4 ตุลาคม 2546 07:02 น.
tiki
..........ชั่วเวลาสั้นสั้น เราได้รู้จักกัน
แบบโคลงที่ให้มานั้น ยังจดจำไว้ในใจ
เอาไปแปะไว้ที่กระดานบ้านอีซี่
และบางทีก็ไปไว้ที่บางกอกซิตี้ที่ยิ่งใหญ่
วนเวียนอยู่ในเว็บไซท์ ทุกนาทีผ่านไปให้เป็นงานการ
แต่ที่นี่ไทยโพเอ็มเหมือนบทละคร
ได้มาย้อน...เปิด...แล้วอ่าน
ในบางขณะคนดูอย่างฉันกลับพ้องพาน
ก้าวจากอ่าน..ไปยืนอยู่ในบทนั้นได้อย่างไร?
แปลกประหลาดหรือว่าใจนั้นโดนสะกด
ฟ้าพิโรธหรืออยากจะแกล้งให้หม่นไหม้ ??
เธอทำเล่น...หรือใครทำเล่น...หรือใครเย้ยใยไพ
บนเวทีนั้นไซร้ เธอข้ามบทเขาไป ไปเป็นผู้กำกับเลย
เป็นดาราละคร ย้อน..ดู..........เหมือนโรงงิ้ว
ส่งเสียงช้งเช้ง ฮิ้วฮิ้ว กันไม่มีเฉย
ลืมตัว อินกับบท มากเกินจะเฉยเมย
ติดเว็บมากเพลินก่ายเกยกลั้วเวที
รู้สึกตัวพลันหันมาเห็น
กองไว้เป็นอนุสรณ์เข้าเดือนสี่
กระดาษสาตัดไว้เป็นเล่มวางรอดิบดี
แต่กลอนที่แต่งลืมตัวไปนี้...
บอกทุกที ...ว่ายังไม่มีเวลาคัดเลือกเลย????
ทิกิ_tiki
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
4 ตุลาคม 2546 01:38 น.
tiki
จากตอนห้า
ครั้งพระเยาว์เข้าทรงบวชเป็นสามเณร
ทรงศึกษาเรื่องกรรมเวรมิเบนถลำ
ทรงกำหนดบทค่ามนุษย์สุดทรงจำ
อีกเงื่อนงำธรรมสากลคนต่างเมือง ............๕๐
เริ่มตอนหก
คราดำรงทรงพระยศบทเจ้าฟ้า
สืบปัญญาพระบรมชนกไม่ตกเรื่อง
ทรงขึ้นเป็นรัชกาลที่ห้าทรงค่าเมือง
พระปราดเปรื่องกระเดื่องไกลนิรันดร์กาล ........๕๑
ทรงพระเยาว์ยุวกษัตริย์ขัตติยา
จะเรียกหาพระญาติวงศ์เคยทรงสนาน
แต่บางพระองค์ทรงรุ้น้อยค่อยประทาน
ให้เขียนอ่านการศึกษาอ่าจำนงค์ ..........๕๒
ไม่ทันกาลจึงต่อมาได้ตราไว้
ให้รัฐให้การศึกษาตามพระประสงค์
จากประถมศึกษาประกาศตรง
ให้เผ่าพงศ์ไทยทุกชั้นต้องหมั่นเรียน ......๕๓
นี้เป็นพระมหากรุณามหาสถาน
ชนชาวบ้านทั้งน้อยใหญ่ได้ขีดเขียน
มีโอกาสได้รู้อ่านงานหมายเวียน
พระราชหัตถเลขาสั่งหมุนเปลี่ยนเขียนทั่วไทย ........๕๔
นี้เป็นพระมหากรุณาธิคุณบุญค่าล้น
ทรงดั้นด้นไปถึงถิ่นแผ่นดินไหน
ให้รู้รักประจักษ์ไว้นี่คือไทย
แผ่นดินนี้เสรีไซร้ยิ่งใหญ่ปาน .........๕๕
อีกได้คุ้นเรื่องศึกษานานาชาติ
หมอบรัดเลได้เคยนำเครื่องพิมพ์อันอาจหาญ
ทรงศึกษารู้การพิมพ์ทรงชำนาญ
ได้ทรงอ่านได้ทรงเขียนเวียนกันไป ......๕๖
ทรงยกเรื่องบุคลากรได้ล้ำยุค
ประชาทุกข์เพียงไหนทรงใจใส่
ครั้นถึงคราโลกตะลึงซึ่งการณ์ไกล
สามภพไซร้แซ่ซ้องก้องกังวาน ......๕๗
พระมหากรุณาธิคุณบุญใหญ่นัก
ทรงเลิกทาสให้ประจักษ์ทั่วทุกบ้าน
ง้างโซ่ตรวนทิ้งลูกเหล็กไว้กลางลาน
ใช้เวลาเนิ่นนานผ่านทศวรรษ .......๕๘
เหล่ามนุษย์คุดเยี่ยงสัตว์ถูกรัดไว้
ได้ปลดปล่อยเดินจากไปให้ต่างสัตว์
มนุษยชนล้ำค่าประชาชัด
นับศตวรรษชัดแซ่ซ้องก้องโลกา .........๕๙
หากเปรียบเทียบสงครามกลางเมือง
เลิกทาสเลื่อง....ฝ่ายใต้เหนือเพื่อศึกษา
แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
ไทยล้ำค่าเลือดไม่ทาบนแผ่นดิน .......๖๐
จบตอนหก
เนื่องระลึกครบ๑๕๐ปีวันพระราชสมภพ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๖
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO)
ประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระองค์เป็น
บุคคลดีเด่นของโลกด้านวัฒนธรรมและสังคม
นับแต่ปี ๒๕๔๕
แหล่งที่มา
แหล่งที่มา
สมาคมนิสิตเก่า จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
::หนังสือมหาวิทยาลัยฉบับปิยมหาราชานุสรณ์๒๓ คุลาคม ๒๕๔๕นิตยสาร สกุลไทย โดยบทบรรณาธิการ และบทความคุณหญิง กุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ
บทความพระราชประวัติพระมหากษัตริย์ไทย ซีพีเอไทยดอทคอม
3 ตุลาคม 2546 07:24 น.
tiki
ทั้งนี้นั้นด้วยปฐมบรมกษัตริย์
ได้สืบชัดถ้อยบัญชาค่ากระแส
ทรงอบรมบ่มพระราชโอรสหมดดวงแด
ได้เพชรแท้พรรณรายพรายชีวิน......๔๐
ในครานั้นพระองค์ท่านสิบห้าชันษา
นับสถาปนากรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ฯ
ทรงเป็นยุวกษัตริย์องค์แรกแห่งแผ่นดิน
แห่งวงศ์ชินพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ ......๔๑
โดยพระราชสิทธิ์กิจใดทรงใคร่กระทำ
ย่อมอาจเอื้อเงื้อนำตามพระราชประสงค์
หากทรงข่มพระทัยจิตคิดจำนงค์
อย่างได้ทรงรับอมรมบ่มพระราชหฤทัย .......๔๒
ในพระประวัติชัดเจนไม่เค้นคาด
จะทรงเงื้อพระบาทคาดใครในพระนิสัย ??
ไม่ทรงให้เห็น...เป็นทรงขำขันสำราญไป
ผู้คนใกล้ล้วนได้รับพระเมตตา ........๔๓
ทรงกอปรด้วยพระกุศโลบาย
ทรงเรียกใช้พระสหายให้ศึกษา
อีกพระภัคคินีพระเชษฐาพระอนุชา
พระกนิษฐาทุกพระองค์ล้วนทรงงาน ..........๔๔
โดยปกติของพระองค์ก่อนทรงครองราชย์
มีสันนิบาติสโมสรบวรสมาน
พระตำหนักสวนกุหลาบทราบพิจารณ์
ด้วยโปรดการสมาคมเป็นจิตใจ ...........๔๕
กระนี้หรือจะล่ำลือในพระวงค์ญาติ
ไม่ทรงขาดความเอ็นดูทรงรักใคร่
พระสหายเคยคุ้นสนิทติดพันใด
ไม่ทรงใช้อำนาจให้บาดคน .......๔๖
ทรงกอปร์เกื้อเอื้อการุณสุนทรสมาน
ทรงใช้งานข้าราชบริพารประสบผล
เริ่มทรงรักพระเมตตาต่อทุกคน
เหล่าปวงชนล้วนรักใคร่ใสยินดี ........๔๗
หากเมื่อลงทรงงาน ธ.เข้มแข็ง
ทรงนำแรงประเทศชาติประกาศศรี
ธ.ทรงงานเป็นปึกแผ่นแน่นทวี
พระบารมีแผ่ปกป้องคล้องแผ่นดิน .........๔๘
หนึ่งในบุญคุณของชาติประกาศโลก
เป็นโฉลกพงศ์อักษรบวรสินธุ์
ด้วยพระจอมเกล้าพระราชบิดาตราอาจิณ
สั่งสอนสิ้นทุกภาษาศึกษาธรรม ...........๔๙
ครั้งพระเยาว์เข้าทรงบวชเป็นสามเณร
ทรงศึกษาเรื่องกรรมเวรมิเบนถลำ
ทรงกำหนดบทค่ามนุษย์สุดทรงจำ
อีกเงื่อนงำธรรมสากลคนต่างเมือง ............๕๐
จบตอนห้า
เนื่องระลึกครบ๑๕๐ปีวันพระราชสมภพ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๖
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO)
ประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระองค์เป็น
บุคคลดีเด่นของโลกด้านวัฒนธรรมและสังคม นับแต่ปี ๒๕๔๕
แหล่งที่มา
สมาคมนิสิตเก่า จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
::หนังสือมหาวิทยาลัยฉบับปิยมหาราชานุสรณ์๒๓ คุลาคม ๒๕๔๕
นิตยสาร สกุลไทย โดยบทบรรณาธิการ และบทความคุณหญิง กุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ
บทความพระราชประวัติพระมหากษัตริย์ไทย ซีพีเอไทยดอทคอม
2 ตุลาคม 2546 20:29 น.
tiki
ด้วยทรงเห็นเรื่องเป็นหนึ่งไม่มีสอง
ตามครรลองอลุ้มอล่วยได้ประจักษ์
ครองใจคนทั้งพี่น้องได้ความรัก
กรมขุนพิชิตประชานาถภักดิ์.....จุฬาลงกรณ์...........๓๐
ลำดับเลื่อนพระอิศริยะยศปรากฎกรม
ทรงบัญชาผสมกรมทหารก่อน
กรมมหาดเล็ก กรมทหารบกวังหน้า เรื่องอาทร
อีกสังวรณ์ กรมพระคลังมหาสมบัติ ซื่อสัตย์นัก .......๓๑
ในครานั้นปีสองพันสี่ร้อยสิบเอ็ด
ได้เสด็จตามพระราชบิดาไปให้ประจักษ์
ที่หว้ากอ เมืองประจวบฯ ทรงพำนัก
ป่าไข้หนัก ดูสุริยปราคา ป่าเคราะห์กุม ......๓๓
สองพระองค์ทรงประชวรด้วยไข้ป่า
กลับนคราไข้ขึ้นสูงจนร้อนรุ่ม
ครั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯท่านประชุม
เสนาบดีร่วมชุมนุมสุภาษิตกาล ...........๓๔
ท่านประณามพุทธพจน์มคธบาลี
ถูกต้องตามอักชรวิธีที่สั่งสาร
ขอทูลลาจากชีวิตพิษไข้ราน
จบคาถาจบพระวิญญานสวรรคาลัย .......๓๕
แต่พระโอรสกรมขุนฯไม่ทรงรุ้
ทรงนอนซมพิษไข้อยู่หารู้ไม่
ที่สิบเอ็ดพฤศจิกาคราดวงใจ
พระราชบิดาทรงจากไกลมิได้ลา ......๓๖
เพียงชันษาสิบห้าว่าเยาวนาถ
เข้าครองราชย์สองพันห้าร้อยสิบเอ็ดเผด็จค่า
เสนาบดีสรุปประชุมคุมการมา
ขึ้นครองกษัตริย์ขัตติยาที่ห้ามงคล .....๓๗
สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์
เป็นผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์ อย่างได้ผล
ได้สถาปนา พระมหาอุปราช ขึ้นบัดดล
กรมหมื่นมีผลเป็นกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ .........๓๘
ลำดับความยามสิ้นพระราชบิดา
เป็นยุวกษัตริยาพระองค์ใหม่ได้สืบขาน
หากทรงมีเสด็จยาย(*๑)ได้เจือจาน
พระน้องนางสนมวันวานได้ดูแล......๓๙
ทั้งนี้นั้นด้วยปฐมบรมกษัตริย์
ได้สืบชัดถ้อยบัญชาค่ากระแส
ทรงอบรมบ่มพระราชโอรสหมดดวงแด
ได้เพชรแท้พรรณรายเมื่อดายเดียว......๔๐
