18 พฤษภาคม 2547 21:39 น.
tiki
๏.......น้อยน้อย VS ๏ มากมาก
. ....... ๚
๏ฉันบอกเธอว่า น้อย น้อย นาน นาน ...... ๚ .
๏แต่สิ่งที่เธอต้องการ คือความหวาน...อันมากมายมหาศาล
หวานอันสดใสเริงร่าไร้เดียงสา
ฉันนั่งมองกระแสธารา
ถามตัวเองว่าฉันจะไปไหน จะทำอะไร.... ๚ ...
๏กระแสใจของเธอปั่นป่วน.
..และรัญจวนใจ
กระแสร้อนเร่า....อันรัดใจ
ฉันทอดกายไปในฝันนั้น ๚
. ๏......มอบให้เธอไปบนเกลียวคลื่น
พลังรักอันดูดดื่มชื่นกระสัน.....
มอบรักไปในวิญญานอันนิรันดร์.....
เพื่อให้ฝันของเธอนั้นอิ่มเต็ม......... ๚
๏ แม้นชีวิตของฉันจะอ้างว้าง
แม้นทุกหนทางจะเจ็บราวทิ่มเข็ม
แม้นอุปสรรคโหมประเดิมเริ่มและเล็ม
จะมิดเม้ม....อยู่ที่ไหน.......มิได้นาน..... ๚
๏ เธอคงเวียนว่ายในโลกฝัน
เธออ่อนไหวเกินจำนรรจ์....ฝันทางผ่าน
ฉันหรือเผลอมอบใจให้บนพาน
ฉันหรือลืมการงานและโลกจริง....... ๚
๏ มันจะผิดหากฉันจะตอบสนอง
เราสองนั้นหรือ?.....จะทอดทิ้ง...
ผู้ไร้สิทธิ์อิสระ....คือชายหญิง
เพียรภักดิ์....พิง...ชนฝา....ตาสบกัน ๚
๏ขึ้นชื่อว่า อารมณ์ ...บ่มมารนี้
มันเจ็บปวดฤดี...ที่หุนหัน
มาเค้นคล้องลากดึงตรึงย้ำมั่น
ให้พ่ายอารมณ์หฤหรรษ์.....เจ้าแห่งมาร.... ๚
๏ แต่กระนั้นมันใช่ฝากเพียงรอยแผล
คอยเล็งแลหัวร่อให้ใจฟุ้งซ่าน
ได้กระแทกกระทั้นกลอนป้อนบทจาร
บนทางมาร...แห่งนักกลอน...หลอนอารมณ์ ๚
ฉันเฝ้าฝัน .....
ว่าฉันเดินจับมือกับเธอ...
..สู่อ้อมแขนเธอ
ละเมอหาเธอ..ในยามดึกดื่น....
แล้วมันก็เพียงปวดร้าวในยามตื่น......
....เป็นเพียงมายา แห่งการลวงตา..
.
.ที่ฉันจะเจ็บ และจำ ไปนานนานเท่านั้นเองนี่นา
ไม่ว่าเธอจะถามคำถาม...
อันรุกราน .....
ประชดประชันฉันครั้งใด
คำตอบที่มีให้คือความจริงใจของฉันถึงเธอทุกครา....
เธอไม่เคยสังเกตหรือไรว่า.....
..ฉันเวทนาตัวฉันเองเพียงใด....
ที่ความรักในฝันมันไม่เคยเป็น-ไปได้ในโลกจริง......
น้อย น้อย และ นาน นาน
มันไม่มีในโลกจริงเลย ใช่ไหม....
.๏ ใจช่างฝัน....ฝันไป......แม้นไกลห่าง
ฝัน...อาจค้าง.......ฝันอาจกลาย....หายไม่เห็น
ฝัน....แห่งรัก......ฝันอาจปร่า....น้ำตากระเซ็น
ฝันเยียบเย็น.....ฝันจากใจ....เก็บไว้จำ.... ๚
๏ทิกิ_tiki ๚
ชาตินี้..
หรือจะต้อง.ลืมฝัน..?.
,...@..._,.-:*`` จะขอฝัน..อีกสักวันจะได้ไหม? ``@...*:-.,_,,.-:*.@...-:*``*:-.,_
,.`@...*:-.,_,.-:*``จะขอฝัน....ตรงนี้......อีกได้ไหม...? `-.:*.@...-:*``*:-.,_
๏ทิกิ_tiki ๚
จารจบเดี๋ยวนี้ ๒๑:๐๓ นาฬิกา
คืนค่ำพระอังคาร ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
สงวนลิขสิทธิ
14 พฤษภาคม 2547 01:15 น.
tiki
๏เมื่อยังแรกรุ่นใสวัยดรุณี
คุณแม่มีเวลาพาพักผ่อน
แถบพัทยาหลบหายเพื่อคลายร้อน
ได้พักนอนบ้านริมทะเลเห่พัทยา ๚ ..........๑
.............
........
.........
........
..........
๏ เมื่อยามบ่ายท่านทั้งหลายย้ายลงเรือ
บ่ายหางเสือสู่เกาะใหญ่งามเสลา
คือเกาะล้านในครานั้นงามไม่เบา
ระหว่างทางทั้งสองเจ้าผลัดกันเวียน ๚ ..........๖
๏ คอยเย้าแหย่ให้แง่งอนถูกค้อนควัก
แหย่เล่นได้ก็ตามทักให้ปวดเศียร
จะหันทางไหนก็เดินกรายคล้ายรามเกียรติ์
ทศกัณฐ์สิบเกวียนมาแล่นพัน ๚ ..........๗
๏ คือนายหนึ่งและนายสองมาปองหมาย
สร้างตำนานนิยายอันลือลั่น
พ้นจากวันพัทยาพัลวัน
ก็จดหมายเขียนถึงกันอลวน ๚ ..........๘
จบตอนหนึ่ง
http://www.thaipoem.com/web/poemedit.php?id=53360
สอง...
วันที่เธอสดใสมาก ฉันยังจำได้ หนุ่มรูปหล่อลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
ชาวอยุธยา ผู้กำหัวใจฉันไปนานนับห้าหกปี
วัยรัก วัยรุ่น วัยวุ่น วัยน้อยใจ สารพัด
........หน้านี้จะขอรวมให้เธอสักครั้ง
ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ 0:43
คืนพระพฤหัส 13 พฤษภาคม 2547
12 พฤษภาคม 2547 10:43 น.
tiki
๏ รักแรก.......นานมาก.ยากจะจำ๏
๏ เป็นอะไรไปหรือคือนุชนาถ
ช่างประหลาดเขียนอะไรมาให้นี่
สโมสรกลอนไทยใสกวี
จะตามรี่ล่องอ่านงานของใจ....
.. ๏ อยากจะเขียนอะไรก็ใคร่เขียน
งานที่เพียรบอกบ่งประสงค์ให้
ดูหรือชายก้มกรายเท้าเจ้าทรามวัย
ว่ารักเดียวเพียงใจใคร่จะตาย
ยังแปรเปลี่ยนเวียนกลับนับให้เห็น
ชาตินี้เว้นไม่กล่าวอ้างจะร้างสลาย
ใจอันยอกกลอกกลับนับว่าชาย
ดูทำได้แม้นกำราบ..ลงกราบตีน...๏ ....
ขออภัย คำไหนก็ไม่สะใจเท่าคำสุดท้าย
ว่าวันที่ชายจะรักนั้นทำได้ทุกอย่างแม้นจะไป
ให้มันตายตายไปต่อหน้าก็ทำได้
แม้นจะอ้อนวอนขอให้มาดูหน้าก่อนตายก็ทำได้
แม้นจะก้มลงกราบแทบเท้าผู้หญิงคนหนึ่งก็ทำได้
แต่วาจาเท่านั้นที่รักษาในรักอันซื่อสัตย์ไม่ได้
๏ ๏ เจ็บนัก.......(ถูก)รักแรก๏ ๏
เขียนไว้ให้รักแรกนานมากยากจะจำ
: 4895 - tiki : 270574 - 12 พ.ค. 47 - 10:12
11 พฤษภาคม 2547 09:31 น.
tiki
ปีเดียวมีหนึ่งครั้ง..............ควรจำ
ขึ้นต่างลำดับนำ.....................หนึ่งนั้น
มีคุณค่าอนันนต์....................นับเนื่อง...ในยา
กะทิมะพร้าวหั้น.....................ถูกข้าวทำของ
โบราณยาค่าไทย.................จดจำ
หากว่าถูกกระทำ....................ต่ำช้า
ไสยเวทย์ส่งมนต์ดำ..............กระดูก....ผีกิน
เปิดหมากกะทิค้ำ..................โปร่งไซร้กลับคืน
คำครูจารว่าไว้.....................นานมา
จำจดสืบกันหนา...................ว่าไว้
ต้นหนึ่งลูกหนึ่งนา................ กะทิ.....หมากเฮย
สามจุดบนหัวไซร้.................ต่างนี้เป็นคุณ
คุณค่ามะพร้าวกะทิ
ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ 1:08 คืนจันทร์ 10พฤษภาคม 2547
เรื่องมะพร้าวกะทิ เป็นหนึ่งเรื่องอันแปลก
ซึ่งนานครั้งจะมีสักต้นซึ่งจะมีมะพร้าวกะทิ
เกิดขึ้นในสวนมะพร้าว และหากจะมีก็อาจจะว่า
ในปีหนึ่งจะมีสักครั้ง
ซึ่งภายในลูกจะเป็นเนื้อหนาดุจวุ้นกระทิเข้ม
และไม่เป็นเนื้อมะพร้าวธรรมดาเหมือนมะพร้าวเนื้อที่ใช้ทำ มะพร้าวขูดสำหรับทำกะทิแกงทั่วไป
จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki
รหัส - วัน เวลา : 269976 - 11 พ.ค. 47 - 08:51
9 พฤษภาคม 2547 23:49 น.
tiki
โคลงแรกลงในไทยโพเอ็ม น่าจะเป็นกระทู้นี้นะคะ
โคลงสี่(ก้องฟ้า)จากกวีดังแห่งชาติ
tiki
.... มองดูโคลงเขียนใหม่ใครทุกคน
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_38463.php
๏ ยามรักผักแค่นเคี้ยว .................ขมใจ .....ยิ่งเฮย
ยอมเพื่อนางคราใด ....................จุ่งเอื้อ
ครายามหน่ายสวาทไว ...............เหินห่าง...... ลืมแฮ
หวานพี่คายกากเชื้อ ....................เร่งเร้นไกลทาง .ทิกิ_tiki ..
(แล้วก็ในตอบกระทู้ก็ยกอันที่ไปตอบฝึกกับคุณ สดายุ (ขอบคุณในกรุณาค่ะ) ในวันนั้น มาส่งประกอบ จึงถือว่าเป็น โคลงเกือบสมบูรณ์บทแรก ซึ่งได้แก้ไขกันในคำตอบ ท้ายบทดังกล่าว )
ในช่วงนั้น ระหว่างมาเขียนกลอนที่ไทยโพเอ็มนี้ ทิกิก็ค้อปี้หลักการ
ของคุณ อัลมิตราไปไว้ที่นี่ค่ะ
http://www2.ezyplaces.com/nickmanthanakorn/
กระทู้...เว็บบอร์ด 760 http://user.ezyplaces.com/store.php?user=nickmanthanakorn&action=webboardview&id=760
มาเรียนเขียนโคลงกับครูอัลมิตรา
ผู้ตั้งกระทู้ : tiki
รายละเอียด :
๏๏๏ แรกเริ่มเขียนโคลง ๏๏๏
อัลมิตรา
๏ อัลมิตตราเร่งเร้า โคลงบาท สี่เฮย
ขอย่อมยอวันทา พี่เจ้า
ฝากตัวร่วมเนาบา ครูท่าน จารย์เทอญ
ขอร่วมมาเรียนเข้า อย่าได้ ปิดบัง
ฝากตัวเรียนด้วยคนนะค้า
: 4895 - tiki
: 163893 - 19 ส.ค. 46 - 13:04
วันนั้นก็ เขียน ไม่ลงคำสัมผัส ท้ายบาท หนึ่งวรรค หลัง ลงด้วย บาท
เมื่อ เขียน บาทสอง และ สาม ก็ไปลงด้วย วันทา และ เนาบา ไม่ได้ลงด้วย -าท -าด ฯลฯ
แต่ไม่ได้นำไปลงที่ใด เพราะตรงนี้เป็นกระทู้ที่ทิกิ ไว้เขียนเอง ตอบเอง อิอิ
แต่ถ้าจำไม่ผิดคงไปตอบไว้ในกระทู้คุณอัลมิตรา
คนเราเพิ่งเริ่มกลับมาเขียนใหม่
ก็ผิดเป็นครูกันเช่นนี้แหละค่ะ
คำโคลง
บทหนึ่ง บังคับ เอก 7 โท 4 ดังนี้ ก่ ข้
0 0 0 ก่ ข้ 0 x.... (0 0)
0 ก่0 0 x ก่ข้
0 0 ก่0 x 0ก่.....(0 0)
0 ก่0 0 ข้ ก่ข้0 0..... (0 0)
สัมผัส ท้ายบาทหนึ่ง X ก็ไปสัมผัส ท้ายวรรค หน้า บาท สอง และ สาม
X สัมผัสท้ายบาท ที่สอง สัมผัส วรรคหน้าบาทที่ สี่
ลองดูโคลงต้นแบบ จำง่าย
ได้ที่ http://www.thaipoet.org/webboard.html
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_52703.php