14 กันยายน 2547 20:04 น.

ต่อกลอน ๘ด้วย ๖ คำ หัวใจกลอน

tiki

ชวนต่อกลอน ๘ด้วย ๖ คำ หัวใจกลอน

                           เขียว 
เปรียว                       หา  
                           ตา 
 ว่า                       วาย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                             ตัก  
รัก                       หาย 
                            ตาย 
  ท้าย                   ตรม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            นิ้ว   
ลิ่ว                     ขม 
                           ทม  
 งม                    เปรียว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            รัก  
 หัก                    เหี่ยว 
                             เดียว  
 เลี้ยว                  เชย

เขียว เปรียว   หา ตา ว่า วาย
ตัก รัก   หาย ตาย ท้าย พาน
นิ้ว ลิ่ว  ขม ทม งม  เปรียว
รัก หัก  เหี่ยว เดียว เลี้ยว  เชย


ชวนน้องมาลองใหม่อีกรอบ 
เชิญดูเหล่านักกลอน เข้ารอบรอบที่แล้วได้ที่
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=3277
นะคะ 
ลองอ่าน คนล่าสุดที่เพิ่งส่งมานะคะ

     ก้าวแห่งฝันของฉันมันเหน็บ   หนาว 
น้ำค้าง   พราว เกาะกราวในเงาฝัน  
จะฝันต่อก็ท้อใจให้พัวพัน 
เมื่อฟ้าลั่น ให้รันจวนครวญคำราม
                      
เพราะคนดีคนไกลที่ใจชิด   
มาตัดมิตร  รอนสิทธิ...หนักเกินหาม 
ด้วยเธอคือภาพฝันของโมงยาม 
ยังเกรงขาม แต่อยากถามความจริงจัง

มิอยากเป็นเช่นก่อนเก่ากระเง้า   งอด    
เมื่อใจ   จอด  มิรอดพ้นรักเจียน คลั่ง  
มิอยากทำการใดให้ใจ พัง  
มิอยาก รั้ง  แต่ชิงชังการตรอมตรม

จะจดจารณ์คำฝันคำรักร้อย
เพื่อรอคอยอย่างหงอยเหงาให้สา สม 
เผื่อความฝันจะกลับมาให้ชื่นชม
ขอดอม ดมจ่อมจมความเดียวดาย

 : 7470 - วนัสนันท์  
 : 337826 - 14 ก.ย. 47 - 18:25  

            คิดเขียนกลอนนอนมองใบไม้เขียว
      ดูปราดเปรียวเรียวไหวให้เนื้อหา
      สวยสีสันนิมิตจิตตรึงตา
     วอนลมว่าสวยสมลมอย่าวาย

อิอิ ขอแจมสักบทค่ะ
ทิกิ_tiki

เห็นพี่สาววิ่งห้อมอไซด์  เขียว
ดูปราด  เปรียวกว่าใครในคู  หา
กลัวไม่ทันพวกพ้องเห็นสอง  ตา
ไม่ได้  ว่าอะไรกลัวใจ  วาย

ถืออะไรมาหนาไว้หน้า  ตัก
บอกน้อง  รักทานไหมดีใจ  หาย
ไปแย่งยื้อซื้อมาแทบบ้า  ตาย
ผลสุด  ท้ายหิ้วมายังว่า  ตรม

ขย่มปอกลอกเกี่ยวยังเสียว  นิ้ว
หนามแหลม  ลิ่วกินยากลำบาก  ขม
ร้องหามีดให้ลั่นดันบรร  ทม
ข้านั่ง  งมแกะทุเรียนเสมียน  เปรียว

แล้วอย่างนี้ยังบอกว่าไม่  รัก
มีดก็  หักมือเยินมันเกิน  เหี่ยว
เคราะห์ยังดีเกินบนมีผล  เดียว
ทีหลัง  เลี้ยวร้านมะขามน่ะทราม  เชย  

 จาก : รหัสสมาชิก : 7067 - กุ้งหนามแดง  
 รหัส - วัน เวลา : 338033 - 14 ก.ย. 47 - 22:29  


แมลงวันตัวนั้นมันหัวเขียว 
แสนปราดเปรียวบินว่อนร่อนแลหา   
จนมาเกาะตรงจมูกของตุ๊กตา 
ใครก็ว่า   อย่าไปกอดจะวอดวาย
                           
  ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
หยิบตุ๊กตามาวางตรงกลาง  ตัก
ด้วยแสนรัก  แสนหวงห่วงใจหาย
คิดจะตีแมลงวันให้มันตาย  
ผลสุด ท้าย  มือสกปรกยิ่งอกตรม
                             
  ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
แผ่อุ้งมือออกมาทั้งห้า นิ้ว    
ตบลอยลิ่ว   ทนฝืนแม้ขื่นขม  
ตุ๊กตาปลิวติดฝาน่าระ ทม  
ร้องระ งม ซบปกหลังหนังสือเปรียว
                   
                   ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เป็นคราวเคราะห์ดวงใจคนไร้ รัก   
เห็นจมูกหัก ตุ๊กตาแล้วหน้าเหี่ยว  
เหตุเกิดเพราะแมลงวันนั้นตัวเดียว   
กรรมลด เลี้ยว สนองโทษจำชดเชย
                           
    จาก : me  
  : 338088 - 15 ก.ย. 47 - 01:50  

อยู่ดีดีโดนลูกหลงจนตาเขียว
เพื่อนปราดเปรียวเลี้ยวหายไม่ต้องหา
โดนลูกหลงชกเข้าที่เบ้าตา
รู้สึกว่าสับสนจนวุ่นวาย
ตำรวจมาพาใจเต้นตึกตัก
เพื่อนที่รักเพื่อนแท้แลห่างหาย
บางคนถูกลูกหลงจนปางตาย
ผลสุดท้ายใครเล่าเฝ้าตรอมตรม
พวกเจ้าทุกข์มากันพลันชี้นิ้ว
พวกนี้แหละ ลิ่วล้อก่อเรื่องขม
ลูกหลานฉันนั้นต้องทุกข์ระทม
ร้องระงม ตรมไม่วายหายปราดเปรียว
ลูกของใครใครเขาก็เฝ้ารัก
ใยหาญหักจักฆ่าฟันมันห่อเหี่ยว
ต่างสถาบันล้วนอยู่กันในชาติเดียว
จงลดเลี้ยวลดละจะชมเชย  

 : 9011 - คนเมืองลิง  
 : 338309 - 15 ก.ย. 47 - 14:07  

คนอะไรเกิดมาบ้าสีเขียว
ดูปราดเปรียวสดใสสุดใจหา
มีธรรมชาติคุกรุ่นในดวงตา
ใครก็ว่าเธอรักป่าไม่วางวาย

เธอหยิบเอาบอระเพ็ดวางบนตัก
ด้วยความรักสุดตัวเหมือนกลัวหาย
เธออยากลองชิมให้ได้ก่อนตัวตาย
สิ่งสุดท้ายที่ใจอยากจากอกตรม

บอระเพ็ดสีเขียวจางวางบนนี้ว
แล้วดีดลิ่วเข้าปากฝากรสขม
เป็นรสชาตที่สุดแสนระทม
ช่างโง่งมสมน้ำหน้าซ่าปราดเปรียว

แม้สีเขียวเป็นสิ่งที่เธอรัก
คงต้องหักใจจากพืชก้านเหี่ยว
ขอเถอะนะบอระเพ็ดแค่อย่างเดียว
จะไม่เลี้ยวไปหามาชมเชย

 : 9532 - extreme life 



ขอชื่อที่อยู่ทั้งสองท่านช่วยส่งที่
nickmansl@hotmail.com ค่ะ				
14 กันยายน 2547 15:05 น.

๏พันธุ์ พฤกษ์ ธรรม ๚

tiki

๏พันธุ์ พฤกษ์ ธรรม  ๚ 
       
     ๏  ขึ้นสูงหนอ บนหอคอย ดอยงาช้าง
นิ่งเสียบ้าง ร้างผิวลึก กับศึกสรรพ์
ต่อรอบข้าง ถึงวางคำ แสนจำนรรจ์
ฟังคำนั้น ดีหรือไม่..สรร..ใจเย็น ๚ 

     ๏  เป็นผู้ใหญ่ วางใจ ให้เป็นสุข 
เรื่องร้อนรุก ปล่อยเปลือง  เลื่องลือเห็น
เดินบนทาง สายกลาง  หว่างบำเพ็ญ
คัดจุดเด่น ทางธรรม มาค้ำใจ   ๚ 

     ๏  เป็นผู้นำ  เดินค้ำหน้า อย่าโพล่งพล่อย
จรรโลงคอย เย็นในธรรม นำวิสัย
เป็นต้นหลัก ร่มบำเพ็ญ เย็นเผ่าไทย
เป็นร่มใจ ยืนวัยวัน พันธุ์ พฤกษ์ ธรรม๚ะ๛ 

บทกลอน ๙.๘..๙
ทิกิ_tiki
ภาพโดย Geo26@bangkokcity.com
     
จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง  ๑๔: ๔๕ นาฬิกา
พระอังคาร.ที่สิบสี่...๑๔  กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
ขึ้น ๑    ค่ำ เดือน ๑๐
 สยาม..เมืองฟ้ามหานคร  ราชอาณาจักรไทย

สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติพุทธศักราช ๒๕๓๗
Copyright ..All rights reserved  				
13 กันยายน 2547 21:05 น.

พราวพิลาศมาตรฐาน

tiki

พราวพิลาศมาตรฐาน

      จะมือเก่ามือใหม่ใช่สาระ
คมวาทะลูกเล่นพราววาวเจิดจ้า
นั้นคือการเขียนกลอนแต่ก่อนมา
เพื่อเทียบค่ามาตรฐานงานประพันธ์

       อันหลักการงานเก่าเข้ารับรู้
ประดุจผู้เริงวิชาอย่าเดียดฉันท์
เมื่ออ่านถ้อยร้อยกรองผองจำนรรจ์
ผ่านทุกวันผ่านทุกความหลามหลากคม

       ฝังกรอบชอบสมัครจำหลักเขียน
เว้าเวียนวาทย์พริ้งเพราะอันเหมาะสม
มิทอดทิ้งงานครูรู้คารม
สานผสมความคำจนช่ำใจ

      ร้อยพันผันเดือนเคลื่อนเป็นปี
ทุกวิถีคือสัญญามาเสริมใหม่
จำหลักผลิผลักพจน์สดกิ่งใบ
ราวมาลัยวรรณกานท์เพื่องานครู

       อย่าให้วันเดือนผ่านรานร้าวค่า
เพียรอุตส่าห์บากบั่นผันจิตสู้
ผุดผองกานท์งานบรรเจิดเพื่อเชิดชู
พราวพรั่งพรู มาตรฐานเพริศกานท์กลอน

ทิกิ_tiki

ฝากจดจารไว้คืนจันทร์ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
คืนวันพระ แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๙
สยาม ราชอาณาจักรไทย

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช ๒๕๓๗
Copy right  All rights reserved. 2003 2004				
13 กันยายน 2547 10:39 น.

ชวนน้องใหม่ลองกลอน ๘

tiki

ชวนน้องใหม่ลองกลอน ๘..กลอน ๘ ล่าสุดค่ะ
ไม่บังคับหัวข้อเรื่องและกระทู้
แต่ให้ทดลอง ๖ คำ หลักเพื่อการสัมผัส
ระหว่างบาท และ ระหว่างบทค่ะ


                           หนาว 
พราว                       ฝัน 
                           พัน
 ลั่น                       ราม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            ชิด  
มิตร                       หาม 
                            ยาม  
  ขาม                  จัง
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            งอด  
 จอด                     คลั่ง  
                           พัง 
 รั้ง                    ตรม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            ร้อย  
 คอย                    สม 
                             ชม 
 ดม                  ดาย

หนาว พราว  ฝัน พัน ลั่น ราม
ชิด มิตร  ขาม ยาม หาม  จัง
งอด จอด  คลั่ง พัง รั้ง  ตรม
ร้อย คอย  สม ชม ดม   ดาย


ถ้าสนุกส่งมาที่นี่ มีเวลาขัดเกลาถ้อยคำและสำนวนได้นะคะ ไม่ได้เร่งอะไร
ขอให้นำผังคำหลักไปสร้างเป็นกลอน ๘ นะคะ  ไม่ใช่ให้แต่งผังคำหลักนะคะ
หรือจะส่งไว้ที่
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=3277
ได้เลยค่ะ
ทิกิ_tiki

ขออนุญาตสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช ๒๕๓๗
Copy right  All  rights reserved.
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
 อันดับหนึ่งมาถึงก็มือโปรขึ้นหน้าเลยค่ะ

ลมฝนชมฟ้ากี่คราหนาว  
ดาราพราวราวม่านกี่สานฝัน 
สักเท่าไรวันคืนยืนพัวพัน
วาจา ลั่น มั่นคงกับนงราม

เคยประคองสองแก้มแอร่มชิด
รักเกินมิตร     ผิดแปลกเกินแบกหาม
เฝ้าคิดถึงแก้วเก้าดังเฝ้า ยาม  
ไม่เกรง ขาม ผู้ใดใจจริงจัง

คอยกระเซ้าพี่สาวอย่าเง้า งอด 
มานั่ง จอด อยู่ชลาเป็นบ้าคลั่ง 
ถ้าไม่ให้แม่จะดิ้นตลิ่ง พัง
ใครจะ รั้ง เอาไว้คงได้ตรม

มาเล่นกลอนสนุกความสุขร้อย 
ยังรอ คอย  หนังสือถือเหมาะสม 
ถ้าเห็นว่าพอใช้ได้อยากใคร่ชม 
ผลอุ ดม  กลมเกลียวหาเดียวดาย
..
 : 7067 - กุ้งหนามแดง  
  : 336641 - 13 ก.ย. 47 - 12:01  

              ยามสายลมพัดผ่านแสนเหน็บหนาว
  คืนแพรวพราว  พรั่งพร้อมเหมือนความฝัน 
อย่างใจสองเรานี้แสนผูก พัน
ที่ได้ ลั่น กับฟ้าก้องคำ ราม                          
                     ร่วมกันสู้ร่วมกันฝ่าจนได้  ชิด  
เหมือนเป็นมิตรทุกข์ยากช่วยกันหาม 
จนวันนี้ได้พบหน้ากันทุก ยาม  
น่าเกรง  ขาม จากสัญญารักเธอ จัง
                          
                 แต่เหตุใดวันนี้เธอเง้า  งอด  
อยากจะจอดถามใจที่บ้าคลั่ง 
ถ้าไม่มีเธอคนนี้โลกคง พัง 
มิอาจ รั้ง   ฤ เยียวยาใจที่     ตรม
                          
                   อ้อนวอนเธอด้วยใจมาพัน ร้อย  
และรอ คอยคำตอบให้ใจ สม 
มิว่าจะเป็นเช่นไรขอเชยชม 
อยากดอม ดม ใจเธออย่างเดียว    ดาย

  : 6442 - ardin  
: 336742 - 13 ก.ย. 47 - 15:48  

พี่ทิกิริเริ่มเสริมความ หนาว 
ตาเริ่มพราว   วาววับไปกับ  ฝัน 
ให้รางวัลล่อใจเคลิ้มเป็นเดิมพัน
สัญญา    ลั่น    มั่นคงตรงอาราม

               ไม่เคยคิดติดสินบนคนใกล้ชิด 
ที่เป็นมิตร ชิดอยู่เคียงคู่หาม 
ใช้สติปัญญาพยายาม  
มิเกรง  ขาม  ทำได้อย่างจริง  จัง
           
        ถ้าตกรอบไม่เข้าจะเง้า  งอด 
จะไม่ จอดทุบอุราอย่างบ้า  คลั่ง 
ทุบใจร้าวร้อนรนจนใจ พัง 
อย่ามา รั้ง ขอตายหายตรอมตรม

     คนประกวดขันแข่งแย่งเป็น  ร้อย 
กรรมการคอย  คัดสรรนั้นเหมาะสม 
ไม่เป็นไรเพียงได้แค่เชยชม
ขอยา ดม เป็นรางวัลไม่เสียดาย
                               
ถ้าไม่ผ่านอย่าเอาลงนะคะพี่อายเขาอ่ะ อิอิ 
เขียนไม่เป็นขอรางวัลปลอบใจก็พอค่ะ 
ยาดมแก้เป็นลม....สลบดีกว่า  
 : 9011 - คนเมืองลิง  
: 12443 - 13 ก.ย. 47 - 16:13 


     ก้าวแห่งฝันของฉันมันเหน็บ   หนาว 
น้ำค้าง   พราว เกาะกราวในเงาฝัน  
จะฝันต่อก็ท้อใจให้พัวพัน 
เมื่อฟ้าลั่น ให้รันจวนครวญคำราม
                       
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เพราะคนดีคนไกลที่ใจชิด   
มาตัดมิตร  รอนสิทธิ...หนักเกินหาม 
ด้วยเธอคือภาพฝันของโมงยาม 
ยังเกรงขาม 
แต่อยากถามความจริงจัง
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
มิอยากเป็นเช่นก่อนเก่ากระเง้า   งอด    
เมื่อใจ   จอด  มิรอดพ้นรักเจียน คลั่ง  
มิอยากทำการใดให้ใจ พัง  
มิอยาก รั้ง  
แต่ชิงชังการตรอมตรม

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จะจดจารณ์คำฝันคำรักร้อย
เพื่อรอคอยอย่างหงอยเหงาให้สา สม 
เผื่อความฝันจะกลับมาให้ชื่นชม
ขอดอม ดมจ่อมจมความเดียวดาย

 
  : 7470 - วนัสนันท์  
 : 337826 - 14 ก.ย. 47 - 18:25				
13 กันยายน 2547 01:05 น.

กลอน ๖ ๖ คำ หัวใจกลอน

tiki

คราวนี้มา กลอน ๖ ละ

  ๖ คำ หัวใจกลอน

                            สม 
 คม                       สา  
                           คา 
 ฐา                       นอน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                             หัว  
มัว                       หอน  
                            พร  
  ขอน                   พาน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                             แห   
 แพ้                     หาญ  
                           นาน  
 สาน                    ณต
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            หัว  
 ตัว                    หมด 
                             รด  
 พจน์                  แพน

สม คม  สา คา ฐา  นอน
หัว มัว  หอน พร ขอน  พาน
แห แพ้  หาญ นาน สาน  ณต
หัว  ตัว  หมด รด พจน์  แพน

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
๖ คำ หัวใจกลอน

                        เจ็บจำคำใครไม่ สม 
เฉือน คมนะกระดาษสา  
 มิเร็วดั่งใจใยคา 
ฝืนตา ฐา นันดร์  หัน นอน

                       พิศดูเงาใครไร้   หัว  
ตามัวกลัวสุดหมา หอน  
 รีบท่องพุทโธขอพร  
 เขี้ยว ขอน  งอนงูขู่  พาน

                      กลัวเอยกลัวติดร่าง   แห   
ลาง แพ้ยังกล้าอาจหาญ  
ทำล่มจมไว้แต่นาน  
วิ่งสาน วาทะประณต

                       หนูเอยหนูแค่มึน หัว  
อ่าน ตัวอักขราพร่าหมด 
เมฆมาฟ้าหม่นฝน รด  
 ยูงพร้องร่ายพจน์หางแพน


                 มาฝาก ตัวต่อ กลอน ๖ จาก ทฤษฎีเดิม ให้คุณน้องใหม่
ช่วยกันคิดช่วยกันเข้าใจ...ฝากไว้ แล้วไปแล้วนะคะ เจอกัน...
เอาไปหัดเขียนเล่น ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เชิญทดลองทฤษฎี ไปเรื่อยๆ นะคะ เดี๋ยวก็เก่งเองแหละค่ะ
ทฤษฎีนี้ข้าพเจ้าคิดค้นเพื่อให้น้องใหม่มีโอกาสได้เกิดการกลอน
ท่านผู้เก่งเชี่ยวกลอนแล้วอย่าเดือดร้อนรำคาญใจนะคะ

ดู กลอน ๗ กลอน ๘ ได้จากบทเก่าๆที่ผ่านมา 
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_61049.php
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_61101.php
หรือ รวมบทที่ 
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=3277

ตามสะดวกค่ะท่านในการทดลองทฤษฎี 

ทิกิ_tiki
เที่ยงคืนครึ่งพระอาทิตย์ ๑๒ กันยายน พุทธศํกราช ๒๕๔๗

แต่ขอสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช ๒๕๓๗
Copy right  All rights reserved. 2003 2004
เพื่อการศึกษาพอทนได้ แต่กรุณาอย่านำไปพิมพ์ หรือ
ยกไปไว้เว็บอื่นโดยมิได้ขออนุญาตข้าพเจ้าเป็นลายลักษณ์อักษรเจ้าค่ะ				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki