11 พฤษภาคม 2547 01:37 น.

คุณค่ามะพร้าวกะทิ

tiki

คุณค่ามะพร้าวกะทิ



หนึ่งต้นลูกหนึ่งนั้น........แปลกไหม

มองไม่ต่างอันใด....................บ่งชี้

จ้องหัวต่างเงื่อนไป.................สามจุด.....นี้นอ

พร้าวหมากกะทินี้....................ต่างแค่สามรอย



ปีเดียวมีหนึ่งครั้ง..............ควรจำ

ขึ้นต่างลำดับนำ.....................หนึ่งนั้น

มีคุณค่าอนันนต์....................นับเนื่อง...ในยา

กะทิมะพร้าวหั้น.....................ถูกข้าวทำของ


โบราณยาค่าไทย.................จดจำ

หากว่าถูกกระทำ....................ต่ำช้า

ไสยเวทย์ส่งมนต์ดำ..............กระดูก....ผีกิน

เปิดหมากกะทิค้ำ..................โปร่งไซร้กลับคืน


คำครูจารว่าไว้.....................นานมา

จำจดสืบกันหนา...................ว่าไว้

ต้นหนึ่งลูกหนึ่งนา................ กะทิ.....หมากเฮย

สามจุดบนหัวไซร้.................ต่างนี้เป็นคุณ



คุณค่ามะพร้าวกะทิ

ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ 1:08 คืนจันทร์ 10พฤษภาคม 2547


 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
9 พฤษภาคม 2547 23:26 น.

๏ บุญทำ....กรรมสรรค์แต่ง ๚

tiki

บุญทำ....กรรมสรรค์แต่ง ๚


        ๏ นฤมิตหยั่งท้น.............ฝันไกล

เทพส่งสรรค์ไฉน....................บ่งชี้

ราตรีเคลื่อนไศล....................จันทร์ก่อง...แก้วงาม

แสงส่องสล้างลี้......................เหลี่ยมล้ำเลือนจาง  ๚   



       ๏ รัตติกาลเที่ยงแท้..............มืดมัว

เลือนร่างแสงสลัว........................อยู่ค้ำ

ศานติห่อนหวาดกลัว....................รัตติ....ใดนอ

ใจหว่านใจเลิศล้ำ.........................หยั่งแล้วคืนใจ.   ๚   



        ๏ เงาความเงาข่มคั้น...............คืบคน

มีดั่งเหตุเภทตน..............................ร่วมร้าย

ยอใจดั่งยอจน.................................ดีก่อน....แท้นอ

ดีดั่งเลือกทางคล้าย........................คู่ค้ำคอเคียง   ๚  



         ๏ แสงธรรมบอกบ่งชี้.............เชิงคน

ธรรมต่างเหมือนยุบล......................พร่างแพร้ว

ดีชั่วย่อมปะปน..............................ปานอยู่.....เกยเฮย

ธรรมแต่งบุญกรรมแล้ว..................หมู่เฟ้นเฟืองตาม    ๚ 



         ๏ บุญทำมาอย่างนั้น............จึงเชย

บาปเร่งเคียงเขนย........................ห่อนช้า

บุญบาปก่อร่วมเคย.......................ทำสู่...กันนอ

เวียนว่ายกลับมาท้า......................ท่วมท้นทันทวน ทิกิ_tiki

จารเมื่อพระเสาร์  ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
นำลงหน้านี้ เวลา ๒๒:๕๒  พระอาทิตย์ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

 ๏     บุญทำ....กรรมสรรค์แต่งสงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
9 พฤษภาคม 2547 02:11 น.

