26 เมษายน 2547 18:41 น.
tiki
@.....โซ่......@
๏ .ก็ใจฉัน.......ฝันอิสระ .......และเสรี
ใจฉันนี้.......ไม่มีโซ่........มาล่ามฝัน
ส่วนพวกคุณ.......จะล่ามโซ่.......กันทุกวัน
ก็สุดแต่ใจ.......คุณนั้น.......จะเป็นไป..๚ .
๏ .ส่วนตัวฉัน.......จะยังฝัน.......ฝันถึงเขา
ฝันว่าเรา.......ยังสนุกสนาน.......เมื่อเคียงใกล้
ฝันคุยเล่น.......สดชื่นกัน.......ทุกวันไป
สิทธิ์ของใจ.......ของฉัน.......นั้นน่ารัก.๚
๏ .โยนโซ่ตรวน.......ของพวกคุณ.......ไว้ห่างห่าง
อย่ามาง้าง.......ล่ามฉัน.......มากันกัก
ไปล่ามใจ.......พวกคุณไว้.......ให้ดีนัก
ล่ามใจคุณ.......อย่ามาภักดิ์.......จักเป็นคุณ.๚
๏ .อิสระ.......เสรี.......นี้ใจฉัน
บินต่อกลอน.......กันทุกวัน.......เพื่อนเกื้อหนุน
อยู่ภพไหน.......ใจจะล้อ......ต่อสกุล
วงศ์วรรณหนุน.......อักขรา.......ภาษาใจ.๚
๏ .เก็บโซ่ตรวน.......เก็บไว้ .......ไปห่างห่าง
อย่ามาง้าง.......มางัด.......จัดความไข
ฉันก็คน.......คุณก็คน.......อย่าปนไป
อักขระ.......หฤทัย.......ใจตอบกัน...๚ะ๛
ทิกิ_tiki
๑๘:๑๘
พระจันทร์ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
@.....โซ่......@
สงวนลิขสิทธิ.. ๏ทิกิ_tiki ๚
26 เมษายน 2547 01:21 น.
tiki
๏..มารรักมารร้าว...๚
๏ ..ฤามารแลส่งแสร้ง..........แปลงใจ
จำหลักจักอาลัย......................หลอกข้า
ดูราวนุ่มเย็นไฉน....................นวลผ่อง...เรียบฤา
ลึกดั่งใครจักกล้า.................หยั่งรู้ใจนาง.๚
๏ ..คำสองสวาทสิ้น..............ยินหู
ใจนี่เจ็บเจียวกู.......................เก็บกล้า
สองมึงชื่อเรืองชู้....................วอนดาบ...กูฤา
กูจักลงดาบคว้า......................บั่นชู้เคียงกัน.๚
๏ .สองใจอกสะท้าน..............ครวญเมียง
สองสั่นสองยินเสียง........................แผดท้า
สองแอบร่างริมเคียง.......................กรก่าย....กรเฮย
สองเจ็บราวกรรมกล้า......................ก่อไว้ตามทวง.๚
๏ ..อนิจจาเจ้ายาใจ
เจ้าหลงใหลคำใครวอน
เจ้าเอ่ยเจ้าละอ่อน
ใครเขาอ้อนเจ้าก็หลง.๚
โฉมแม่ต้องปวดร้าว
ร้อนผ่าวใจพะวง
ลูกข้าฯช่างปลดปลง
แม่ฯจะรวดปวดร้าวใจ
นวลนางเจ้าวางชีพ
ปลดกลีบสุมาลย์ให้
วางวายด้วยรักใด
ให้แม่ช้ำน้ำตาริน
นั่นแม่สิรักเจ้า
อย่างว่าจะกลืนกิน
ได้แต่แลยุพิน
รักหลงปลงกับใคร...?
ทิกิ_tiki
๐๐:๕๑
คืนพระอาทิตย์ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๗
๏ ...มารรักมารร้าว...๚
ใดใดในโลกล้วนเท่ารักแม่
สองมือแท้อุ้มชูมาคราเจ้าหวาน
แม่ย่อมรักหวังดีมิมีปาน
เมื่อเจ้ารานแม่สลายหมดกายใจ
โอ้น้องหญิงความสาวอันพราวสด
ช่างงามงดมีค่าจะหาไหน
แม่ถนอมกล่อมเกลี้ยงรั้งหวังวันใด
ชีวิตเจ้าจักสดใสให้แม่ยล
แต่หากเจ้าปวดร้าวในรักหลง
ใจพะวงเสาะหาแต่ทุกข์ผล
ใจเล่าใครจะทุกข์ซ้ำช้ำกมล
แม่ของเจ้านั้นแหละคนต้องรับกรรม
คิดให้ดีก่อนมีรักนะดวงใจ
ทิกิ_tiki
๙:๔๕
เช้า พระจันทร์ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
๏..มารรักมารร้าว...๚
สงวนลิขสิทธิ.. ๏ทิกิ_tiki ๚
25 เมษายน 2547 09:34 น.
