแม้นห่างหน้า
สนิทถ้อยแลกเปลี่ยนเจรจา
คือรักใคร่สามี-ภรรยาไม่จืดจาง ๚ 

    ๏    อันดับสองปองเจตคติต่ออีกฝ่าย
 *สอง* คือหมายมองสิ่งดีของอีกข้าง
มองดีๆเลือกแต่ดีขึ้นพิศวาง
เจตคติคือสรรค์อ้างแต่ชื่นชม ๚ 

      ๏    อันดับสามวิจัยว่าค่าสำคัญ
คือการพูดจาต่อกันให้งามสม
 *สาม* อยู่ได้ด้วยพูดดีที่คารม
คู่จะครองรักสรรค์บ่มด้วยเจรจา ๚ 

     ๏    อยู่ด้วยกันพูดกันดีเป็นที่ยิ่ง
คือเรื่องจริงจากวิจัยให้เห็นค่า
คนเราอยู่ร่วมบ้านแต่นานมา
ต้องพูดกันสรรหาคำดียืน ๚ 

   ๏    อันดับสี่ ชี้วิจัยสำคัญนัก
 *สี่*ครอบครัวต้องประจักษ์ซึ่งก่อนอื่น
ต้องแสดงให้เห็นชัดไม่ล้มครืน
คนในบ้านต้องชมชื่นหัวหน้าครัว๚ 

  ๏    ต้องยึดมั่นสถาบันสำคัญนี้
แสดงให้เห็นทุกที่ไม่มีชั่ว
ส่งสกุลเสริมหลักรักชื่อตัว
ชูครอบครัวให้เป็นหนึ่งพึงกระทำ๚ 

  ๏    อันดับห้า ชี้ชัดว่าพุทธศาสน์
 *ห้า*ปัญญาธรรมสามารถคลายเย็นฉ่ำ
คู่ครองอยู่ด้วยกันไม่บาปกรรม
ล้วนครองธรรมในครัวเรือนเพื่อนมิตรดี๚ 

  ๏    ผลวิจัยทั้งห้านี้ที่ประสบ
บอกได้ครบเหตุคู่ครองไม่หมองศรี
เพราะประคองจริยธรรมค่าล้ำนี้
เป็นวิถีครอบครัวไทยสมัยใหม่เอย..๚ะ  

ทิก_tiki
จบงาน เวลา ๑๔;๑๕ นาฬิกา
 วันจันทร์ ที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

จากบทวิจัย อาจารย์ งามตา   วนินทานนท์ ( Ngamta Vanindananda  )     
สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ 
มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ
**ห้าประเด็นสำคัญที่ทำให้สามีภรรยาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขยืนยาวในสังคมไทย **
หากท่านใด มีตัวบทวิจัยอย่างละเอียด
ขอความกรุณาได้ ช่วยโพสต์ส่งเข้ามาที่นี่ได้จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ



   ๏ คู่สามีภรรยาไทย......เขาอยู่ได้เพราะอะไร ? ๏				
5 เมษายน 2547 02:54 น.

๏ ปนิธาน..มารตา...รจนาพจน์ ๏

tiki

 ๏  ปนิธาน..มารตา...รจนาพจน์ ๏     


         ๏  สองมือกราบสิบนิ้ว..............พนม
กษิร*หลั่งพรม............................อกแม่
เคยดูดดื่มเลือดลม........................ไหลกล่อม...ลูกยา
เลือดกลั่นสละแท้...........................ท่วมท้นเพื่อใคร   ๚

      ๏  เทียบใดเล่าเท่าแม้น .................โลกา
เทียบรักจากมารดา..........................ท่วมท้น
กษิร*รักมาตา.............................พิสุทธิ์.....ยิ่งเฮย
เทียบค่านมแม่ล้น...........................เท่าน้ำเลือดตน  ๚ะ


           ๏  ที่ตั้งใจในชีวิตไม่คิดหนี
จะหนักหนาหาใดที่จะเทียมได้
ก็จะฟันจะฝ่าตั้งหน้าไป
จะโง่งมปานใดไม่ล้า..ทน ๚

        ๏  จะตั้งใจเป็นคนดีถึงที่สุด
ให้รู้ว่าเป็นมนุษย์กระเสือกกระสน
จะแน่วแน่มั่นคงไม่จำนน
จะอดกลั้นเผชิญประจญวิบากกรรม ๚

        ๏  ด้วยหน้าที่แม่พลีให้ได้ทุกเมื่อ
แม้นเฉือนเนื้อให้เจ้ายังไม่หนำ
แม้นสูบเลือดหมดร่างย่างมายำ
หากได้ค้ำชูเชือด..เหือด..แม่ทน....๚ะ..      

ทิกิ_tiki  


....ขออธิษฐานให้ลูกได้พบคนจิตใจดีบริสุทธิ์
 ขอให้แวดวงรอบตัวลูกมีแต่คนจิตใจดี
เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันด้วยความอ่อนโยนจริงใจ
เหมือนความจริงใจแท้ดีที่แม่มีให้ต่อลูกเสมอ..  

 
....@..._,.-:*``*:-.,_. ใน,.-:*``*:-.,,.-:*``*:-นาม .,_,.-:ของ*``*:-.,_,
.-:*``*:-.,ความ_,.-:*``*:-_,.-:*``*:-.,รัก .,_,.-:*``.`*:..-:*``*:-และ.,_,.
-:*``@...*:-.,_,.-:*``*:-.,_เมตตา,.-:*``*:-.,_,.ต่อ-:*``*:-.,มวลมนุษย์_,.-:*``*-...@- 


จบบทโคลงเมื่อ เวลา ๑:๒๐ นาฬิกา
กลอนสองบทแรกเขียนตอบไว้วันก่อน
นำมาเติมบทสุดท้ายเพื่อเสริมบทโคลง
เมื่อ ๑:๒๕ นาฬิกา

* แผลงจาก กษีร= น้ำนม  ให้ลงคำา กษิร ใช้สระ อิ เพื่อให้พอดีเสียงเอก*
จบบทโคลง ๒ เมื่อ ๑๐;๔๕ 

ทิกิ_tiki				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki