17 มีนาคม 2555 15:44 น.
tiki
เป็นอีกครั้ง ไม่ตั้งใจ ว่าได้เห็น
เธอแฝงเร้น อยู่ตรงไหน ให้สับสน
ยามแสนยากแสนทุกข์คลุกระคน
ยามดิ้นรนแสวงหาอัตตาตรอม
ในค่ำคืนดึกดื่นเมื่อคืนนี้
ยามความฝันราวีคลี่ห่อห้อม
วิ่งหนีทุกข์อุทกภัยไหลบ่ากรอม
กลับตกจ่อมเจียนจมงมไม่เจอ
แต่ใครหนอนาทีท้อยื่นแขนช่วย
เอื้ออำนวยสองแขนแน่นเสนอ
โอบอุ้มฉันจากบ่าหนองคลองละเมอ
แม่นเสมอมิตรแท้แน่รักจริง
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาครางุนงง
จับประสงค์นิมิตยามจิตนิ่ง
หยดน้ำตาหยดหนึ่งซึ่งท้วงติง
ค่อยเกลื่อนกลิ้งหยาดคลอพ้อแววนัยน์
โอ้เธอหรือซ่อนอยู่มิรู้เห็น
ฤๅเป็นชาติปางก่อนย้อนวิสัย
ฤๅว่าคอยเฝ้าหวงฤๅห่วงใย
สุดที่ใจจักรู้เกินตู่จอง
รู้แต่ตนสงบเสงี่ยมและเจียมตัว
มิหมองมัวหลีกหลบลบหม่นหมอง
"มิซบบ่าคุณนาน" ขานขับคลอง
ปล่อยทุกข์ล้นลอยละล่องท่องอัตตา
แต่ขอบคุณดวงจิตซึ่งคิดช่วย
อาจจะม้วยในฝันดั้นด้นหา
อาจจะม้วยจมหนองคลองนิทรา
รู้เพียงแค่อ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง
ขอขอบคุณซึ่งส่งใจมาให้ช่วย
หากมิม้วยหากพบหน้าคราส่งแสง
คือดวงจิตมิตรช่วยอวยสำแดง
จักขอบคุณชัดแจ้งแหล่งนิทรา
ครั้งคราก่อนยามท่านให้ฝันเห็น
ผวาเช่นเห็นเธอเสนอหน้า
อยู่หัวเตียง แรงแทบเดี้ยง ฤๅมรณา?
ต้องบอกว่าอย่ามาพบประสบกัน
ขอเป็นแค่เพื่อนกลอนนอนตื่นสาย
หากจะย้ายวิกมาคราผลุนผลัน
ยังมีหนึ่งซอกเร้นเฟ้นรำพัน
ว่าเธอนั้นยอดกวี...มิมีคลาย
tiki_ทิกิ
ฝากไว้บนเที่ยงวันพระเสาร์ ๑๗ มีนาคม พระพุทธศักราช ๒๕๕๕
ยามความฝันในนิทราพาให้ตื่นตระหนกอกใจอ่อน ว่าจะต้องไหลนอนไปตามน้ำบ่ามาทุกทางทุกสาย
แต่เป็นเธอคนนั้น ที่เข้ามา สอดแขนประคองกายช่วยฉุดลากดึงว่ายขึ้นฝั่งยังที่พักพิง
เท่านี้ก็ขอบคุณเป็นที่สุดในน้ำใจในฝันที่เห็นกันเป็น ครั้งที่สอง
บันทึกไว้ ณ เรือนไม้เก่านนทบุรี สยาม ราชอาณาจักรไทยเพลา ระหว่าง ๑๒:๐๐ - ๑๒:๓๕ นาฬิกา
20 กรกฎาคม 2554 00:47 น.
tiki
๏ เข้าห่มผ้า พาตัว ปราศมัวหมอง
ไล่ละออง ผองเจ็บ อันเหน็บแสน
เขารักไทย ขายไทย ทั่วดินแดน
เสมือนแม้น ลูกเล่ห์ เนรคุณ ๚
๏ จึงห่มผ้า พาตัว ปล่อยชั่วผ่าน
สวดมนต์บท นานนาน ผ่านเรื่องวุ่น
เพราะมีชาติ เสมือนแม่ แผ่เจือจุน
ประชาชน มีบุญ มีแม่ดี ๚
๏ แต่บัดดล ชาติเรา เขาคอยเฉือน
ทั้งบิดเบือน ตอกไข่ ใส่ล้านสี
ลากไปศาล สมาคม ชมอับปะรีย์
จันจะไร มิใยดี ทุกวี่วัน ๚
๏ แม่แผ่นดิน จึงเศร้า เหงาหนักหนา
ทั้งบุตรา บุตรี ก็เสียขวัญ
มาเถิดลูก กลับอ้อม อกอนันต์
ชุบชีวัน เรียกขวัญ ให้กลับคืน ๚
๏ แม่จะสวด จะอ้อน วอนพรพ่อ
ฟ้าชะลอ ลอยเลื่อน เกลื่อนปมฝืน
ถนอมเอ๋ย ถนอมลูก ผูกหยัดยืน
"เราเผ่าไทย จงแช่มชื่น นิรันดร " ๚ะ๛
tiki_ทิกิ
บันทึกไว้ ณ เรือนไม้เก่านนทบุรี สยาม ราชอาณาจักรไทย
คืนพระอังคาร ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔
เพลา ๒๓:๑๐ นาฬิกา
6 มิถุนายน 2554 12:35 น.
tiki
เมื่อตื่นเช้า ตั้งใจเอาไว้ว่า
จะเดินหน้าทำโน่น และ ทำนี่
ครั้นเมื่อสายผ่านไปหลายนาที
ก็เร่งรี่ ทำประจำ นำกายตน
ซึ่งตั้งจิต เดินหน้า คราช่วงเช้า
พอสายเข้า งึมงำ ทำสับสน
แต่งตัวเสร็จ นั่งรอ เฝ้าจอวน
เขียนตอบคน งานเมือง เรื่อเรืองความ
ถึงยามเที่ยง เหมือนเบี่ยง กลับก่อนหน้า
ดูทีท่า รอบ่าย ให้ต้องถาม
เมื่อ เดินหน้า ถอยหลัง ดุจนั่งยาม
ก็ลุกลาม กินเวลา กว่าครึ่งวัน
เพราะมิจัด ระบบ แลระเบียบ
มิงามเรียบ ค้นนี่ และค้นนั่น
ได้หนึ่ง ลืมสอง ของสำคัญ
จึงฉับพลัน หิวข้าว ราวตาลาย
โอ้ อนาถ ดั่งชาติ อันเลือนลับ
มิถอยกลับ ดังเรา เฝ้าว่าสาย
ก็ผ่านพ้น อีกครั้ง ดั่งนิยาย
เวลาวาย เดินหน้า------>เกินฝ่าฟัน
เดินหน้า------< ถอยหลัง ในครั้งนี้
สุดที่ ชาติไทย ต้องไหวหวั่น
ถึงต่อสู้ เดินหน้า ฝ่าประจัน
อาจถอยหลัง ตกสวรรค์ ขแมร์กรอม ฯ
จะออกไปข้างนอก แต่งตัวเสร็จ หมุนไปมาหาเอกสาร
แถมเปิดเน็ต เข้าตอบสหายในเฟ้ซ ตอบไปตอบมา
หิวข้าวตาลาย โอ้ สายไปอีกแล้ว ทั้งเรา ทั้งชาติ หรือไม่? พี่น้อง
23 พฤษภาคม 2554 19:23 น.
tiki
๏ ยามบ่ายร้อนแดดแผดเผา
จึงเราคิดค้นสิ่งสวย
ตามประสาไม่จนและไม่รวย
เอื้ออวยความงามยามบ่ายกัน ๚
๏ ฉากหนึ่งมุมซ้ายรูปบ่ายนี้
พิศดีพิศงามเห็นตามฉัน
ศิลป์สายตาวาบฉาบฉับพลัน
จึงมอบกลอนเป็นกำนัลแด่เพื่อนกลอน ๚
tiki_ทิกิ
๑๖:๔๕ นาฬิกา พระจันทร์ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
เรือนไม้เก่านนทบุรี สยาม ราชอาณาจักรไทย
๏ ชีวิตคนเราก็เท่านั้น
บางวันสุขขึ้นกว่าวันก่อน
น้อยนักจักสุขนิรันดร
มุมหนึ่งฝ่าร้อนเพียงผ่อนคลาย ๚
tiki_ทิกิ
๑๖:๔๕ นาฬิกา
๏ มุมหนึ่งในสวนเสียบงานบ้าน
มุมจานล้างลงตรงยามบ่าย
ฝากมุมสร้างสรรค์วันสบาย
มุมข้าวเสียดกายขึ้นสู่ฟ้า ๚
tiki_ทิกิ
๑๖:๔๕ นาฬิกา
๏ ข้าวเปลือกเม็ดน้อยต่างคอยสิทธิ์
เพื่อพิชิตวันเกิดขึ้นสู่หล้า
ต่างเหยียดกายมุ่งตรงส่งนภา
เหมือนเหล่าข้าฯ ผู้ยืนหยัดอย่างหยัดยืน ๚ะ๛
tiki_ทิกิ
๑๗:๔๙ นาฬิกา พระจันทร์ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
เรือนไม้เก่านนทบุรี สยาม ราชอาณาจักรไทย
29 มกราคม 2554 22:00 น.
tiki
๏ มาทักทายถึงเพื่อน ณเรือนกลอน ๏
๏ ขอสวัสดิ์สุขศรีมีแด่เพื่อน
ยามมาเยือนสู่เหย้าเราเคยฝัน
เคยอ่านเขียนเวียนกลอนอ้อนรำพัน
คิดถึงวันเก่าเก่าเคยเข้ามา ๚
๏ เพราะติดตาม"ดอกแก้ว"เว็บธรรมะ
แล้วกลับผละวิ่งวนผจญหล้า
เพื่อปล่อยกลอนกรีดกานท์งานวิชา
เดิมเพียงว่า มาดู สู่ดวงใจ ๚
๏ แต่ก็รู้ ครูแรง ถึงแผลงฤทธิ์
จึง ละกิจ แต่ละวัน อันควรไข
มาวิ่งวน อ่านเขียน เพียรฤทัย
เป็นหนึ่งใน มดงาน บ้านกานท์กลอน ๚
๏ ครั้นรู้ตัว ว่ามัว แต่ใหลหลง
จึงหยุดปลง หยุดยั้ง ตั้งสั่งสอน
สั่งตนเอง หลงรัก เป็นนิวรณ์
หยุดเร่งร้อน ลงงาน แต่นานมา ๚
๏ จึงเยือกเย็น ให้เห็น เป็นอักโข
เราวัยโต ใช่เยาว์ อย่างเขาหนา
นานนานที มาย่อมดี มีปัญญา
เห็นเพื่อนเก่า พรรณนา ก็เริงรมย์ ๚
๏ จึงวันนี้ วันที่ มาเยี่ยมบ้าน
ได้แวะอ่าน งานมิตร สนิทสนม
คำคมกลอน ลดเลี้ยว ดูเกลียวกลม
อีกบทกลอน คนนิยม ก็มากมาย ๚
๏ จึงฝากถ้อย ถักร้อย วางด้วยรัก
กลอนประจักษ์ เรือนไทย ในสหาย
หากว่ามี เวลา จะมากราย
อ่านกวี พริ้งพราย ของเพื่อนยา ๚ะ๛
๏ มาทักทายถึงเพื่อน ณเรือนกลอน ๏
tiki_ทิกิ
คืนพระเสาร์ ๒๙ มกราคม พระพุทธศักราช ๒๕๕๔
วันฤกษ์ดีทักทายเพื่อน ณ เรือนไทย