tiki
๏ รติรส พจน์มาลา๚
๏ บุปเพหวนแต่เบื้อง................บางไหน
รอยก่อรอยกรรมไข......................แต่อั้น
เพียงภาพผ่องเพียงใจ..................จะขาด....ฤาอร
ใจมิอาจหักกั้น..............................ก่อเกื้อปางบุญ๚ ....ทิกิ_tiki ๘:๐๐
๏ เป็นกำลังนี่นั้น ในใจ
บุญก่อรอยกรรมใด.............ใคร่ค้น
บาปตามติดเวรไกล.............ตามก่น...มาฤา
ใจย่อมตกแรกล้น...............เร่งล้ำรตี ๚
ทิกิ_tiki
๑๐:๓๑
๏ ...นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน.... ๚
,มนุษย์เราเมื่อเกิดมา ต่อให้เกิดมาบน กองเงินกองทอง
พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเกียรติยศข้าทาสบริวารมหาศาลปานใด
หากไร้ซึ่งสติปัญญาไม่รู้ที่มาที่ไปแห่งจิตวิญญานตน
ก็ปานประหนึ่งวานรร่อนเร่อยู่บนกองแก้วแหวนเงินทอง
ย่อมผลาญทรัพย์สิน เกียรติยศ ข้าทาส บริวาร มหาศาลเหล่านั้นลงสูญสิ้น
ย่อยยับด้วยอวิชาแห่งความประมาทในกรรม และความประมาทในธรรม
จึงนั้น
เหล่าปราชญ์ผู้มีปัญญาจึงได้ก่นเขียนงานจารไว้ให้เห็นเสมอว่า
อัน ความรัก ราคะ ความใคร่ ความหลงอันเร่าร้อนใจนั้น
เป็นสัญญานอันตรายในหลงสู่ประตูนรก..
ด้วยเห็นแล้วว่า ในที่สุด บุคคลอันตามืดบอดต่อธรรม
ย่อมตกไปสู่การสูญสิ้น ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง
เริ่มแต่ปัญญาอันบอดลงเสียด้วยรัก
ตามไปด้วยการเสื่อมสิ้นซึ่งเกียรติยศ.....
แม้นว่าเคยดูยิ่งใหญ่ อัครฐานน่ากรานกราบไหว้เพียงใด
..ยามเมื่อตกไปอยู่ในบ่วงเล่ห์เสน่หาแห่งเพศตรงข้าม
ผู้เจนจัดด้วยเล่ห์กลกาม
ฤาด้วยภายใต้เงื้อมมือเจ้าวัยเยาว์เจ้าเล่ห์แห่งศรกามเทพ นั้นก็ดี
บัดนี้ ย่อมไม่เปรียบปานกับเจ้าแมวเชื่องๆไร้ฤทธานุภาพเสียสิ้น
ย่อมห่อเหี่ยว ไหล่ตก วิ่งตามรักไปกระเซอะกระเซิงดุจบ้าคลั่งฉะนั้น
ก็ดังฤา เกียรติยศชื่อเสียงแม้นสั่งสมไว้นานปานไฉน
ย่อมกลายให้เด็กวานซืนได้เย้ยเยาะใยไพ
แม้นว่าปากนั้นจะสงสารเจ้าปานใด
แต่ใจย่อมหัวร่อหุยฮาให้เป็นที่ปรากฎแก่สาธารณชน
ย่อมก่นว่ากันสาดเสียเทเสีย ด้วยใจอันไม่รู้จักยับยั้งในเล่ห์กลแห่งราคะจริตอันเกิดด้วยใจประมาทฉันนั้น
แม้นเพียงเกียรติยศยังถูกหมิ่นแคลนแล้ว
อันใดจะเหลืออยู่คู่กับเจ้าในโลกอันโหดเหี้ยมโหดร้าย ดังฤา
แม้นว่าทรัพย์สินเงินทอง ยามมืดหน้าตามัว
สมบัติอันพ่อแม่ปู่ย่าตายายสร้างสมไว้ให้เพื่อใช้ในการดำรงชีพสืบสกุล
ก็จักหมดสิ้น อาจไปถึงต้องดำรงตนเป็นขอทานเสียแต่ในสังคม
ก็นี้ฤา ใช่เพราะเหตุใด ....
ด้วยความ หลงมัวเมาในรัก....
ย่อมไม่เปรียบประดุจโคถึกอันคึกพิโรธ ? จะโผดโลดไปเสียแต่ให้ใจปราถนา
ใครจะหักจะรั้งจะก่นว่า
เจ้าก็จะทำเสียว่าไม่เคยได้ยินได้ยลคนเขาทักท้วงติง
ทรัพย์สินเสียก็ประเคนให้ ..
จักให้สุดที่รักแห่งเจ้านั้น สบายกายสบายใจ
จึงทุ่มนานับประการไซร้ ให้เขานั้นได้เยิรยล
โอ้อกเอ๋ยกมล เจ้าก็หล่นเสียแต่ในกาม
จึงมิใครจะหักห้าม จะเอ่ยว่าประการใด
เจ้าก็โลดแล่นไปเสียที่จะไม่ฟัง
แต่ไหนแต่ใดเล่า ผู้ไหนจะห้ามเจ้า ดังฤา
จึงภพชาติแห่งเจ้าผู้มัวเมาในรัก
จึงไม่แม้นเปรียบเทียบไกลไปจากผู้ตาบอดไปได้ ?
จึงเป็นผู้หลงงมงายอยู่แต่ในกามราคะจริต
จึงสมควรให้มิตรต้องเมินหมางระคางในความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
จึงแม้นได้ผิดพลาดไปเสียแต่แม้ประการใด แห่งใจอันไม่ยับยั้ง
จึงราวกับ ทะเลคลั่งที่เรือไร้หางเสือใดย่อมล่มลงสู่ก้นธารเสียเท่านั้น
ข้าฯนี้ได้เห็นเหตุแห่งกรรมซึ่งหล่นมาคาดคั้นให้ปราชญ์ได้เสียคน
มาหักสะบั้นโภชน์ผลในตนก็ด้วยฤทธิ์แห่งกาม
มาเงื้อง่ามงงงันให้ปัญญามันหาย
มาทะลวงทะลายซึ่งทรัพย์สินแม้นแผ่นดินจะไม่มีกลบหน้า
โอ้ว่าอนิจจาเอ๋ยเจ้าเชยสมรเจ้าละอ่อนเจ้าทารกเอ๋ย
คำของข้าฯ นี้นิดเจ้าจะได้เข้าใจเลยก็หาไม่
ต่างเร่ร่อนบินร่ายเข้ากองไฟแห่งดนูรติทิวาราตรี
อกเอ๋ยเจ้าก็ลิ้มรสเสน่หายวนยีอันเร่งรี่เผาผลาญใจ
แล้วเจ้าก็ม้วนไขตกหล่นเสียแต่วัยเยาว์อันเขลาทึมสีดำ
บัดเดี๋ยวดลยลเสียให้พอใจ..
แล้วเจ้าจงจากไปผลักใจให้ห่างกรรม
ให้เจ้านั้นระเริงยลทุกเงื่อนงำ
ให้สำนึกซ้ำว่า กรรมนั้นรอยเกวียน
ให้แล่นเรียบแม้นทางเตียนและทางรกชัฏระดะตา
สิ่งใดเล่าหนาจะตัดกรรมมิให้ซ้ำซากเคืองใจ
ก็ด้วยสำนึกในวงกรรมวงเกวียน ให้หลบเสี้ยนคาใจเสียให้ดี
ให้รู้รอบระบอบวิธียกจิตพิจารณานี้แต่ในธรรม
ขอความสุขสวัสดีมีชัยในรติการ พึงมีแต่วิญญูชน
ให้ไกลหม่นความขัดระเคืองเรื่องเศร้าหมอง
ให้เจ้าหลายได้ประคองใจไว้เนิ่นนาน
ไม่พลาดพานผ่านพาลอันกรายมาแต่ในรติรักแห่งรสใจ
ขอให้เจ้าทั้งหลายได้มองเห็นเช่นข้าฯได้เห็นเป็นสาระแห่งกรรม
อดีตเจ้าทำไว้อย่างไร จึงหวั่นไหวกันได้ถึงเพียงนั้น
ให้เดินทางด้วยความระมัดระวังกันไว้
ให้สดชื่นรืนเริงใจเสพสนานเยาว์วัยของเจ้าด้วยดี
ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ ๘ : ๔๕
พระอาทิตย์ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
ที่มาของภาพ Source of Picture with compliment : http://www.portmac.com/Private/wallpaper/iceburg.jpg
๏ รติรส พจน์มาลา๚
สงวนลิขสิทธิ.. ๏ทิกิ_tiki ๚
24 เมษายน 2547 17:40 น.
tiki
๏ ...นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน.... ๚
๏ หากเย็นนี้ที่ซ่านหว่านมาว่าย
เย็นนี้คล้ายเย็นใดในโลกหรือ ?
เย็นในยามเดี่ยวโดดโลดระบือ
น้ำในธารโศกคือเพื่อนเย็นใจ.. ๚
๏ ผู้โอบอุ้มชรอุ่มเย็นให้เป็นเพื่อน
กระเซ็นซ่านลานสะเทือนเยือนสดใส
เจ้าสานสาดหยาดกระเซ็นให้เย็นไว
เพื่อให้ใจ....สำราญ....พานธารเย็น.. ๚
๏ ในโอบประคองผองธาราข้าฯเริ่มหาย
เย็นในกาย.....อย่างได้เคย.......เผยให้เห็น
ปลงในความ......ร้อนทุรน........คนมันเป็น
ไกลทุกข์เข็ญ.....ปลงในเย็น.....เน้นความจริง. .๚
๏ ในสงบ.......พบตัวตน........คนเพียงพอ
ร้าวใดหนอ........ขอความหมาย......คล้ายหยุดนิ่ง
ร้าวในรัก............จักต้องเงียบ.......เปรียบคำติง
ไม่วุ่นวิ่ง...........อิงบำเพ็ญ........เย็นในธาร... .๚.
๏ เมื่อสงบ........จึงพบตน.......คนละโลก
ไม่ดิ้นรน..............ไม่ปนโศก..........จากฟุ้งซร่าน
เมื่อเจ็บช้ำ...........เรื่องค้ำคั้น............อันทรมาณ
เย็นในธาร.........จะพบธรรม.........นำสุขใจ ๚
๏ วินาที.......พบตัวตน.........บนความชา
จึงรู้ว่า............ที่ร่ำร้อง............ที่หมองไหม้
ก็เพราะคน.....ไม่เคยพอ........ล้อทุกข์ไป
ที่สุดไซร้........นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน... ๚ะ๛
ทิกิ_tiki
อีกคำหล่นบนความเย็น
๏ เย็นในธาร...พานเย็นละไม..๚
๏ ...นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน....๚
จารจบเมื่อ๑๖:๔๕
พระเสาร์ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
สงวนลิขสิทธิ.. ๏ทิกิ_tiki ๚
24 เมษายน 2547 09:59 น.
tiki
๏ ยามเจ็บเป็นอย่างนี้.................จำใจ
เดินสู่มรรคาใด.........................ย่อมรู้
กายเป็นบ่าวคราวใด..................ใจสั่ง
ใจเมื่อเป็นนายสู้........................ย่อมชี้ทางเพียร ๚
๏ ยามใจคนเจ็บแล้ว.............จากรัก
เหลือสิ่งใดสลัก.....................................ส่อไว้
เพียงภาพหนึ่งประจักษ์........................ยังอยู่..
คือหนึ่งเดียวแนบไคล้...........................คลั่งนี้ใจเดียว ๚
๏ ฟังเสียงเธอหลั่งให้..............เมตตา
ใจที่ช้ำเกินชา.......................................ชอกนี้
เมตตาใคร่นำพา....................................เธอเปล่ง...ถ้อยแล
คนที่ฟังอยู่ลี้...........................................ล่องแล้วใจธรรม ๚
๏ ยามชาชืดช่างช้ำ..................ชมเชย
ชาหยั่งลึกใจเลย....................................สุดถ้ำ
ครวญใจเจ็บคำเคย...............................ใครสู่...ปลอบเฮย
ใจอย่างเธอใจล้ำ....................................เลิศแล้วเกินคน ๏ ะ๛
๏ แด่ใจเลิศคน...๚
จารเมื่อ ๘:๔๕ โดยประมาณ
เช้าพระเสาร์ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
๏ วันนี้พลาดพี่พลั้ง............เทใจ
เทเมื่อคราหนใด................ห่อนรู้
มาคิดเมื่อเซไป.................ยืนบ่..ตรงนา
ใจจักเทเซสู้......................ยากแท้ยืนตรง ๏
ทิกิ
ยังนึกถึงวันทีเซไม่หาย
257664 - 24 เม.ย. 47 - 10:37
ที่มาของภาพ Source of Picture with compliment : http://www.portmac.com/Private/wallpaper/iceburg.jpg
๏ แด่ใจเลิศคน...๚
สงวนลิขสิทธิ.. ๏ทิกิ_tiki ๚