จบตอนสี่
เนื่องระลึกครบ๑๕๐ปีวันพระราชสมภพ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๖
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO)ประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระองค์เป็น
บุคคลดีเด่นของโลกด้านวัฒนธรรมและสังคม
นับแต่ปี ๒๕๔๕
แหล่งที่มา
สมาคมนิสิตเก่า จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
::หนังสือมหาวิทยาลัยฉบับปิยมหาราชานุสรณ์๒๓ คุลาคม ๒๕๔๕
หนังสือ สกุลไทย โดยบทบรรณาธิการ และบทความคุณหญิง กุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ
บทความพระราชประวัติพระมหากษัตริย์ไทย ซีพีเอไทยดอทคอม
ท้ายความ
*๑ เสด็จยาย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร
นามเดิมพระองค์เจ้าหญิงละม่อมทรงเป็นผู้อภิบาลพระราชโอรสและพระราชธิดา
แห่งพระนางเจ้ารำเพยภมราภิรมย์ในรัชกาลที่ ๔ หรือพระเทพศิรินทราบรมราชินี
ซึ่งได้เสด็จสวรรคตไปก่อนแล้ว รัชกาลที่ห้า โปรดเกล้าฯยกย่องตรัสเรียกเสด็จยาย
ตลอดชีพพระองค์ท่าน
2 ตุลาคม 2546 02:41 น.
tiki
@ ปลูกต้นไม้ ร่มใบพฤกษ์ นึกก่อนปลูก
จะกินลูก หรือกินใบ สิ่งใดหนา ??
เป็นชาวสวน จะปลูกไม้แดก แบกให้มา
เป็นชาวกรุง ไม้ดอกค่า งามตาชม
@ แต่ไม้เลื้อย ระเกะระกะ จะถอนหรือ?
อีกไม้ชื่อ คือปุ่มหนาม ยามแตะขม
อีกไม้เถื่อน เป็นปุ่มป่ำ ค้ำระบม
ไม้หญ้าเจ้าชู้ ติดคิดระทม ข่มแกะเสี้ยนแทง
@ แต่ไม้หนึ่ง พึงคิดปลูก ทั้งลูกและใบ
เป็นไม้ตรี ที่ได้อาศัย ใช้ต้านกำแหง
แต่ไม้นี้ ต้องตัดไม้โท ที่โก้แสดง
ลดความกำแหง ได้ค่าไมตรี นี่ค่าไม้เรา
ในบางครั้ง...กลางคนดี....ที่เราเห็น
บ้างก็เป็น....พาลชน....คนโง่เขลา
ถืออาวุธ....วิ่งส่งสับ.....สนับเพลา
เพราะใจเบา....เข้าใจคน...ไม่พ้นวัย
บ้างอาจนึก ...คีกคะนอง...ลองวิชา
บ้างอยากท้า...เชิญมารบ..ตะปบใส่
บ้างอยากแกล้ง...มันแสลง...เสียดแทงใจ
ต่างล้วนได้...ผ่านวิชา...ท้าประลอง
อยากให้เขา..คว่ำคะมำ...ไม่เป็นท่า
อยากให้เขา..หมดราคา..ค่าผยอง
ล้วนคิดผิด....ไปคิดใหม่..ให้สมปอง
มาประคอง...เว็บคนไทย...ให้ได้ดี
มาช่วยกัน...เถิดพี่น้อง..ผองเพื่อนไทย
มาช่วยไข....กวีวรรณ...บรรเจิดศรี
ให้พี่น้อง...เหล่าผองไทย...ได้ไมตรี
ยิ้มทุกที่...คารี้คารม...คมเพื่อนไทย
หยุดสักนิด ...คิดก่อนทำ...ไม่ช้ำหรอก
หยุดหยิกหยอก......ชอกช้ำมิตร...ผิดใจไหม..?
หยุดแกล้งเล่น...จริงให้เป็น...เห็นตรงใจ
ปลูกกันไว้...ปลูกไมตรี...ดีกว่าพาล
@ จึงส่งคำความ ยามคิดปลูกไม้ ที่ในวันนี้
จะได้ใคร่มี มากมิตรไมตรี เป็นหลักเป็นฐาน
จะได้เป็นสุข กินลูกกินใบ ร่มใจไปนาน
ทิ้งพืชไม้พาล โยนผ่านจากใจ ปลูกไม้ไมตรี @