๏ชะรอยบุญหนุนเนื่อง ๚

tiki

ชะรอยบุญหนุนเนื่อง    ๚  
กลอน เจ็ด ๗


๏ บุญธรรม.....กรรมแต่ง...ไว้เชยชิด

เพียงนิด....เพียงเห็น.....ก็เป็นไข้

สานจิต.......ภิรมย์.......เกินข่มใจ

ทางใคร.......ทางมัน.......กรรมทันดู.   ๚   



๏ ไร้บุญ.......ไร้บาป.......เคยทาบร่าง

ไม่มี.......หนทาง.......จะมาสู่

แม้นเคย.......ร่วมชิด.......ภิรมย์ชู

เคยคู่.......เคยเคียง.......เลี่ยงยากเย็น   ๚   


๏ ทำไว้.......อย่างใด.......ได้อย่างนั้น

แปรผัน.......เมินหมาง.......อย่างที่เห็น

เคยรัก.......เคยร้าง.......อย่างเคยเป็น

กรรมเน้น.......กรรมชัด.......วิบัติพา   ๚   


๏ อย่าหมิ่น.......สิ้นหวัง.......ในทางฝัน

ดื้อรั้น.....ดังใจ.......จะ.ใฝ่หา

ปล่อยไป.......ตามบุญ.......เคยหนุนมา

รักเอย.......จะพา.......มาพบได้   ๚   


  ๏ หมู่ใด.....ไหนเล่า........เงาหมู่บุญ

เกื้อรัก.....เกื้อหนุน.......จนคุ้นใกล้

มิเคย.......ทำบุญ........มาร่วมใบ

มีหรือ.......จะได้........สบเส้นทาง    ๚  


  ๏ บุญใด....ใครทำ.....มานำชิด

ผ่านรัก......ผ่านฤทธิ์.........สนิทสร้าง

เร่งบุญ.......หนุนใจ........ให้บุญวาง

จับสร้าง.....คู่สม.....ได้ชมบุญ    ๚  



 ๏ชะรอยบุญหนุนเนื่องทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ ๑:๔๐ คืนพระเสาร์  ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
8 พฤษภาคม 2547 17:45 น.

๏ อยากเขียนโคลงสี่. ...เรียนที่นี่ไปก่อน ๚

tiki

(ภาพประกอบนี้ค้อปี้ไว้จากคุณอัลมิตราแต่ สิงหาคม ปี 2546 นะคะ ขอบคุณ คุณอัลมิตรา ไว้ที่นี่)

โคลงสี่....เรียนที่นี่ไปก่อน   เสียงลือเสียงเล่าอ้าง...........อันใด...พี่เอย

เสียงย่อมยอยศใคร....................ทั่วหล้า

สองเขือพี่หลับไหล.......................ลืมตื่น...ฤาพี่

สองพี่คิดเองอ้า............................อย่าได้ถามเผือ
 

ลิลิตพระลอค่ะ 
ปกติ ทิกิใช้บทนี้ในใจค่ะ
เอกโท ครู สมบูรณ์ ในลิลิตพระลอค่ะ 
 


โคลงแรกลงในไทยโพเอ็ม น่าจะเป็นกระทู้นี้นะคะ

           โคลงสี่(ก้องฟ้า)จากกวีดังแห่งชาติ    
tiki  
            ....  มองดูโคลงเขียนใหม่ใครทุกคน


  ๏    ยามรักผักแค่นเคี้ยว .................ขมใจ .....ยิ่งเฮย 

ยอมเพื่อนางคราใด ....................จุ่งเอื้อ 

ครายามหน่ายสวาทไว ...............เหินห่าง...... ลืมแฮ 

หวานพี่คายกากเชื้อ ....................เร่งเร้นไกลทาง  .ทิกิ_tiki ..


http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_38463.php
  (แล้วก็ในตอบกระทู้ก็ยกอันที่ไปตอบฝึกกับคุณ สดายุ (ขอบคุณในกรุณาค่ะ) ในวันนั้น มาส่งประกอบ จึงถือว่าเป็น โคลงเกือบสมบูรณ์บทแรก ซึ่งได้แก้ไขกันในคำตอบ ท้ายบทดังกล่าว )


ในช่วงนั้น ระหว่างมาเขียนกลอนที่ไทยโพเอ็มนี้ ทิกิก็ค้อปี้หลักการของคุณ อัลมิตราไปไว้ที่นี่ค่ะ

http://www2.ezyplaces.com/nickmanthanakorn/
กระทู้...เว็บบอร์ด 760   http://user.ezyplaces.com/store.php?user=nickmanthanakorn&action=webboardview&id=760


  มาเรียนเขียนโคลงกับครูอัลมิตรา  
ผู้ตั้งกระทู้ :  tiki  

รายละเอียด :    
  ๏๏๏ แรกเริ่มเขียนโคลง ๏๏๏    
อัลมิตรา 
 
 ๏ อัลมิตตราเร่งเร้า        โคลงบาท  สี่เฮย
ขอย่อมยอวันทา               พี่เจ้า
ฝากตัวร่วมเนาบา             ครูท่าน   จารย์เทอญ
ขอร่วมมาเรียนเข้า            อย่าได้    ปิดบัง 

ฝากตัวเรียนด้วยคนนะค้า
 
 จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki  
 รหัส - วัน เวลา : 163893 - 19 ส.ค. 46 - 13:04  

 
วันนั้นก็ เขียน ไม่ลงคำสัมผัส  ท้ายบาท หนึ่งวรรค หลัง ลงด้วย บาท
เมื่อ เขียน บาทสอง และ สาม ก็ไปลงด้วย  วันทา  และ เนาบา  ไม่ได้ลงด้วย  -าท  -าด ฯลฯ
แต่ไม่ได้นำไปลงที่ใด เพราะตรงนี้เป็นกระทู้ที่ทิกิ ไว้เขียนเอง ตอบเอง อิอิ แต่ถ้าจำไม่ผิดคงไป
ตอบไว้ในกระทู้คุณอัลมิตรา 
 คนเราเพิ่งเริ่มกลับมาเขียนใหม่
 ก็ผิดเป็นครูกันเช่นนี้แหละค่ะ 


 บทหนึ่ง บังคับ เอก 7 โท 4 ดังนี้  ก่  ข้

               0 0 0 ก่ ข้                0 x

              0 ก่ 0 0 x               ก่ ข้

             0 0 ก่ 0 x                0  ก่   (0 0)

             0  ก่ 0 0 ข้              ก่ ข้ (0 0) 


สัมผัส ท้ายบาทหนึ่ง X ก็ไปสัมผัส ท้ายวรรค หน้า บาท สอง และ สาม 

)X   สัมผัสท้ายบาท ที่สอง  สัมผัส วรรคหน้าบาทที่  สี่


     ลองดูโคลงต้นแบบ จำง่าย 

ได้ที่ http://www.thaipoet.org/webboard.html  


http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_52703.php

วันนี้ขอคัดแต่บทที่ลง เอกโท ค่อนข้างสมบูรณ์ ที่แต่งไว้มาฝากน้องๆค่ะ

     
       ๏ .รักหรือจริงอย่างนั้น...............ใจใคร 

รักที่เหมือนความนัย...............ง่ายพลั้ง 

รักจารดั่งคำไข........................คำถ่าย 

รักนี่หรือหยุดยั้ง.....................แค่ลิ้นคำลวง..         0 0 0 ก่ ข้                0 x

              0 ก่ 0 0 x               ก่ ข้

             0 0 ก่ 0 x                0  ก่   (0 0)

             0  ก่ 0 0 ข้              ก่ ข้ (0 0)  รติรส พจน์มาลา๚    


     ๏   บุปเพหวนแต่เบื้อง.............บางไหน

รอยก่อรอยกรรมไข......................แต่อั้น

เพียงภาพผ่องเพียงใจ..................จะขาด....ฤาอร

ใจมิอาจหักกั้น..............................ก่อเกื้อปางบุญ   ๚ ....ทิกิ_tiki ..

              
               0 0 0 ก่ ข้                0 x

              0 ก่ 0 0 x               ก่ ข้

             0 0 ก่ 0 x                0  ก่   (0 0)

             0  ก่ 0 0 ข้              ก่ ข้ (0 0) 

.บทนี้  คำเอกใช้ คำตาย คำว่า ขาด ลงแม่กด แต่สระยาวไปหน่อย
                                   คำว่า มิ     สระสั้น  ถือเป็นเสียงเอก
  


         ๏    เป็นกำลังนี่นั้น             ในใจ

บุญก่อรอยกรรมใด.....................ใคร่ค้น

บาปตามติดเวรไกล.....................ตามก่น...มาฤา

ใจย่อมตกแรกล้น.........................เร่งล้ำรตี   ๚    ทิกิ_tiki     ๑๐:๓๑


                      
                0 0 0 ก่ ข้                0 x

              0 ก่ 0 0 x               ก่ ข้

             0 0 ก่ 0 x                0  ก่   (0 0)

             0  ก่ 0 0 ข้              ก่ ข้ (0 0) 
 
บทนี้ คำเอก บาทที่สามวรรคหน้า  คำว่าติด ลงคำตาย ลงแม่กด สระเสียงสั้นแทน ไม้เอก 



        ๏ ชมฟ้าเมษระย้า..........เรืองแสง

รวิสาดส่องแทง.....................ทั่วหล้า

แสงธรรมสู่แสดง...................ใครจัก...คิดฤา

วันหนึ่งวันเบิกฟ้า..................เร่งพ้นวันใด          0 0 0 ก่ ข้                0 x

              0 ก่ 0 0 x               ก่ ข้

             0 0 ก่ 0 x                0  ก่   (0 0)

             0  ก่ 0 0 ข้              ก่ ข้ (0 0) 

บทนี้ คำว่าฟ้า ในบาทแรก วรรคหน้า  คำว่า ฟ้า ไม่ได้บังคับ
         คำบังคับ บาทสอง วรรคแรก คือเอก ที่สอง ใช้ วิ สระเสียงสั้น ิ เป็นคำแทนเอก ในคำ รวิ
         คำบังคับ บาทสาม วรรค หลัง  ไม้เอก  ใช้คำตาย แม่กก คือ จัก 
@ เบิกฟ้าเมษา ฯ    
tiki  
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_52204.php
 



                 แถมอีกบทที่

     ๏  งานงามงามพิศพ้น             เพียงใจ

   ธรรมหลั่งกระแสไหล                ไป่แล้ว

   งามธรรมดั่งกลอนไทย              ดอกเด่น แก้วเอย

   รินธาตุธรรมเพริดแพร้ว            มุ่งล้วนธรรมธาร          0 0 0 ก่ ข้                0 x

              0 ก่ 0 0 x               ก่ ข้

             0 0 ก่ 0 x                0  ก่   (0 0)

             0  ก่ 0 0 ข้              ก่ ข้ (0 0) 


คำไม้เอก ก็ใช้คำตาย อย่าง พิศ เพริด สระเสียงสั้นสะกดด้วย แม่ กก แม่กด  แทน
             บาทสี่ ทิกิ ก็ใช้ ธาตุ เป็นคำตาย ในสระเสียงยาว แทนอีก นับว่าไม่ค่อยดีนัก
แต่ความงามในอักษรสวย เย็นใจ จึงนำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ดีไม่จริง ค่ะ อิอิ




วันนี้เราเท่านี้กันก่อนนะคะ 
ท่าจะยุ่งใจเต็มทีมังคะ ค่อยค่อยอ่านนะคะ คนดีที่รักคำโคลง
ด้วยใจปราถนาดี


    ๏   อยากเขียนโคลงสี่. ...เรียนที่นี่ไปก่อน ทิกิ_tiki
ประมาณ ห้าโมงเย็น วันเสาร์  ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ นะคะ


 
สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
8 พฤษภาคม 2547 05:20 น.

๏ คนดี เปิดใจฟังสาร ๚

tiki

 คนดี  เปิดใจฟังสาร   ๚



          ๏  เทียบเพียงเมียงอ่านซ้อง..............ซึมซับ

โคลงว่าความรักจับ............................จิตหมั้น

ความวอนส่งสดับ............................. ฟังหนึ่ง.....ความเฮย

ความใคร่หวานกานท์ครั้น..................ค่อนฟ้าเคียงฟัง   ๚  



         ๏  รักร้าวคราวก่อนนั้น..................นานมา

นานเจ็บจนชินชา...............................เล่ห์ลิ้น

ใจเมินมิสบตา...................................ใครกล่าว....ใดเฮย

ใจมิอยากเสพสิ้น...............................วาทย์เว้าเงากรรม  ๚  



        ๏  คำเอยคำหว่านนี้........................วางใย

วางเพื่อผลงานใด..............................บอกข้าฯ

เพียงหวังสิ่งหทัย..............................คืนกลับ.....ใจฤา

วางสื่อสลักฟ้า...................................นี่ฟ้องใจใคร   ๚  




        ๏ ใจฟังความบอกข้าฯ...................ฟังเทอญ

รักนี่หรือมาเมิน................................ไม่รู้

ความขมหยั่งใจเกิน..........................ตามกล่าว..คำนอ

ฤาท่านจารหวานกู้............................ก่อเกื้อกอบคืน   ๚  



  
    ๏   เปิดใจฟังสักครั้ง........................วาที

คำว่าหวานเฉกมี..............................สู่หล้า

หวานดังว่ารตี.................................มธุ...รสเฮย

จะกล่าวปลอบใจข้าฯ........................หยุดเพี้ยงเพียงวัน   ๚  




      ๏   คำใดใครกล่าวแล้ว..................พึงจำ

คำว่าหวังจะนำ...............................สู่ข้าฯ

หวานฤาอย่าระกำ...........................หมองหม่น

ใจข่มฟังกานท์กล้า..........................หนึ่งเพี้ยงพาที   ๚ะ๛  




 ทิกิ_tiki 
จารจบเมื่อ ๔:๓๖ นาฬิกา
สู่เช้าพระเสาร์ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

๏ คนดี  เปิดใจฟังสาร สงวนลิขสิทธิ..ทิกิ_tiki
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki